ตอนที่ 31 : นักปรุงยา 2 ดาว
ตอนที่ 31 : นักปรุงยา 2 ดาว
ในห้องเรียนวันต่อมา จางหยูใช้เวลาถึง 3 วันกว่าจะสอนเคล็ดวิชา "ฟัน" จนจบ
ก่อนจะเลิกเรียนจางหยูก็ได้ถามทุกคนว่า "พวกเจ้าได้เคยยินเรื่องการทดสอบหวงหยวนหรือไม่ ?"
การทดสอบหวงหยวนคืองานใหญ่ประจำปีของเมืองทะเลทราย ในฐานะคนเมืองนี้แล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะไม่เคยได้ยินเรื่องการทดสอบหวงหยวน
หลังจากได้ยินคำถามนั้น เหล่าศิษย์ต่างก็พากันพยักหน้า ในดวงตาฉายแววสงสัยออกมา
"เมื่อวานนี้ สำนักเฉินกวงและสำนักหยุนซานได้เชิญพวกเราเข้าร่วมการทดสอบหวงหยวน หลังจากที่คิดดูแล้ว ข้าจึงตัดสินใจรับคำเชิญนี้" จางหยูยิ้มออกมาเล็กน้อย "ดังนั้นพวกเจ้าทุกคนจงรีบบ่มเพาะพลังซะ เพราะเหลือเวลาแค่ 10 กว่าวันเท่านั้น"
เมื่อได้ยินแบบนั้น ดวงตาของพวกเขาก็เป็นประกาย ก่อนจะพูดขึ้นมาอย่างดีใจว่า "พวกเราเข้าร่วมการทดสอบหวงหยวนได้ด้วยหรือ?"
ตั้งแต่ที่เข้าร่วมสำนักคังเฉียง วันทั้งวันก็ยุ่งอยู่กับการบ่มเพาะพลัง แล้วจะเอาเวลาที่ไหนไปนึกถึงเรื่องอื่น แม้ว่าชีวิตเช่นนี้จะน่าพอใจ แต่มันก็น่าเบื่อมากเช่นกัน ไม่ต้องเดาเลยว่าการทดสอบหวงหยวนนี้ คือของเล่นชิ้นใหญ่สำหรับพวกเขา
แน่นอนว่าสิ่งที่พวกเขาสนใจมากที่สุดก็คือ การที่พวกเขาจะมีโอกาสได้กำจัดคำว่า "ขยะ" ออกจากชื่อของตัวเอง หลังจากที่ต้องทนแบกรับมันมาหลายปี
ไม่มีใครอยากโดนมองว่าเป็นขยะ แม้ว่าพรสวรรค์ของพวกเขาจะย่ำแย่ แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะทนรับการเหยียดยหยามจากผู้อื่นได้
สีหน้าของจางเหิงหยางที่เคยยิ้มแย้มอยู่เป็นนิตย์ก็เปลี่ยนไป เขากำหมัดแน่น ในดวงตาแสดงความตื่นเต้นออกมา "เยี่ยมไปเลย!"
ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเขาในตอนนี้ ตราบใดที่พวกเขาเข้าร่วมการทดสอบหวงหยวน พวกเขาจะต้องโดดเด่นอย่างแน่นอน เมื่อตอนนั้นจะมีใครกล้าดูถูกพวกเขาอีก
สำหรับศิษย์สำนักคังเฉียงแล้ว การทดสอบหวงหยวนคือเวทีที่จะได้ประกาศตัว !
