ตอนที่ 32 : รังเกียจ
ตอนที่ 32 : รังเกียจ
อู่โม่ทำตัวราวกับเด็กน้อย "แค่ได้เป็นนักปรุงยาระดับ 1 ดาว ข้าก็พอใจแล้ว"
สำหรับคนที่อยู่ในโลกเล็กๆ ไม่เคยเห็นโลกอันกว้างใหญ่ ไม่ได้มีเป้าหมายใหญ่โตอะไร การได้เป็นนักปรุงยาระดับ 1 ดาวก็เพียงพอสำหรับเขาแล้ว
"เจ้ามีเป้าหมายแค่นี้เองรึ ? ศิษย์ของสำนักคังเฉียงจะมาพอใจกับการเป็นนักปรุงยา 1 ดาวได้ยังไง ?" จางหยูส่ายหน้าอย่างจนปัญญา แล้วพูดอย่างรังเกียจว่า "เจ้าไม่อาย แต่ข้าอาย"
อู่โม่ยิ้มแห้งๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร
"แล้วเม็ดยาที่เจ้ากลั่นออกมาล่ะ ไหนเอามาให้ข้าดูหน่อยสิ" จางหยูสั่ง
อู่โม่มองเม็ดยาในขวดก่อนจะส่งให้กับจางหยูอย่างระมัดระวัง
"ดูเจ้าทำสิ" จางหยูกรอกตาใส่ ก่อนจะรับขวดยามา หลังจากตรวจสอบเม็ดยาที่อยู่ในขวดอย่างละเอียด จางหยูก็เปิดฉากโจมตีอย่างเลือดเย็น "จำนวนก็ไม่ผ่าน รูปร่างก็ไม่ผ่าน ผลของยาก็ยังไม่น่าพอใจอีก เรียกมันว่าเม็ดยา ช่างเป็นการยกหางให้มันจริงๆ บอกตามตรงนะ มันคือยาที่แย่ที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา ! หากให้กินยานี่ ข้ายอมกินยาฆ่าตัวตายจะดีกว่า..."
ตอนนั้นเอง ความตื่นเต้นของอู่โม่ก็ถูกลบล้างไปโดยคำพูดของจางหยู
เขาอยู่กับจางหยูมานาน แต่นี่ก็เป็นครั้งแรกที่เขาโดนจางหยูด่าเจ็บขนาดนี้
มันหนักหน่วงเกินไปสำหรับเขา !
อู่โม่หน้านิ่ง ก่อนจะยิ้มแห้งๆออกมา "มันก็แย่จริงๆอย่างที่เจ้าสำนักพูด"
"ดี จงฝึกฝนต่อไป เมื่อไหร่ที่เจ้ากลั่นเม็ดยาออกมาให้ข้าพอใจได้ ข้าค่อยสอนเรื่องการปรุงยาระดับ 2 ดาวให้เจ้าอีกที" จางหยูมองไปที่อู่โม่ด้วยท่าทีสงสาร ก่อนจะส่งขวดยาคืนให้อู่โม่ "สำหรับของเล่นพวกนี้ เจ้าควรเก็บเอาไว้กับตัว ตราบใดที่เจ้าไม่ให้คนอื่นเห็นมัน ก็ถือว่าดี หากให้คนอื่นรู้ว่า ศิษย์ที่จางหยูสอนด้วยตัวเอง กลั่นเม็ดยาคุณภาพแย่ออกมา ข้าคงเสียหน้าแย่..." ประโยคสุดท้าย จางหยูก็อดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมอู่โม่
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น ในใจของอู่โม่ก็ขมขื่นขึ้นมา
เดิมทีมันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่ความตื่นเต้นนี้กลับถูกจางหยูลบล้างไปด้วยคำพูด
จางหยูโบกมือและพูดขึ้นมาว่า "เจ้าได้เป็นนักปรุงยา 1 ดาวแล้ว สิ่งที่เจ้าขาดไปก็คือประสบการณ์ ข้าไม่อาจจะสอนเรื่องนี้กับเจ้าได้ ดังนั้นเจ้าจะต้องฝึกฝนมันด้วยตัวเอง"
เขาตบไหล่อู่โม่แล้วเดินออกไป แต่ก็ทิ้งท้ายไว้ว่า "จำไว้ อย่ามาหาข้าจนกว่าเจ้าจะทำยาลวดลายระดับ 3ได้"
การปรุงยาลวดลายระดับ 3 ให้ได้นั้น คือข้อกำหนดต่ำสุดกับการยกระดับเป็นนักปรุงยา 2 ดาว !
