ตอนที่ 35 : คืน
ตอนที่ 35 : คืน
****
[ภารกิจ 7 : รับเติ้งชิวฉานเป็นศิษย์สำนักคังเฉียง]
[เพื่อสร้างสำนักที่ยิ่งใหญ่ จะต้องรู้จักประนีประนอมและใจกว้างดุจมหาสมุทร ในฐานะเจ้าสำนักแล้ว โฮสต์มีหน้าที่ที่จะต้องรับผิดชอบ ด้วยการรับสมัครอัจฉริยะเข้าสำนัก]
[รางวัล : ฝึกสัตว์อสูร 2 ดาว]
[เวลาจำกัด : 1 เดือน]
[ภารกิจล้มเหลว : ไม่มีบทลงโทษ]
****
เอาจริงสิ !
จางหยูอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา " ระบบเนี่ย ทันทีที่เห็นอัจฉริยะ เจ้าก็เหมือนกับผู้ชายที่เห็นสาวงามเป็นไม่ได้ จำต้องกระโจนเข้าใส่ทุกที..."
"รางวัลฝึกสัตว์อสูร 2 ดาวนั้นค่อนข้างน่าสนใจ แต่..." จางหยูส่ายหน้าและคิดในใจว่า "ข้าคงต้องยอมแพ้ นอกซะจากว่าสมองของข้าจะกลายเป็นเต้าหู้เท่านั้นแหละ ไม่อย่างนั้น ผู้หญิงคนนี้อย่าคิดเพ้อฝันที่จะเข้าร่วมสำนักคังเฉียง เฮ้อออ เมื่อกี้เพิ่งจะคิดไม่รับอยู่แหมบๆจู่ๆก็โยนภารกิจแบบนี้มาให้ เอาจริงสิ?"
คนเราก็ต้องรักษาหน้ารักษาตากันบ้างจริงไหม?
"เฮ้ออออ ช่างเถอะๆ เพื่อฝึกสัตว์อสูร 2 ดาว จะเสียหน้าบ้างจะเป็นไรไป" หากได้กลายเป็นนักฝึกสัตว์อสูรในตำนาน เสียหน้าแค่นี้จะนับเป็นอะไรได้
โชคดีที่ภารกิจในครั้งนี้มีเวลาให้ถึง 1 เดือน จางหยูจึงพอมีเวลาทำภารกิจให้สำเร็จ
คนที่มีความสามารถพิเศษ 4 ดาวนั้นไม่เหมือนคนทั่วไป แม้แต่ระบบก็ยังให้เวลาเขานานขนาดนี้ ต้องรู้ก่อนว่าตอนที่รับอู่ซินซินกับอู่โม่นั้น เวลาจำกัดคือ 1 วันเท่านั้น
จากจุดนี้ก็เห็นได้ชัดแล้วว่า มีแค่พวกที่มีพรสวรรค์ 4 ดาวนั้น ที่ได้รับความสนใจจากระบบจริงๆ !
"แต่ยิ่งนานเท่าไหร่ก็ยิ่งดีสำหรับข้า" จางหยูไม่มีความเห็นอื่น กลับกันยังรู้สึกชื่นชมระบบเป็นอย่างมาก
เขาไม่คิดที่จะทิ้งภารกิจ แต่ก็ไม่คิดทำภารกิจให้สำเร็จทันที
เห็นได้ชัดว่าเติ้งชิวฉานในตอนนี้ ไม่เห็นเขาและสำนักคังเฉียงอยู่ในสายตา ถ้าเขาชวนนางเข้าสำนักตอนนี้ เขาจะไม่เสียหน้ารึไง ?
เขาต้องรอจนกว่าจะเจอโอกาสเหมาะๆเพื่อให้นางรู้ว่าสำนักคังเฉียงนั้นยอดเยี่ยมเพียงใด
....
