บทที่ 262 - เจ้าหนีไปจากนักบุญไม่ได้หรอก (2) [11-10-2020]
บทที่ 262 - เจ้าหนีไปจากนักบุญไม่ได้หรอก (2)
”
[ข้าได้เจอกับการท้าทายมานับไม่ถ้วนแล้วและมีเพียงแค่ไม่กี่หยิบมือเท่านั้นที่ผ่านไปได้ คนส่วนใหญ่ต่างก็พยายามที่จะเอาชนะข้าเป็นกลุ่ม คนที่กล้าจะมาท้าทายข้าเพียงลำพังมีน้อยยิ่งกว่า 10% ซะอีก แม้ว่าในหมู่พวกนี้ก็มีคนที่เอาชนะข้าได้ด้วยพลังของพวกนั้นเพียงลำพังก็สามารถจะนับได้ด้วยนิ้วมือเลย แน่นอนว่ายังไม่มีใครที่จัดการทำลายข้าได้ในการต่อสู้ครั้งแรกของเรา]
เขาได้ชี้ดาบมาที่ฉันและพูดขึ้นด้วยเสียงขรึม
[ข้าสงสัยจังว่าเจ้าจะเป็นประเภทในกัน]
"นายก็เป็นคนที่มีให้ความร่วมมือกันดันเจี้ยนมากที่เดียวใช่ไหม"
ฉันได้ถือหหอกขึ้นและถามออกมา จากนั้นอัศวินแห่งความตายก็หัวเราะขึ้นด้วยเสียงที่เบื่อหน่าย
[ให้ความร่วมมือหรอ? นักรบหนุ่มเอ๋ย หากข้าพูดว่าจะกบฏต่อดันเจี้ยนแล้วฉันจะทำอะไรได้บ้างล่ะ]
"ไม่มีเลยหรอ"
[ไม่เลย มันไม่มีอนาคตสำหรับคนที่กลายมาเป็นอันเดตอยู่แล้ว มันไม่มีเส้นทางให้เดิน บันไดให้ปืน แล้วควรจะทำยังไงดีล่ะ สิ่งเดียวที่ฉันทำได้ก็คือการสนุกกับการต่อสู้และทำให้นักรบที่เต็มไปด้วยความฝันตกอยู่ในความสิ้นหวัง เข้ามาก่อนที่ข้าจะหมดความนสนใจดีกว่า เจ้าจะต้องกลายเป็นหนึ่งในคนโง่นับไม่ถ้วนที่สิ้นหวังในตอนที่เผชิญหน้ากับดาบของข้า]
บอสประจำชั้นทุกๆตัวต่างก็มีพลังที่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นสเตตัสหรือทักษะที่พวกมันมี มันเป็นการยากมากที่จะไม่สนใจในการเคลื่อนไหวของบอสประจำชั้น อัศวินแห่งความตายก็ยิ่งอยู่ในระดับที่แตกต่างจากบอสประจำชั้นพวกนั้น
[ถ้าหากเจ้าไม่ระวังตัวก็ระวังจะตายโดยไม่รู้ตัวเอานะ]
ออร่าสีดำได้ลุกขึ้นอย่างรวดเร็วที่ดาบใหญ่ที่อัศวินแห่งความตายถือเอาไว้ แม้ว่ามันจะดูเหมือนเพลิงโกลาหลแต่มันก็ดูจะมีพลังที่ต่างออกไปและไม่ใช่ออร่าที่บริสุทธิ์นัก การที่จะต้องเผชิญหน้ากับมันฉันก็ยังต้องจุดเพลิงโกลาหลขึ้น
"ฉันจะเข้าไปละนะ"
[ฮ่าห์]