"เจ้าสำนัก ท่านหมายความว่าพวกเราไม่ต้องปิดบังความแข็งแกร่งอีกต่อไปแล้วงั้นรึ ?" เหมาฉางเฟิงถามออกมาอย่างกังวล
ตั้งแต่ที่เข้าร่วมสำนักคังเฉียงมา ศิษย์ทุกคนพยายามทำตัวไม่เด่น คนนอกส่วนใหญ่จึงรู้แค่ว่าพวกเขานั้นบ่มเพาะพลังกันอยู่ แต่ไม่มีใครรู้ถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงของพวกเขา มันไม่ง่ายเลยที่จะมีคนมาให้พวกเขาทดสอบพลัง ทว่าทั้งจั่นเฟิงและลัวจวินต่างก็ถูกจางหยูฆ่าตาย ในอีกความหมายคือ ไม่มีใครในเมืองที่รู้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา ยกเว้นแค่คนในสำนักคังเฉียงเท่านั้น แม้แต่ผู้นำตระกูลที่บ้านเอง ก็ไม่รู้เช่นกัน
แม้ว่าพวกเขาอยากจะให้คนอื่นรับรู้เรื่องนี้ และกำจัดคำว่า 'ขยะ' ทิ้ง แต่จางหยูก็ไม่ได้อนุญาตสักที ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่กดความต้องการนั้นไว้ในใจ
หลังจากที่ได้ยินแบบนั้น จางหยูก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดอย่างสงสัยว่า "ข้าบอกให้พวกเจ้าปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเองตอนไหนกัน ?"
เขาเคยพูดแบบนั้นเหรอ?
แต่ดูเหมือนจะไม่เคยนะ?
"เอ่อ..." ทุกคนต่างตกตะลึงไปชั่วขณะ ที่จริงแล้วเจ้าสำนักก็ไม่เคยพูดอะไรแบบนั้น แต่ไม่รู้ทำไมพวกเขาถึงได้รู้สึกว่า เจ้าสำนักต้องการให้พวกเขาปิดบังความแข็งแกร่งของตัวเอง?
เมื่อมองเห็นสีหน้าตกตะลึงของทุกคน จางหยูก็แสดงสีหน้าแปลกๆออกมา "หรือจะเป็นเพราะ 'สัญญานภา'?"
นอกจากเหตุผลนี้แล้ว จางหยูก็นึกเหตุผลอื่นไม่ออก
"ถ้าเป็นเพราะ'สัญญานภา'จริงๆล่ะก็ ถ้าอย่างนั้น 'สัญญานภา'ก็สุดยอดมาก" จางหยูอดไม่ได้ที่จะตะลึงในใจ
เขาส่ายหน้าและหันกลับมาบอกกับศิษย์ว่า "ข้าขอพูดซ้ำอีกรอบ ข้าไม่เคยบอกให้พวกเจ้าปกปิดความแข็งแกร่งของตัวเอง เมื่อก่อนไม่ อนาคตก็ไม่ แน่นอนว่าการทดสอบหวงหยวนกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ข้าคิดว่าพวกเจ้าควรรออีกสักพัก แล้วค่อยเปิดเผยความแข็งแกร่งออกมา ไม่แน่ว่าผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะดีกว่าก็ได้ อ่อ....นี่คือคำแนะนำจากข้า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตัวพวกเจ้าเอง"
หลังจากที่พูดจบ จางหยูก็โบกมือ " เอาล่ะ พวกเจ้าไปได้ ส่วนอู่โม่อยู่ต่อ"
...
ด้านนอกห้องเรียน อู่ซินซิน, หลินหมิง , เหมาฉางเฟิง, เหยามู่หว่านและคนอื่นๆพากันไปล้อมรอบอู่เฉิน เพื่อสอบถามเรื่องการทดสอบหวงหยวน
"ผู้นำตระกูลอู่ ข้าเคยได้ยินมาว่าคนที่เข้าร่วมการทดสอบหวงหยวนนั้น ล้วนเป็นศิษย์ที่โดดเด่นที่สุดของสำนักเฉินกวงและสำนักหยุนซาน เรื่องนี้จริงรึเปล่า ?"
" ผู้นำตระกูลอู่ การบ่มเพาะของพวกเขาเป็นยังไง? แข็งแกร่งรึไม่ ?"
"ท่านคิดว่า ด้วยความแข็งแกร่งของพวกเรา พวกเราจะสามารถคว้าชัยชนะมาได้หรือเปล่า?"
เมื่อได้ยินเสียงเจี๊ยวจ๊าวของพวกหลินหมิง อู่เฉินก็รู้สึกปวดหัวขึ้นมา ก่อนจะรีบโบกมือ "หยุด หยุดก่อน ! "
อู่เฉินรอจนทุกคนเงียบลง แล้วค่อยถอนหายใจออกมา ก่อนจะพูดว่า "ทุกคนคือศิษย์สำนักคังเฉียงเหมือนกัน อย่าเรียกข้าว่าผู้นำตระกูลอู่อีก ข้าแก่กว่าพวกเจ้ามาก ถ้าพวกเจ้าไม่รังเกียจ ก็เรียกข้าว่าศิษย์พี่อู่เฉินก็ได้" ตอนนี้อู่เฉินรู้แล้วว่า สำนักคังเฉียงมีแต่จะแข็งแกร่งขึ้น ฐานะศิษย์ของสำนักคังเฉียง ช้าเร็วเขาก็ต้องยอมรับ แทนที่จะรอการเปลี่ยนในภายหลัง มันจะดีกว่าถ้ายอมเสียภาพลักษณ์ตั้งแต่ตอนนี้
ผู้คนรอบตัวต่างตกใจกับคำพูดของอู่เฉิน และไม่กล้าพูดอะไรออกมา
อู่เฉินขมวดคิ้ว "ทำไม หรือว่าข้าไม่คู่ควรที่จะถูกเรียกว่า ศิษย์พี่อู่เฉินรึไง ?"
" ไม่ๆ" หลินหมิงรีบส่ายหน้า ก่อนจะอธิบายว่า "มันก็แค่ แค่....ท่านเป็นผู้นำตระกูลอู่ และยังอาวุโสกว่าเรามาก การเรียกท่านว่าศิษย์พี่อู่เฉิน คงจะ...คงจะไม่เหมาะสมกระมัง?"
"มีตรงไหนไม่เหมาะสมกัน เอาล่ะ หลังจากนี้ พวกเจ้าก็เรียกข้าแบบนั้นเถอะ ข้าไม่ถือสา หรือพวกเจ้าถือสา?" อู่เฉินเคยเป็นคนธรรมดามาก่อน มิหนำซ้ำยังเคยเป็นข้ารับใช้ให้กับตระกูลเติ้งอีกด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ค่อยสนใจเรื่องพิธีรีตองมากนัก
ตอนนั้นเอง ดวงตาของอู่ซินซินก็เป็นประกายขึ้นมา ก่อนจะถามอย่างดีใจว่า " ท่านพ่อ แล้วให้ข้าเรียกท่านว่าอะไร?"
อู่เฉินมองอู่ซินซินแวบหนึ่ง ก่อนจะกล่าวอย่างไร้อารมณ์ว่า "แน่นอนเจ้าต้องเรียกข้าว่าพ่อ อย่าทำให้มันเป็นเรื่องยาก หรือว่าเจ้าอยากจะเรียกข้าว่าศิษย์พี่เหมือนกับพวกเขา? สาวน้อย เจ้าคิดว่าเจ้าปีกกล้าขาแข็งแล้วรึไง? ถึงไม่เห็นพ่อผู้นี้อยู่ในสายตา?"
" โอ้...." อู่ซินซินก้มหน้าลงอย่างผิดหวัง เรื่องที่น่าสนใจแบบนี้ แต่ตัวเองกลับเข้าร่วมไม่ได้ "ข้าแค่คิดว่ามันดูน่าสนุกดี!"
" สนุก ?" อู่เฉินเริ่มหายใจติดขัดพร้อมหน้าผากที่ย่นขึ้น
....
ขณะที่ลูกศิษย์คนอื่นๆที่อยู่ด้านนอก กำลังล้อมรอบตัวของอู่เฉินแล้วพูดคุยกัน อู่โม่ที่อยู่ในห้องเรียนก็กำลังพบกับช่วงสำคัญของปรุงยา
"หากนับตามเวลาแล้ว นี่คือวันสุดท้าย ถ้าวันนี้เจ้าเด็กนี่ยังทำยาออกไม่ได้ ภารกิจก็จะล้มเหลว" จางหยูกินยาฉีซวน พลางถลึงตามองอู่โม่ "อู่โม่ เจ้าเด็กบ้านี่! ถ้าภารกิจล้มเหลวล่ะก็ อย่าหาว่ารังแกเด็กอย่างเจ้าก็แล้วกัน!"
จนถึงตอนนี้ ระบบได้ปล่อยภารกิจหลักออกมา 5 ภารกิจและภารกิจย่อยอีก 1 ภารกิจ
ทว่าจางหยูเสียเวลาไปกับภารกิจที่ 5 มากกว่าภารกิจอื่นๆรวมกันเสียอีก แต่ถึงอย่างนั้นมันกลับมีวี่แววว่าจะล้มเหลว!
เห็นได้ชัดแล้วว่า รางวัล"นักปรุงยา 2 ดาว"นั้น ไม่ใช่สิ่งที่จะได้มาง่ายๆ
อู่โม่ที่ยืนอยู่หน้าหม้อปรุงยากลั้นลมหายใจ ขณะมองดูเม็ดยาที่กำลังก่อตัวเป็นรูปเป็นร่างอยู่ในหม้อ พร้อมกับภาวนาอยู่ในใจว่า "ขอให้สำเร็จด้วยเถอะ!" สองสามวันมานี้ เขาได้ฝึกฝนเป็นร้อยครั้ง เสียค่าวัตถุดิบไปไม่ได้น้อยกว่า 3 ล้านเหรียญ หากเขายังล้มเหลวอีก เขาคงละอายใจที่จะเรียนเรื่องการปรุงยาต่อ
หรืออาชีพนักปรุงยาจะไม่เหมาะกับเขา ?
แม้ว่าคนธรรมดาจะมีพรสวรรค์ในด้านนี้ แต่เกรงว่าคงไม่มีเงินมากพอที่จะสนับสนุนให้พวกเขาฝึกปรุงยาได้!
"ตึกตัก.....ตึกตัก...." อู่โม่ที่นั่งขัดสมาธิ จ้องหม้อปรุงยาตาเขม็ง เขารู้สึกกังวลมากเสียจนได้ยินเสียงหัวใจเต้นของตัวเอง
ตอนที่เม็ดยาทรงวงรีในหม้อปล่อยกลิ่นหอมออกมา อู่โม่ราวกับรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง เขาใช้ฝ่ามือตบลงไปที่หม้อปรุงยา เสียงดัง'ปึง!' จนเม็ดยาลอยขึ้นไปในอากาศ ทันใดนั้นมันก็เสียสมดุล และทำท่าว่าจะร่วงออกมาจากหม้อ
อู่โม่ใช้ขวดที่เตรียมไว้รับยาทั้ง 3 เม็ด พร้อมกับเผยสีหน้าตื่นเต้นออกมา " สำเร็จ !"
จางหยูที่อยู่ข้างๆก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ
มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะทำภารกิจให้สำเร็จในวันสุดท้าย !
เสียงระบบในหัวก็ดังขึ้นมา "ภารกิจเสร็จสิ้น จะรับรางวัลหรือไม่ ?"
" รับ !"
" รางวัล 'นักปรุงยา 2 ดาว' โปรดตรวจสอบด้วยตัวเอง"
ตอนที่เขาได้รับรางวัล 'นักปรุงยา 2 ดาว' ในหัวของจางหยูก็มีข้อมูลมากมายไหลเข้ามา ทั้งหมดล้วนเกี่ยวข้องกับนักปรุงยา 2 ดาว ซึ่งไม่มีส่วนไหนที่ขาดตกบกพร่องเลยแม้แต่น้อย
เพียงเวลาสั้นๆ จางหยูก็กระโดดขึ้นจากนักปรุงยา 1 ดาวเป็นนักปรุงยา 2 ดาว
นักปรุงยา 2 ดาวมีอิทธิพลอย่างมากในราชวงศ์โจว!
"ช่วงเวลาหนึ่งเดือนที่แสนยากลำบาก แต่ก็คุ้มค่า!" หลังจากได้รับรางวัล 'นักปรุงยา 2 ดาว' มา จางหยูก็รู้สึกว่าความรู้เกี่ยวการปรุงยาของตัวเองนั้นลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องพูดถึงว่าตัวเขาเองไม่ได้มีพรสวรรค์ในการปรุงยามาตั้งแต่ต้น ต่อให้เขามีพรสวรรค์ในการปรุงยาติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่ถ้าหากเรียนรู้ด้วยตัวเอง เกรงว่าต่อให้ผ่านไปสักยี่สิบปี เขาก็ไม่สามารถกลายเป็นนักปรุงยา 2 ดาวได้
แต่สิ่งจางหยูคาดไม่ถึงเลยก็คือ ภารกิจเพิ่งเสร็จสิ้น ก็มีอีกภารกิจถูกส่งมาทันที
"ระบบตรวจจับว่าอู่โม่ได้กลายเป็นนักปรุงยา 1 ดาวแล้ว กำลังจะส่งภารกิจให้"
***
[ภารกิจ 6 : ฝึกฝนนักปรุงยา 2 ดาว]
[สำนักที่ยิ่งใหญ่ จะต้องดึงศักยภาพของลูกศิษย์ออกมา ด้วยการอบรมพวกเขาไปในทิศทางที่ถูกต้อง ทำให้ศิษย์ทุกคนได้มีโอกาสพัฒนาพรสวรรค์พิเศษของเขาให้ก้าวไกลยิ่งขึ้น]
[รางวัล : นักปรุงยา 3 ดาว]
[เวลาจำกัด : 6 เดือน]
[ภารกิจล้มเหลว : ไม่มีบทลงโทษ]
***
" ภารกิจอบรมอีกแล้วรึ ?" จางหยูไม่รู้ว่าควรรู้สึกดีใจหรือเสียใจดี อย่างไรเสีย รางวัลของภารกิจนี้ก็น่าสนใจมาก แต่ทว่าก็เป็นภารกิจที่ยากมากเช่นกัน....ด้วยประสบการณ์ของจางหยู บางทีภารกิจอบรมนี้อาจจะไม่ยากอย่างที่คิดก็ได้ "ถึงจะบอกว่าหากล้มเหลวจะไม่มีบทลงโทษก็เถอะ แต่ของรางวัลกลับน่าสนใจมาก ยังไงก็ต้องลอง!"
นักปรุงยา 3 ดาว หากจางหยูได้รับรางวัลนี้มา เขาก็จะกลายเป็นนักปรุงยา 3 ดาว
เท่าที่เขารู้มา ทั่วทั้งราชวงศ์โจวมีนักปรุงยาระดับ 3 ดาวแค่ไม่กี่คน!
นี่มันหมายความว่า หลังจากที่ทำภารกิจนี้สำเร็จ เขาก็จะกลายเป็นหนึ่งในนักปรุงยาอันดับหนึ่งของราชวงศ์โจว!
นักปรุงยาอันดับหนึ่งของราชวงศ์โจว ฉายานี้ ทำให้อู่โม่รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
ตอนนั้นเอง อู่โม่ก็หันไปมองจางหยูด้วยท่าทางตื่นเต้น "เจ้าสำนัก ท่านเห็นรึไม่ ? สำเร็จแล้ว ! ข้าทำสำเร็จแล้ว ! ในที่สุดข้าก็กลายเป็นนักปรุงยาแล้ว !"
พูดให้ถูกคือ เขาเป็นนักปรุงยาได้จากความพยายามของตัวเอง!
"เอาล่ะๆ อย่าตื่นเต้นไป ข้าเห็นแล้ว" จางหยูอดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นมาว่า " ไม่จำเป็นต้องตื่นเต้นกับการเป็นนักปรุงยา 1 ดาว เมื่อเจ้าขึ้นเป็นนักปรุงยา 2 ดาวได้ มันก็ยังไม่สายเกินไปที่จะยินดี !"