อู่โม่ในตอนนี้เป็นมือใหม่ในด้านการปรุงยา เพียงแค่สุ่มนักปรุงยาระดับหนึ่งดาวออกมาสักคน พวกเขาล้วนแล้วแต่แข็งแกร่งกว่าอู่โม่!
จุดเด่นเพียงอย่างเดียวของเขาก็คือ ความรู้ที่กว้างขวาง ความรู้ที่เกี่ยวกับเม็ดยาและนักปรุงยา 1 ดาวนั้น แทบไม่มีอะไรที่เขาไม่รู้ อาจจะเรียกได้ว่าพื้นฐานของเขานั้นค่อนข้างหนาแน่นพอสมควร จุดนี้ ต้องขอบคุณกับจางหยู
"ขอรับ" อู่โม่ตอบกลับด้วยท่าทีที่เด็ดขาด
หลังจากที่จางหยูออกจากห้องไป อู่โม่ก็โล่งใจและพึมพำกับตัวเองเบาๆว่า "ยาลวดลายระดับ 3..."
อยู่ๆเขาก็อิจฉาอู่ซินซิน, หลินหมิงและคนอื่นๆขึ้นมา ทุกๆวันพวกนั้นแค่ต้องเข้าเรียนและบ่มเพาะเท่านั้นเอง ชีวิตที่เรียบง่ายแบบนี้ ไม่ดีตรงไหนกัน?
แต่เขาไม่รู้ว่า หลินหมิงและคนอื่นๆนั้นต่างก็แอบอิจฉาเขาอยู่ ที่เขาได้เรียนรู้เรื่องการปรุงยา เพราะนั่นเป็นอาชีพที่สูงส่งมาก!
....
หลังจากที่จางหยูออกจากห้องเรียน เขาก็ตรงไปที่ชั้นสองของหอตำรา ก่อนจะทุ่มสมาธิเพื่อแก้ไขเคล็ดวิชา
ตอนนี้เขาปรับปรุงเคล็ดวิชา 'เงาเวหา' ซึ่งเป็นเคล็ดวิชาตัวเบาระดับธรรมดาขั้นสูงได้ครึ่งหนึ่งแล้ว คาดว่าคงจะปรับปรุงเสร็จภายใน 5 วัน ด้วยวิธีนี้ เขาจะได้มีเวลาไปแก้ไขเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับธรรมดาขั้นสูงต่อ
ถึงไม่มีจางหยูอยู่ด้วย แต่อู่โม่ก็พักเพียงครู่เดียว ก่อนจะเริ่มฝึกฝนปรุงยาต่อ แม้ว่าจางหยูจะไม่อยู่ แต่เขาก็ไม่กล้าที่จะเกียจคร้าน
จิตใต้สำนึกของเขานั้น เขาเชื่อใจจางหยูมาก มันเป็นความเชื่อใจที่สามารถใช้คำว่า 'หน้ามืดตามัว' มาอธิบายได้
ไม่ใช่แค่อู่โม่เท่านั้น ทุกคนในสำนักคังเฉียงต่างก็เชื่อใจจางหยูมากเช่นกัน
ด้านนอกห้องเรียน หลังจากที่หลินหมิงและคนอื่นๆสอบถามรายละเอียดของงานทดสอบหวงหยวนกับอู่เฉินแล้ว พวกเขาก็พากันแยกย้ายไปบ่มเพาะ
พวกเขาทำเหมือนเช่นเคย ต่างคนต่างก็เลือกสถานที่ที่ชอบในสำนัก แล้วทำการบ่มเพาะพลังต่อ
เพียงแต่ว่าครั้งนี้ พวกเขาไม่ได้บ่มเพาะแค่ "ทักษะจี๋อู่" แต่ยังฝึกฝนเคล็ดวิชา "ฟัน" อีกด้วย!
