ตอนที่แล้วบทที่ 246 - สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ... (6) [11-09-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 249 - สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ... (9) [15-09-2020]

บทที่ 248 - สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ... (8) [13-09-2020]


บทที่ 248 - สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ... (8)

ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์พุ่งตรงเข้าไปหามันในทันทีหลังจากนั้น อย่างที่ฉันได้คิดเอาไว้เลยมันได้ปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าของล็อทเต้และเปิดปากออกมา

[นี้คือสำหรับหางของข้า]

"แกจะไม่ได้แตะล็อทเต้หรอก"

ฉันแทบจะไปป้องกันล็อทเต้ไม่ทัน แต่ว่าโชคดีที่ฉันรู้ก่อนว่ามันจะเข้าไปหาใคร ฉันจึงได้ปาหอกไปที่เพดานปากของมันในทันที

[ข้าจะไม่พลาดซ้ำสองแน่]

"ฉันก็เหมือนกัน"

ก่อนที่หอกของฉันจะโดนมัน มันได้ปล่อยแสงสีฟ้าออกมาจากท้องและยิงสายฟ้าจำนวนมากออกมา หอกโกลาหลได้เสียพลังและถูกผลักกลับมา ฉันได้คิดดเอาไว้แล้วว่าเรื่องนี้มันจะต้องเกิดขึ้น ฉันได้ดึงเอาพลังวิญญาณสัมบูรณ์และโคจรวงจรเพรูต้าในทันทีด้วยความมั่นใจ

"ไพก้าทุ่มทั้งหมดออกไป"

[ไม่ต้องห่วงนายท่าน เชื่อในตัวข้าที่เชื่อในนายท่าน]

วงจรเพรูต้าได้หมุนปั่นอย่างรุนแรงและวังวนได้หมุนรอบๆตัวฉัน สายฟ้าที่ทรงพลังของราชาแห่งการจำศีลได้ถูกดูดเข้ามาในวงจรเพรูต้าและไหลอยู่ในร่างกายของฉัน ถ้าหากฉันขยับล็อทเต้ก็จะถูกสายฟ้านี้โจมตีอีกครั้งแน่ๆ เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่มีใครต้องบาดเจ็บจากสายฟ้านี้อีกฉันได้วางแผนที่จะรับเอาสายฟ้าทั้งหมดนี้มาด้วยตัวเอง

[เจ้าอยากจะตายงั้นหรอ]

"แกอยากจะฆ่าฉันด้วยสายฟ้าแบบนี้งั้นหรอ ฝันไปเถอะน่า"

วังวนขนาดยักษ์ที่ฉันได้สร้างขึ้นมันได้บังมุมมองของฉัน แต่ว่ามันคือสิ่งที่ดีที่สุดที่จะหยุดการเคลื่อนไหวและสายฟ้าของราชาแห่งการจำศีล แต่ถึงแม้ว่าจะผ่านการหมุนวนที่ทรงพลังของวงจรเพรูต้าแล้วมันก็ยังดูเหมือนจะต้องการทำลายร่างกายของฉัน ฉันได้เร่งความเร็วขึ้นโดยไม่ลังเลได้ ด้วยวังวนเพรูต้านี้ทำให้สายฟ้าของราชาแห่งการจำศีลเล็งมาที่ฉันเพียงคนเดียว

"ฟู่....ฮ่าห์"

ฉันได้ทนต่อความเจ็บปวดเอาไว้เพื่อให้ไพก้าส่งสายฟ้านี้มาในร่างของฉันและโคจรวงจรเพรูต้าเพื่อจัดการกับมานาเหล่านี้อย่างเหมาะสม นอกไปจากนี้ก็ยังเปลื่ยนพลังของศัตรูมาเป็นของฉันแทนด้วยวิญญาณสัมบูรณ์

ฉันได้เปิดตาสีทองและตะโกนออกมา

"ไปกันเถอะ"

[เจ้าโง่ เจ้าคิดว่าดวงตามารของเจ้าจะหยุดข้าได้หรอ]

"ฮ่าาาาาาห์"

ในไม่ช้าสายฟ้าที่บ้าคลั่งส่วนหนึ่งของราชาแห่งการจำศีลได้เริ่มขยับตามการควบคุมของฉัน สายฟ้าสีน้ำเงินได้เริ่มเปลื่ยนไปสีทอง ราชาแห่งการจำศีลได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจ

[ดวงตามารของเจ้าควบคุมสายฟ้าได้]

"ฉันก็หวังแบบนั้น"

