ตอนที่ 38 : เคล็ดวิชาแลกยา
ตอนที่ 38 : เคล็ดวิชาแลกยา
ตอนที่จางหยูมาถึงห้องเรียน สีของท้องฟ้าก็กลายเป็นสีดำแล้ว เหล่าลูกศิษย์ต่างก็พากันแยกย้ายจากไปแล้ว ในเมื่ออู่โม่ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใช้หม้อปรุงยาในตอนนี้ มันจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่จางหยูจะใช้หม้อปรุงยานี้แทนโดยไม่รู้สึกเกรงใจ เขานั่งขัดสมาธิข้างๆหม้อ และเริ่มทำการปรุงยาทันที "ดูเหมือนจะมีแค่วัตถุดิบสำหรับปรุงยาขั้นที่1..." จางหยูมองไปยังวัตถุดิบที่ถูกจัดเรียงอย่างเป็นระเบียบข้างตัว "พรุ่งนี้คงต้องให้อู่เฉินซื้อสมุนไพรสำหรับยาขั้นที่ 2 มาให้" ยาขั้นที่ 2 มีระดับสูงกว่ายาขั้นที่ 1 ดังนั้นรสชาติก็น่าจะดีกว่า สำหรับจางหยูแล้ว การปรุงยาขั้นที่ 1หรือขั้นที่ 2 ไม่ได้มีความแตกต่างอะไรนัก เพราะเขาไม่ได้สนใจผลลัพธ์และระดับของเม็ดยา เขาสนใจแค่รสชาติของมัน หากรสชาติดี ก็ถือว่าเป็นยาดี แต่ถ้ารสชาติแย่ ก็ถือว่าเป็นยาแย่ มาตรฐานการตัดสินใจแบบนี้ มันดูเรียบง่ายและหยาบคายมาก ทว่าก็เหมาะกับจางหยูดี บางทีในสายตาของนักกินแล้ว นี่คงเป็นมาตรฐานที่เหมาะสำหรับการวัดค่าอาหาร ! จางหยูกำลังวุ่นวายอยู่กับการปรุงยาในห้องเรียน คราวนี้เขาปรุงยาออกมา 3 ชนิด แบ่งออกเป็นยาฉีซวน ยาฟื้นฟูและยาปราณ จำนวนยาแต่ละชนิดที่ปรุงออกมาล้วนถึงขีดจำกัดของเตาแล้ว นั่นก็คือชนิดล่ะ 81 เม็ด ยาฉีซวน ยาขั้นที่ 1 เมื่อนักสู้ขอบเขตฉีซวนใช้มัน จะสามารถยกระดับการบ่มเพาะได้ สำหรับนักสู้ขอบเขตฉีซวนระดับสูงนั้น ผลของยาจะส่งผลเพียงเล็กน้อย ยาฟื้นฟู ยาขั้นที่ 1 เมื่อนักสู้ขอบเขตฉีซวนใช้มัน จะสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บได้ สำหรับนักสู้ขอบเขตฉีซวนระดับสูงนั้น ผลของยาจะส่งผลเพียงเล็กน้อย ยาปราณ ยาขั้นที่ 1 เมื่อนักสู้ขอบเขตฉีซวนใช้มัน จะสามารถฟื้นฟูลมปราณขึ้นมาได้ สำหรับนักสู้ขอบเขตฉีซวนระดับสูงนั้น ผลของยาจะส่งผลเพียงเล็กน้อย จางหยูยื่นมือออกไปอย่างเกียจคร้าน และเก็บเอายาทั้งหมดใส่ลงไปในถุงผ้า เขาลูบถุงผ้าที่บวมเปล่งก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างพอใจว่า "เยี่ยมไปเลย พอกินได้ตั้งหลายวัน" หม้อปรุงยาหนึ่งเตาสามารถหลอมยาออกได้ 81 เม็ด จางหยูหลอมยา 3 ชนิดออกมาทั้งหมด 243 เม็ด บวกกับยาฉีซวนที่เหลืออยู่ในถุง ทำให้ตอนนี้จางหยูมีเม็ดยาทั้งหมดเกือบ 300 เม็ด ยาเกือบ 300 เม็ดนี้ ใช้เป็นขนมได้แค่ไม่กี่วัน วิธีการบ่มเพาะที่หรูหราแบบนี้ นอกจากจางหยูแล้ว คงไม่มีใครกล้าทำ หลังจากปรุงยาเสร็จ จางหยูก็ดับไฟในห้องเรียนก่อนจะเดินไปที่หอตำรา ระหว่างเดินไปนั้นเขาก็ล้วงเม็ดยาฟื้นฟูออกมากินไปด้วย ทันทีที่เคี้ยวมัน ดวงตาของจางหยูก็เป็นประกายขึ้นมา ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า "อืมมม ไม่เลวเลย รสชาติมันดีกว่าขนมเยอะ" เมื่อเข้ามาในหอตำรา จางหยูก็เพ่งสมาธิไปกับการแก้ไขเคล็ดวิชา แม้ว่าจะมีเสียงดัง "กร้วมๆ" ออกมาไม่ขาดปากก็ตาม เคล็ดวิชา "เงาเวหา" ได้ถูกปรับปรุงแก้ไขเรียบร้อยแล้ว ต่อไปก็ถึงคราวปรับปรุงเคล็ดวิชาโจมตีแล้ว! จางหยูครุ่นคิดอยู่นาน สุดท้ายก็ตัดสินใจเลือกแก้ไขเคล็ดวิชาต่อสู้ประเภทดรรชนี ส่วนเหตุผลว่าทำไมถึงได้เลือกเคล็ดวิชาต่อสู้ประเภทดรรชนีนั้น ไม่ใช่เพราะมันทรงพลังมากกว่าเคล็ดวิชาอื่นๆ แต่เป็นเพราะว่า....มันเท่! หากเป็นคนอื่นมาตรฐานที่พวกเขาใช้เลือกก็คือ ทรงพลังที่สุดและแข็งแกร่งที่สุด ซึ่งจางหยูกวาดมาตราฐานพวกนั้นทิ้งอย่างไม่ใยดี ถ้าเคล็ดวิชามันแย่ก็ปรับปรุงซะสิ เรื่องนี้ไม่เกินมือเขาอยู่แล้ว จางหยูเป็นคนง่ายๆ จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะชอบวิธีการที่เรียบง่ายจนเหมือนลวกๆแบบนี้! "แต่ว่า...เคล็ดวิชาดรรชนีนั้นหายากมาก แม้จะเป็นเพียงระดับธรรมดาขั้นสูง ก็ยังมีน้อยอยู่ดี ไม่รู้ว่าเคล็ดวิชาดรรชนีในหอตำรา จะมีมากพอนำมาดัดแปลงไหม" จางหยูขมวดคิ้วแน่น เคล็ดวิชาดรรชนีจำเป็นต้องใช้ปราณเป็นจำนวนมากในร่างกายโคจรอย่างรวดเร็ว ดังนั้นความเหนียวของเส้นชีพจรจึงต้องแข็งแกร่งในระดับหนึ่ง ด้วยเหตุนี้จึงมีน้อยคนนักที่จะสร้างเคล็ดวิชาดรรชนีขึ้นมา และมีนักสู้ไม่มากที่จะเลือกฝึกเคล็ดวิชาดรรชนี บวกกับมีเงื่อนไขที่ความเหนียวของเส้นชีพจร ฉะนั้นหากผู้บ่มเพาะมีความอดทนต่ำ เกรงว่าคงทนฝึกต่อไปไม่ไหว "ช่างเถอะ ลองหาดูสักรอบดีกว่า ถ้าหากไม่พอจริงๆ ค่อยคิดหาวิธีอื่น" ใช้เวลาไม่นาน จางหยูก็รวบรวมเคล็ดวิชาดรรชนีทั้งหมดในหอตำราได้แล้ว "มีแค่ยี่สิบกว่าเล่มเท่านั้น นี่มันน้อยเกินไป!" ไม่ต้องลองจางหยูก็รู้ว่าเคล็ดวิชาแค่ยี่สิบกว่าเล่ม คงไม่สามารถแก้ไขเคล็ดวิชาดรรชนีให้สมบูรณ์ไร้ข้อผิดพลาดได้ ความจริงแล้วเคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นสูงในหอตำรานั้นมีไม่น้อยเลย เคล็ดวิชาที่จางหยูยึดกลับมาจากสำนักเฉินกวงและสำนักหยุนซานนั้น มีทั้งหมด 696 เล่ม บวกกับเคล็ดวิชาที่เติ้งชิวชานนำมาคืนอีก ทำให้เคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นสูงมีทั้งหมด 