เมื่อได้ยินจางหยูประเมินยาว่อซวนที่นางได้มาอย่างยากลำบาก เติ้งชิวฉานก็แทบคลั่ง นางคิ้วขมวดและมองไปที่จางหยูด้วยความโกรธ "เจ้าดูหมิ่นข้าได้ แต่จงเคารพนักปรุงยา 2 ดาว ! เจ้าสำนักจาง ข้ารู้ว่าเจ้าเก่งแต่หากเจ้าดูหมิ่นนักปรุงยา 2 ดาวแล้วล่ะก็ ผลที่ตามมาไม่ใช่สิ่งที่เจ้าจะสามารถแบกรับได้!"
นางไม่รู้เลยว่า ตัวเองกำลังยืนอยู่ต่อหน้านักปรุงยา 2 ดาว !
นอกจากนี้ยังเป็นนักปรุงยา 2 ดาวขั้นสูงเสียด้วย !
ในด้านการปรุงยาขั้นที่ 2 ต่อให้เป็นตันเสินในตำนานมาเอง เขาก็ไม่กลัว !
"แค่นักปรุงยา 2 ดาว ? มันน่าทึ่งมากรึไง ?" จางหยูมองไปที่เติ้งชิวฉานด้วยท่าทีเบื่อหน่าย " มันเป็นไปไม่ได้งั้นรึ กับการทำยาขั้นที่ 2 ? หึๆ การทำยาขั้นสองนี้ข้าเองก็ทำได้ ! และยังทำได้ดีกว่ายานี่ด้วยซ้ำ !"
เติ้งชิวฉานเม้มปากแล้วพูดขึ้นมาว่า "อย่าปั้นหน้าไปหน่อยเลย เจ้ารึจะเทียบกับนักปรุงยาขั้นที่ 2 ได้ ?"
"เอ่อ...คือ....ชิวฉาน !" อู่โม่ที่นิ่งเงียบอยู่นาน สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะขัดขึ้นมา "บางทีเจ้าสำนักอาจจะทำยาขั้นที่ 2 ขึ้นมาได้จริงๆ..."
"เขานะเหรอ ? ยาขั้นที่ 2 ด้วย ? เป็นไปไม่ได้?" เห็นได้ชัดว่าเติ้งชิวฉานไม่เชื่อ นางแสดงสีหน้าสงสัยออกมา " นอกซะจากว่าเขาจะปรุงยาขั้นที่ 2 ต่อหน้าข้า ไม่อย่างนั้น ข้าไม่มีทางเชื่อเขาเด็ดขาด!"
จางหยูไม่ได้โกรธ เขายักไหล่และพูดขึ้นมาว่า "เจ้าจะเชื่อรึไม่ก็ตามใจ ยังไงข้าก็ไม่สนอยู่แล้ว"
ตั้งแต่เติ้งชิวฉานเกิดมา คนที่กล้าทำตัวไร้มารยาทกับนาง ก็มีจางหยูนี่แหละที่เป็นคนแรก แต่ทว่านางกลับไม่สามารถโกรธเขาได้
หดหู่ เกรี้ยวกราด!
นางหวังว่าจางหยูจะหายไปจากสายตาของนางสักที !