ถึงแม้ว่าร่างกายของมันจะปล่อยสวายฟ้าออกมามากยิงขึ้น ฉันก็รับสายฟ้าพวกนั้นมาทั้งหมดโดยไม่ลังเล พลังชีวิตของฉันได้ลดลงในขณะที่พลังเวทย์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉันได้ใช้พลังเวทย์นี้ฟื้นความเสียหายที่ร่างกายของฉันได้ มันเป็นการเปลื่ยนแปลงของทั้งมานาและพลังชีวิต วงจรเพรูต้าที่ฉันใช้ได้รักษาอวัยวะภายในเอาไว้

[สามีที่รัก คุณจะตายนะถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป]

"ไม่ต้องห่วงฉันหรอก ดูแลล็อทเต้ไปแล้วก็โจมตีราชาแห่งการจำศีลในตอนที่มีโอกาส"

[ลาลาล่าล๊า~]

ในขณะนั้นเสียงร้องที่ฟังไม่ออกก็ดังขึ้นในหัวของฉัน เสียงร้องเพลงของพลีนได้ดังขึ้นมา เสียงของเธอได้ทำให้ฉันสงบขึ้นและเติมเต็มพลังในร่างกาย

สายฟ้าสีทองส่วนใหญ่ได้หมุนรอบๆร่างกายฉันด้วยวงจรเพรูต้าและปะทะเข้ากับสายฟ้าสีน้ำเงินที่โจมตีฉันอย่างต่อเนื่อง ฉันได้ถือหอกขึ้นมาอีกครั้ง ในตอนนี้ราชาแห่งการจำศีลดูจะยอมแพ้ที่จะกินล็อทเต้ไปแล้วทำให้มันเข้ามาหาฉันด้วยสายตาแน่วแน่

[ข้าไม่รู้ว่าเจ้ารู้จักราชาลาวาได้ยังไง แต่ข้าจะทำให้เจ้าจำใส่สมองเอาไว้ว่าข้าแข็งแกร่งกว่ามัน]

"เข้ามาสิ"

ราชาแห่งการจำศีลได้หายตัวไปอีกครั้งในทันที สำหรับคนที่ครอบครองชื่อที่เปราะบางอย่างราชาแล้วแต่มันกลับทำตัวเหมือนกับนักฆ่าที่ต่ำต้อย

สายฟ้าสีทองได้พุ่งขึ้นมาเนื่องจากฉันได้ใส่มันลงไปในหอกและปล่อยออกไปข้างหน้า สายฟ้านี้ไม่ได้สลายไปเพียงแค่เพราะฉันอยู่ใต้น้ำ มันเหมือนกับลำแสงเลเซอร์ สายฟ้าของฉันได้พุ่งเข้าใส่ปากของราชาแห่งการจำศีลที่โผล่มาในทางที่ฉันโจมตีไป ดูเหมือนว่าแม้มันจะใช้สายฟ้าได้แต่มันก็ไม่สามารถจะป้องกันสายฟ้าได้เนื่องจากว่าผิวปากของมันได้ถูกเผาจนเป็นสีดำ มันได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจ

[เจ้ารู้ได้ยังไงกัน]

"ก็เพราะกลิ่นแกเหม็นมากไงล่ะ"

[ก๊าซซซซซซ]

สายฟ้าบริสุทธิ์ได้ส่งประกายออกมาราวกับว่าจะต้มน้ำมหาสมุทรรอบๆ ฉันได้คิดที่จะแทงหอกออกข้างหน้าทันทีในตอนนั้นเองฉันก็ตระหนักได้ว่าฉันควรจะใช้พลังใหม่ที่ได้มา

"ตรีศูล"

[ตรีศูลได้สถิตอยู่ภายในหอกของคุณเป็นเวลาห้านาที เทคนิคหอกของคุณเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ ในตอนที่โจมตีมีโอกาส 10% ที่จะสร้างความเสียหายต่อเนื่องสามครั้ง]

เมื่อฉันได้ใช้พลังของพระศิวะ ตรีศูล แสงออร่าสีแดงก็ส่องลงมาบนหอกโกลาหลของฉัน เพียงแค่ผลข้างเคียวของตรีศูลก็ทำให้พลังของเทพมาสภิตอยู่ในอาวุธของฉันเป็นเวลา 30 นาทีมันก็น่าทึ่งแล้ว นี้มันหมายความว่าฉันสามารถจะฆ่าศัตรูของโลกได้โดยไม่ต้องใช้โอเวอร์ลอร์ดอีกด้วย