758 เล่ม แต่ในหมู่เคล็ดวิชาระดับธรรมดาขั้นสูงทั้ง 758 เล่มนี้ กลับมีเคล็ดวิชาดรรชนีอยู่แค่ยี่สิบกว่าเล่ม "ดูเหมือนว่าข้าต้องคิดหาวิธีอื่นซะแล้วล่ะ" แม้ว่าจางหยูไม่อาจปรับปรุงเคล็ดวิชาดรรชนีได้ แต่เขาก็ยังไม่ยอมแพ้ เพียงแต่ว่าตอนนี้เขากลับคิดอะไรไม่ออก แล้วถ้าคิดไม่ออกควรทำยังไง ? แน่นอนว่าก็ต้องทำทุกอย่างที่เป็นไปได้เพื่อหาทางแก้ ! จางหยูครุ่นคิดอยู่สักพัก ทันใดนั้นก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา ก่อนจะฉีกยิ้มกว้าง ทำให้ใบหน้าของเขาดูเจ้าเล่ห์ขึ้น "ได้ยินมาว่า คนพวกนั้นมักจะถามถึงยาฉีซวนไม่ใช่เหรอ? ถ้าหากข้าให้โอกาสพวกเขาล่ะก็ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะดีใจกันรึเปล่า!" หลังจากที่ได้ตัดสินใจแล้ว จางหยูก็หยุดกังวลเรื่องเคล็ดวิชาดรรชนีทันที และเพ่งสมาธิไปกับการดัดแปลงเคล็ดวิชา ในหมู่เคล็ดวิชาดรรชนีทั้งยี่สิบเล่มนี้ จางหยูเลือกเคล็ดวิชาที่มีชื่อว่า "ดรรชนีแห่งการสูญสิ้น" เป็นต้นแบบและเริ่มทำการแก้ไขมันทันที....วันต่อมา หลังจากที่จางหยูสอนเสร็จ เขาก็เรียกให้อู่เฉินกับอู่โม่อยู่ต่อ " อู่โม่ เจ้าฝึกปรุงยาต่อ" จางหยูหันไปสั่งอู่โม่ จากนั้นก็พูดกับอู่เฉินว่า "ส่วนอู่เฉิน เจ้ามากับข้า ข้ามีเรื่องให้เจ้าช่วย" อู่เฉินตกตะลึงไปเล็กน้อย ก่อนจะรีบเดินตามจางหยูไป "ไม่ว่าเจ้าสำนักจะสั่งอะไร อู่เฉินผู้นี้จะไม่ปฏิเสธ" หลังจากที่กลับจวนไปเมื่อวานนี้ เขาลองคิดๆดูแล้ว ยาฉีซวนหลายสิบเม็ดมันมากเกินไป การรับมาแบบฟรีๆเช่นนี้ ดูเหมือนจะไม่เหมาะสมเท่าไหร่ กินไปหนึ่งเม็ด รู้สึกผิดไปหนึ่งฉื่อ เขายังคิดหาทางตอบแทนจางหยูอยู่ ตอนนี้ เมื่อจางหยูเรียกเขามาเพราะมีเรื่องให้ช่วย สิ่งนี้ก็ตรงใจเขาพอดี! "ไม่จำเป็นต้องกังวลไป มันก็แค่เรื่องเล็กๆ ข้าเชื่อว่าเจ้าสามารถทำได้" จางหยูยิ้มและตบไหล่ของอู่เฉินเบาๆ ทว่าเมื่อสังเกตเห็นท่าทางกัดฟันของอีกฝ่าย จึงอดถามไม่ได้ว่า "อะไรกัน อาการบาดเจ็บยังไม่ดีขึ้นอีกรึ?" อู่เฉินยิ้มออกมาอย่างขมขื่น "เพิ่งผ่านไปแค่คืนเดียว มันไม่หายเร็วขนาดนั้นหรอกท่านเจ้าสำนัก" "อ้อ งั้นก็กินนี่ซะ" จางหยูหยิบยาฟื้นฟูออกมาจากถุงผ้าหนึ่งเม็ด "ไม่ต้องพูดอะไร ข้าเป็นเจ้าสำนัก หากไม่ห่วงเจ้า แล้วจะให้ห่วงใคร รีบฟื้นฟูอาการบาดเจ็บซะ" อู่เฉินลังเลเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็รับยาฟื้นฟูมากินต่อหน้าจางหยู