เล่ม1 : บทที่ 7 – เคล็ดวิชา
กำเนิดดาบปีศาจ(BDS) เล่ม1 : บทที่ 7 – เคล็ดวิชา
วันหลังจากที่เขารับวิลเลียมเป็นอาจารย์ โนอาห์ออกไปยังตึกผู้พิทักษ์แต่เช้าตรู่ตามคำแนะนำของวิลเลียม
เช้าวานนี้เขาได้อธิบายสถานการณ์ให้กับแม่ของเขารับรู้ และพบรอยฟกช้ำหลายจุดบนร่างกายของเธอ ทำอะไรไม่ได้นอกจากรู้สึกอับเฉา
เขาเดินเข้าตึกและตรงไปยังชั้นหนึ่ง เห็นได้ชัดเจนว่าผู้พิทักษ์ตรงหน้าบันไดได้รับแจ้งถึงการมาของเขาและปล่อยให้เขาผ่านเข้ามาโดยไม่มีปัญหาใดๆ
ก่อนที่เขาจะก้าวก้าวสุดท้ายออกไป เขาก็ได้ยินเสียงของวิลเลียมที่ปลายสุดทางเดิน
“มาเช้านี่”
อาจารย์ของเขาในชุดออกกำลังกายกำลังยืนหาวทำให้เขาเกิดความประหม่าเล็กน้อย
เขาสวมสีหน้าที่ดูจริงจังและโค้งคำนับเล็กน้อยด้วยการกำมือซ้ายชนฝ่ามือขวา
“ศิษย์ย่อมกระหายที่จะเรียนรู้ ท่านอาจารย์”
วิลเลียมไม่ได้แม้แต่มองเขาและทำท่าตาม ทั้งคู่เข้าไปยังห้องใหญ่ห้องหนึ่งที่มีอาวุธจำนวนมากเรียงรายอยู่บนกำแพงและมีหุ่นไม้วางอยู่ตามตำแหน่งต่างๆ
วิลเลียมชี้ไปไปที่พื้นขณะห้ามตัวเองไม่ให้หาวอีกครั้ง
“นั่งลง ช้าไม่ชอบตื่นเช้าเอาเสียเลย เพราะฉะนั้นข้าจะอธิบายเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นหากมีคำถามก็จงถามออกมา”
โนอาห์นั่งขัดสมาธิลงบนพื้นทันที ความโหยหาปรากฏชัดเจนในดวงตาทั้งคู่ของเขา
วิลเลียมเรียงลำดับความคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เริ่มอธิบายด้วยสีหน้าที่จริงจัง
“อันดับแรก ข้าต้องการให้แน่ใจว่าเจ้าเข้าใจถึงเหตุผลว่าทำไมสารวัตรถึงเลือกเจ้า เราไม่สามารถให้คนที่หลอกลวงผู้อื่นเข้ารับเคล็ดวิชาอย่างถูกต้องได้ โดยเฉพาะเด็กที่อยู่ในฐานะเช่นเจ้า เมื่อชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียของสถานการณ์แล้ว เราตัดสินใจว่ามันคงจะดีกว่าหากเปลี่ยนความโลภของเจ้าให้เป็นความต้องการของเราแทนการที่จะลงโทษเจ้า เช่นนั้น เมื่อพบท่านจงอย่าลืมกล่าวเพื่อขอบคุณที่ได้มอบสิทธินี้แก่เจ้า”
เม็ดเหงื่อเย็นๆ ไหลผ่านหลังของโนอาห์ ในที่สุดเขาก็ได้เข้าใจความบ้าบิ่นของตัวเอง
‘เจ้าเด็กตรงหน้านี้ไม่อาจทำงานร่วมกับผู้มีอำนาจได้ บางทีมันอาจจะพูดได้เต็มปากมากกว่าหากพวกเขาไม่สนใจว่าฉันเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง’