[ออร่านั่นเป็นของเทพที่อันตราย]

ตัวตนของราชาแห่งการจำศีลได้หายไปอีกครั้งหนึ่ง ฉันได้เหวี่ยงตรีศูลออกไปอย่างไม่แยแสและยิงออร่าสีแดงออกไป

"หยุดซ่อนตัวแล้วมาสู้กันตรงๆได้แล้ว"

[ก๊าาาาา]

ลูกบอลสายฟ้าสีน้ำเงินขนาดใหญ่ได้พุ่งมาทางฉัน ราชาแห่งการจำศีลได้ปรากฏตัวขึ้นมาด้านบนของฉันและพ่นสายฟ้าออกมา ไม่ใช่ว่ามันเป็นกระเบนหรอกหรอ

[ความสามารถในการใช้สายฟ้าไม่ใช่สิ่งที่มนุษย์จะมีได้]

"แต่ว่าแกกำลังจะตายเพราะมนุษย์คนหนึ่ง"

ฉันได้ใช้พลังของวงจรเพรูต้าหุ้มร่างของฉันเอาไว้ด้วยความเชื่อมั่นและพุ่งไปด้านหน้าทางบอลสายฟ้า ในตอนนั้นเองลิโคไรท์ก็ได้ใช้เวทย์ของเธอ เพราะว่าเธอไม่ได้โจมตีมาซักพักแล้ว ฉันจึงคิดว่าเธอคงจะใช้เวทย์ใหญ่ขึ้น แต่แล้วกลับเป็นฉันที่เดาผิด ออร่าสีแดงจากเวทย์ของเธอได้ลอยเข้ามาทางฉัน

[อย่าตายนะสามีที่นัก]

"อะไรนะ ฉันได้บัฟอีกแล้วหรอ"

ในตอนที่เวทย์ของลิโคไรท์โดนฉัน ฉันรูสึกได้ว่าทุกๆสิ่งในโลกกำลังวิ่งเข้าหาฉัน

[เวทย์ระดับสูงของราชินีซัคคิวบัส 'ความรัก' ทำงาน ความสัมพันธ์กับทุกๆอย่างในโลกเพิ่มขึ้น การเพิ่มขึ้นจะเพิ่มตามสัดส่วนเสน่ห์ของผู้รับ]

พระเจ้า ฉันเข้าใจได้เลยว่าทำไมเธอถึงได้ใช้เวลาร่ายเวทย์นี้เป็นเวลานาน เมื่อเธอรู้ว่าไม่สามารถจะทำอะไรกับราชาแห่งการจำศีลได้มากนัก เธอได้เลือกที่จะใช้เวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุดมาสนับสนุนฉันแทน

ค่าความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่เป็นปัจจัยที่น่าสะพรึงในการต่อสู้ เพียแค่มีความสัมพันธ์กับสักอย่างเพิ่มขึ้น ทักษะการควบคุมธาตุจะเพิ่มขึ้นและความต้านทานธาตุนั้นๆก็จะเพิ่มขึ้นด้วย บอลสายฟ้าขยาดยักษ์ของราชาแห่งการจำศีลไม่ได้น่ากลัวอีกต่อไปแล้ว นอกจากนี้เนื่องจากความสัมพันธ์กับน้ำของฉันก็เพิ่มด้วยทำให้การเคลื่อนไหวของฉันกลายเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น ยิ่งความสัมพันธ์กับสิ่งต่างๆมากยิ่งขึ้นมันยิ่งทำให้เกิดปาฏิหารย์ขึ้นได้

ในเวลาต่อมาฉันก็ได้ปะทะเข้ากับบอลสายฟ้า ฉันได้ยินเวลาใครบางคนร้องออกมา แต่ว่า...

[เจ้าจะไม่มีเวลาแม้แต่รู้สึกเจ็บ]

"แน่นอนว่า...ไม่"

บอลสายฟ้าขยาดยักษ์ได้ถูกดูดเข้าไปในร่างกายของฉันอย่างช้าๆ วงจรเพรูต้าก็ยังหมุนวนด้วยความเร็วรุนแรงมากยิ่งกว่าครั้งก่อนๆและไต้ฝุ่นคลั่งที่ได้รับการเสริมพลังขึ้นขั้นหนึ่งจากพลังของตรีศูลก็ได้หมุนวนปล่อยออร่าที่แข็งแกร่งกว่าเดิมออกมา

[เพรูต้า - ไต้ฝุ่นคลั่งได้กลายเป็นเลเวล 5 คุณสามารถกระตุ้นกรไหลเวียนของวงจรเพรูต้าได้ด้วยหอกของคุณอย่างสมบูรณ์แบบ คุณได้รับพื้นฐานในการตัดหรือแบ่งพลังใดๆก็ตามในโลกได้]

"เหมาะเหม็งเลย"

บอลสายฟ้าได้เริ่มหดตัวลงและเปลื่ยนสี สิ่งที่ฉันทำก็ไม่ได้มีอะไรมาก ด้วยพลังที่ลิโคไรท์ให้ฉันมาทำให้ฉันสามารถจะควบคุมสายฟ้ายังไงก็ได้ตามที่ฉันต้องการ แม้ว่ามันจะเป็นพลังของศัตรูของโลกก็ตามที

"สายฟ้า...อยู่ภายใต้การควบคุมของฉัน"

"ย๊าาาาาาาาา"

[คุณได้ใช้เสียงคำรามเยือกแข็ง ศัตรูทั้งหมดในสนามรบจะถูกแช่แข็งอยู่กับที่ พรรคพวกทั้งหมดจะได้รับสถานะสุดยอดเกราะและพลังทั้งหมดเพิ่มขึ้น 50% ชั่วคราว คุณจะมีโอกาสโจมตีติดคริคอลเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อโจมตีศัตรูที่ได้รับผลของเสียงคำรามเยือกแข็ง]

[มันไม่ได้ผลมากนักกับศัตรูของคุณ]

[เจ้าคิดว่าเสียงคำรามระดับนั้นจะมีผลกับข้าหรอ]

แม้ว่าจะมีพลังของเสียงคำรามเยือกแข็งแต่สายฟ้าของมันก็ยังคงรุนแรงขึ้น ฉันได้เบิกตาขึ้นในขณะที่เปลื่ยนสายฟ้ามาเป็นของฉัน ด้วยไต้ฝุ่นคลั่งฉันได้บังคับดึงสายฟ้าที่ฉันไม่สามารถจะควบคุมได้อย่างเต็มกับลังและใส่มันลงไปในหอกของฉัน ในทันทีที่ฉันทำแบบนั้นฉันก็ทำเพียงแค่ยิงพลังที่เก็บในหอกออกไป

"กินนี่ไปซะ ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ ฮีโรอิค สไตรค์"

ฉันไม่ได้แทงหอกออกไปหรือโยนมัน ไม่เลยแม้แต่นิด ตราบใดที่ฉันรวบพลังทั้งหมดไว้ในจุดๆเดียวแล้วปล่อยมันออกไปในรูปแบบออร่า ฉันก็สามารถจะเรียกมันได้ว่าฮีโรอิค สไตรค์แล้ว

ฮีโรอิคสไตรค์เวอร์ชั่นใหม่นี้ได้ส่องแสงสว่างออกมาจากสุดยอดเทคนิคหอกและการควบคุมมานาทำให้เห็นถึงประสิทธิภาพในทันที ออร่าสีเงินแพตตินัมได้ถูกยิงผ่านอากาศออกไปเหมือนเส้นแสงและโดนเข้ากับราชาแห่งการจำศีลตรงๆ

การโจมตีนี้ได้ทะลุปากของราชาแห่งการจำศีลและผ่านไปจบลงตรงที่ห่างของมัน การโจมตีนี้แตกต่างไปจากการโจมตีก่อนหน้านี้ที่เพียงแค่เผามันเอามากๆ มันแตกต่างกันเหมือนกันปืนพกและปืนไรเฟิล

ถึงแบบนั้นการโจมตีก่อนหน้านี้ก็ใช้มานาถึง 100,000 มานาจากมานาสูงสุด 180,00 มานา แต่ว่าด้วยจำนวนมานาที่ฉันได้รับมาจากการโจมตีด้วยสายฟ้าของมันนี้มันไม่ใช่ปัญหาใหญ่นัก

[ก๊าซซซซซซซซซ]

"ฉันยังไม่ได้บอกแกอีกหรอว่าฉันควบคุมสายฟ้าได้"

[อย่า... อย่าคิดว่าเจ้าจะยโสได้เพียงแค่การสร้างแผลเล็กๆนี้]

ด้วยแบบนั้นมันก็ได้หายไปอีกครั้งหนึ่ง ร่างกายที่มีขนาดใหญ่ที่มากพอจะกลืนบ้านกิลด์ของเราลงไปง่ายๆได้ลบเลือนหายไปจากโลกนี้อย่างสมบูรณ์