เขาไม่รู้ว่ายาฟื้นฟูนี้ล้ำค่าแค่มากไหน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาทนเจ็บต่อไปไม่ไหวแล้ว เพราะทุกครั้งที่เขารู้สึกเจ็บ เขาก็จะนึกถึงตอนที่ตัวเองโดนลูกชายอัด ซึ่งนั่นมันน่าขายหน้าเกินไป ! เขากลัวว่ามันจะกลายเป็นเงาคอยหลอกหลอนเขาไปชั่วชีวิต ! "ผลของมัน..." ทันทีที่ยาเข้าไปในร่างกาย มันก็เปลี่ยนเป็นพลังงานบริสุทธิ์ไหลไปยังบาดแผลที่อยู่ทั่วร่างของเขา แม้จะรู้สึกคันๆที่บาดแผล แต่ความเจ็บปวดกลับทุเลาลงและเริ่มหายไปในความเร็วที่น่าตกใจ อู่เฉินอดไม่ได้ที่จะเบิกตากว้างด้วยความช็อก "นี่มันทรงพลังมาก!" ด้วยความเร็วนี้ เกรงว่าเพียงแค่ 15 นาที อาการบาดเจ็บทั้งหมดของเขาก็คงหายดี จางหยูเห็นดังนั้นก็ยิ้มกว้างออกมา "ยาฟื้นฟูนี้สามารถรักษาอาการบาดเจ็บภายในได้ แล้วทำไมจะรักษาอาการบาดเจ็บภายนอกไม่ได้?" สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ยาฟื้นฟูขั้นที่ 1 นี้ เขาเป็นคนหลอมมันขึ้นมา ดังนั้นทุกเม็ดล้วนเป็นยาขั้นที่ 1 ลวดลายระดับ 3 ฉะนั้นจะเอายาฟื้นฟูทั่วไปมาเทียบก็คงจะไม่ได้ จางหยูส่ายหน้า เขาไม่พูดเรื่องเม็ดยาต่อ แต่กลับยิ้มจางๆไปให้อู่เฉิน "ไม่นานมานี้ข้าลองสำรวจทักษะและเคล็ดวิชาในหอตำราดู ก่อนจะพบปัญหาบางอย่าง ในหอตำรามีเคล็ดวิชาดรรชนีน้อยเกินไป เคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงมีแค่ยี่สิบกว่าเล่มเท่านั้น มันเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง ? สำนักคังเฉียงของพวกเราจะเป็นสำนักที่ยิ่งใหญ่ในอนาคต และจะต้องต้อนรับลูกศิษย์มากมาย ฉะนั้นข้าจะยอมให้มีเคล็ดวิชาดรรชนีน้อยขนาดนี้ได้อย่างไร?" "ยี่สิบกว่าเล่มยังถือว่าน้อยไปอีกหรือ?" อู่เฉินมองจางหยูอย่างตกตะลึง จนแทบอยากจะกระอักเลือดออกมา ตระกูลอู่ที่รุ่งเรืองมานานหลายสิบปี พวกเขาซื้อและแลกเปลี่ยนเคล็ดวิชากับทักษะเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังรวบรวมเคล็ดวิชามาได้แค่ร้อยกว่าเล่ม และทักษะอีกสิบกว่าเล่ม ส่วนใหญ่เป็นเคล็ดวิชาและทักษะระดับธรรมดาขั้นต่ำและขั้นกลาง กระทั่งเคล็ดวิชาดรรชนีก็มีแค่เล่มเดียว แถมยังเป็นระดับธรรมดาขั้นกลางอีกด้วย เขาไม่รู้เลยว่า เคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงยี่สิบกว่าเล่มในสำนักคังเฉียง กลายเป็นน้อยในสายตาของจางหยูได้อย่างไร? เมื่อสังเกตเห็นสีหน้าตกใจของอู่เฉิน จางหยูก็แค่นเสียงหึออกมา ก่อนจะถามเสียงเรียบว่า "ทำไม หรือเจ้ามีอะไรจะค้าน?" "ไม่มี ไม่มีเลย เจ้าสำนักพูดถูกแล้ว เคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงยี่สิบกว่าเล่ม มันน้อยเกินไป!" มีแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่า อู่เฉินต้องฝืนใจแค่ไหนกับการพูดแบบนี้ออกมา แม้ว่าเขาจะมีความคิดเห็นมากมายอยู่ในหัว แต่ก็ไม่กล้าพูดออกมาต่อหน้าจางหยู ! "ใช่แล้ว เจ้าก็ยังรู้สึกว่ามันน้อยเกินไปใช่รึไม่?" จางหยูหัวเราะออกมา เขาชอบเห็นท่าทางเห็นด้วยของอู่เฉินทั้งๆที่ในใจไม่ได้คิดแบบนั้นเลยสักนิด นี่มันน่าสนใจจริงๆ อู่เฉินพยักหน้าเห็นด้วย ทั้งๆที่ในใจแอบบ่นขึ้นมาว่า " ข้ากลัวว่ามีแค่ท่านเท่านั้นแหละ ที่บอกว่ามันน้อยเกิน..." แต่ไม่นาน อู่เฉินก็เริ่มสับสนขึ้นมา "เจ้าสำนัก ท่านต้องการให้ข้าทำอะไร?" "ก็ง่ายๆ ข้าต้องการให้เจ้าช่วยข้ารวบรวมเคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูง!" จางหยูมองอู่เฉินด้วยรอยยิ้ม "ถ้าเป็นไปได้ ข้าก็ไม่รังเกียจที่จะให้เจ้ารวบรวมเคล็ดวิชาดรรชนีทั่วทั้งเมืองมา!" เมืองนี้ดูเหมือนจะเล็ก แต่ความจริงแล้วก็มีหลายตระกูลที่อยู่ในเมืองนี้มานาน รอบๆเมืองก็มีพวกตระกูลเก่าแก่ซึ่งไม่อาจจะมองข้ามได้อยู่มากมาย เมื่อได้ยินแบบนั้น อู่เฉินก็เบิกตากว้าง " นั่น...นั่นมัน..." ต่อให้ขายกิจการของตระกูลอู่ทั้งหมด ก็เกรงว่าคงไม่สามารถซื้อเคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงจำนวนมากเช่นนี้ได้! " ทำไม มีปัญหาอะไร?" จางหยูมองไปที่อู่เฉินด้วยความสงสัย "เจ้าสำนัก ไม่ใช่ว่าข้าไม่อยากจะช่วย เพียงแต่ เพียงแต่...." อู่เฉินทำสีหน้าพูดไม่ออก ก่อนจะรีบอธิบายขึ้นมา "ด้วยกำลังเงินของตระกูลอู่แล้ว ข้าไม่อาจจะหาเคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงได้มากมายนัก!" มันเป็นเรื่องยากที่เขาจะรวบรวมเคล็ดวิชาดรรชนีระดับนั้นมาได้ " จริงรึ ? หากเพิ่มอันนี้เข้าไปล่ะ?" จางหยูเหมือนรู้อยู่แล้วว่าอู่เฉินจะพูดแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงหยิบถุงผ้าขึ้นมาและโยนไปให้อู่เฉิน "ด้วยของพวกนี้มันน่าจะง่ายขึ้นกว่าเดิมรึไม่?" ยาที่เขาใช้เป็นขนมกินเล่นตลอด 1 เดือนอัดแน่นอยู่ในถุงนั้นแล้ว อู่เฉินเจอกับจางหยูอยู่ทุกวัน แน่นอนเขาย่อมรู้ว่าในถุงผ้านี้มีอะไรอยู่ เขากลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก ก่อนจะถามขึ้นมาว่า "เจ้าสำนัก ท่านจะใช้ยาพวกนี้แลกกับเคล็ดวิชาดรรชนีงั้นรึ?" "เคล็ดวิชาดรรชนีระดับธรรมดาขั้นสูงเล่มหนึ่ง แลกกับเม็ดยาหนึ่งเม็ด เจ้าคิดว่าไง?" จางหยูยิ้มและถามขึ้นมาแทน