แม้ว่าจางหยูจะอธิบายรายละเอียดได้ดีมาก รวมไปถึงตอบคำถามที่ค้างคาใจของพวกเขา แต่ทว่าพวกเขาก็ยังต้องใช้ความพยายามอย่างมาก ที่จะฝึกฝนเคล็ดวิชา "ฟัน"ให้สำเร็จ โดยเฉพาะหลินหมิง, เหยามู่หว่านและคนอื่นๆ พวกเขาล้วนมีพรสวรรค์ในการรับรู้ที่ต่ำมาก การฝึกฝนเคล็ดวิชา ใช่ว่าจะสำเร็จในชั่วข้ามคืน โชคดีที่จางหยูอธิบายได้เข้าใจมาก ตอนนี้สิ่งที่พวกเขาจะต้องทำก็คือฝึก ในช่วงเวลาอันสั้นนี้พวกเขาจะต้องฝึกฝนให้สำเร็จ
คนที่มุ่งมั่นอยู่กับการฝึกฝนนั้น ย่อมไม่ทันสังเกตเห็นเวลาที่ไหลผ่านไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่าพระอาทิตย์ที่เคยฉายแสงอยู่เหนือหัว ค่อยๆตกดินอย่างช้าๆ
....
"ซินซิน พวกข้ากลับก่อนนะ" เหยามู่หว่านและคนอื่นๆต่างเดินมาบอกลาอู่ซินซิน
อู่ซินซินหัวเราะคิกคักแล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า "พี่เหมา พี่ซู, พี่หลิน...พี่เหยาไว้เจอกันนะ" ตอนที่บอกลานั้น อู่ซินซินก็โบกมือน้อยๆของเธอไปด้วย
ผ่านไปสักพัก อู่ซินซินก็เดินไปที่ห้องเรียน แล้วชะโงกหน้าเข้าไปดู จากนั้นก็ตะโกนบอกคนในห้องว่า "ท่านพี่ เราควรกลับกันได้แล้ว"
"รออีกเดี๋ยว ไว้ข้าปรุงยาหม้อนี้เสร็จ ข้าจะออกไปทันที" อู่โม่ที่อยู่ในห้องตะโกนตอบกลับ โดยไม่หันหน้ามามอง
" โอ้"
อู่ซินซินตอบกลับแล้วไปนั่งรออยู่ที่หน้าประตูห้อง จากนั้นก็ยกมือขึ้นมากอดอก แล้วเหม่อลอยขึ้นมา
ตอนที่นางอยู่เฉยๆ นางดูเป็นสาวน้อยน่ารักคนหนึ่ง
หลังจากนั้นสักพัก อู่โม่ก็ปรุงยาอีกหม้อ ซึ่งครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะดูดีขึ้น แต่ยังมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 6 เม็ด เพิ่มขึ้นตั้งสองเท่าแหนะ!
อู่โม่เก็บยาด้วยความพอใจ หลังจากที่คิดไปสักพัก เขาก็เก็บยาทั้งหมดไว้ในกล่องไม้ด้วยกัน จากนั้นก็เดินออกจากห้องเรียน และมอบกล้องไม้ให้กับอู่ซินซิน พลางพูดว่า "ซินซิน นี่คือของขวัญจากพี่"
" ของขวัญ ?" อู่ซินซินกระพริบตา "มันคืออะไร?"
นางรับกล้องไม้มาด้วยท่าทางดีใจ จากนั้นก็เปิดมันอย่างระมัดระวัง สายตาของนางเต็มไปด้วยความคาดหวัง เมื่อเห็นยาทั้ง 9 เม็ดที่อยู่ในกล้อง ดวงตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นมา "ยาฉีซวน? นี่มันยาฉีซวนจริงๆด้วย ! ท่านพี่ ท่านร้ายกาจมาก!"
เมื่อเห็นสีหน้าแปลกใจของอู่ซินซิน อู่โม่ก็รู้สึกภูมิใจจนหัวเราะออกมา " ข้ายังมีค่าในสายตาของคนในตระกูล !"
" แต่ว่า...." สีหน้าของอู่ซินซินดูอึดอัดเล็กน้อย จากนั้นก็พูดอย่างรังเกียจว่า "ทำไมมันถึงดูน่าเกลียดเช่นนี้ล่ะ? ยาน่าเกลียดเช่นนี้ จะให้สาวน้อยน่ารักอย่างข้ากินเข้าไปได้ยังไง.....ถ้ากินมันเข้าไป จะท้องเสียหรือเปล่า?"
เมื่อได้ยินแบบนั้น หางตาของอู่โม่ก็กระตุกขึ้นมา " งั้นข้าขอคืนได้รึเปล่า ?"
มันจริงที่ว่ายาทั้ง 9 เม็ดนี้ดูน่าเกลียด แต่มันก็เป็นยาฉีซวนจริงๆ ถึงแม้ว่าผลของยาจะเทียบกับยาที่จางหยูกลั่นไม่ได้ แต่อย่างน้อย กินเข้าไปก็ไม่ท้องเสียอย่างแน่นอน
อู่โม่โกรธขึ้นมา สาวน้อยผู้นี้ ซึมซับด้านแย่ๆมาจากเจ้าสำนักจางหรือยังไง ?
ปากจัดเหมือนกันเลย !
"เอาไป" อู่ซินซินยื่นมือออกมาและส่งกล่องไม้ให้กับอู่โม่
" เจ้าไม่อยากได้งั้นรึ ?" อู่โม่แปลกใจเล็กน้อย เพราะยานี่สามารถยกระดับการบ่มเพาะของคนได้ แต่แม่สาวน้อยผู้นี้กลับไม่ต้องการมัน
"ท่านพี่ ท่านต้องการมันมากกว่าข้านะ" ตาสีดำของอู่ซินซินกรอกไปมา ก่อนจะพูดอย่างจริงจังว่า "ทุกวันท่านพี่ต้องฝึกการปรุงยา เวลาบ่มเพาะจึงน้อยกว่าพวกข้ามาก ดังนั้น ท่านควรเก็บมันไว้ใช้กับตัวเอง"
อู่โม่ตะลึงไปครู่หนึ่ง ในใจก็รู้สึกซาบซึ้งขึ้นมา จากนั้นก็กล่าวอย่างเอ็นดูว่า "เด็กโง่ ข้าน่ะกลายเป็นนักปรุงยา 1 ดาวแล้ว ถ้าข้าต้องการ ข้าสามารถปรุงยาเมื่อไหร่ก็ได้ ยาฉีซวนทั้ง 9 เม็ดนี้ เจ้ารับไปเถอะ อย่าคิดมากเรื่องข้าเลย"
"แต่ว่า...มันน่าเกลียดขนาดนี้ ใครจะกล้ากินมันลงล่ะ!" อู่ซินซินยักคิ้วและแสดงสีหน้าหนักใจออกมา
หัวใจของอู่โม่หยุดเต้นไป 0.1 วินาที และเริ่มสลดขึ้นมา คิ้วของเขาขมวดทันที "เจ้าไม่กล้ากิน ดังนั้นเลยให้ข้ากินแทนงั้นรึ ? ไม่สิ ยาที่ล้ำค่าแบบนี้ คนอื่นอยากได้ก็ยังไม่ได้ เจ้ากล้าดียังถึงได้รังเกียจมัน?"
เขามองไปที่อู่ซินซิน พร้อมกับกัดฟันแน่น "อู่ซินซิน เจ้านิสัยแย่มาก!"
"เจ้าพี่บ้า ท่านแย่ที่สุดเลย ท่านดุข้าอีกแล้ว !" อู่ซินซินเม้มปากแน่น และพึมพำออกมาว่า " ระวังไว้เถอะ ตอนที่ข้ากลับบ้าน ข้าจะฟ้องท่านพ่อว่าท่านรังแกข้า !ท่านพ่อจะต้องลงโทษท่านแน่!"
ดูจากภายนอก อู่โม่ดูเหมือนจะมีอำนาจ แต่ความจริงแล้ว ฐานะในบ้านของเขานั้น ด้อยกว่าอู่ซินซินมาก ถ้าอู่ซินซินฟ้องอู่เฉินขึ้นมา อู่โม่นี่แหละที่จะเป็นคนซวย
ยัยเด็กบ้านี่ คือปีศาจน้อยชัดๆ!
" เจ้ากล้ารึ!"
"ก็ลองดูสิว่าข้าจะกล้ารึไม่ !"
สองพี่น้องมองหน้ากันโดยไม่มีใครยอมใคร
สักพัก อู่โม่ก็เป็นฝ่ายยอมแพ้ เขากุมขมับแล้วยอมรับความพ่ายแพ้ " ก็ได้สาวน้อย เจ้าชนะ"
ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ เขาเก็บยาไว้กินเองจะดีว่า ไม่น่าเรื่องใส่หัวเลย
" หึ" อู่ซินซินเชิดหน้าด้วยท่าทีภูมิใจ
สีหน้าของอู่โม่หม่นหมองลง ขณะยื่นมือออกมา "เอาคืนมา! เจ้าไม่ต้องการ แต่ยังมีคนอื่นที่ต้องการ!"
"เฮ้อออ....น่าเกลียดถึงเพียงนี้ ใครกันน่าจะเป็นผู้โชคร้าย" อู่ซินซินโยนกล่องไม้ให้กับอู่โม่ จากนั้นก็หยิบถุงผ้าเล็กๆในแขนเสื้อออกมา ก่อนจะเทเม็ดยาสีแดงลงบนฝ่ามือ แล้วจ้องมองมันอย่างชื่นชม "ยาที่เจ้าสำนักทำนั้นดูดีกว่ามาก มันเหมือนศิลปะล้ำค่า"
ใช่ ยาฉีซวนที่จางหยูทำนั้นน่าดึงดูดมาก หากจะบอกว่ามันคือลูกปัดหยกก็ไม่ถือว่ากล่าวเกินจริงเท่าไหร่
แน่นอนว่าอู่โม่รู้ถึงความแตกต่างของตัวเองกับจางหยูดี เรื่องแบบนี้ใช่ว่าจะปฏิเสธได้
เขารับกล่องไม้มา ก่อนจะส่งเสียงฮึดฮัด "เร็วเข้า ได้เวลากลับบ้านแล้ว"
อู่ซินซินหัวเราะออกมา จากนั้นก็เก็บเม็ดยาในมืออย่างระวัง ราวกับเป็นสมบัติอันล้ำค่า ทำให้อู่โม่ได้แต่ขบฟันด้วยความอิจฉา
เด็กสาวผู้นี้มันปีศาจชัดๆ !
ทั้งสองคนเดินไปด้วยกันท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน
ทันใดนั้นอู่ซินซินก็หยุดเดิน
" มีอะไร สาวน้อย?" อู่โม่หันกลับมามองน้องสาวด้วยความสงสัย
อู่ซินซินกระพริบตา ก่อนจะชี้นิ้วเรียวนาวราวกับยก ไปทางหน้าประตูของสำนักคังเฉียง "ท่านพี่ ดูนั่นสิ นั่นพี่สาวชิวฉานนี่น่า!"