[ข้ายอมรับ]ฃ

เสียงของมันได้ดังขึ้น

[ข้าคือราชาทั้งห้าที่อ่อนแอที่สุด]

ฉันได้ยิ้มกวางออกมา ในท้ายที่สุดแล้วสายฟ้าของมันก็ถูกควบคุมโดยฉันได้ไหล่ด้วยสีทองผ่านวงจรเพรูต้า ทำไมน้ำถึงรวมอยู่ด้วยล่ะ น้ำก็ยังอยู่เป็นชั้นอยู่เหนือสายฟ้าสีทองหมุนเวียนรอบตัวฉันเป็นวังวน ฉันรู้สึกได้เลยว่าฉันได้เชี่ยวชาญวงจรเพรูต้าขึ้นอีกนิดหน่อย

[ทุกคนต้องการให้ข้าตายและต้องการจะเอาฉายาราชาไปจากข้า]

"ฉันมั่นใจเลยว่าพวกนั้นทำแบบนั้น"

มันไม่ได้สนใจในคำพูดแดกดันของฉันและพูดต่อไป

[แต่ว่าข้าก็รอดมาจนนับไม่ถ้วนและได้มาถึงที่โลกแห่งนี้ ถ้าเจ้าอยากจะรู้ ข้าก็จะบอกเหตุผลนั้นให้เจ้าได้รู้]

แขนซ้ายของฉันได้ถูกเจาะในทันที จู่ๆมันก็เกิดขึ้นโดยไม่มีร่องรอยใดๆทิ้งไว้

[สามีที่รัก]

"อย่าเข้ามาใกล้ ระวังตัวเอาไว้"

พื้นที่ที่มันเจาะนั้นมันเล็กมากจนผ่านช่องว่างของเกราะฉันมาได้ นอกไปจากนี้มันยังเป็นความจริงที่ว่าการโจมตีนี้มันทะลุแขนของฉัน ฉันได้ฝืนทนความรู้สึกเจ็บปวดและถือหอกเอาไว้ ความรู้สึกภายในแขนซ้ายของฉันมันแปลกๆ มันจะไม่หายเองโดยธรรมชาติแต่ฉันก็รู้สึกว่ามันไม่ได้จะอยู่นานนัก ฉันจำเป็นจะต้องใช้อิลิกเซอร์ที่อยู่ในช่องเก็บของ เพื่อที่จะใช้มันได้ฉันจะต้องฆ่าราชาแห่งการจำศีล

[ต่อไปก็หัวใจ]

"โอเวอร์ลอร์ด"

ฉันได้รีบใช้โอเวอร์ลอร์ดอย่างรวดเร็ว ฉันก็บมันไว้ไม่ได้อีกต่อไปแล้ว การต่อสู้นี้จะต้องจบลงไปในห้านาที ไม่สิ นาทีเดียวเท่านั้น

[เจ้ามีออร่าที่ทรงพลังจริงๆ เจ้าสมแล้วที่เรียกตัวเองว่าฮีโร่ ยังไงก็ตามพลังที่แข็งแกร่ง...]

ขาซ้ายของฉันได้ถูกทะลวงอีกแล้ว ฉันได้กัดฝันแน่นเอาไว้และปลุกพลังของโอเวอร์ลอร์ด สายฟ้าสีทองที่อยู่รอบๆตัวฉันได้ถูกย้อมเป็นสีดำ วงจรเพรูต้าที่อยู่ในร่างของฉันได้ส่งเสียงออกมา

[...จะกลายเป็นอ่อนแอลงเมื่อเจ้าไม่ระวังตัว ข้าสงสัยจังเลยว่าพลังที่อยู่ตรงหัวใจนั้นจะอยู่นานแค่ไหน ต่อไปก็ต้นขา]

ต่อมาต้นขาของฉันก็ถูกเจาะในทันที พลังงานอินิกม่ากำลังเดือดพล่านแต่ว่าก็ยังไม่สามารถที่จะป้องกันการโจมตีของราชาแห่งการจำศีลได้ ฉันไม่มีตัวเลือกแล้ว สำหรับในตอนนี้ฉันไม่สามารถป้องกันการโจมตีได้เลยแม้แต่นิด

[อึก พลังนี่มันทรงพลังจริงๆ คนที่สามารถจะมาคุกคามราชาอย่างเราได้...ไอเวรนี่ การทำตามคำสั่งของเขามันชั่งเจ็บปวด ดังนั้นข้าจะต้องฆ่าฮีโร่ที่นี่และกินพลังของโลกมา]

คราวนี้เป็นท้องของฉัน แค่ๆ ฉันแทบจะเสียการควบคุมโอเวอร์ลอร์ด แต่ฉันก็กัดฟันแน่นและเร่งวงจรของมานาขึ้น ราชาแห่งการจำศีลได้ระเบิดหัวเราะออกมา

[คุฮ่าฮ่า ความมั่นเมื่อตะกี้ไปไหนซะแล้วล่ะ เจ้ามีเคล็ดลับอะไรที่จะต่อแขนเจ้าไหม ใช้เจ้าสิ่งที่เจ้าเรียกว่าทักษะซะสิ มันน่าขำจริงๆเมื่อได้เห็นเจ้าใช้พลังงานที่เหมือนๆกันแต่ว่าเรียกชื่อมันต่างกัน คุฮ่าฮ่าฮ่า]

แขนขวา จากนั้นก็หน้าแข้ง หลังจากโดนโจมตีอีกสองครั้ง ฉันก็สูญเสียการควบคุมโอเวอร์ลอร์ด พลังที่อยู่ภายในหอกของฉันมันมากเกินกว่าจะพูดว่าน้อย แต่ว่าหากไม่มีเป้าหมายมันก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้

[เจ้าเตรียมตัวตายหรือยัง]

"อึก....ไอเวรแกนี่เหมือนแมลงเลย"

[แมลง...เหมือนกับคนที่กำลังดิ้นรนอย่างแกอะไรแบบนี้]

มันกำลังมา มันเล็งที่หัวใจของฉัน

ฉันได้เปิดตากว้างและเปิดใช้งานความเร็วศักดิ์สิทธิ์ในทันที ฉันได้ใช้ทักษะสังเวย เสริมพลังด้วยรอยสักโอเกอร์สองหัวที่เพิ่มพลังโจมตีให้กับทักษะโจมตีระยะประชิด และใช้ทักษะกลืนกินหลังจากที่ยืนยันนว่าพลังชีวิตลดลงต่ำกว่า 10% ในเวลาเดียวกันฉันก็ล้มเลิกการป้องกันทั้งหมดและเน้นไปที่การโคจรวงจรเพรูต้าให้ไปสู่ไต้ฝุ่นคลั่ง มีเพียงสิ่งเดียวเท่านั้นที่เหลือให้ทำ

ฉันได้แทงหอกออกไปด้านหน้า หอกได้พุ่งตรงไปโดยที่ไม่สั่นแม้แต่นิดและทันใดนั้นเองก็หยุดลง ยังไงก็ตามพลังงานที่ไม่สิ้นสุดที่เก็บอยู่ในหอกก็ถูกใช้ออกไปอย่างสมบูรณ์ เมื่อแรงกระแทกกลับมาอีกสองครั้งดูเหมือนจะผลของตรีศูลจะใช้ได้ผล

[ติดคริติคอล]

[แค่กๆ]

ฉันได้ไอเลือกออกมา เนื่องจากว่าเลือดของฉันได้ไหลออกมาผ่านน้ำออกมาอย่างมาก ฉันจำเป็นจะต้องดื่มโพชั่นถ้าหากว่าฉันยังไม่อยากจะตาย

[จะ เจ้ารู้...ได้ยังไง...อึก]

เคียวยักษ์ได้ปรากฏขึ้นกลางอากาศตัดไปที่ๆว่างเปล่าก่อนจะหายไป

นั่นแหละ เมื่อตอนก่อนหน้านี้มันต่างออกไป แต่ว่าหลังจากที่ฉันได้โจมตีด้วยที่อย่างที่มีโดยที่ไม่สนใจอะไรแล้วแม้แต่จักรพรรดิแห่งการจำศีลก็ยังไม่น่าจะรอด แล้วนี่จะนับประสาอะไรกับราชาแห่งการจำศีล

[การจู่โจมที่ยิ่งใหญ่สำเร็จ]

เมื่อได้ยินเสียงของพี่สาวส่งข้อความขึ้นฉันได้หยักหน้ารับและพูดออกมา

"นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันเรียกแกว่าแมลงไง"

เพราะแบบนี้มันจึงจบลงด้วยการที่ฉันเอาชนะศัตรูด้วยตัวเองเพียงลำพัง ถ้าหากว่ามันยังไม่ตายฉันก็คงจะต้องจบลงด้วยการกลายเป็นรังผึ้งแน่ๆ ให้ตายเอ้ย

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด