ตอนที่แล้วบทที่ 278 - ฤดูที่สาม (3) [10-11-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 280 - ฤดูที่สาม (5) [14-11-2020]

บทที่ 279 - ฤดูที่สาม (4) [12-11-2020]


บทที่ 279 - ฤดูที่สาม (4)

การฝึกของเร็นกับพอลเป็นสิ่งสำคัญ แต่ว่าสมาชิกรีไวเวิร์ลคนอื่นๆก็สำคัญเหมือนกัน บางคนได้ชะลอความเร็วในดันเจี้ยนและพวกเขาก็ยังต้องเตรียมบางอย่างเอาไว้เผื่อในกรณีที่พวกเราเสียพลังของดันเจี้ยนอีกด้วย

หลังจากคิดมาเป็นเวลานานฉันก็ตัดสินใจได้ว่าฉันจะสอนวงจรเพรูต้าให้กับพวกเขา

"วงจรเพรูต้า... วังวนมานาที่นายใช้น่ะหรอ?"

"เธอรู้วิธีบ่มเพาะมานาอยู่แล้วดังนั้นมันก็ไม่น่าจะจำเป็นสำหรับเธอหรอกเลอบิค"

"ไม่ ฉันอยากจะเรียนมัน ให้ฉันเรียนมันด้วย!"

"มันไม่เป็นไรหรอกน่า ก็แค่ตั้งใจกับสิ่งที่มีอยู่แล้ว"

ฉันไม่ควรจะพูดแบบนี้ในฐานะคนที่เชี่ยวชาญวงจรเพรูต้าในอายุเพียงแค่ 22 ปี แต่ว่ามันจะต้องใช้เวลานานมากในการเรียนเพรูต้า หากไม่มีคำแนะนำจากตัวเพรูต้าอย่างต่อเนื้องแล้วล่ะก็ ด้วยพรสวรรค์ของฉันแล้วฉันอาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ถึงสองสามเท่า

สำหรับพวกคนที่มีเทคนิคการหายใจมานาและการบ่มเพาะมานาที่ยอดเยี่มแล้วล่ะก็ การจะเรียนวงจรเพรูต้าอาจจะให้ผลร้ายมากกว่าดี

"ดังนั้นนี่คือรายชื่อของคนที่จะเรียนรู้วงจรเพรูต้าจากฉัน"

ฮวาหยา คังยงอู ชูน่า อิลลิน่า คังยุย สุมิเระ วอร์คเกอร์ โซฟี แรส อิเลด้า และเคียร่า

ในตอนที่เยอึนได้เห็นรายชื่อพวกนี้เธอได้บ่นขึ้นมาทันที

"เอ๋ ไม่มีฉันนี่"

"เธอได้เรียนจากดูก้าแล้วนี่"

"แต่ว่าในนี้มีคู่แข่งถึง 7 คน ฉันไม่สามารถถูกแยกไปคนเดียว...."

"เดี๋ยวนะ เจ้ดคน? เธอนับรวมใครไปบ้างเนี้ย!"

"โอ๊ยยยย!"

ในตอนที่ฉันจัดการลงโทษเยอึน ลีออนก็ได้ยกมือขึ้นมาอย่างสงสัย

"เพื่อน ทำไมฉันเรียนสิ่งนั้นไม่ได้ล่ะ? หรือว่ามันมีเหตุผลพิเศษที่ฉันถูกยกเว้นนะ?"

"ใช่แล้วล่ะลีออน นายจะต้องเรียนบางอย่างจากอีกคนนะ"

ฉันได้ยิ้มขึ้นอย่างซุกซน

"มีสุภาพบุรุษคนหนึ่งที่เหมาะกับนายมาก"

"มีคนแบบนั้นด้วย!? ทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะ!? ฮ่าฮ่าฮ่า!"

"ก็เพราะว่านายจำเป็นจะต้องการมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนึ่งก่อนไงล่ะ"

"อ่า เข้าใจแล้ว! ฉันก็เพียงจะกลายเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนึ่งเมื่อสัปดาห์ก่อนเอง!"

