WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 371
ติดตามผู้แปลได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล
ทั้งสามหารือกันก่อนที่สุดท้ายจะตัดสินใจหยุดพัก ขณะเดียวกันกองกำลังบางส่วนก็ถูกส่งไปลาดตระเวนเพื่อจับตาดูความเคลื่อนไหวของพวกกอล็อก
ทั้งเซียวอวี๋ นิโคลัสและลีโอนาโดต่างไม่ใช่คนเขลา พวกเขารู้ว่าพวกกอล็อกจะต้องโจมตีอีกครั้งในตอนกลางคืน ที่พวกเขาต้องติดอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ก็เนื่องเพราะพวกกอล็อก เดิมทีทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาเพียงต่อสู้อยู่กับสัตวอสูรทั่วๆไป ทว่าตอนนี้พวกเขาตระหนักแล้วว่าพวกเขากำลังเผชิญหน้ากับ เหล่า "อสุรกาย" ซึ่งในด้านการวางแผนนั้น พวกมันไม่ได้ด้อยไปกว่ามนุษย์เลย นั่นเป็นเหตุผลที่ทุกคนตัดสินใจจะพักผ่อนให้มากที่สุดจนกว่าการต่อสู้จะเริ่มอีกครั้งในตอนกลางคืน
พวกเขาไม่อาจตั้งค่ายพักแรมได้เพราะการต่อสู้อาจปะทุขึ้นได้ทุกเวลา ดังนั้นทั้งหมดจึงเพียงนั่งพักเอาแรง บ้างก็นำอาหารออกมากิน กระนั้นพวกเขาก็ยังคอยสอดส่องใต้เท้าของตนเองเป็นพักๆ นั่นก็เพราะว่าพวกกอล็อกอาจจะโผล่ขึ้นมา
เซียวอวี๋ไม่ได้กังวลมากนักเนื่องเพราะรอบกายของเขามี คาร์น กรอม ทิรันด้าและฮีโร่คนอื่นๆ หากว่าพวกกอล็อกตัดสินใจโจมตี เช่นนั้นพวกมันก็ไม่อาจกลับไปทั้งมีชีวิต! เช่นเดียวกับกองกำลังอื่นๆ เซียวอวี๋สั่งให้คนของเขานั่งพักเอาแรงรอทำศึกอีกครั้ง พื้นที่โดยรอบล้วนเป็นบึงทอดยาวไร้ที่สิ้นสุด ไม่มีพื้นที่สูงที่สามารพักค้างแรมได้ ยิ่งไปกว่านั้นพวกกริฟฟ่อนยังไม่อาจบินอยู่บนฟ้าได้ตลอด สถานการณ์เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง เซียวอวี๋ให้พวกกริฟฟ่อนลงมาพักบนพื้นและสั่งให้พวกออร์คคอยคุ้มครองพวกเขา เหล่ากองกำลังทางอากาศนั้นเปราะบางอย่างยิ่งเมื่ออยู่บนพื้้น กรณีที่เกิดเหตุขึ้น เซียวอวี๋ได้กำชับให้พวกออร์คให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของหน่วยรบทางอากาศเป็นกลุ่มแรก เขายังสั่งให้พวกออร์คโยนพวกเขาเพื่อลดเวลาที่ใช้ในการบินขึ้น
ไม่นาน นิโคลัสและลีโอนาโดก็เข้ามาปรึกษาหารือ นอกจากนี้ยังมีดวงตาแดงฉานหลายคู่เฝ้าจับจ้องมองดูพวกเขาอยู่จากรอบทิศ แน่ชัดแล้วว่าพวกกอล็อกกำลังเฝ้าคอยโอกาสที่จะเข่นฆ่าเข้ามา
"เซียวอวี๋ สายตาของพวกเอลฟ์นั้นสามารถมองผ่านความมืดได้ดีที่สุด พวกเขาจะต้องแจ้งเตือนคนอื่นๆหากพวกเราถูกโจม ตี มิเช่นนั้นพวกเราจะตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน" นิโคลัสกล่าวพลางมองมาที่เซียวอวี๋๊ นิโคลัสกังวลว่าเซียวอวี๋จะใช้ดอกาสนี้ริดรอนกำลังของเขาและลีโอนาโด
เซียวอวี๋คลี่ยิ้ม "เจ้าคิดว่าข้าจะกระทำเรื่องต่ำช้าเช่นนั้นหรือ? แน่นอนว่าข้าย่อมต้องเข้าใจสถานการณ์โดยรวม พวกเราได้รวมกันเป็นพันธมิตรแล้ว ดังนั้นข้าย่อมไม่ปล่อยให้คนของพวกเจ้าตาย"
ลีโอโดกล่าวอย่างโมโห "คนของเจ้าแทบจะไร้รอยขีดข่วน ขณะที่คนของพวกเราล้มตายไปมาก! อย่าได้ใช้พวกเราเป็นเครื่องเบิกทาง!"
เซียวอวี๋ไม่ได้ใส่ใจมากนัก เขากังวลสนใจเพียงคนของเขาเท่านั้น ตราบที่คนของเขายังอยู่รอดปลอดภัย เช่นนั้นเขาก็ยังคงมีความสุข แน่อนนว่าเขาไม่ได้เศร้าโศกกับการตายของเหล่าศัตรู ผู้ใดใช้ให้พวกเขาเลือกนายผิดกันเล่า?
ทั้งนิโคลัสและลีโอนาโดต่างก็ไม่ล่วงรู้ความคิดของเซียวอวี๋ มิเช่นนั้นพวกเขาคงชักดาบฟันใส่เซียวอวี๋ไปเนิ่นนานแล้ว
"ไม่ต้องวิตกไป...พวกริซาร์ดแมนยังไม่โจมตีเข้ามาหรอก ข้าเชื่อว่าพวกมันคงรอให้ฟ้ามืดสนิทเสียก่อน เจ้าคิดว่าพวกมันจะมาพร้อมกลยุทธ์ใหม่หรือไม่?" เซียวอวี๋เอ่ยถามพลางหันไปมองนิโคลัส
ทั้งนิโคลัสและลีโอนาโดต่างลอบสาบานว่าจะต้องหาโอกาศทำให้เซียวอวี๋ต้องหลั่งโลหิตให้จงได้ ซึ่งความจริง พวกเขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มาพักใหญ่แล้ว ทว่าตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ในบึงที่เต็มไปด้วยอันตราย ดังนั้นจึงทำได้เพียงรอคอยโอกาสอันเหมาะสม
นิโคลัสเปลี่ยนหัวข้อหันไปให้ความสำคัญเกี่ยวกับการรบที่กำลังจะเกิดขึ้นแทน พวกเขาจะเสียเปรียบอย่างมากเนื่องเพราะทัศนวิสัย เทียบกับเผ่าพันธุ์อื่นๆในยามค่ำคืนแล้ว มนุษย์นับว่าอ่อนแอยิ่ง กระทั่งผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่สี่หรือแม้แต่ห้าก็ยังยากที่จะสอดส่องได้ไกล พวกเขาเพียงพึ่งได้แต่สัญชาตญาณและณานรับรู้เพียงเท่านั้น
กระนั้นการต่อสู้ก็ยังจะต้องเกิดขึ้น และพวกเขาต้องเร่งแก้ไขปัญหานี้ พวกเขาระดมความคิดและตัดสินใจจะมใช้พลังของผู้ใช้มนตราแก้ขัดไปก่อน บอลเพลิงของผู้ใช้มนตรา และเวทแสงของอูเธอร์สามารถสาดส่องได้บริเวณหนึ่ง จะอย่างไรอูเธอร์ก็อยู่ว่างตลอดอยู่แล้ว ดังนั้นเซียวอวี๋จึงไม่ได้คัดค้านแต่อย่างใด
นอกจากนี้เซียวอวี๋ยังคิดที่จะตรวจสอบด้วยว่าพรของอูเธอร์จะสามารถใช้กับคนของนิโคลัสและลีโอนาโดได้หรือไม่ด้วย ซึ่งในช่วงที่คับขันเซียวอวี๋ก็ยังจะสามารถใช้พลังของพวกเขาได้อีกด้วย
"ปัญหาเรื่องแสงสว่างเป็นอันตกไป...แต่เรื่องที่พวกมันจะโผล่ขึ้นมาจากพื้นเล่า? พวกเราจะจัดการอย่างไร? พวกมันจะทำลายสมาธิของไพร่พลไปหมดหรือ?" เซียวอวี๋เอ่ยถาม พื้นดินแถวนี้ค่อนข้างหนา แต่นั่นก็ยังไม่อาจรับรองได้ว่าพวกกอล็อกคลั่งจะไม่อาจทะลวงพื้นขึ้นมา นอกจากนี้ผู้ใดจะทราบได้ว่าตอนกลางคืนยังจะมีสิ่งมีชีวิตเผ่าพันธุ์อื่นๆนอกจากพวกกอล็อกอีกหรือไม่?
"พวกเราไม่อาจทำอย่างไรได้ พวกเราต้องจัดตั้งรูปขบวน ให้ส่วนหนึ่งต่อสู้ ขณะที่อีกส่วนพักเอาแรง เราจะสลับสับเปลี่ยนเช่นนี้ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นทางเลือกที่มีโอกาสที่จะยันกับพวกมันจนถึงนรุ่งสางได้มากที่สุด จากนั้นพวกเราค่อยคิดกันอีกที" นิโคลัสตอบกลับ เขาทราบว่านี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาขุนข้องหมองใจกัน เป้าหมายของพวกเขาคือต้องผ่านพ้นคืนนี้ไปให้ได้
เซียวอวี๋เองก็คิดเช่นเดียวกัน จากนั้นทั้งสามก็พูดคุยถึงรายละเอียดก่อนจะแยกย้ายไปพักผ่อน ขณะนี้ท้องฟ้ายังไม่มืดสนิท ยังพอมีเวลาให้พวกเขาได้พักผ่อน
หลินมู่เสวี่ยอิงแอบอยู่ในอ้อมอกของเซียวอวี๋ ขณะที่เซียวอวี่เอนกายพิงคาร์นและกรอมเพื่องีบหลับ มู่เสวี่ยก็เหนื่อยล้ามากเช่นกัน นางคอยใช้เวทมนต์โจมตีจากระยะไกล ดังนั้นจึงรู้สึกอ่อนล้า นางยังเป็นเพียงผู้ใช้มนตราขั้นที่สาม ดังนั้นพลังเวทของนางจึงไม่มากเท่าใด
นางรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่ในอ้อมแขนของเซียวอวี๋ นางรู้ว่าเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อปกป้องนาง ไม่นานก็ม่อยหลับไป
เซียวอวี๋ไม่รู้ว่าเขางีบหลับไปนานเท่าใด แต่เขาถูกทิรันด้าปลุกขึ้นมา นางเป็นหนึ่งในหน่วยลาดตระเวนและนางจะมารายงานเมื่อพบเห็นสิ่งใด
อันที่จริงไม่มีผู้ใดเหมาะสมกับหน้าที่เฝ้ายามในตอนกลางคืนเท่านางอีกแล้ว เนื่องเพราะทิรันด้ามีทั้งสายตาธรรมชาติของพวกเอลฟ์และทักษะตาเหยี่ยว
"หืม? เกิดอะไรขึ้น? พวกกอล็อกโจมตีหรือ?" เซียวอวี๋เปิดปากถามทันทีที่รู้สึกตัว
ทิรันด้ากล่าวตอบ "มีการเคลื่อนไหว...ดูเหมือนพวกกอล็อกกำลังรวมพล และทั่วทั้งบึงเริ่มมีหมอกปกคลุมแล้ว"
หมอก?
"บัดซบ! ลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร? พวกเราย่ำแย่แล้ว!" เซียวอวี่ตบหน้าผากและลุกขึ้น คำกล่าวของเขาค่อนข้างเสียงดัง ดังนั้นผู้คนส่วนใหญ่จึงถูกปลุกขึ้นมา
"นิโคลัส! ลีโอนาโด! ปลุกคนของพวกเจ้าเร็ว! พวกริซาร์ดแมนกำลังจะโจมตีพร้อมกับหมอก!" เซียวอวี๋ตะโกนเสียงดัง
ทั้งนิโคลัสและลีโอนาโดต่างสะท้านตื่นขึ้นมา พวกเขาหันมองไปยังทิศทางที่เซียวอวี๋ชี้ไป สายตาของพวกเขาไม่ดีนัก กระนั้นก็ยังสามารถมองเห็นหมอกเป็นชั้นๆกำลังลอยอ้อยอิ่งเข้ามา ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังไม่อาจมองเห็นข้างใน! ดูเหมือนว่าหมอกเหล่านี้จะไม่สลายไปจนกว่าจะถึงเช้า ซึ่งนั่นหมายความว่าพวกผู้ใช้มนตราและอูเธอร์ก็ไม่อาจช่วยได้มากนัก
"ทุกคนรีบลุกขึ้นเร็วเข้า! เตรียมตัวต่อสู้!" นิโคลัสและลีโอนาโดเร่งตอบสนองต่อสถานการณ์ หากว่าพวกเขาชักช้า เช่นนั้นคนของพวกเขาต้องล้มตายจำนวนมาก
เหล่าผู้เข้มแข็งจากตระกูลทรงอำนาจทราบได้ทันทีที่ตื่นขึ้นว่าพวกเขากำลังเจอวิกฤตแล้ว พวกเขารีบลุกและเตรียมพร้อมรับมือกับการต่อสู้ที่กำลังจะมาถึง
"พวกเจ้าตื่นตระหนกไปแล้ว หมอกยังมาไม่ถึงพวกเรา...การต่อสู้ยังไม่เริ่มขึ้น มันจะเริ่มเมื่อหมอกกลืนกินพวกเราทั้งหมด!" เซียวอวี๋ตะโกนด้วยเสียงอันดัง เขาเห็นว่านิโคลัสและลีโอนาโดแตกตื่นลนลานเกินไป
แต่ผู้ใดเล่ายังจะเยือกเย็นได้ในสถานการณ์เช่นนี้?
ทั้งนิโคลัสและลีโอนาโดต่างก็รู้สึกอ่อนแรง ตอนนี้พวกเขารู้แล้วว่าการดำรงอยุ่ของเซียวอวี่ได้ยกระดับความแข็งแกร่งของพันธมิตรขึ้นมาก นอกจากนี้เซียวอวี่ยังมีกองกำลังทางอากาศที่แทบจะทำให้เขาไร้ผู้ต้าน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่เซียวอวี๋จะเฉยชาไม่ตื่นตระหนกอยู่ตลอดเวลา
จะเกิดอะไรขึ้นหากหมอกเข้าปกคลุมพวกเขาทั้งหมด? เซียวอวี๋มีหน่วยรบทางอากาศ ทั้งยังมีมังกร! มังกรยังสามารถกระพือปีกพัดไล่หมอกไปได้!
อย่างไรก็ตาม ทั้งสองนั้นเข้าใจเซียวอวี๋ผิดไป เซียวอวี๋ไม่ได้คิดที่จะใช้กองกำลังทางอากาศในการต่อสู้ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เนื่องเพราะมันเปล่าประโยชน์
หมอกนั้นโอบล้อมมาจากทุกทิศทาง ดังนั้นจึงเปล่าประโยชนืที่จะพัดมันไป
พวกผู้ใช้มนตราเริ่มร่ายเวทบอลเพลิงเพื่อเพิ่มแสงสว่าง กระนั้นทัศนวิสัยโดยรอบก็ยังพร่าเลือนไม่ชัดเจน
ยิ่งไปกว่านั้นพวกผู้ใช้มนตรายังไม่อาจใช้เวทได้อย่างสุรุ่ยสุร่ายเพราะพวกเขาไม่มีน้ำยามานามากมายเฉกเช่นเซียวอวี๋
นอกจากนี้เซียวอวี๋ยังไม่แจกจ่ายน้ำมานาให้กับพวกเขา เนื่องเพราะพวกเขาคือศัตรูในภายภาคหน้า! แม้ว่าเขาจะใจดี แต่ก็ยังไม่โง่
บอลเพลิงสาดออกไปโดยรอบเข้าไปในหมอก ทั้งหมดเริ่มขยับเคลื่อนย้ายเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกหมอกกลืนกินไป พวกเขาทราบว่าภายในหมอกนั้นย่อมต้องมีพวกกอล้อกที่น่าหวาดหวั่นหลบเร้นอยู่
ที่พวกเขาไม่ทันฉุกคิดก็คือ หากว่าพวกกอล็อกคลั่งมีจำนวนมากมายมหาศาล เช่นนั้นกลุ่มพันธมิตรก็คงกลายเป็นอาหารของพวกมันไปเนิ่นนานแล้ว
เมื่อเห็นว่าผู้คนเริ่มเกาะกลุ่มกันแน่นเกินไป เซียวอวี๋ก็ตะโกนเสียงดัง "กระจายตัวออกไป! อย่าได้เบียดเสียดกัน เว้นระยะห่างให้มีพื้นที่ต่อสู้พอจะไม่ทำร้ายเพื่อนร่วมรบ!"
ทั้งหมดเริ่มปฏิบัติตามเมื่อได้ยินคำสั่งของเซียวอวี๋ นิโคลัสและลีโอนาโดเองก็ปฏิบัติตาม แม้ว่าพวกเขาจะเกลียดชังเซียวอวี๋ ทว่าคำแนะนำของเขาก็ถูกต้อง
สีหน้าของเซียวอวี๋มืดหม่นลงเมื่อเห็นว่าหมอกกำลังเคลื่อนตัวเข้าปกคลุมพวกเขา หมอกเหล่านี้ย่อมไม่เรียบง่ายดังที่เห็น
ในเวลาเดียวกันนั้นเองก็มีเสียงคำรามดังขึ้นจากที่ห่างไกล...