อู่โม่รู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก ด้านหนึ่งก็เพื่อนของตัวเอง และยังเป็นเพื่อนที่เขามีความรู้สึกดีๆให้ ส่วนอีกด้านหนึ่งก็คือเจ้าสำนักที่เคารพ ไม่ว่าจะช่วยฝ่ายไหน เขาก็คล้ายจะทำผิดอยู่ดี
ในเมื่อไม่ว่าจะเลือกฝ่ายไหนก็ผิด ดังนั้นอู่โม่จึงเลือกที่จะอยู่ตรงกลาง และปล่อยให้ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันเอง
หลังจากนั้นสักพัก อู่ซินซินก็กลับมาพร้อมกับคนอื่นๆ
"ท่านพี่เจ้าสำนัก ข้าเอาทักษะและเคล็ดวิชาทั้งหมดใส่ไว้ในชั้นหนังสือแล้วนะ" อู่ซินซินรีบวิ่งมาหาจางหยูและอ้อนทันที
" จริงรึ ? เจ้าทำได้ดีมาก" จางหยูยิ้มแล้วลูบหัวนางเบาๆ เมื่อก่อนอู่ซินซินไม่ยอมให้ใครมาลูบหัวของนาง แต่ตอนนี้นางดูเหมือนลูกแมวน้อยน่ารัก ที่ชอบให้มนุษย์สัมผัสตัว ใบหน้าน้อยๆคลี่ยิ้มอย่างสดใส
จางหยูหันกลับมามองที่เติ้งชิวฉาน แล้วพูดว่า "เอาล่ะ ของก็ส่งเสร็จแล้ว พวกเจ้าก็กลับกันไปได้แล้ว"
เมื่อพูดจบ จางหยูก็ไม่ได้สนใจเติ้งชิวฉานและคนอื่นๆ เขาบอกลาอู่โม่และอู่ซินซิน ก่อนจะเดินตรงไปที่หอตำรา
" เจ้าสำนัก ยาว่อซวน !" ทันใดนั้น อู่โม่ก็เพิ่งนึกอะไรบางอย่างได้ จึงรีบยกกล่องไม้ในมือขึ้นมา แล้วตะโกนเสียงดัง
"ข้าบอกว่ายกให้เจ้า มันก็เป็นของเจ้า ส่วนเจ้าจะทำยังไงกับมันนั้น ก็เป็นเรื่องของเจ้า" จางหยูโบกมือโดยไม่หันกลับมามอง ราวกับว่าไม่ได้สนใจยาว่อซวนที่เติ้งชิวฉานหวงแหนเลยแม้แต่น้อย ไม่สิ ไม่ใช่ราวกับ แต่ไม่สนใจเลยจริงๆต่างหาก
สำหรับคนที่สามารถทำยาขั้นที่ 2 ลวดลายระดับ 3 ได้หลายสิบเม็ด ยาว่อซวนลวดลายระดับ 1 นั้นย่อมไม่มีค่าอะไรเลย
จนถึงตอนนี้ เติ้งชิวฉานก็แน่ใจแล้วว่า จางหยูนั้นยกยานี้ให้กับอู่โม่จริงๆ ไม่ใช่แค่แกล้งทำ
" เขา..." เติ้งชิวฉานสับสนเล็กน้อย ในดวงตาเต็มไปด้วยความสงสัย "เขาไม่สนใจยาว่อซวนจริงๆรึ ?"
นี่คือยาว่อซวนเชียวนะ !
แม้แต่นักสู้ขอบเขตว่อซวนก็ยังอยากจะได้มัน !
"จริงสิ" ตอนนั้นเอง จางหยูก็หยุดเดิน และหันกลับมามองที่เติ้งชิวฉาน "การทดสอบหวงหยวนในปีนี้ สำนักคังเฉียงก็จะเข้าร่วมด้วย หากเจ้าสนใจ เจ้าก็ไปดูได้ เชื่อข้าได้เลยว่ามันต้องมีเรื่องที่น่าสนใจเกิดขึ้นแน่"
เดิมทีเติ้งชิวฉานก็นึกว่าจางหยูคงเกิดเสียดายขึ้นมา แต่ผลปรากฏว่าสิ่งที่จางหยูได้พูดนั้น ไม่เหมือนกับที่นางคิดไว้ นางตะลึงเล็กน้อย จากนั้นก็แสดงสีหน้าเย็นชาเหมือนเดิม และกล่าวว่า "การทดสอบหวงหยวนคืองานใหญ่ประจำปีของเมืองทะเลทราย ต่อให้เจ้าไม่พูด ข้าก็ไปดูอยู่แล้ว" ทุกๆปีตระกูลเติ้งจะรับสมัครเหล่าศิษย์ที่ทำผลงานได้ดีในการทดสอบหวงหยวน รอจนพวกเขาเรียนจบจากสำนัก ก็จะรับเข้าตระกูลเติ้งทันที และปล่อยให้พวกเขาบ่มเพาะพลังด้วยทรัพยากรของตระกูลเติ้ง แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาก็ต้องทำงานบางอย่างให้ตระกูลเติ้งเช่นกัน
การทดสอบหวงหยวนในปีก่อนๆ เติ้งชิวฉานก็มาสังเกตการณ์เพื่อรับสมัครคน ดังนั้นปีนี้เองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
" จริงรึ ? งั้นก็ดี" จางหยูพยักหน้าและไม่พูดอะไร ก่อนที่ร่างของเขาจะหายไปในความมืด
เมื่อเห็นร่างของจางหยูค่อยๆเดินหายไป เติ้งชิวฉานก็เงียบไปสักพัก แล้วก็พูดกับอู่โม่ว่า "อู่โม่ ยาว่อซวนนี่ เจ้าต้องเก็บมันไว้ให้ดีๆ อย่าให้ใครรู้เด็ดขาด ! หากข่าวนี้รั่วไหลออกไป แม้แต่นักสู้ขอบเขตว่อซวนก็จะมาแย่งชิงมัน !"
การที่ยาว่อซวนนี้ได้ตกเป็นของอู่โม่ เติ้งชิวฉานก็เหมือนจะโล่งใจและรู้สึกดีใจกับอู่โม่
แต่ที่น่าแปลกใจก็คือ อู่โม่ดูไม่ดีใจเท่าไหร่เลย เขาแสดงท่าทีลังเลออกมา ก่อนจะทำในสิ่งที่น่าตกใจขึ้น
เขาค่อยๆเดินไปหาเติ้งชิวฉาน และส่งกล่องไม้ให้กับนาง "หากอยู่กับข้าก็เป็นได้แค่ของที่เก็บไว้ในความทรงจำ ดังนั้นยกให้เจ้าเป็นคนเก็บรักษาจะดีกว่า"
เมื่อเห็นอู่โม่ส่งกล่องไม้มาให้ เติ้งชิวฉานก็นิ่งไป แทนที่จะรับมันมา นางกลับคิ้วขมวดและถามขึ้นว่า "เจ้าสงสัยว่ายานี่เป็นของปลอมงั้นรึ?"
" ไม่" อู่โม่ปฏิเสธอย่างจริงจัง "ในเมื่อเจ้าสำนักบอกว่ามันเป็นของจริง มันก็ต้องเป็นของจริง"
" งั้นทำไมเจ้า..."
"ชิวฉาน ถึงแม้ข้าจะไม่รู้ว่าเจ้าได้ยาว่อซวนเม็ดนี้มายังไง แต่ข้ามั่นใจว่า เจ้าจะต้องต้องทุ่มเทเป็นอย่างมากถึงจะได้มันมา" อู่โม่ถอนหายใจออกมา สายตาของเขาแฝงไปด้วยความเจ็บปวด เขาไม่ได้เจ็บปวดเพราะยาว่อซวน แต่เจ็บปวดเพราะเติ้งชิวฉาน หญิงสาวคนนี้อายุน้อยกว่าเขา แต่กลับต้องแบกรับแรงกดดันมากมาย รวมไปถึงภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง "ข้าคิดว่าเจ้าต้องการมันมากกว่าข้า ! เจ้าสำนักบอกว่าข้าจะทำยังไงกับมันก็ได้ ดังนั้นข้าจะยกมันให้กับเจ้า เจ้าสำนักคงไม่ตำหนิข้า !"
เติ้งชิวฉานมองไปที่อู่โม่อย่างตกตะลึง จู่ๆจมูกของนางก็แสบร้อนขึ้นมาเล็กน้อย ในดวงตาคล้ายกับมีม่านน้ำจางๆปรากฏขึ้น
นางสูดหายใจเข้าลึกๆ และก้มหน้าลง พยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา
หลังจากนั้นสักพัก นางก็ควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้และพูดขึ้นมาว่า "อู่โม่ขอบคุณนะ!" น้ำเสียงของนางฟังดูสั่นเครือเล็กน้อย
อู่โม่ยิ้มกว้าง แล้ววางกล่องไม้ที่มือของเติ้งชิวฉาน "ระหว่างเราสองคน เรามาไกลเกินกว่าจะมาขอบคุณกันแล้วไม่ใช่รึไง ?"
"ใช่ ใช่ พี่ชิวน่ะเป็นพี่สะใภ้ในอนาคตของข้า ไม่ใช่คนนอกหรอก" ในช่วงเวลาที่สำคัญเช่นนี้ อู่ซินซินก็โพล่งประโยคนี้ออกมา
ทันทีที่อู่ซินซินพูดจบ อู่โม่และเติ้งชิวฉานก็ชะงักขึ้นมา ก่อนจะหน้าแดงระเรื่อ
ไม่นาน เติ้งชิวฉานก็มองไปที่กล่องไม้ด้วยความรู้สึกซับซ้อน แทนที่จะปฏิเสธมัน นางกลับบีบกล่องไม้แน่นและพูดขึ้นมาว่า " ยาว่อซวนนี่.....ข้าต้องการมันจริงๆ อู่โม่ ถ้าวันหนึ่งเจ้ารู้สึกเสียใจในภายหลัง ข้าจะหาทางคืนมันให้กับเจ้า..." แม้จะพูดแบบนี้ แต่ในใจของนางก็ชัดเจนยิ่งกว่าใคร การจะได้ยาว่อซวนมานั้น มันต้องใช้โชคเป็นจำนวนมาก หากคิดจะได้ยาว่อซวนเม็ดที่สอง เกรงว่าความเป็นไปได้คงจะเป็นศูนย์
กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้น นางก็ยังไม่แน่ใจนัก
แน่นอนว่าอู่โม่เข้าใจตรงจุดนี้ แต่ทว่าเขากลับไม่สนใจเท่าไหร่นัก เพราะในใจของเขารู้ดียิ่งกว่าใครว่า เจ้าสำนักเป็นนักปรุงยา 2 ดาว ถ้าหากเขาจำเป็นต้องใช้มันจริงๆ ก็แค่ก็ไปขอร้องให้เจ้าสำนักหลอมมันขึ้นมาก็ได้ หรือแม้กระทั่ง....ในอนาคตเขาอาจจะกลายเป็นนักปรุงยา 2 ดาวก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นเขาก็สามารถทำมันขึ้นมาเองได้
แต่คำพูดเหล่านี้ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา เพราะถึงแม้จะพูดออกมา แต่เติ้งชิวฉานก็คงไม่เชื่ออยู่ดี
"มันดึกแล้ว พวกเรากลับกันเถอะ" อู่โม่ยิ้มและเปลี่ยนเรื่องทันที " หากข้าไม่รีบกลับ ท่านพ่ออาจจะมาตามที่สำนักก็ได้..."
เติ้งชิวฉานพยักหน้าและยิ้มออกมาเล็กน้อย
ในเวลานี้ ท่าทางห้าวหาญบนตัวของนางดูเหมือนจะลดน้อยลง แต่ความอ่อนโยนดั่งสตรีแรกรุ่นกลับเพิ่มมากขึ้น
....
หลังจากที่พวกนั้นกลับไปแล้ว จางหยูก็ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้ง
เขามองไปยังทิศทางที่พวกอู่โม่จากไป พร้อมกับลูบจมูกตัวเองเบาๆ "เจ้าเด็กอู่โม่นี่ เอาใจผู้หญิงเก่งจริงๆ เขากลับยกยาว่อซวนให้กับสาวน้อยคนนั้นเชียวนะ..." ถึงแม้ว่าจางหยูจะไม่สนใจยาว่อซวน แต่การที่อู่โม่ส่งคืนมันให้กับชิวฉานอย่างไม่ลังเล ก็ทำให้จางหยูอดแปลกใจไม่ได้ "ช่างเถอะ ก็แค่ยาขั้นสองเม็ดหนึ่งไม่ใช่หรือไง คืนก็คืนไปสิ ยังไงซะเด็กนั่นอีกไม่นานก็จะมาเป็นคนของสำนักคังเฉียงแล้ว ถือซะว่าเป็นการลงทุนล่วงหน้า"
ถ้าจางหยูตัดสินใจรับใครเป็นศิษย์แล้ว ยังจะมีใครหน้าไหนแย่งไปจากเขาได้?
ใครกล้ายื่นมือเข้ามาแย่ง จางหยูจะโบกอุ้งเท้าตบหัวเอาให้!