“อย่างที่สอง เราจะไม่มอบของกำนัลใดๆ ให้กับเจ้า ผู้พิทักษ์ต้องรวบรวมคุณสมบัติเพื่อให้ได้มาซึ่งรางวัลและเจ้าเองก็จะไม่ได้รับข้อยกเว้น แต่เนื่องจากเจ้าเป็นลูกศิษย์ของข้า ข้าจึงจะมอบบางสิ่งให้เจ้าเพื่อเป็นการเริ่มต้น คิดเสียว่ามันคือการหยิบยืมที่เจ้าจะต้องชดใช้คืนผ่านการรับใช้ผู้พิทักษ์ก็แล้วกัน เข้าใจไหม? เจ้าจะต้องทำการหลั่งเลือดของตระกูลเจ้าเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เจ้าปรารถนา”
วิลเลียมมองเข้าไปในดวงตาของโนอาห์ สถานการณ์ของเขาไม่ได้เป็นความลับ ดังนั้นจึงมีเหตุผลเพื่อถามถึงความประสงค์ของเขาเพื่อปกป้องตระกูลบัลวัน
‘ฉันรู้ว่าฉันต้องการจะพูดอะไร เขากลัวเนื่องจากว่าข้าเป็นลูกนอกสมรสที่อาจมีความเกลียดชังต่อตระกูล และใช้ผู้พิทักษ์เพื่อเสริมกำลังให้กับตัวเองเพื่อล้างแค้น เขาไม่ผิด แต่เขาเพียงแค่ไม่รู้เหตุผลของฉัน’
เมื่อมองถึงความขัดแย้งในความคิด โนอาห์ก้มศีรษะลงเพียงเพื่อจะลุกขึ้นพร้อมใบหน้าที่แสดงชัดถึงความแน่วแน่
“ข้าเข้าใจแล้วขอรับท่านอาจารย์!”
วิลเลียมมองเขาขณะพยายามถอดความหมายจากที่สีหน้าที่เขากำลังแสดงออกมา
‘ถ้าเขาโกหก แสดงว่าเขามั่นใจว่ามันดีแล้ว’
จากนั้นเขาก็ล้มเลิกการที่จะทำความเข้าใจความซับซ้อนในอารมณ์ของโนอาห์และอธิบายต่อ
“เอาล่ะตามสบาย ตอนนี้เจ้าคือสมาชิกผู้พิทักษ์ที่อายุน้อยที่สุดของตระกูลบัลวันเท่าที่เคยมีมา หน้าที่หลักของเราคือการแก้ปัญหาเรื่องโจรและสัตว์เวทมนตร์ในเขตแดนของตระกูล ส่วนหน้าที่ในการปกป้องสมาชิกในตระกูลเป็นรายบุคคลคือหน้าที่ของทหารที่อยู่เขตใน ข้าจะอธิบายถึงภารกิจเพิ่มเติมทีหลัง ส่วนตอนนี้จงตั้งใจ ข้าจะเริ่มต้นในส่วนที่เจ้ายังคงพร่อง”
ความสนใจของโนอาห์พุ่งสูงขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว
“เนื่องจากเจ้าอ่านระบบหยินหยางมาเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นข้าจะข้ามส่วนที่เกี่ยวกับ”ลมหายใจ“และธาตุไปก็แล้วกัน การฝึกตนของมนุษย์แบ่งออกเป็นสามศูนย์กลางแห่งพลัง ตันเถียน* ร่างกาย และทะเลแห่งสติที่เชื่อมโยงกันและกันอย่างลึกซึ้ง”
“ตันเถียนอยู่ใต้สะดือเจ้าและมันมักจะเห็นได้ชัดเจนเมื่ออายุครบสิบห้าปี มันเป็นจุดที่ผู้ฝึกตนสะสม”ลมหายใจ“และเมื่อสะสมครบ มันจะบำรุงรักษาร่างกายและจิตใจของเจ้าตามลำดับ”
“ร่างกายคือเปลือกของผู้ฝึกตน ใช้”ลมหายใจ“เข้าไปไหลเวียนเพื่อบำรุงรักษา และยิ่งร่างกายแข็งแกร่งมากเท่าใด ตันเถียนและจิตของเจ้าก็จะมั่นคงขึ้นเท่านั้น เจ้าได้เริ่มการบำรุงรักษาสิ่งเหล่านี้แล้ว ผ่านการใช้เคล็ดการหมุนเวียนน้ำแข็งและไฟ”
“ทะเลแห่งสติคือศูนย์กลางของสมองทั้งนี้ยังเป็นจุดบังเกิดและสะสมของพลังงานจิต การขยายออกของทะเลแห่งสติจะไม่ช่วยเพิ่มพื้นที่ให้เจ้าสามารถกักเก็บพลังงานจิตได้มากขึ้นหรือเพิ่มปริมาณขึ้น แค่มันจะช่วยเพิ่มประสาทสัมผัสและเร่งความคิดของเจ้า หากไปถึงนระดับหนึ่งจะทำให้เจ้าสามารถทำนายอันตรายที่ใกล้เข้ามาได้”
“ทีนี้ก็เริ่มถามคำถามแรกได้”
โนอาห์หลับตาลงและทวนซ้ำถึงสิ่งที่อาจารย์กล่าวในความคิดเพื่อจดจำทั้งหมด หลังจากตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดอยู่ครู่หนึ่งเขาก็พบสองสิ่งที่ยังไม่เข้าใจ
“ท่านอาจารย์ ข้ามีสองคำถาม ท่านกล่าวใช่หรือไม่ที่เคล็ดการหมุนเวียนน้ำแข็งและไฟเป็นเพียงการเลียนแบบเคล็ดของการฝึกตน? หากตันเถียนจะปรากฏเมื่อข้าอายุครบสิบห้าปี นั่นก็หมายความว่าข้าจะไม่สามารถฝึกตนได้เลยไปตลอดห้าปีนี้งั้นหรือ?”
วิลเลียมตอบกลับทันที เนื่องจากเขาได้เล็งเห็นถึงความแครงใจที่เกิดขึ้นในใจศิษย์ก่อนหน้านี้แล้ว
“วิธีการบำรุงรักษาร่างกายที่แท้จริงใช้”ลมหายใจ“ที่สะสมอยู่ในตันเถียนเพื่อไหลเวียนในร่างกายเจ้าและบำรุงส่วนต่างๆ ในการเปรียบเทียบ เคล็ดการหมุนเวียนน้ำแข็งและไฟเป็นเพียงกระบวนการที่บังคับให้สะสม”ลมหายใจ“ในร่างกายของเจ้า ซึ่งจะถูกใช้เป็นสิ่งบำรุงรักษาร่างกายของเจ้าตามธรรมชาติ ในแง่ของความแตกต่างนั้นอยู่ที่ปริมาณของ”ลมหายใจ“ที่ใช้ นอกจากความจริงที่ว่า เคล็ดที่เจ้าฝึกฝนนั้นสามารถสะสมได้เพียงแค่หนึ่งในสิบของวิธีที่ตันเถียนสามารถทำได้ มากไปกว่านั้น เจ้ายังรู้สึกได้ชัดแจ้งว่าเคล็ดเชื่อมโยงกับขีดจำกัดกายภาพของร่างกาย ในขณะที่วิธีการบำรุงรักษาร่างกายจะเป็นตัวการที่ทำลายขีดจำกัดที่ว่า”
“ดังคำถามของเจ้า ใช่ อายุของมนุษย์ทั่วไปตันเถียนจะปรากฏอย่างสมบูรณ์เมื่อเจ้าอายุครบสิบห้าปี แต่อย่างที่ข้าบอกไป สามศูนย์รวมกลางแห่งพลังเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง เจ้าอาจจะเร่งกระบวนการสร้างตันเถียนขึ้นมาแล้วก็ได้ ผ่านการฝึกฝนเคล็ดการหมุนเวียนน้ำแข็งและไฟ ใครจะรู้ เจ้าอาจจะเจริญเติบโตเมื่อหลายเดือนที่ผ่านมาแล้วก็เป็นได้”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของโนอาห์ก็เป็นประกาย
‘งั้นก็หมายความว่าฉันเร่งกระบวนการให้เร็วขึ้นโดยฝึกฝนอีกสองศูนย์กลางแห่งพลังสินะ เดี๋ยวก่อน มีบางอย่างที่แปลกๆ อยู่ หากใครบางคนฝึกฝนทั้งสามอย่างไปพร้อมกันการเจริญเติบโตของเขาก็จะเพิ่มแบบทวีคูณน่ะสิ?’
สีหน้าในความสับสนปรากฏบนใบหน้าเขา คิ้วขมวดเข้าหากัน เขามองอาจารย์ของเขา และกำลังจะถามคำถามออกไป แต่กลับถูกพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“เจ้าจะเข้าใจมากขึ้นเมื่อได้เริ่มต้นฝึกฝน การฝึกตนเป็นการกระทำที่ต่อต้านสวรรค์และโลก เนื่องจากเราดึงพลังของมันมาใช้เป็นของเราเอง เช่นนั้นการบวนการจะแสนยาวนานและแสนเจ็บปวด ดังนั้น เนื่องจากสามศูนย์กลางแห่งพลังเชื่อมโยงกัน หากการเพิ่มขีดความสามารถให้หนึ่งอย่างจะส่งผลกระทบให้กับอีกสองอย่างที่เหลือเป็นความจริง ดังนั้นก็เป็นความจริงเช่นกันที่ว่า เมื่อไม่ได้ใส่ใจกับสักหนึ่งอย่าง อีกสองก็จะเจริญเติบโตช้า แต่อย่างที่ข้าพูดไป เจ้าจะเข้าใจมากขึ้นเมื่อเจ้าก้าวเข้าสู่เส้นทางดังกล่าว”
จากนั้นวิลเลียมก็นั่งลงบนพื้นและหยิบแผ่นกระดาษออกมาจากใต้เสื้อ
“ข้าจะให้เคล็ดการฝึกฝนทะเลแห่งสติกับเจ้า และให้เจ้าเลือกศิลปะการต่อสู้กับวิธีการบำรุงรักษาร่างกายที่ไม่เกี่ยวข้องกับตันเถียนที่นอกเหนือจากสิ่งที่ข้าแบ่งแยกให้เจ้าฟัง การดาษเหล่านี้เป็นเพียงแค่คำอธิบายเคล็ดทั่วไปเท่านั้น เข้ามาอ่านใกล้ๆ อย่างละเอียด จำไว้ว่า จงเลือกสิ่งที่สอดคล้องกับบุคลิกและความต้องการของเจ้า”
ก่อนที่เขาจะวางกระดาษลงบนพื้น โนอาห์ก็คุกเข่าลงตรงหน้าเขา
‘เจ้าเด็กบ้านี่ก็ไม่ได้วิ่งไวไปกว่าตอนที่วิ่งหนีข้าสักเท่าไหร่หรอกนะ’
วิลเลียมถอนหายใจ และเสริมต่อ
“จงจำไว้ เจ้าจะต้องเปลี่ยนวิธีการบำรุงรักษาร่างกายเมื่อตันเถียนปรากฎ และศิลปะการต่อสู้ใช้”ลมหายใจ“เพื่อแสดงถึงพลังที่แท้จริง ตอนนี้เจ้าถูกจำกัดไว้ด้วยวิธีที่เจ้าสะสมในอยู่ในร่างกาย”
หลังจากกล่าวคำเตือนสุดท้าย เขาก็วางกระดาษลงบนพื้น พร้อมกับการบำรุงรักษาร่างกายไว้ทางขวา ส่วนศิลปะการต่อสู้ไว้ทางซ้าย และมองลูกศิษย์กำลังอ่านข้อความบนกระดาษด้วยดวงตาที่เร่าร้อน เหมือนกับว่าโนอาห์จะกลืนกินกระดาษตรงหน้าเพียงจ้องมอง
‘เขามีความตั้งใจของผู้ฝึกตนที่แน่วแน่ เจ้าจะไปไกลได้แค่ไหนกันนะ’
*ตันเถียน - ทุ่งนาที่เพาะปลูกยาอายุวัฒนะ" จุด dantian จะอยู่ประมาณ 1.3 (หนึ่งจุดสามนิ้ว) ใต้สะดือ (อาจารย์บางท่านก็ว่าอยู่ต่ำกว่านี้หรือสูงกว่านี้ จนสูงไปอยู่ระดับเดียวกับสะดือก็ว่าได้)