ตอนที่ 34 : พรสวรรค์พิเศษ--- ควบคุมสัตว์อสูร
ตอนที่ 34 : พรสวรรค์พิเศษ--- ควบคุมสัตว์อสูร
ทันทีที่เติ้งชิวฉานพูดจบ จางหยูก็ค่อยๆเดินออกมาจากหลังต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกล สีหน้าที่ราบเรียบเอ่ยถามอย่างเฉยชาว่า "ของขวัญ? ถ้าของขวัญที่เจ้าพูดถึงคือการแนะนำให้ศิษย์ของข้าออกจากสำนักคังเฉียงล่ะก็ งั้นก็ช่างมันเถอะ ของขวัญเช่นนี้ข้ารับไว้ไม่ได้หรอก!"
อันที่จริงแล้ว ตอนที่เติ้งชิวฉานเพิ่งมาถึง จางหยูก็สังเกตเห็นพอดี ด้วยความสงสัย เขาจึงไม่ได้ปรากฏกายออกไป แต่หลบอยู่หลังต้นไม้และคอยฟังเรื่องราวทั้งหมด แน่นอนว่าบทสนทนาที่เขาได้ยินนั้น ทำเอาเขาในฐานะเจ้าสำนักคังเฉียงโกรธจนหน้าสั่นไปหมด
" เจ้าสำนัก !" เมื่ออู่โม่เห็นจางหยู ก็เรียกขานอย่างเคารพ
"ท่านพี่เจ้าสำนัก !"
อู่ซินซินตาเป็นประกายขึ้นมาและวิ่งไปหาจางหยู ดวงตาของเธอนั้นโค้งราวกับพระจันทร์เสี้ยว
"อู่โม่ เจ้าทำได้ดีแล้ว สมกับที่ข้าเชื่อใจเจ้า" จางหยูมองไปที่อู่โม่และพยักหน้าให้อย่างชื่นชม จากนั้นเขาก็มองไปที่เติ้งชิวฉานอีกครั้ง "อย่าคิดว่า การได้ออกไปเห็นโลกภายนอกเพียงน้อยนิดนั้น จะยิ่งใหญ่ โลกนี้กว้างใหญ่นัก ยังมีคนที่เจ้ามองไม่ออก และมีเรื่องมากมายที่ไม่อาจเข้าใจได้ การที่เจ้าพูดแบบนี้ออกมา มันสะท้อนให้เห็นว่าเจ้าช่างไม่รู้อะไรเลย"
แม้จิตใต้สำนึกจะรู้ว่าจางหยูคงได้ยินสิ่งที่ตัวเองพูดไปเมื่อครู่นี้ แต่ทว่าเติ้งชิวฉานก็ไม่รู้สึกละอายใจแต่อย่างใด กลับกันนางยังกล่าวด้วยเสียงที่หนักแน่นว่า "ถูกก็คือถูก ผิดก็คือผิด เรื่องราวในปีนั้น พวกข้าได้ทำเรื่องที่เลวร้ายลงไป พวกเราต้องการขอโทษอย่างจริงใจ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เราจะต้องเลียแข้งเลียขาสำนักคังเฉียง !"
นางยังคงยืนหยัดในความคิดของตัวเอง อู่โม่ควรออกไปท่องโลกกว้าง ออกไปเยี่ยมชมเมืองฟู่เฉิง ไม่ใช่ขลุกอยู่ในสำนักเล็กๆ อย่างสำนักคังเฉียงแบบนี้
จางหยูคิ้วกระตุกเล็กน้อย ก่อนจะพูดเสียงเรียบว่า "สาวน้อย เจ้ามองโลกนี้เรียบง่ายเกินไป ! ยิ่งไปกว่านั้น สำนักคังเฉียงก็ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาเลียแข้งเลียขา คนที่เข้าใจจริงๆ จะรู้ถึงความไม่ธรรมดาของมัน"
"จริงรึ? แต่ขออภัยที่เด็กสาวมีตาหามีแววไม่คนนี้ กลับมองไม่ออกเลยว่าสำนักคังเฉียงมีดีที่ตรงไหน" เติ้งชิวฉานและจางหยูต่างไม่ยอมอ่อนข้อต่อกัน
เมื่อได้ยินคำพูดที่ไร้มารยาทของเติ้งชิวฉาน อู่โม่ก็กลัวจนเหงื่อตก และรีบพูดขึ้นมาว่า "ชิวฉาน อย่าพูดเช่นนั้น!"
จากนั้นเขาก็หันกลับมาพูดกับจางหยูว่า "เจ้าสำนัก ชิวฉานไม่เข้าใจสถานการณ์ของสำนักคังเฉียงดี อาจจะเรียกได้ว่าผู้ไม่รู้ย่อมไม่ผิด ขอให้ท่านยกโทษให้นางด้วยเถอะ" เขารู้ว่าความแข็งแกร่งของจางหยูนั้นน่ากลัวมาก แม้แต่นักสู้ฉีซวนขั้นที่ 9 ก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา หากจางหยูคิดจะลงมือทำร้ายชิวฉานจริงๆ คงไม่มีใครสามารถช่วยนางได้
เดิมทีแล้วจางหยูยังรู้สึกโมโหเล็กน้อย แต่เมื่อสังเกตเห็นท่าทางของอู่โม่ เขาก็อดสนใจขึ้นมาไม่ได้ "อู่โม่ ทำไมเจ้าถึงได้กังวลนักเล่า?"
"อู่โม่ เจ้าไม่จำเป็นต้องขอร้องแทนข้า!" เติ้งชิวฉานยังคงดื้อด้าน นางจ้องจางหยูอย่างไม่เกรงกลัว "ข้ารู้ว่าเจ้าแข็งแกร่งมาก และข้าก็ไม่ใช่คู่มือของเจ้า ถ้าหากเจ้าคิดจะจัดการกับข้า ก็ลงมือได้เลย สิ่งที่ข้าควรพูด ข้าก็ได้พูดไปแล้ว อู่โม่นะ เขาไม่ควรผูกมัดตัวเองไว้ที่สำนักคังเฉียง สำนักคังเฉียงไม่คู่ควรกับเขา !"
อู่โม่ทั้งซาบซึ้งทั้งหวาดกลัว สุดท้ายเขาก็มองไปที่จางหยูด้วยแววตาน่าสงสาร ราวกับจะอ้อนวอน "เจ้าสำนัก"
" สบายใจเถอะ ข้าไม่สนใจสาวน้อยคนนี้หรอก" จางหยูยิ้มน้อยๆออกมา "มันเป็นเจ้าต่างหาก ที่ต้องพูดอย่างซื่อสัตย์ เจ้ากับสาวน้อยคนนี้เป็นอะไรกัน?"
เขารู้สึกว่า ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนนี้ไม่ได้เรียบง่ายและยังดูซับซ้อนอีกด้วย
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น อู่โม่ก็เกาหัวตัวเองด้วยท่าทีเอียงอาย ในดวงตาฉายแววจนปัญญาออกมา
เติ้งชิวฉานถลึงตาโต "เจ้าเรียกใครว่าสาวน้อย!"
จางหยูไม่ได้สนใจท่าทางโมโหของนาง และมองไปยังชายฉกรรจ์สองสามคนที่ยืนอยู่ด้านหลังแล้วสั่งว่า "เอาล่ะ ขนของไปวางไว้ที่หอตำรา แล้วกลับไปได้แล้ว สำนักคังเฉียงไม่ต้อนรับคนนอกเท่าไหร่"
" เจ้า...." เติ้งชิวฉานกำหมัดแน่น และสูดหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะสงบสติอารมณ์ แล้วหันไปบอกกับคนที่อยู่ด้านหลังว่า " ขนของเข้าไปเถอะ"
อู่ซินซินยกมือขึ้นพลางพูดเสียงใสว่า "ข้ารู้ทางไปหอตำรา ข้าจะนำทางไปที่นั่นเอง"
หลังจากที่คนอื่นๆจากไปพร้อมกับอู่ซินซิน เติ้งชิวฉานก็สูดหายใจเข้าลึกๆ แล้วนำกล่องไม้ที่ส่งกลิ่นหอมออกมาจากแขนเสื้อ นางค่อยๆส่งกล่องไม้ไปให้จางหยู จากนั้นก็โค้งตัวลงเพื่อขออภัย "เจ้าสำนักจาง ข้าเป็นตัวแทนของตระกูลเติ้ง ตระกูลสวี่และตระกูลฮั้ว เพื่อมาขอโทษอย่างจริงใจ! เรื่องราวที่เกิดขึ้นในปีนั้น พวกเราได้ทำผิดครั้งใหญ่ ข้าและทุกคนหวังว่าท่านจะยกโทษให้แก่พวกเรา! ของในกล่องไม้นี้ คือของขวัญที่ทั้งสามตระกูลนำออกมาเพื่อชดใช้ให้แก่ท่าน!"
จางหยูมองเติ้งชิวฉานด้วยสายตาประหลาดใจ ผู้หญิงคนนี้เพิ่งจะเถียงกับเขาแท้ๆ แต่ตอนนี้กลับโค้งตัวเพื่อขอโทษเขา ความคิดเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาทั่วไปจะเทียบได้!
หากเติ้งชิวฉานไม่ได้มาจากตระกูลเติ้ง และเป็นมิตรกว่านี้ บางทีจางหยูอาจจะคิดเรื่องการรับนางมาเป็นศิษย์ของสำนักคังเฉียงก็ได้
" ของขวัญชดใช้ ?" จางหยูรับกล่องไม้มาถือไว้อย่างไม่ใส่ใจ เห็นได้ชัดว่าเขาไม่ได้สนใจสิ่งที่อยู่ในกล่องไม้นั่นเลย พูดกันตามตรง ด้วยความแข็งแกร่งและทักษะปรุงยาของเขาในตอนนี้ ถ้าเขาต้องการอะไรขึ้นมา เกรงว่าในเมืองทะเลทรายแห่งนี้คงไม่มีให้เขาแน่ ดังนั้นเขาจึงคิดว่าของขวัญชดใช้ที่ทั้งสามตระกูลนำมาให้กับเขา คงไม่ใช่ของล้ำค่าอะไร
เติ้งชิวฉานคิ้วขมวดและถามขึ้นมาว่า "ทำไมเจ้าไม่เปิดมัน ?"
หรือเขาไม่สงสัยรึไงว่าอะไรอยู่ในกล่อง ?
"มันมีอะไรให้ดูกัน?" จางหยูมองไปที่เติ้งชิวฉานด้วยท่าทีเบื่อหน่าย " ทำไม หรือว่าเจ้าไม่พอใจ? ถ้าไม่พอใจก็พูดมาตรงๆ ข้าจะได้คืนของให้เจ้า" เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่เรียกว่าของขวัญชดใช้เลยแม้แต่น้อย
เติ้งชิวฉานถึงกับพูดไม่ออก
ผ่านไปสักพัก สีหน้าของนางก็อึมครึมขึ้นมา และกล่าวเสียงเย็นชาว่า "เจ้าควรจะเปิดดู เพราะในกล่องนั่นมันมีเม็ดยาขั้นที่ 2 หนึ่งเม็ด ต้องตำหนิข้า ที่ไม่ได้บอกเจ้าล่วงหน้า" เพื่อที่จะหายาขั้น 2 นี้ นางได้ผ่านอันตรายมามากมาย และเกือบตายไปแล้ว เรียกได้ว่ากว่าจะได้มานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย
ยาเม็ดนี้นางเตรียมไว้ให้ตัวเอง !
แต่เพื่อเป็นการขอโทษจางหยู และชดใช้ความผิดของตระกูล นางจึงตัดสินใจมอบยาขั้นที่ 2 ให้กับอีกฝ่าย
เพราะนอกจากยาขั้นที่ 2 เม็ดนี้แล้ว ก็ไม่มีของอะไรที่สามารถแสดงให้เห็นถึงความรู้สึกผิดของพวกเขาได้
"ยาขั้น 2 ?" จางหยูชะงักเล็กน้อย และมองไปที่เติ้งชิวฉานด้วยท่าทีแปลกใจ " เจ้าแน่ใจรึ ?"
สีหน้าของอู่โม่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เขามองไปที่เติ้งชิวฉาน เขาเดาว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะได้ยาเม็ดนี้มา
"ยาว่อซวน ยาขั้น 2 หากกินมันตอนทะลวงขอบเขต เจ้าสามารถเพิ่มโอกาสในการทะลวงขอบเขตได้ !" เติ้งชิวฉานกล่าวอย่างเย็นชา "ข้าพูดชัดเจนแล้ว เจ้าจะเชื่อรึไม่ก็ตามใจ !"
แกร๊ก !
จางหยูเปิดกล่องไม้ออก และมองเข้าไปในกล่อง ก่อนจะพบกับยาที่ถูกห่อด้วยผ้าสีเหลือง
"ไม่ผิด มันเป็นยาว่อซวนจริงๆ และมีลวดลายหนึ่งเส้น คุณภาพของมันก็พอรับได้" ถ้าเป็นเรื่องของการจำแนกยาล่ะก็ จางหยูค่อนข้างเชี่ยวชาญในด้านนี้ ไม่ต้องพูดถึงยาที่โด่งดัง อย่างยาว่อซวนเลย ต่อให้เป็นเม็ดยาที่วางขายอยู่ตามตลาด เพียงแค่เขาปรายตามองแวบหนึ่ง ก็สามารถคาดเดาวัตถุดิบและผลลัพธ์ของเม็ดยานั้นๆได้ ถ้าปล่อยให้เขาได้ศึกษามันอย่างละเอียด เขาก็สามารถกลั่นยาเหล่านั้นออกมาได้ แน่นอนว่านี่จำกัดแค่เม็ดยาขั้นที่ 1 และ 2 เท่านั้น
หากเกินขั้นที่ 2 ขึ้นไป จางหยูก็ไม่อาจทำขึ้นมาได้
"เจ้ารู้จักยาว่อซวนด้วยรึ?" เติ้งชิวฉานชะงักไปเล็กน้อย
การที่จางหยูบอกว่า "คุณภาพของมันก็พอรับได้" นั่นไม่เท่ากับบอกว่านางตาไร้แววอย่างนั้นหรือ
ถ้ายาลวดลายระดับ 1 มีคุณภาพแค่พอรับได้ ถ้าอย่างนั้นต้องเป็นยาลวดลายระดับไหนกัน ถึงจะบอกว่าดี?
แล้วเม็ดยาไร้ลวดลายล่ะจะนับเป็นอะไร?
"รู้สิ แต่ยานี่ไร้ค่าสำหรับข้า" จางหยูปิดกล่องแล้วโยนไปให้อู่โม่ที่อยู่ข้างๆ ราวกับโยนขยะทิ้ง "เก็บมันไว้ ข้ายกให้เจ้า"
อู่โม่รีบรับกล่องไม้แทบไม่ทัน ก่อนจะมองไปที่เติ้งชิวฉานสลับกับจางหยู ด้วยท่าทางพูดไม่ออก
เติ้งชิวฉานเบิกตากว้างและพูดขึ้นมาอย่างไม่อยากจะเชื่อว่า "เจ้า...เจ้า...."
นั่นมันยาขั้นที่ 2 ลวดลายระดับ 1 เชียวนะ!
ยิ่งไปกว่านั้นยาว่อซวนสำหรับการเลื่อนขั้นก็ทำได้ยากกว่ายาว่อซวนทั่วไป !
เขา เขาทิ้งมันแบบนี้เลยรึ ?
เติ้งชิวฉานถูกการกระทำของจางหยูทำเอามึนงงขึ้นมา
"ก็แค่ยาว่อซวนไม่ใช่รึไง ? ทำไมเจ้าต้องหงุดหงิดเช่นนั้นด้วย ?" จางหยูส่ายหน้า " ยิ่งกว่าไปนั้น คุณภาพของยาว่อซวนนี่ก็ไม่เท่าไหร่ เห็นได้ชัดว่าตอนที่ควบคุมไฟ คงทำได้ไม่ดี ไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำมันขึ้นมา แต่ข้าอับอายที่จะต้องกินมันเข้าไป..."
สำหรับจางหยูที่มีเปอร์เซ็นในการทำยาสำเร็จถึง 100% แถมทุกอันยังเป็นเม็ดยาลวดลายระดับ 3 อีกต่างหาก ถึงแม้ไม่ได้พูดว่า ยาเม็ดนี้เป็นขยะ แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามันยังมีข้อบกพร่อง
เทียบกับยาว่อซวนนี้แล้ว จางหยูกลับรู้สึกสงสัยนางมากกว่า ด้วยพลังและสถานะของเติ้งชิวฉานแล้ว นางไปเอายาว่อซวนแบบนี้มาจากไหนกัน?
แม้ว่าจางหยูจะไม่เห็นค่าของยาว่อซวน แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่ามันไร้ค่า ในทางกลับกัน มันมีค่ามากกว่าทักษะและเคล็ดวิชาระดับวิญญาณบางอันเสียอีก เติ้งชิวฉานเป็นสมาชิกตระกูลระดับสองคนหนึ่งของเมืองทะเลทราย ด้วยสถานะและความแข็งแกร่งของนางนั้น มันแทบเป็นไปไม่ได้ที่นางจะได้รับยาว่อซวนนี้
เมื่อคิดถึงจุดนี้ จางหยูก็อดไม่ได้ที่จะใช้มองทะลุกับเติ้งชิวฉาน เพื่อตรวจสอบนาง
***
[เติ้งชิวฉาน]
[เพศ : หญิง]
[อายุ : 23]
[พรสวรรค์ทางกายภาพ : สายเลือดทั่วไป , 2 ดาวขั้นกลาง]
[พรสวรรค์ในการรับรู้ : 2 ดาวขั้นกลาง]
[พรสวรรค์พิเศษ : ควบคุมสัตว์อสูร(4 ดาว)]
[ระดับการบ่มเพาะ : ฉีซวนขั้น 6]
***
พรสวรรค์พิเศษ !
ตาของจางหยูหรี่ลง "มีพรสวรรค์พิเศษ และยังเป็นพรสวรรค์พิเศษที่สูงถึง 4 ดาว!"
นับตั้งแต่ที่ได้รับระบบนี้มา นี่เป็นครั้งแรกที่จางหยูได้พบกับคนที่มีพรสวรรค์ถึง 4 ดาว! นอกจากนี้ยังเป็นพรสวรรค์พิเศษอีกด้วย!
เติ้งชิวฉานผู้นี้ เป็นอัจฉริยะที่มีแววกว่าอู่ซินซินและอู่โม่เสียอีก!
"ควบคุมสัตว์อสูร....ควบคุมสัตว์อสูร...มันน่าจะเป็นผู้ควบคุมสัตว์ของโลกนี้" จางหยูครุ่นคิดในใจ "หึๆ อาชีพนี้หายากยิ่งกว่านักปรุงยา ช่างตีเหล็กและนักวางค่ายกลซะอีก! คิดไม่ถึงเลยว่า สาวน้อยคนนี้จะมีพรสวรรค์ในการควบคุมสัตว์อสูร!"
"แต่อัจฉริยะแล้วยังไง? สำนักคังเฉียงไม่เคยขาดแคลนอัจฉริยะ!" ด้วยทัศนคติที่เติ้งชิวฉานมีต่อสำนักคังเฉียง ทำให้จางหยูฝืนใจรับนางเป็นศิษย์ไม่ลง "นอกเสียจากว่าสมองของข้านิ่มยิ่งกว่าเต้าหู้ ข้าไม่มีทางรับนางเป็นศิษย์แน่!"
ตอนที่จางหยูกำลังตัดสินใจอยู่นั้น จู่ๆเสียงของระบบก็ดังขึ้นมาในหัว " ระบบได้ตรวจจับพรสวรรค์พิเศษของเติ้งชิวฉาน และกำลังส่งภารกิจ"
"ไม่จริงน่า?" ใบหน้าของจางหยูแข็งทื่อขึ้นมา และเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