ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปRC:บทที่ 2 หลินเฟิงผู้โชคร้าย

RC:บทที่ 1 ฟ้าผ่าอย่างประหลาด


RC:บทที่ 1 ฟ้าผ่าอย่างประหลาด

ในตอนบ่ายที่มีแสงแดดเจิดจ้า อากาศภายนอกดูเหมือนจะร้อนและแห้งแล้ง ชายหนุ่มอายุราวยี่สิบปีกำลังนั่งอยู่ข้างบ่อบำบัดน้ำเสีย เขากำลังมองไปที่บ่อบำบัดน้ำเสียด้วยใบหน้าอันเศร้าสร้อย

ชายหนุ่มคนนี้ คือ หลินเฟิง เขาเพิ่งจะสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัย เขาจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่ค่อนข้างมีชื่อเสียงในสาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม หลังจากจบการศึกษาเขาได้เข้าทำงานในบริษัทป้องกันสิ่งแวดล้อมเล็กๆ แห่งหนึ่ง

งานหลักคือการบำบัดของเสีย การฝังกลบ การทำของเสียให้บริสุทธิ์และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตามเนื่องจากการที่เขาขาดประสบการณ์ทำงาน เงินเดือนจึงน้อยนิด เป็นงานที่เหนื่อยและสกปรก ซึ่งเกือบจะดูเหมือนกับพวกคนงานก่อสร้าง

“กริ๊ง กริ๊ง!” ในตอนนี้ อยู่ๆ โทรศัพท์มือถือของหลิงเฟิงก็ดังขึ้น

“ฮัลโหล นั่นใครน่ะ!”

หลินเฟิงไม่ได้มองดูชื่อที่โทรเข้าแต่เขายกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู แต่อีกฝ่ายกลับไม่พูดอะไรเป็นเวลานาน

“เฮ้ย นั่นใครน่ะ?” ฉันจะวางสายแล้วนะถ้าไม่ยอมพูด!” ในตอนนี้หลินเฟิงกำลังอยู่ในอารมณ์หดหู่ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมพูด หลินเฟิงก็เกือบจะวางสาย

“หลินเฟิง เราเลิกกันเถอะ!”

ฝ่ายตรงข้ามเงียบเสียงเป็นเวลานานเมื่อหลินเฟิงกำลังจะวางสาย อยู่ๆ เสียงของฝ่ายตรงข้ามก็ลอดออกมาจากโทรศัพท์

“อะไรนะ ฉันไม่ค่อยได้ยินเลย!” หลินเฟิงแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน จริงๆ แล้ว หลินเฟิงไม่เพียงแต่ได้ยินมันแต่ยังได้ยินอย่างชัดเจนอีกด้วย และเขายังรู้อีกว่าอีกฝ่ายคือใคร นั่นก็คือแฟนสาวของเขานั่นเอง

“ฉันพูดว่า เราเลิกกันเถอะ เราไม่เหมาะสมกัน!” เขาจึงพูดด้วยเสียงอันดังใส่โทรศัพท์ว่า

“โอ้ ที่นี่ลมแรงมากเลย ฉันไม่ได้ยินเลยนะ!” หลินเฟิง ไม่เข้าใจว่าทำเขาถึงได้อกหักแบบกระทันหันเช่นนี้ เขารู้สึกกระอักกระอ่วนใจเล็กน้อยที่จะยอมรับเรื่องนี้

“นี่นายหูหนวกงั้นหรือ? ฉันพูดว่า เราเลิกกันเถอะ! ฉันไม่ได้รักนายแล้ว ฉันไม่ต้องการอยู่กับนาย ตอนนี้ดังพอหรือยัง!”

ในเวลานี้ เธอคำรามใส่โทรศัพท์เสียงของเธอนั้นดังขนาดที่ว่าถ้าหลินเฟิงยกโทรศัพท์ออกห่างจากหูกว่าครึ่งเมตรก็ยังคงได้ยินเสียงนั้น จนเขารู้สึกหูตึง

“นี่เธอ นี่เธอแน่ใจอย่างนั้นหรือ?” หลังจากที่เงียบไปนาน หลินเฟิงพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ

“แน่นอน ร้อยเปอร์เซ็นต์ อยู่กับคนอย่างเธอมันไม่มีอนาคต นั่นคือทั้งหมดที่เราต้องทำ” หญิงสาวฝั่งตรงข้ามพูดอย่างดูถูกเหยียดหยัน

ความจริงแล้ว ระหว่างเวลาที่อยู่ด้วยกัน หลินเฟิงเองก็รู้ว่าเขาเป็นเพียงแค่คนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเธอและไม่ได้เหมาะสมกับเธอเลยแม้แต่น้อย เขาเป็นคนหัวโบราณและมัธยัสถ์ เนื่องจากสถานการณ์ที่บ้านของเขาค่อนข้างแย่ พ่อแม่ของเขาไม่ใช่คนร่ำรวย และแม่ของเขาก็กำลังป่วย และเศรษฐกิจของครอบครัวขึ้นอยู่กับพ่อของเขาเพียงคนเดียว

แต่แฟนสาวของเขานั้นต่างกับเขา ถึงแม้ว่าฐานะทางบ้านของเธอไม่ถึงกับร่ำรวย แต่ก็ดีกว่าของหลินเฟิง ดังนั้นเธอพัฒนานิสัยของเธอจนกลายมาเป็นคนใช้เงินมือเติบ ตามล่าหาชื่อเสียงและความร่ำรวยมาตั้งแต่วัยเด็ก

เห็นได้ชัดว่าหลินเฟิงไม่สามารถที่จะให้สิ่งเหล่านี้แก่เธอได้ในปัจจุบันนี้ แต่พวกเขากลับเข้ากันได้มาสักพักได้อย่างไรกัน? เขารู้สึกลังเลเล็กน้อยที่จะแบ่งปันสิ่งเหล่านี้ ท้ายที่สุดเขาก็ได้ลงทุนทั้งเวลาและพลังงานไปมากมายแล้ว

“ทำไมล่ะ? บอกเหตุผลฉันที!” แม้ว่าฝ่ายตรงข้ามจะมีความชัดเจน แต่หลินเฟิงก็ยังลังเลมาก

“ทำไมงั้นหรือ? นายอยากถามฉันงั้นหรือ? ได้ ในเมื่อนายต้องการเหตุผล ฉันก็จะตอบให้! ก็เงินเดือนที่น้อยนิดของนายแค่สามสี่พันหยวนต่อเดือนยังไม่มากเท่ากับฉันที่เป็นผู้หญิงเลยด้วยซ้ำ นายไม่สามารถแม้แต่ที่จะดูแลตัวเองได้ แล้วนายจะเอาที่ไหนมาดูแลให้ฉันอยู่ด้วยได้? มันไม่พอให้ฉันซื้อเครื่องสำอางเลยด้วยซ้ำ” หญิงสาวที่ปลายสายพูดออกมาอย่างบ้าคลั่ง

หลินเฟิงจบการศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมการป้องกันสิ่งแวดล้อม ดังนั้นหลังจากจบการศึกษา เขาจึงได้เข้าทำงานในบริษัทป้องกันสิ่งแวดล้อมเล็กๆ แห่งหนึ่ง เป็นเพราะว่าเพิ่งจะจบการศึกษาเงินเดือนของเขาจึงยังคงน้อยมาก ซึ่งเป็นจำนวนประมาณ 3,000 หยวน ซึ่งบางครั้งเขาก็ถูกยักยอกโดยเจ้านายของเขาเอง

“ถึงแม้ว่ามันจะโอเค แต่สิ่งที่ทนไม่ได้อีกต่อไปก็คืองานของนายที่ทำอยู่ในทุกๆ วัน มีแต่กลิ่นเหม็นของขยะ หรือกลิ่นเหม็นของคูคลองที่เน่าเหม็น ฉันเบื่อหน่ายกับมันจริงๆ” ฝ่ายตรงข้ามพูดด้วยน้ำเสียงขยะแขยง

เป็นเพราะว่างานของเขามักจะสกปรกและมีกลิ่นเหม็น และแฟนสาวของเขาก็ดูเหมือนว่าจะรับไม่ได้กับงานที่เขาทำและอาจจะรังเกียจเลยด้วยซ้ำ

“เมื่อไรก็ตามที่เพื่อนของฉันถามว่าแฟนทำงานอะไร ฉันรู้สึกอายที่จะตอบพวกเขา เพราะว่าฉันไม่สามารถที่จะพูดได้ว่าแฟนของฉันทำงานเป็นคนเก็บขยะ”

“ฉันเบื่อหน่ายกับเรื่องพวกนี้จริงๆ นะ ฉันน่ะรูปร่างก็ดี หน้าตาก็ดี มีคนมากมายที่เข้าแถวมาจีบฉัน แล้วทำไมฉันต้องมาไล่ตามนายด้วย! พอกันทีกับความสัมพันธ์แบบนี้!” แล้วหญิงสาวก็วางสายไป

“ฮัลโหล ฮัลโหล...” หลินเฟิงไม่ทันได้ตอบโต้อะไรขณะที่อีกฝ่ายวางสายไป

“ตู๊ดตู๊ด ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกสายไม่ว่าง...”

“ตู๊ดตู๊ด ขอโทษค่ะ หมายเลขที่ท่านเรียกสายไม่ว่าง...”

หลินเฟิงไม่ต้องการที่จะโทรกลับไปอีกเป็นครั้งที่สอง แต่มันแสดงให้เห็นในการโทรได้ชัดเจนว่าหน้าจอของเขาดำมืด

“โอ้ ฉันนี่มันโง่จริงๆ ใครบอกว่าฉันจะไม่เปลี่ยนแปลงเพื่อเธอในเมื่อฉันเองก็รักเธอ? ใครกันที่บอกว่าอย่าผิดคำสาบาน? พระเจ้า ทำไมท่านจึงไม่สับเธอออกเป็นชิ้นๆ!” หลินเฟิงรู้สึกโกรธมาก เขาขว้างโทรศัพท์ลงบนพื้นหญ้าและกล่าวด้วยความโกรธ

“เปรี้ยง (เสียงแตกปะทุ!)” ทันใดนั้นก็มีเสียงฟ้าร้อง

ดูเหมือนว่าพระเจ้าทรงได้ยินคำขอของหลินเฟิง มันยังคงชัดเจน และกลายเป็นเมฆทึบไปในทันใด เหนือหัวของเขา กลุ่มเมฆสีดำก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อให้เกิดกระแสน้ำวนสีดำขนาดใหญ่ จุดศูนย์กลางของกระแสน้ำวนมีทั้งฟ้าร้องและฟ้าฝ่า เสียงของฟ้าร้องฟ้าผ่าแกว่งไกวอยู่ในวงพายุนั้น

“เหี้ย เกิดอะไรขึ้นกันนี่? พระเจ้านี่พระองค์มาจริงๆ!”

เมื่อเห็นท้องฟ้าที่เปลี่ยนไปอย่างฉับพลัน หลินเฟิงก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แล้ว

“ทำไมฉันถึงรู้สึกเหมือนกำลังจะโดนสับ? มีแผนอีกตั้งสามสิบหกแผน! เร็วเข้า!” หลินเฟิงพูดด้วยหัวใจที่รู้สึกละอาย

ตูม!

เมื่อหลินเฟิงรู้สึกว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติและกำลังจะหนี เขาวิ่งไปได้เพียงแค่สองก้าว ทันใดนั้นสายฟ้าที่รู้สึกเหมือนแขนหนาๆ ก็พาดลงมาจากท้องฟ้าและฟาดมาที่ตัวของเขา

“โอ้ย พระเจ้า ท่านทำพลาดซะแล้ว ผมขอให้ท่านลงโทษเธอ ทำไมท่านถึงได้มาลงโทษผม!” มันสายเกินไปแล้วที่จะวิ่ง หลินเฟิงจึงรีบนอนลงบนพื้นดิน

“เปรี้ยง!”

หลินเฟิงตกตะลึงโดยฟ้าผ่านั้น โชคดีที่ฟ้าผ่านั้นไม่โดนตัวเขา แต่กลับฟาดไปที่โทรศัพท์มือถือของของเขาแทน ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็พังและแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และหายไปต่อหน้าต่อตาของเขา

เกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่บนพื้นดินที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางหนึ่งเมตรแล้วยังคงมีกลุ่มควันสีฟ้าลอยอยู่บนพื้นดิน ซึ่งมีกลิ่นเหม็นไหม้ ในเวลานี้ขาของหลินเฟิงนั้นเป็นแผลและเขาลุกขึ้นยืนไม่ได้

“ฉัน ฉัน มือถือของฉัน!” หลินเฟิงรู้สึกเจ็บปวดมากและเขาก็กำลังเลือดออก เขาพูดอย่างตะกุกตะกัก

โทรศัพท์มือถือของเขาเป็นสมาร์ทโฟนที่เขาต้องอดข้าวเพื่อเก็บเงินถึง 2,000 หยวนเพื่อซื้อมันมา ในเวลาที่เขาเห็นว่าโทรศัพท์ของเขาพังนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีเทาและเขาก็ต้องเสียเงินเดือนซื้อใหม่อีกแล้ว

ขณะที่หลินเฟิงเศร้ามาอยู่นั้น ทันใดนั้น เศษเล็กเศษน้อยของมือถือของเขาก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง

เขาเห็นชิ้นส่วนโลหะรวมตัวกันอีกครั้งและทันใดนั้นก็มีแสงสีขาวสว่างวาบขึ้นซึ่งทำให้รู้สึกปวดตา จนหลินเฟิงต้องรีบยกมือขึ้นมาปิดตาของเขาไว้

จากนั้นไม่นานหลินเฟิงจึงค่อยๆ ลดมือลง ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ก็ปรากฏขึ้น ลอยอยู่ตรงหน้าของหลินเฟิงและเปล่งประกายเจิดจ้า

โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้ดูเหมือนกับถั่วสองซีกซึ่งไม่เหมือนแค่เพียงแต่รูปลักษณ์เท่านั้น แต่ยังรวมถึงขนาดด้วย และในตอนนี้มันเป็นของใหม่แกะกล่องเลยทีเดียว

“เอ๊? นี่ฉันตาฝาดไปหรือเปล่า เกิดอะไรขึ้น? โทรศัพท์มือถือเครื่องนี้มันกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปแล้วนี่นา? ทำไมมันถึงกลับกลายมาเป็นเหมือนเดิมได้แล้วยังดูยังกลับเครื่องใหม่แกะกล่องแบบนี้! นี่ฉันไม่ได้ฝันไปใช่ไหม!”

หลินเฟิงรู้สึกสับสน เขารู้สึกเหมือนว่าเขากำลังฝันอยู่ ในเวลานี้ โทรศัพท์มือถือของเขากำลังลอยอยู่ตรงหน้าของเขา มันหยุดอยู่กลางท้องฟ้าและหมุนคว้างอยู่อย่างนั้น หลินเฟิงเอื้อมมือออกไปหยิกตัวเขาเอง ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกเจ็บ

“นี่ฉันไม่ได้ฝันอยู่นี่นา! แต่ปรากฏการณ์นี้ไม่ใช่หลักวิทยาศาสตร์ จะอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นได้อย่างไร! อะไรคือแรงโน้มถ่วงที่ดี? มันไม่ได้มีอยู่จริงในตอนนี้เลย?”

ตรงหน้าของเขานี้ สิ่งที่เห็นได้ล้มล้างการรับรู้ของเขาอย่างสิ้นเชิง เขาไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน

ในตอนแรก มือถือของเขาแตกออกเป็นเสี่ยงๆ และมันก็กลับมาเป็นเหมือนในตอนแรก และมันยังคงลอยอยู่บนอากาศได้ในตอนนี้

ถ้านิวตันรู้เรื่องนี้เข้า คงแทบจะลุกออกมาจากโลงเลยทีเดียว

“พระเจ้า ทั้งหมดนี้คงไม่เป็นไรใช่ไหม?”

หลินเฟิงรู้สึกเขินอายเล็กน้อย เขาค่อยๆ เอื้อมมือไปสัมผัสโทรศัพท์มือถือที่ลอยอยู่ตรงหน้าของเขา