ฉันได้พึ่งตัวออกไปเหมือนกับสายฟ้าเพื่อแทงตรงเข้าไปที่หมวกของอัศวินแห่งความตาย แต่ยังไงก็ตามดาบใหญ่ของอัศวินแห่งความตายก็ได้ป้องกันหอกของฉันก่อนที่จะไปถึงเป้าหมาย แน่นอนว่าสเตตัสของฉันมันเป็นสิ่งที่สูงเกินกว่าบอสประจำชั้นตัวอื่นๆ แต่ว่าเรื่องนี้มันไม่ใช่กับในการต่อสู้อัศวอินแห่งความตาย หอกของฉันได้ถูกผลักกลับมาที่ละนิด ยังไงก็ตามอัศวินแห่งความตายก็ดูจะเป็นหนึ่งในคนที่ตกใจเหมือนกัน
[เจ้าแข็งแกร่ง แข็งแกร่งแบบผิดปกติ]
"แก...กำลังล้อฉันเล่นหรอ"
ฉันได้ดันหอกคืนกลับไปด้วยการใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์และแทงไปที่ดาบใหญ่ของอัศวินแห่งความตายอย่างต่อเนื่อง ดูเหมือนว่าแม้แต่อัศวินแห่งความตายก็ดูจะไม่สามารถตามความเร็วของความเร็วศักดิ์สิทธิ์ได้ทันทำให้เขาได้แต่ถอยหลังกลับไปอย่างต่อเนื่อง ฉันยังคงโจมตีอย่างนี้ต่อไปอย่างต่อเนื่อง
"ฮ๋าาาาห์"
[ฮึ่ม]
อัศวินแห่งความตายที่ถูกผลักกลับไปอย่างต่อเนื่องจู่ๆก็เปลื่ยท่ายืนและแทงดาบใหญ่ลงไป เขากำลังอ่านการเล็งของหอกของฉัน เขาได้อ่านการเคลื่อนไหวของหอกของฉันแล้ว แต่ยังไงก็ตามฉันก็ยังแทงหอกต่อไปโดยที่ไม่หยุดลง ในตอนที่ดาบใหญ่ของเขาและหอกของฉันปะทะกัน เขาก็ได้เปิดปากขึ้นมา
[ลมหายใจแห่งความตาย]
"ริยู"
[แช่แข็ง]
หมอกสีดำที่กำลังออกมาจากปากของเขาได้ถูกแช่แข็งเอาไว้กลางอากาศ ในเวลาเดียวกันฉันก็ทีบเขาออกไป
"สกปรกน่า"
[อึก]
ไม่นานนักอัศวินแห่งความตายก็ตั้งตัวได้และเหวี่ยงดาบใหญ่ออกมาเป็นคลื่นออร่า ฉันได้หยุดพุ่งไปข้างหลังและโดดกลับหลังทันทีโดยยืมพลังของริยูอีกครั้งขึ้น ออร่าของอัศวินแห่งความตายได้ติดกับบาเรียที่ริยูสร้างเอาไว้และย้อมบาเรียนั้นให้กลายเป็นน้ำแข็งสีดำ ในตอนที่บาเรียถูกละลายลงน้ำสีดำก็ทะลักออกมาอย่างน่ากัว เมื่อเห็นแบบนี้ทำให้ฉันหยักหน้า
"ง่ายๆน่า"
ทุกสิ่งที่สัมผัสกับออร่านั่นก็จะเหี่ยวเฉา เมื่อเห็นริยูที่หลบอยู่ข้างหลังฉันด้วยความกลัวทำให้ฉันรู้สึกได้ว่าออร่านั่นดูจะสร้างความเสียหายได้แม้แต่ร่างวิญญาณ มันเป็นลมหายใจแห่งความตายของจริง
[เจ้าไม่ได้ควรจะมามีเวลาอู้หรอกนะ]
"ฮ่าห์"
อัศวินแห่งความตายมีทั้งพลังและความเร็ว เทคนิคต่างๆของเขาก็อยู่ในระดับของผู้เชี่ยวชาญแล้วดังนั้นทำให้การต่อสู้นี้ยากยิ่งไปกว่าการต่อสู้กับพวกที่มีแค่ร่างกายที่ใหญ่โตเท่านั้น บางทีพวกที่เข้าใจในการต่อสู้ตื้นๆอาจจะคิดว่าอัศวินแห่งความตายคือศัตรูที่จัดการได้ง่ายกว่ามังกรซอมบี้ก็ได้ ยังไงก็ตามผู้คนที่ไม่สามารถจะเข้าใจในเทคนิคจริงๆของอัศวินแห่งความตายจะหวาดกลัวมากยิ่งขึ้นเมื่อศัตรูมีขนาดที่ใหญ่ ร่างกายที่ทนทานและเต็มไปด้วยมานา จะมีก็เพียงแค่คนอย่างฉันที่ได้ปะมือกับอัศวินแห่งความตายด้วยทักษะถึงได้เข้าใจถึงพลังที่แท้จริงของอัศวินแห่งความตาย
ฉันได้เหวี่ยงหอกออกไปเป็นวงกล้างและปล่อยคลื่นเพลิงโกลาหลออกไปเหมือนอย่างเคย เขาก็คงจะต้องกังวลในออร่าของฉันเหมือนกับที่ฉันจะต้องกังวลในออร่าของเขาเห็นกัน เขาได้กระโดดหลบการโจมตีนี้ของฉันอย่างง่ายๆในทันที จากนั้นเขาก็ได้พุ่งเข้ามาเหวี่ยงดาบใส่ฉันจากแรงเสริมของการตกลงมา
[นี้มัน]
"แน่นอนสิ"
ฉันก็ยังแทงหอกของฉันออกไปที่ใบดาบของเขาเหมือนก่อนหน้านี้ ในตอนนั้นดวงตาของอัศวินแห่งความตายได้เบิกกว้างขึ้นมาเล็กน้อยในตอนที่เพลิงโกลาหลได้ลุกขึ้นและแผดเผาออร่าของเขาปีนไปตามต้นแขน อัศวินแห่งความตายตระหนักได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในทันที ดวงตาของเขาได้ส่องแสงที่น่ากลัวออกมาและปล่อยออร่าที่น่าขนลุกออกมาจากร่างทันที
[ยโส]
"แสดงทุกอย่างที่นายมีออกมา อย่าได้บอกนะว่ามีแค่นี้นะ"
แม้ว่าฉันไม่ได้มีแผนจะทำการล่าอิลิกเซอร์แต่ฉันก็ยังจำเป็นต้องหาไอเทมของเขา สกิลของบอสประจำชั้นเป็นสิ่งที่มีค่าเอามากๆ โอเวอร์ลอร์ดก็ยังเกิดการรวมกันของทักษะพวกนี้เป็นส่วนาคัญเช่นกัน ใครจะไปรู้ล่ะอาจจะมีทักษะแบบนี้เกิดขึ้นอีกก็ได้
เพราะแบบนี้ฉันจำเป็นต้องเอาชนะเขาให้ได้สิบครั้งในวันเดียวหรือไม่ก็สองวัน ถ้าหากว่าฉันได้รู้ในรู้แบบการโจมตีทั้งหมดในการสู้ครั้งแรกแล้วล่ะก็ครั้งต่อไปมันก็จะกลายเป็นเรื่องง่ายๆไป ฉันไม่รู้ว่าสิ่งที่อัศวินแห่งความตายรู้สึกอะไรกับคำพูดของฉัน แต่ว่าเขาก็ได้ปล่อยออร่าที่หนาแน่นออกมาจากร่างและพูดขึ้นอย่างไม่พอใจ
[เจ้าดูถูกข้า....]
ออร่าได้พวยพุ่งออกมาจากร่างของเขาราวกับว่ามันได้ระเบิดออกมา ออร่าสีดำเข้มได้ลุกขึ้นจากดาบและเปล่งขึ้นมาเหมือนกับเพลิงโกลาหล ริยูได้ร้องออกมาและยิงหอกน้ำออกไปทันทีโดยที่ฉันยังไม่ทันพูดอะไร แต่ว่าอัศวินแห่งความตายก็ได้ป้องกันหอกน้ำแข็งนี้โดยไม่จำเป็นต้องเคลื่อนไหวด้วยซ้ำ ออร่ายังคงพุ่งขึ้นอยู่บนดาบของเขาและแบ่งออกมากินหอกน้ำแข็งที่เข้ามาโดยอัตโนมัต หอกน้ำแข็งทั้งหมดได้ถูกละลายไปและถูกดูดด้วยออร่าของเขาในทันที
[ข้าจะแสดงพลังแห่งคำสาปที่ข้าได้รับมาโดยการที่ข้าต้องกลายมาเป็นอันเดตให้ดู]
"นายพูดว่าคำสาปสินะ"
ฉันได้โครจรวงจนเพรูต้าอย่างสุดกำลังทำให้ออร่าสีเงินหมุนวนอยู่รอบเกรนาะของฉันเป็นวังวนและวงวนนี้ก็รวมกันกับเพลิงโกลาหลหมุนวนไปมาเหนือหอกของฉัน ริ้วออร่าหลายเส้นบนดาบใหญ่ของอัศวินแห่งความตายได้ถูกหยุดลงชั่วขณะแทบจะในทันทีที่อัศวินแห่งความตายเห็นแบบนี้
วงจรเพรูต้าของฉันยังอยู่ในระดับที่ 9 เมื่อไหร่กันนะที่ฉันจะเชี่ยวชาญมัน ฉันได้ถูกแรงดึงดูดใจให้ใช้แต้มทักษะอัพมันขึ้นเป็นร้อยเป็นพันครั้ง แต่ยังไงก็ตามฉันก็รู้ตัวดีว่าผลลัพธ์มันจะออกมาไม่สวยแน่ถ้าหากฉันไม่ได้เชี่ยวชาญมันด้วยตัวเอง ดังนั้นฉันจึงได้แต่ฝืนทนเอาไว้ เพรูต้าก็ยังให้คำแนะนำคล้ายๆกันนี้มา
ต่อมาฉันได้ให้ชาราน่าเข้าไปในร่างของฉันและเสริมพลังวังวนขึ้นในตอนที่ฉันพุ่งออกไปหาอัศวินแห่งความตายทันที
"ส่งพลังนั่นมาให้ฉันซะดีๆ"
[เจ้า...คือฮีโร่ เจ้าคือฮีโร่]
ในตอนที่เขาได้เห็นออร่าสีเงินรอบตัวฉัน ดวงตาสีแดงของอัศวินแห่งความตายได้เรืองแสงขึ้นมาอยู่ในระดับที่น่ากลัวขึ้น
[กากบาทแห่งความตาย]
"ความเร็วศักดิ์สิทธิ์"
ออร่าสีดำได้บุกออกมาเป็นรูปกากบาทเข้าใส่ฉัน ฉันได้สรุปขึ้นในทันทีว่าบาเรียของริยูไม่พอที่จะป้องกันสิ่งนี้แน่และเริ่มใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์กระโดดขึ้นไปบนท้องฟ้าทันที ยังไงก็ตามออร่าของมันก็ยังลอยตามฉันมา
[นั่นมันอะไร]
ฉันได้ใช้ระยะเวลาของความเร็วศักดิ์สิทธิ์หลบการโจมตีนี้โดยที่ไม่หลบการโจมตีของมัน จากนั้นฉันก็ได้ยิงออร่าในหอกของฉันออกไปเหมือนกับกระสุน มันดูเหมือนว่าเขาจะไม่คิดว่าฉันจะหลบการโจมตีของเขาได้ทำให้เขาลดการป้องกันลงและโดนการโจมตีของฉันเข้าไปเต็มๆ หมวกของอัศวินของความตายได้พังลงไปบางส่วนและหัวที่เน่าเปื่อยได้โผล่ออกมาจากรอยแยกพวกนี้
[เจ้าเคลื่อนไหวบนท้องฟ้าได้ยังไง เจ้าเป็นจอมเวทย์งั้นหรอ]
"ฉันเป็นผู้ใช้ธาตุ เจ้าโง่"
[อึก ข้าจะย้อมภูติธาตุของเจ้าด้วยคำสาปเหมือนกัน]
"ถ้าทำได้ก็ลองดู"
เขายิ่งดูน่ากลัวมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกเมื่อถูกเพลิงโกลาหลเผาหมวกอยู่ แต่ถึงแบบนั้นเพราะเขาไม่ใช่ดูลาฮานเขาก็ไม่น่าจะขยับได้ถ้าหากหัวหายไป
ฉันได้เหวี่ยงหอกของฉันไปด้วยจุดประสงค์เดียวคือเผาหัวของเขาด้วยเพลิงโกลาหล เป็นไปตามที่คาดไว้เขาได้ใช้ดาบใหญ่มากันหอกของฉันทำให้เกิดเสียงกระทบกันของโลหะขึ้น ด้วยเทคนิคหอกตมปกติฉันก็ไม่สามารถจะหาช่องทางเจาะการป้องกันของเขาได้ เทคนิคดาบของเขายอดเยี่ยมที่สุดในหมู่ของมอนสเตอร์ที่ฉันเคยเจอมาทั้งหมด หลังจากดาบได้ปะทะกับหอกอีกครั้งหนึ่งฉันได้รักษาระยะห่างออกมาและบ่นขึ้น
"แต่ว่าถึงแบบนั้น..."
[ย๊ากกก ศรเข็มความมืด]
ในตอนนั้นเองเข็มสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนได้ถูกยิงขึ้นมาจากพื้นข้างล่างฉัน ริยูที่สังเกตุเห็นก่อนแล้วได้สร้างเตียงน้ำแข็งขึ้นใต้เท้าฉันทันทีแต่ว่าเข็มนี้ก็ได้เจาะผ่านน้ำแข็งมาและทะลวงแม้แต่วังวนสีเงินของฉันทะลวงเข้าไปในเกราะ แม้ว่าฉันจะไม่ได้เจ็บนักแต่ฉันก็ยังรู้สึกว่ามันหนักขึ้น มันดูเหมือนกับว่าคำสาปนี้ก็จะทำงานกับไอเทมด้วย
[เจ้าจะเอาชนะข้าได้ยังไงในเมื่อร่างกายเจ้าหนักแบบนั้นฮีโร่]
"นายนี่พูดมากเหมือนกันนะ"
ฉันได้ดึงหอกกลับมาและตั้งท่าเอาไว้โดยไม่ขยับออกจากที่เดิม การวิเคราะห์ส่วนใหญ่ของฉันได้เสร็จแล้ว วิถีดาบของเขาเป็นยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน แต่ว่าสไตล์การต่อสู้ของเขาที่ฉันให้ความสนใจจริงๆก็คือออร่ากับคำสาปนั่น เขาอาจจะต้องมีไพ่ลับที่ซ่อนเอาไว้อีกอย่างน้อยหนึ่งใบ ยังไงก็ตาม...
"ฉันจะจบเรื่องนี้ก่อนที่นายจะได้มีโอกาสใช้มันซะะอีก"
[จงสิ้นหวังและสิ้นหวังซ้ำอีก นี้คือการแก้แค้นครั้งยิ่งใหญ่ที่ข้าจะทำได้ในดันเจี้ยน]
"นายเป็นอัศวินแห่งความตายนะ... ทำไมนายต้องทำตัวงี่เง่าแบบนี้ล่ะ"
วังวนที่วนอยู่รอบหอกของฉันได้ลดลงไป มันไม่ได้อ่อนแอลงเพียงแต่ว่ามันได้ถูกบีบอัดมาในจุดๆเดียว ออร่าสีเงินที่ห้อมล้อมเกราะของฉันก็ยังย้ายมาที่ปลายหอก
"กินนี้ไปซะ"
แม้ว่ามันจะเรียกว่าเป็นฮีโรอิค สไตรค์ที่ถูกต้องไม่ได้ แต่หากว่ามันสมบูรณ์มันก็น่าจะพอที่จะเป่าอัศวินแห่งความตายให้หายไปในทีเดียวได้ การโจมตีที่ไม่สมบูรณ์นี้ได้แทงไปที่อัศวินแห่งความตายอย่างเร่งรีบ เขาได้ม้วนตัวหลบอย่างเร่งรีบ แต่ฉันก็แค่ยิ้มกลับไป
[อย่าคิดว่าแกจะหนีพ้นนะ]
ไพก้าที่เตรียมพร้อมเอาไว้แล้วได้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้าและกางแขนออกมา สายฟ้าสีท้องได้ปรากฏขึ้นและพันร่างกายของมันเอาไว้
[อึก]
[นายท่าน]
"รู้แล้ว"
ฉันได้ตะโกนออกมาและแทงหอกไปอย่างไม่ลังเล
"สังเวย"
หมวกของเขาได้ระเบิดออกมาเป็นชิ้นๆ เนื้อหนังที่เน่าเปื่อยของศพได้ปรากฏออกมา เลือดที่เน่าเสียได้พุ่งกระฉูดออกมาทำให้เขาร้องขึ้นแปลกๆ
[ก๊ากกกกกกกกกกกกกก]
"อึก"
เขามีอะไรบางอย่างเหลืออยู่อีกจริงๆ จู่ๆหมอกสีดำได้ล้อมร่างของเขา จากนั้นขวานสองคมขนาดใหญ่ มีดสั้นคมกริบและอาวุธต้องสาปต่างๆก็พุ่งขึ้นมา อาวุธพวกนี้แต่ละอันก็มากพอที่จะคุกคามชีวิตฉันแล้ว เพราะผลของเครื่องสังเวยนี้ทำให้ฉันได้แต่หลบกรโจมตีนี้ด้วยการฝืนกัดฟัน
[นี้คืออาวุธที่เต็มไปด้วยความเสียใจของนักรบทั้งหมดที่พ่ายแพ้ให้กับข้าทั้งหมด อีกไม่ช้าหอกของเจ้าก็จะมารวมเป็นหนึ่งในพวกมัน]
"ตลกน่า การเก็บสะสมอาวุธเป็นงานอดิเรกแย่ๆนี่มันจะจบลงในวันนี้ ไม่ว่ายังไงฉันจะต้องฆ่านายก่อนแน่"
[ความมั่นใจนี่จะทำให้เจ้าไม่กล้าบอกคนอื่นในตอนตาย]
วงจรเพรูต้าได้หมุนรุนแรงขึ้นเพื่อที่จะรักษาอวัยวะภายในของฉันที่ได้รับความเสียหายจากทักษะสังเวย ฉันได้กระโดดขึ้นไป อาวุธพวกนี้ก็ยังพุ่งออกมาอยู่ซึ่งมันได้แสดงถึงจำนวนนักรบจำนวนมากที่เขาได้ฆ่าไป ฉันได้ตะโกนออกมาในขณะที่หลบอาวุธพวกนี้อย่างเชี่ยวชาญ
"นายก็ดูจะตายเหมือนกันนี่ หยุดต่อต้านได้แล้ว"
[เเจ้านั่นแหละที่จะตายก่อน]
ฉันได้แต่ระเบิดหัวเราะออกมาเพราะว่าฉันจะต้องเอาชนะเขาอีกตั้งหลายครั้งในวันนี้ทำให้ฉันไม่ได้ใช้ทักษะนาฬิกาพกพาหรือทักษะที่ใช้ได้ครั้งเดียวเลยซักครั้งหนึ่ง มันดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจตัวฉันผิดเพราะแบบนี้ ในจุดนี้ทำให้พลังที่เดิมที่ฉันมีหายไปมาก ตอนนี้ฉันได้เข้าใจในพลังของเขาหมดแล้วทำให้สิ่งที่ฉันจะต้องทำอีกก็แค่จัดการเขาให้เรียบร้อยอย่างรวดเร็ว
ในตอนแรกฉันแค่อยากจะยื้อเอาไว้ซักนิดเพื่อจะดูว่าระยะของทักษะนี้จะใช้ได้นานแค่ไหน แต่แล้วฉันก็ต้องตัดสินใจที่จะจัดการต่อทันที
"เอาล่ะ ฉันจะไปละนะ... ลองหลบนี่สิ"
[เข้ามา]
ฉันได้บิดตัวกลางอากาศและพุ่งไปหาเขา ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ในการพุ่งเขาไปหาเขาพร้อมกับหลบอาวุธทั้งหมด ตอนนี้ฉันได้เล็งไปที่ตาบนใบหน้าน่าเกลียดนั่น ฉันได้แทงหอกออกไปในเป้าหมายที่ฉันเล็งไป
"ตายซะ"
ฉันได้พยายามจะล้มเลิกนิสัยติดตัวชอบตะโกนของฉันแล้วนะ แต่เนื่องจากว่าเสียงแบบนี้มันเหมือนกับการปลุกใจของคนในกิลด์ด้วยทำให้ฉันได้แต่เก็บมันเอาไว้ต่อ แต่นี่ก็เพื่อในฐานะหัวหน้ากิลด์นะ