เขาเร็วจริงๆเลย การที่เขาจะกลายมาเป็นนักสำรวจในดันเจี้ยนที่หนึ่งนั่นหมายความว่าเขาได้ผ่านชั้นที่ 80 ของดันเจี้ยนที่สอง ฉันได้ยิ้มออกมาและบอกให้ลีออนรอ พ่อก็ยังถามฉันออกมา

"ไม่ใช่ว่าแกบอกว่าแกสอนคนอื่นไม่ได้ไม่ใช่หรอ?"

"ผมบอกงั้นแหละ แต่ว่าตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว ผมเชี่ยวชาญมันจนพอที่จะไปสอนคนอื่นๆเลย นั่นเป็นเหตุผลที่ผมยินดีจะสอนคนอื่นไง"

"นั่นก็เยี่ยมไปเลยนี่ แต่ว่าพ่อไม่อยากจะเรียนมัน พ่ออยากจะทำลายขีดจำกัดด้วยตัวเอง"

"ผมก็คิดไว้อยู่แล้วว่าพ่อจะพูดแบบนี้"

ฉันได้ลบชื่อของพ่อออกไปในทันที ในตอนนั้นเองฉันก็มองไปหามิเชลเพื่อที่จะยืนยัน เขาก็ยิ้มออกมา

"ฉันยินดีที่จะถูกสอน ถ้าฉันทำได้ไม่ดีก็เชิญลงโทษฉันได้เลย"

"ไม่ต้องห่วงเรื่องนี้หรอกน่ามิเชล"

มิเชลเป็นพูดออกมากึ่งจริงจังกึ่งล้อเล่น แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่ได้จะยอมผ่อนปรนให้เขาเนื่องจากว่าเขาแก่กว่าฉันอยู่แล้วฉันจะต้องสอนเข้าอย่างเข้มงวด มันเป็นไปได้ด้วยอีกว่าอาจจะมีคนมากเข้าไปร่วมขั้นตอนการทุบตีของเร็นกับพอล

"มันจะไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณชิน? คุณยุ่งมากอยู่แล้วนะคะ"

สุมิเระรู้ว่าฉันยังไม่ได้เชี่ยวชาญในทักษะที่ฉันแสดงให้เธอเห็นก่อนหน้านี้ ท่าทางของเธอได้กังวลอย่างสมบูรณ์ ฉันได้ตอบกลับไปอย่างมั่นใจและลูบหัวเธอทันที

"มันไม่เป็นไรหรอกน่า อย่างที่เธอก็น่าจะรู้ฉันสามารถจะพัฒนาขึ้นไปในตอนที่สอนเธอได้ด้ววยเหมือนกัน ฉันมั่นใจว่าฉันจะต้องได้เรียนรู้อะไรบางอย่างในขณะที่สอนวงจรเพรูต้าให้กับคนอื่่นๆแน่นอน"

นอกจากนี้ในตอนที่เผ่าพันธ์ปีศาจได้พิชิตโอเชียเนียไป ฉันก็ตระหนักได้ว่าฉันไม่สามารถจะเป็นคนเดียวที่พัฒนาไปได้ ในตอนแรกที่ฉันสร้างรีไวเวิร์ลขึ้นสิ่งแรกที่ฉันคิดไว้เลยก็คือกลุ่มระดับสูงที่เหนือกว่าศัตรูใดๆก็ตาม ในตอนนี้มันถึงเวลาแล้วที่ทุกๆคนจะต้องแข็งแกร่งขึ้น

"ฉันจำเป็นจะต้องกรุยเส้นทางมานาวงจรเพรูต้าไว้ ฉันจะต้องทำแบบนั้นทีละคน ฉันไม่สามารถจะสอนแบบทีละคนได้เหมือนกันแต่ว่าฉันจะมาตรวจสอบและให้คำแนะนำเป็นระยะๆนะ ฉันจะทำให้สุดความสามารถเพื่อที่จะทำให้ทุกคนสามารถจำชำนาญวงจรเพรูต้าได้ในหนึ่งวัน"

"ขอบคุณพระเจ้าที่ฉันไม่ได้อยู่ในลิทต์นั้น..."

"แค่คิดมันก็ทำให้ฉันสั่นแล้ว เจ้าชายจะพยายามให้ดีที่สุด...!"

เร็นกับพอลได้กอดกันเองและตัวสั่น ฉันได้ส่งเสียงหึขึ้นและสาบานว่าจะพยายามฝึกพวกเขาด้วยเช่นกัน

หลังจากบอกแผนงานไปและทุกคนก็ยอมรับกันแล้ว ฉันได้ัดหมายคนที่จะเรียนวงจรเพรูต้าต่อ จากนั้นก็พาลีออนไปสวนแฟรี่

[คุณเจ้าชายมาแล้ว]

[นั่นมันคุณเจ้าชายนี่!]

[อ่า เขาพาคนอื่นมาด้วยล่ะ]

[ฉันไม่เคยเห็นเขามาก่อนเลยนะ!]

"โอ้ววว ที่นี่มันน่าทึ่งจริงๆ งดงามมาก!"

ในทันทีที่เราได้มาถึงสวนแฟรี่เหล่าภูติธาตุที่อยู่ใกล้ๆก็เข้ามาทักทายเราแล้ว แม้ว่าลีออนจะเห็นพวกเขาไม่ได้แต่เขาก็ยังสามารถจะตรวจจับแสงเวทย์ที่เปล่งออกมาได้อยู่ แสงหลากสีนี้ได้ถูกสร้างขึ้นมาจากภูติธาตุทำให้ลีออนอุทานออกมาอย่างตกใจ สำหรับฉันแล้วเขาดูเหมือนพวกบ้านนอกเข้าเมืองมาก

"เพื่อน ถ้ามันมีสถานที่สวยๆแบบนี้นายควรจะพาฉันมาตั้งนานแล้ว!"

"มันไม่ใช่ว่าใครก็เข้ามาที่นี่ได้ ฉันต้องได้รับอนุญาติก่อนเหมือนกัน"

"ฉันสัมผัสได้ ฉันสัมผัสมันด้วยนะ นี้มันเหมือนกับในตอนแรกที่ฉันรู้สึกถึงมานาเลย!"

"ยังไงก็เถอะน่า ตามฉันมาได้แล้ว"

ลีออนไม่สามารถจะละสายตาไปจากภูติธาตุได้เลยทำให้ฉันต้องลากเขามาที่ทำงานของหลินแทน ในตอนที่พวกเขาใกล้จะมาถึงแล้วเสียงค้อนก็ดังออกมา

"โอ้? วันนี้เขาก็ยังทำงานหรอ?"

สำหรับคนแบบหลินที่เกลียดการทำงานกำลังทำงานอยู่นี่มันแปลกจริงๆ ฉันได้เอียงหัวและเตะประตูเข้าไป หลินได้ตะโกนออกมาราวกับรู้ว่าเรามาหา เขายังคงถือค้อนเอาไว้ภายในมือ

"อ๊าา รออีกเดี๋ยว"

หลินกำลังตีโลหะทรงกระบอกขนาดเล็กอยู่ ฉันรู้ได้ในทันทีเลยว่ามันคืออะไร

"หลินนายดกำลังทำปีนให้ลีออนหรอ?"

ฉันไม่ได้ขอให้เขาทำเลย เขาได้ทำมันด้วยความตั้งใจของตัวเอง หลินได้เริ่มทุบลงไปอีกครั้งในขณะที่มองมาทางเรา

"นั่นเขาหรอ?"

"ว่าไงสหาย! ยินดีที่ได้รู้จักนะฉันลีอน เป็ปเปอร์! นั่นคือคุณสุภาพบุรุษสินะ"

"รอเดี๋ยวนะ ฉันใกล้จะทำเสร็จแล้ว"

หลินดูจะชอบกับคำชมของลีออนทำให้เขายิ้มออกมาและหันกลับไปทำงาน ในขณะเดียวกันลีออนก็มองไปรอบๆที่ทำงานและพูดออกมารัวๆ ถ้าฉันใช้ชีวิตแบบนี้อ่อน ชีวิตของฉันจะต้องเต็มไปด้วยความสุขแน่ ฉันได้มองไปที่เขาอย่างไร้จุดหมายในขณะที่คิดบางอย่าง

"ฟู่.... โอเคล่ะ"

หลินได้ผลงานที่น่าพอใจหรอ? เขาได้หยิบโลหะทรงกระบอกขึ้นมาและหยักหน้าอย่างพอใจ จากนั้นเขาก็หันมาทางเรา

"ลีออน เป็ปเปอร์ใช่ปะ?"

"ใช่แล้ว ให้ฉันเรียกนายว่าไงอะ?"

"หลิน"

"หลิน! ชื่อนี้เท่ดีนะ!"

หลินได้ยิ้มขึ้นและหยิบเอาบุหรี่ออกมาก่อนจะทำท่ามอบให้ลีออน ลีออนได้หยักหน้าในทันทีและรับเอาบุหรี่ที่หลินโยนมาให้

"ฉันไม่ได้ให้บุหรี่ของฉันกับใครบ่อยหรอกนะ คิดซะว่ามันเป็นเกียรติละกัน"

"ฮ่าฮ่าฮ่า ฉันจะจำมันไว้"

ในตอนที่หลินพยายามจะจุดไฟ หลินก็ยิ้มขึ้นและจุดบุหรี่ที่อยู่บนปากของเขาโดยไม่ขยับนิ้ว เมื่อลีออนได้เห็นแบบนี้เขาก็ยังเอาบุหรี่

เข้าไปในปากด้วยและก็ตามที่คาดไฟมันได้ลุกขึ้น ลีออนได้เบิกตากว้างและพึมพัมออกมา

"ฉันอิจฉาพลังนี้จริงๆ...."

"นายอิจฉาเรื่องจุดไฟบุหรี่เนี่ยนะ?"

"เขาไม่เหมือนนายจริงๆคังชิน เขารู้ว่าอะไรมันดี โอ้ มาให้ฉันดูหน่อยสิ"

หลินได้เอื้อมมือไปหาลีออน ลีออนได้เอียงหัวและจับมือของหลินเอาไว้ จากนั้นหลินก็วางนิ้วชี้และนิ้วกลางของเขาไว้บนหลังมือของลีออนและหลับตาลง

"...คังชินพูดถูก นายเหมือนฉันจริงๆ"

หลังจากนั้นหลินก็ได้พึมพัมเงียบๆพร้อมกับเปิดตาขึ้นมา ท่าทางที่สนใจของเขาได้แสดงออกมาอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

"แต่ว่าโลกของพวกนายมันอะไรกัน? มีคนแบบคังชิน แล้วก็ยังมีคนที่มีพลังเหมือนๆกับฉันด้วย น่าสนใจ น่าสนใจจริงๆ"

"แล้วเป็นไรมั้งล่ะ?"

หลินดูเหมือนจะลังเลอยู่สักหนิด ในตอนที่ลีออนยิ้มออกมา หลินก็หยักไหล่

"เยี่ยม ฉันสามารถจะใช้เขามาเพื่อที่จะป้องกันผู้หญิงมากวนฉันได้"

"นั่นมันไม่ใช่เหตุผลที่น่าพอใจเลยนะ"

"ตอนนี้นายอยู่ชั้นที่เท่าไหร่?"

ลีออนตอบกลับไปทันที

"ฉันเพิ่งจะมาดันเจี้ยนที่หนึ่งสัปดาห์นี้เอง! ตอนนี้ฉันอยู่ชั้นที่ 54 แล้ว!"

"นายมาจากดันเจี้ยนที่สองงั้นหรอ? ถ้านายปีนดันเจี้ยนสามชั้นในสัปดาห์หนึ่ง นายก็ไม่ได้แย่เลย... เยี่ยม นายอยากจะเรียนรู้อะไรจากฉันล่ะ?"

"ฉันยินดีที่จะเรียนเสมอเพื่อน! การเรียนรู้คือสิ่งที่ทำให้คนเป็นมนุษย์"

"ฉันไปเป็นเพื่อนของนายได้ยังไงกันนะ? อ่า ชั่งเถอะ ฉันยังไม่ได้บอกนายเลยว่าฉนจะสอนอะไร"

หลินได้พ่นควันบุหรี่ออกมาก่อนจะโยนบุหรี่ขึ้นบนฟ้อง จากนั้นเขาก็หยิบเอาปืนพกออกมาและยิงบุหรี่ทิ้ง

ได้เกิดการระเบิดขึ้น

"พวกเราอยู่ในสวนแฟรี่นะหลิน!"

"ไม่ต้องห่วงฉันสร้างมันมาทน"

หลินได้ตอบกลับอย่างเฉื่อยชาและเก็บปีนพกลงไปแต่ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันเห็นโรเล็ตต้าที่กำลังโกรธวิ่งมา ในทางกลับกันแล้วลีออนได้โพ่งขึ้นมา

"พลังของนายเหมือนกับฉันจริงๆด้วย! ไม่สิ่ง มันน่าทึ่งยิ่งกว่าของฉันซะอีก"

"ฮึ่ม อย่างน้อยนายก็ตาถึงนะ ฉันจะขอพูดก่อนเลยนะ ฉันเกลียดคนที่ไร้พรสวรรค์และคนที่ไม่มีจรรยาบรรการทำงาน ที่ฉันสอนนายเพราะ

ว่าคังชินแนะนำนายมากแต่ว่าถ้าฉันไม่ชอบนาย นายก็จะต้องไป ถ้านายโอเคแล้วล่ะก็ฉันก็จะให้ความช่วยเหลือเอง"

เขาได้จ้องมาที่ลีออน

"นายอยากจะไปไหม?"

ลีออนได้มองหน้าหลินตรงๆและยิ้มออกมา ใบหน้าของเขาได้เต็มไปด้วยความมั่นใจ

"ฝากตัวด้วยนะเพื่อน พวกเราคงจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนานแล้วล่ะ"

หลินกับลีออนดูจะมีบางอย่างคล้ายๆกัน มันเป็นเพราะพวกเขาสูบบุหรี่รึเปล่านะ? ฉันได้เอียงหัวแต่ว่าถ้าหากว่าบุคลิกของพวกเขาเข้ากันได้ก็ดีแล้ว ฉันได้หยักหน้าและพูดกับหลิน

"หลินมีบางอย่างที่ฉันอยากจะขอนายด้วย"

หลินได้มองมาอย่างตะลึก

"ฉันติดหนี้อะไรนายงั้นหรอ? นายกล้ามาขอฉันแบบนี้ได้ยังไง?"

"เครื่องประตดับของฉันพังหมดเลย นะหลิน นายเป็นแค่คนๆเดียว ไม่สิ ครึ่งมังกรคนเดียวที่ฉันเชื่อใจ"

"นั่นมันเป็นเพราะว่าฉันเป็นครึ่งมังนายนายก็รู้... นะ นี้มันอะไร!? ของพวกนี้มันไม่เหลือแม้แต่สภาพเดิมเลยนะ!"

ถึงแม้ว่าเขาจะบ่นออกมาติดๆแต่หลินก็รับเอาเครื่องประดับไป หลังจากที่เขาได้ตรวจสอบของแต่ละชิ้นเขาก็ร้องออกมา เขานี้เป็นช่างฝีมือจริงๆ!

"จริงดิ!? ฉันไม่น่าจะยอมรับความช่วยเหลือจากเจ้านี้เลย... อึก กลับมาในสัปดาห์หน้าละกัน"

"ขอบคุณนะหลิน"

"ไสหัวไป!"

หลินนี่ใจดีจริงๆด้วย! ฉันได้ยกนิ้วให้กับเขาในขณะที่ลีออนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาเบิกตากว้าง

เพราะแบบนี้ฉันก็พาลีออนมาฝึกกับหลินเรียบร้อยแล้ว

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด