ตอนที่แล้วChapter 2 : ขบวนอารักขา
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปChapter 4 : ต่อสู้

Chapter 3 : ซุ่มโจมตี


“เราจะใช้ถนนเส้นที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อกลับไปยังหมู่บ้านของเรา...” และนี่ก็เป็นคำพูดประโยคสุดท้ายที่ทุกคนพูดกันนับตั่งแต่ออกจากหมู่บ้านของตระกูลอุซึมากิ

เมื่อเห็นดังนั้น มาซาฮิโกะ จึงอยากจะทำลายความเงียบนี้ ดังนั้นเขาจึงร้องเพลงออกมาอย่างมีความสุข

ทันใดนั้น โทบิรามะ ก็พูดขัดขึ้นมาว่า “ท่านลุง ฉันรู้มาว่าท่านสามารถใช้สัมผัสพิเศษของตระกูลอุซึมากิได้เป็นอย่างดี ทำให้ท่านสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งต่าง ๆ ในพื้นที่บริเวณนี้ได้ ตระกูเซนจู มีศัตรูอยู่เป็นจำนวนมาก ความสามารถของท่านน่าจะช่วยป้องกันการซุ่มโจมตีได้เป็นอย่างดี”

“ฉันเป็นปู่คนที่ 2 ของ มิโตะ และมันจะเหมาะสมกว่าถ้าท่านเรียกฉันว่าท่านปู่ หรือบางทีฉันอาจจะยังไม่ดีพอที่จะได้ความเคารพจากท่านละหืม?!” มาซาฮิโกะ พูดออกมาอย่างเด็ดขาด

โทบิรามะ ดูตกใจไปครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ตอบว่า “ไม่เลย...ท่านปู่...เชิญท่านปู่ตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ ต่อไปได้เลย”

“ไม่ต้องเป็นห่วงชายแก่คนนี้หรอก พ่อหนุ่ม หากมีใครเข้ามาใกล้ภายในรัศมี 1 กิโลเมตร ฉันจะบอกให้ท่านรู้ทันที” มาซาฮิโกะ ตอบ

“ฉันไม่ได้เป็นห่วงท่าน ท่านปู่” โทบิรามะ ตอบด้วยสายตาที่เย็นชา เมื่อ มาซาฮิโกะ เห็นดังนั้นเขาก็เริ่มคิดได้ว่าเขาอาจจะพูดเล่นกับ โทบิรามะ มากเกินไป แล้วเขาก็ได้แต่คิดในใจว่า ‘นี่เราพูดอวดดีไปรึเปล่าเนี่ย...’

หลังจากนั้น มาซาฮิโกะ ก็เลิกคิดเรื่องพวกนั้น แล้วเขาก็เริ่มร้องเพลงอีกครั้งอย่างมีความสุข “มาเร็ว  ทุกคนลุกขึ้น!” (เนื้อเพลง Hero’s come back จากการ์ตูน นารูโตะ )

“ยืนขึ้น วันที่ดีที่สุดคือวันนี้!”

“วิ่งด้วยความเร็วเหมือนนักล่า อย่าทำให้ช่าลง เย้!”

“มาเร็ว ทุกคนลุกขึ้น วีรบุรุษกำลังจะกลับมา นับถอยหลัง 3 – 2 – 1 ส่งเสียงออกมา...”

มิโตะ ที่นั่นอยู่ในเกี้ยวก็อดไม่ได้ที่จะพูดออกมาว่า “ท่านปู่ วันนี้ท่านดูแปลก ๆ ไปนะคะ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าคะ?”

มาซาฮิโกะ ตอบเธอกลับไปว่า “เพลงไม่ได้บอกทุกอย่างเหรอ? วีรบุรุษกำลังจะกลับมาและและฉันจะมีชีวิตอยู่ในตอนที่มันเกิดขึ้นเพื่อส่งเสียงออกมา...”

ทุกคนต่างสับสนกับคำพูดของ มาซาฮิโกะ พวกเขาไม่เข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร...

ขบวนอารักขาได้เข้าสู่บรรยากาศที่น่าอึดอัดใจอีกครั้ง แต่ มาซาฮิโกะ ก็ไม่สนใจและด้วยความสนุกเขาก็ยิ่งร้องเร่งจังหวะให้เร็วขึ้นไปอีก

เวลาผ่านไปพวกเขาก็เดินทางต่อไปเรื่อง ๆ จนในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาได้ครั้งทางแล้ว และขบวนเดินทางก็กำลังเดินทางเข้าสู่หุบเขา

ขณะที่พวกเขากำลังเดินทางผ่านหุบเขาอยู่นั้น มาซาฮิโกะ ก็ทนกับความเงียบไม่ได้อีกต่อไป ทันใดนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “ท่านโทบิรามะ รู้ไหมว่าหุบเขาแห่งนี้เหมาะกับการซุ่มโจมตีเป็นอย่างมาก ทำให้มันถูกเรียกว่าหุบเขาคนโง่...แต่ฉันก็คิดว่าที่นี่ก็เหมาะจะเป็นที่ฝังศพของชายชราคนนี้เหมือนกันนะ ท่านว่าไหม?”

มาซาฮิโกะ หวังจะทำลายความเงียบด้วยมุกตลกของเขา แต่ก็น่าเสียดายที่สถานการณ์ในตอนนี้อันตรายเกินกว่าที่พวกเขาจะมาตลกกับเรื่องไร้สาระที่เขาพูด

“ถ้าที่นี่เป็นอย่างที่ท่านว่าจริงละก็ ท่านก็คงต้องระวังตัวให้มากขึ้นนะ ท่านปู่” โทบิรามะ ตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่ดุดันและสีหน้าจริงจังเป็นอย่างมาก จนทำให้ มาซาฮิโกะ ตกใจจนนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง...แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พูดขึ้นมาว่า

“ท่านอย่าลืมสิว่าฉัน...สามารถ...” ทันใดนั้น มาซาฮิโกะ แสดงท่าทางที่ตกใจออกมาก่อนที่เขาจะพูดต่อว่า “ซุ่มโจมตี! มีคนซุ่มโจมตี! แต่ทำไมพวกมันถึงมาซุ่มโจมตีตอนที่เรากำลังจะออกจากหุบเขากันละ?!”

เมื่อได้ยินดังนั้น โทบิรามะ ก็ออกมาจากเกี้ยวอย่างรวดเร็วและจะโกนบอกทุกคนว่า “ทุกคนเตรียมสู้ ปกป้องขบวนอารักขาเอาไว้!”

“เดี๋ยวก่อน...จักระนี้...” มาซาฮิโกะ พึมพำออกมา จากนั้นเขาก็หันไปมอง โทบิรามะ และพูดกับเขาว่า “ไม่ต้องห่วงเรา เชิญท่านทำหน้าที่ของท่าน ฉันจะปกป้อง มิโตะ เอง ระวังตัวด้วย”

โทบิรามะ พยักหน้าให้เขา

ทุกคนเตรียมพร้อมต่อสู้ในขณะที่ขบวนอารักขากำลังเคลื่อนที่ออกจากหุบเขาอย่างช้า ๆ

และทันทีที่ขบวนอารักขาออกจากหุบเขา พวกเขาก็เห็นคน 7 คนยืนขวางถนนอยู่และคนเหล่านี้ไม่ได้ซ่อนตัวอยู่เลยแม้แต่นิดเดียว

2 คน ใน 7 คน ยืนอยู่ด้านหน้า และอีก 5 คน ยืนอยู่ด้านหลัง

ทันใดนั้นหนึ่งในนั้นก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่คุ้นเคยว่า “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ...โทบิรามะ”

“อุจิฮะ อิซึนะ...อุจิฮะ มาดาระ! ในที่สุด เราก็ได้เห็นบรรพบุรุษทั้ง 2 ของตระกูลอุจิฮะ ด้วยตาของตัวเอง! และนินจาด้านหลังพวกเขา ก็คงจะเป็น โจนินระดับสูง ของตระกูลอุจิฮะ สินะ”

“แย่แล้ว ท่านพี่ก็ไม่อยู่ที่นี่สะด้วย แล้วเราจะหยุด มาดาระ ได้ยังไงกัน?!”

โทบิรามะ ครุ่นคิดอย่างหนัก จากนั้นเขาก็พูดว่า “มาดาระ...ท่านและน้องชาย ไม่ไปฉลองงานปีใหม่กันเหรอ? พวกท่านมาทำอะไรกันในที่รกร้างแบบนี้?”

“แน่นอน ฉันก็มาที่นี่เพื่อมาแสดงความยินดีกับ ฮาชิรามะ ในการแต่งงานของเขายังไงละ” มาดาระ ตอบ

โทบิรามะ หวั่นใจเป็นอย่างมาก เขาได้แต่คิดว่าถ้า ฮาชิรามะ อยู่ที่นี่ละก็...

“โอ้ ถ้าอย่างนั้นฉันก็ต้องขอขอบคุณท่านสินะ” ทันใดนั้นเสียงที่คุ้นเคยก็ดังออกมาจากหลังเกี้ยว จากนั้นคนคนหนึ่งก็ปรากฏออกมาจากด้านหลังเกี้ยว

เมื่อ โทบิรามะ เห็นชายผู้นั้น เขาก็ต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจจนต้องพูดออกมาด้วยความสับสนว่า “ท่านพี่ ทำไมท่านถึงมาอยู่ที่นี่?!”

“ก็ทำไมฉันถึงจะมาไม่ได้ละ ในเมื่อภรรยาของฉันกำลังรอฉันอยู่”

“ฮาชิรามะ...” โทบิรามะ เรียกชื่อพี่ของเขาออกมาด้วยความสับสน

หลังจากนั้น ฮาชิรามะ ก็เดินเข้ามาใกล้ โทบิรามะ และโอบกอดน้องชายก่อนที่จะกระซับข้างหูเขาว่า“อย่าเสียงดังไป...”

จากนั้น ฮาชิรามะ ก็เดินไปด้านหน้าของขบวนอารักขา

เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่คุ้นเคยและใบหน้าที่คุ้นตา ดวงตาของ มาดาระ และ อิซึนะ ก็เต็มไปด้วยความตกใจ

“เป็นไปไม่ได้ เจ้าควรอยู่ที่บ้านของ ตระกูลเซนจู เพื่อเตรียมตัวสำหรับงานแต่งงาน แต่เข้าทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้” อิซึนะ ตะโกนเสียงดัง จากนั้นเขาก็เบิกตากว้างแล้วใช้ เนตรวงแหวน เพื่อตรวจสอบการไหลของจักระของ ฮาชิรามะ เพื่อดูว่า ฮาชิรามะ ที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นตัวจริงหรือว่าเป็นร่างแยกเงากันแน่

มาดาระ ก็ใช้ เนตรวงแหวน ของเขาด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม เนตรวงแหวน ของ มาดาระ ก็ไม่พบความผิดปกติใด ๆ แต่สำหรับ มาดาระ แล้ว ฮาชิรามะ ก็เป็นทั้งศัตรูและเป็นเพื่อเขามาตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทำให้เขารู้สึกได้ ฮาชิรามะ ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขามีบางอย่างแปลกไป

และในวินาทีต่อมา มาดาระ ก็ประสานอินขึ้นมาอย่างไม่ลังเล “คาถาไฟ : ลูกบอลเพลิงยักษ์” ลูกไฟขนาดใหญ่พุ่งตรงเข้าหาขบวนอารักขาอย่างรวดเร็ว

เมื่อเห็นดังนั้น ฮาชิรามะ จึงประสานอินขึ้นมา

“คาถาไม้ : กำแพงไม้”

ทันใดนั้น ไม้ก็เริ่มงอกออกมาจากพื้นดินและก่อตัวขึ้นเป็นกำแพงขนาดใหญ่ขวางลูกไฟเอาไว้

ลูกไฟขนาดใหญ่ปะทะเข้ากับกำแพงไม้อย่างจัง อย่างไรก็ตามลูกไฟก็อ่อนกำลังลงและแตกออกในที่สุด

“มาดาระ...ของคุณมากนะสำหรับดอกไม้ไป หึหึหึ”

“เราได้มอบของขวัญให้เขาแล้ว...อิซึนะ...ไปกันเถอะ” มาดาระ หันหลังกลับ ในขณะที่ดวงตาของเขากลับไปเป็นดวงตาปกติ

“ครับ ท่านพี่” อิซึนะ พยักหน้าและเดินตาม มาดาระ ไปทันที

…….

หลักจากนั้นครู่หนึ่ง เมื่อแน่ใจแล้วว่า อุจิฮะ ได้หายไปหมดแล้ว ฮาชิรามะ ก็หันกลับมา

ฟึ้ม!!

แต่แล้วจู่ ๆ ควันสีขาวก็ระเบิดออกมาปกคลุ่มตัว ฮิชิรามะ เอาไว้ และหลังจากนั้น มาซาฮิโกะ ก็โผล่ออกมาจากควันแล้วพูดว่า “พวกเขาไปแล้ว พวกเขาออกจากระยะการสัมผัสของฉันไปแล้ว”

“เป็นท่านจริง ๆ ด้วยสินะ...ท่านปู่ ท่านทำได้ยังไงกัน?” โทบิรามะ สับสนจนอดไม่ได้ที่จะถามออกมา

“ที่จริงแล้ว นั่นไม่ใช่คาถาไม้หรอก...มันเป็นแค่ ‘คาถาดิน : กำแพงพสุธา’ เท่านั้น แล้วฉันก็ใช้ คาถาแปลงร่าง เพื่อเปลี่ยนรูปร่างของมันให้เป็นไม้ก็แค่นั้น”

“นี่คือเคล็ดลับที่ฉันได้เรียนรู้เมื่อเทคนิคพื้นฐานของฉันไปถึง LV 10 ฉันสอนท่านได้นะถ้าท่านอยากรู้ ตราบใดที่เราสามารถไปถึงที่นั่นได้อย่างปลอดภัย ใช่ไหมละ?” มาซาฮิโกะ ตอบ

โทบิรามะ นิ่งเงียบด้วยความมึนงง เขาไม่เข้าใจว่า มาซาฮิโกะ พูดถึงอะไร...

“ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว งั้นเราเดินทางต่อกันเถอะ” มาซาฮิโกะ พูดขึ้นมา

แต่แล้วในวินาทีต่อมา  มาซาฮิโกะ ก็ต้องตกใจและพูดออกมาว่า “หืม?! โอ๊ะ! พวกเขากลับมา!”

ทันใดนั้น อุจิฮะ ทั้ง 7 คน ก็มาปรากฏอยู่ต่อหน้า มาซาฮิโกะ และทุกคนอีกครั้ง

“ฉันนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้นะ...ฮาชิรามะ ในเมื่อเจ้าอยู่ที่นี่แล้ว ทำไมเจ้าไม่ลองมาดูวิชาใหม่ของฉันสักหน่อยละ” มาดาระ พูด

“เฮ้ ฮาชิรามะ…”

“ฮาชิรามะ ทำไมไม่ออกมาคุยกับฉันละ?! ออกจากเกี้ยวมาคุยกับฉันได้แล้ว!”

ในเวลานั้น สถานการณ์ที่น่าอายก็เกิดขึ้นอีกครั้ง เมื่อ มาซาฮิโกะ พูดออกไปว่า “ขอบคุณสำหรับของขวัญอีกชิ้นนะ มาดาระ”

ในเวลานั้น มาดาระ นินจาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของตระกูลอุจิฮะ ก็รู้ได้ในทันทีว่าก่อนหน้านี้เขาถูกหลอกโดยผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าของเขา จากนั้นเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่โกรธแค้นและดุดันออกไปว่า “เป็นแกเองเหรอ...ชายแก่?! แกใช้วิชาลวงตางั้นเหรอ แกคิดว่าแกจะหลอก เนตรวงแหวน ของฉันได้งั้นเหรอ?!”

“ท่านมาดาระ ท่านพูดอะไรแบบนั้น ในบรรดาคู่ต่อสู้ทั้งหมดที่ฉันเคยเจอมา ต้องขอบอกเลยว่า คาถาลวงตา ของท่านนั้นแข็งแกร่งที่สุด ไม่มีใครสามารถใช้ คาถาลวงตา ได้เหนือไปกว่าท่าน คงจะไม่เกิดจริงหากฉันจะพูดว่า คาถาลวงตา ของท่านคือ คาถาลวงตา ที่แข็งแกร่งที่สุด คาถาของฉันไม่สามารถเทียบท่านได้เลยแม้แต่น้อย!” มาซาฮิโกะ พูด

เมื่อได้ยินคำพูดของ มาซาฮิโกะ มาดาระก็รู้สึกว่าเขากำลังถูกล้อเลียนอยู่ และเขาก็ไม่สามารถสงบลงได้อีกต่อไปทันใดนั้น มาดาระ ก็ยกมือขึ้นมาประสานอินอย่างรวดเร็ว

“อีกอย่างหนึ่งนะ...ทักษะการขว้างดาวกระจายของฉันอยู่ที่ LV 10” มาซาฮิโกะ พูด

ทันใดนั้น ดาวกระจาย จำนวนมากก็พุ่งตรงเข้าไปหา มาดาระ จากหลายทิศทาง

เมื่อ มาดาระ มองเห็นดาวกระจายที่กำลังพุ่งเข้ามาหาเขา เขาก็ไม่สามารถประสานอินได้จนเสร็จและจำเป็นต้องกระโดดถอยหลังออกไป แต่เขาก็เห็นว่า ดาวกระจาย ก็ยังคงพุงตามเขามาอยู่

มันทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องป้องกันมันด้วยถุงมือของเขา

“มาดาระ...เช่นเดียวกัน คาถาแปลงร่าง แม้กระทั่งทักษะพื้นฐานที่สุดอย่างเช่นการขว้างดาวกระจาย ก็จะสามารถให้ความสามารถพิเศษแก่ท่านได้เมื่อท่านพัฒนามันให้ไปถึงระดับสูงสุด ก่อนหน้านี้ฉันก็เปลี่ยนรูปร่างของ คาถาดิน ให้เป็นเหมือนกับ คาถาไม้ ได้ด้วยคาถาแปลงร่างเช่นกัน”

“ดังนั้น ฉันขอเดาว่า...ท่านน่าจะกำลังประหลาดใจกับวิชาดาวกระจายของฉันอยู่สินะ?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด