ตอนที่แล้ว47 ติงหลิงตาง
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป49 สัตว์อสูรคริสตัล เสี่ยวจี๋

48 คำเชิญจากสถาบันการสงครามต้าฮวง


48 คำเชิญจากสถาบันการสงครามต้าฮวง

“เฮือก....”

หลี่เย้ารู้สึกราวกับว่า มือของเขากำลังถือถ่านร้อนอยู่ ถึงแม้ว่าเขาจะทนทรมานจากชุด “กิฟอัพ” มาได้ถึงหนึ่งเดือน แต่เขาก็ยังต้องรู้สึกประหลาดใจและสูดหายใจลึกด้วยความเจ็บปวด!

“แรงบีบของเธอไม่เลวเลย ฉันได้จับมือกับนักเรียนมาก่อนหน้านี้ไปเจ็ดหรือแปดคน ทุกคนต่างก็ร้องไห้ออกมาเพราะความเจ็บ! มีคนหนึ่งถึงกับฉี่รดกางเกงด้วยนะ...นักเรียนภาคตะวันออกเฉียงใต้น่ะ อ่อนแอจนเกินไป เตะที่เดียวก็รับไม่ไหวแล้ว แต่เธอคือข้อยกเว้น!” ติงหลิงตางปล่อยมือออกและพูดขึ้นมาด้วยความพอใจ

หลี่เย้าสะบัดมือของเขา เขารู้สึกเจ็บจนพูดไม่ออก

ในที่สุดเขาก็เข้าใจในเวลานี้เอง ว่าทำไมถึงไม่มีใครกล้าเข้ามาในบูธของสถาบันการสงครามต้าฮวงเลยสักคน

ถ้าเขารู้ก่อนหน้านี้ การไปบูธของสถาบันเทียนฮ้วนเพื่อดูสาวๆกับเจิ้งตงหมิงยังจะดีซะกว่า...

ในขณะที่ความคิดของเขากำลังเตลิดออกไปไกล กลิ่นหอมโดยธรรมชาติก็ได้ตรงเข้าสู่จมูกของเขา ติงหลิงตางได้ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เขาอย่างกะทันหัน ทั้งปาก จมูก และดวงตาของทั้งสองอยู่ในระดับเดียวกัน ดวงตาทั้งสองข้างของหญิงสาวนั้นเบิกกว้างและจ้องมองมาอย่างดุร้าย ดวงตาคู่นั้นจับจ้องมาที่หลี่เย้าด้วยระยะห่างเพียงแค่เส้นผมกั้นบางๆเท่านั้น

“อะไร คุณทำอะไรน่ะ?”

หลี่เย้าตกตะลึง แผ่นหลังของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ผู้หญิงที่ดุร้ายราวกับสัตว์ป่าคนนี้ทั้งบ้าดีเดือดและเปิดเผย แต่ละอย่างที่เธอได้ทำลงไป ล้วนไม่สามารถจินตนาการตามได้เลย

แต่หลี่เย้าก็ไม่นับว่าเป็นคนธรรมทั่วไป เขานั้นเกิดและเติบโตอยู่ในสุสานอาร์ติเฟ็กซ์ คนแปลกประหลาดแบบไหนบ้างที่เขาไม่เคยได้พบเห็น?

ความรู้สึกที่ราวกับกำลังถูก “จูงจมูก” อยู่นั้น มันทำให้เขารู้สึกแย่มาก การกระทำที่อุกอาจของติงหลิงตางได้ปลุกสัญชาตญาณของหลี่เย้าขึ้นมา---อีแร้ง

เขาหยุดถอยหลัง และจ้องหน้าเธอตอบ โดยไม่ยอมถอยไปแม้แต่ก้าวเดียว

“ถ้าเธอจ้องฉัน ฉันก็จะจ้องเธอกลับเช่นกัน มันไม่ใช่ว่า เธอจะกินฉันตอนกลางวันแสกๆแบบนี้สักหน่อย!”

หากเขาได้จ้องหน้ากับใบหน้าของคนอื่น เช่น ใบหน้าของสาวงามนักวาดภาพที่เขาได้เจอก่อนหน้านั้น มันก็คงจะเป็นช่วงเวลาที่สดชื่นและตื่นเต้นสำหรับเขามาก

แต่ในมุมมองของหลี่เย้าในเวลานี้นั้น เขาไม่มีความรู้สึกพิศวาสในตัวของติงหลิงตางเลยแม้แต่นิดเดียว

นั่นก็เพราะสีหน้าของเธอในเวลานี้ มันทั้งอันตรายและดุร้าย ราวกับดาบที่คมปลาบ ความต้องการในการฆ่าฟันถูกปลดปล่อยออกมา และพุ่งตรงไปยังดวงตาของหลี่เย้าอย่างดุร้าย มันได้เข้าไปยังส่วนลึกในจิตใจของเขา มันได้พุ่งเข้าไปและระเบิดด้านในระบบประสาทของเขา

มันเป็นเวลาแค่ 10 วินาทีเท่านั้น 10 วินาทีที่หลี่เย้าพัวพันอยู่กับการต่อสู้ไปไม่มีวันจบสิ้น!

ทันทีที่ขาทั้งสองข้างของหลี่เย้าเริ่มอ่อนแรง และเขาไม่สามารถทนต่อไปได้อีก ติงหลิงตางก็ได้ถอนสายตากลับ เธอยิ้มกว้าง เผยให้เห็นฟันขาวเรียงสวย

ปากของเธอเบิกกว้าง พอๆกับดวงตา จมูก และหูของเธอ

รอยยิ้มของเธอนั้นดูมีเสน่ห์อย่างน่าประหลาด ราวกับแสงอาทิตย์ที่ส่องประกายระยิบระยับหลังฝนตก มันทำให้คนที่ได้มองลืมปัญหาในจิตใจไปได้ชั่วครู่ และรู้สึกถึงความสดใสของชีวิต

“น้องชาย เธอสุดยอดมากเลยนะ...แม้แต่ในสถาบันการสงครามต้าฮวง มีนักเรียนระดับต่ำแค่ไม่กี่คนหรอก ที่กล้าจ้องตากับฉันได้นานๆ! ไม่เลว! ไม่เลวเลย! ทั้งความแข็งแกร่งและจิตใจของเธอถือว่าหาได้ยากในหมู่เด็กมัธยมปลาย แล้วสัญชาตญาณของเธอก็ถือได้ว่าเฉียบคมมาก และที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ เธอสามารถต้านทานอยู่ได้ ในขณะที่ถูกครอบงำด้วยพลังการฆ่าฟันของฉัน ดี นี่เป็นเรื่องที่ดีมาก! ฉันรอมานานมากแล้ว และในที่สุดเธอก็โผล่มา!”

ติงหลิงตางกำหมัดแน่น และเกิดคลื่นพลังขึ้นในอากาศ

ศีรษะของหลี่เย้าเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ดูเหมือนว่าฝ่ายตรงข้ามจะเข้าใจอะไรผิดไป แต่ถ้าหากเขาพูดออกไปว่า เขามาที่นี่เพื่อเล่นฆ่าเวลาเท่านั้น...เขาคงจะไม่ถูกต่อยจนกลายเป็นชิ้นเนื้อหรอกใช่ไหม?

ติงหลิงตางตบไปที่ไหล่ของหลี่เย้า ทำให้ใบหน้าของเขาต้องบิดเบี้ยว เธอพูดออกมาโดยไม่ได้มองสีหน้าของเขาเลยว่า “น้องชาย สายตาของพี่สาวคนนี้ไม่เคยพลาดมาก่อน...เธอเป็นของแท้แน่นอน! เป็นยอดมนุษย์! พวกดาบบิน อาร์ติเฟ็กซ์พวกนั้น ก็เป็นของที่พวกคนอ่อนแอใช้กัน ยอดชายที่แท้จริงควรจะต้องเป็นผู้บ่มเพาะร่างกาย ฝึกฝนให้ร่างกายกลายเป็นอาร์ติเฟ็กซ์ที่แข็งแกร่ง ใช้ร่างกายที่เต็มไปด้วยเลือดเนื้อและกำปั้นเหล็กเปิดแดนสวรรค์! มาเถอะ! มาเข้าร่วมสาขาการต่อสู้ของสถาบันการสงครามต้าฮวง! ที่นี่คือสวรรค์ของเหล่าคนเลือดร้อน เราไม่เหมือนกับพวกมหาวิทยาลัยที่เต็มไปด้วยคนอ่อนแอพวกนั้นหรอก!”

หลี่เย้าเรียกความกล้าขึ้นมา และพูดออกไปว่า “ผมต้องขอโทษด้วยจริงๆนะครับ คุณ...พี่หลิง ความฝันของผมคือการได้เป็นผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์ ดังนั้น ผมเลยเตรียมที่จะสมัครเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเชินห่ายครับ!”

“อะไรนะ? ผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์อย่างนั้นเหรอ?”

ภายในพริบตาเดียว ดวงตาของติงหลิงตางก็เบิกกว้างขึ้นเป็นสองเท่าของขนาดเดิม เธอคำรามออกมาราวกับฟ้าร้อง โดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น “ด้วยร่างกายที่ยอดเยี่ยม พละกำลังที่สุดยอด แต่เธอกลับไม่อยากจะเป็นผู้บ่มเพาะร่างกาย แต่กลับเลือกที่จะเป็นผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์อย่างนั้นเหรอ? นี่มันทำให้พรสวรรค์ที่มีต้องสูญเปล่านะ!”

ศีรษะของหลี่เย้าปวดร้าว ราวกับถูกใครเอาไม้มาตี เขาถอยกรูดออกไปจนสุดเขตของบูธ โดยไม่แม้แต่กระพริบตา แล้วพูดว่า “ผมขอโทษจริงๆนะพี่หลิง ทุกคนต่างก็มีความเข้าใจในเส้นทางของการบ่มเพาะที่ต่างกันไป บางทีในสายตาของพี่ การเป็นผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์อาจจะไม่ได้แข็งแกร่งอะไรเลย แต่ในสถานที่ที่ผมเกิดและเติบโตมา ทุกคนต่างก็ใช้อุปกรณ์และอาวุธเพื่อให้มีชีวิตรอด พวกเขาใช้สมองเป็นอาวุธ...ในมือของพวกเรา แม้แต่ขวดแก้วที่เหลืออยู่ครึ่งเดียว กระดาษหนึ่งแผ่น ก็สามารถนำมาสร้างเป็นอาวุธได้! ส่วนคนที่รู้แต่วิธีใช้กำปั้น ต่างก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นาน มีเพียงแค่คนที่สามารถแย่งชิงข้าวของและนำมันมาสร้างเป็นอาวุธ ถึงจะสามารถเอาชีวิตรอดต่อไปได้! และเพราะแบบนั้น มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่า ผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์คืออาชีพที่สุดยอดมาก และมันก็เป็นอาชีพในฝันของผม ผมคงจะเข้าเรียนในสถาบันของพี่ไม่ได้ และผมก็ต้องขอบคุณที่พี่มั่นใจในความสามารถของผมนะครับ”

เขากระโดดเบาๆ และหนีออกไปจากบูธของสถาบันการสงครามต้าฮวง เขาหันหน้าไปมองและเตรียมที่จะเดินจากไป

“นี่...!” อยู่ติงหลิงตางก็ตะโกนออกมา เพื่อหยุดเขาเอาไว้

ร่างกายของหลี่เย้าแข็งทื่อและหัวใจของเขาแทบจะหลุดออกมาจากอก...หญิงสาวที่ราวกับที-เร็กซ์คนนี้ คงจะไม่ไล่ตามเขาหรอกใช่ไหม?

โชคดี ที่ติงหลิงตางไม่ได้มีความคิดที่จะไล่ตามเขา เธอก้าวเดินไปยังบาร์เบลล์ เธอชี้นิ้วออกมาและพูดว่า “น้องชาย อย่าเพิ่งรีบตัดสินใจสิ ลองกลับไปคิดดูดีดีก่อนก็ได้ เธอลองไปถามคนอื่นๆดูก็ได้ และดูว่า พวกเขาคิดยังไงเกี่ยวกับสถาบันของเรา ก็อย่างที่ทุกคนรู้กันดี...ว่าในสหพันธรัฐมีมหาวิทยาลัยชั้นยอดอยู่ทั้งหมด 9 แห่ง แปดแห่งได้ผลิตผู้ฝึกตนออกมา ส่วนสถาบันการสงครามต้าฮวงนั้น...คือสถานที่เพียงแห่งเดียวที่สร้างนักรบ!”

หลี่เย้าตกตะลึง เขารีบพยักหน้าให้กับเธอและเดินเข้าไปปะปนกับฝูงชน

ติงหลิงตางมองตามหลังเขาไป พร้อมกับเลียริมฝีปาก เธอแบมือ แล้วกำหมัดแน่น เกิดเสียงระเบิดขึ้นในอากาศที่อยู่โดยรอบกำมือของเธอดัง “ปัง!”

“แล้วเรามารอดูกัน เธอแข็งแรงและบึกบึนขนาดนี้ เธอได้ถูกลิขิตเอาไว้แล้ว ว่าเธอต้องเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันเรา ฉัน ติงหลิงตาง จะต้องจับเธอมาให้ได้!”

......

เพื่อเป็นการแสดงให้เหล่าผู้เข้าสอบรู้สึกประทับใจในสถาบันชั้นยอดทั้ง 9 แห่ง งานสัมมนาแลกเปลี่ยนจึงได้จัดตลอดหนึ่งวันเต็ม ภายในห้องโถงใหญ่ยังคงสว่างไสวและเต็มไปด้วยบรรยากาศที่คึกคัก ไปจนกระทั่งสามทุ่ม

แต่สำหรับหลี่เย้า ที่ได้เลือกมหาวิทยาลัยที่เขาต้องการได้แล้ว หลังจากที่เขาเขมือบและกินล้างกินผลาญอาหารบุฟเฟ่บนเรือธงเหลียวหยวนฮ่าว จนอิ่มหน่ำสำราญแล้ว เขาก็ได้กลับไปยังห้องพักเดี่ยวที่ถูกจักเอาไว้ให้เร็วกว่าคนอื่นๆ

ระหว่างทางที่เดินไป ภายในจิตใจของเขามีแต่ภาพใบหน้าของติงหลิงตาง ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา ผู้หญิงคนนี้ไม่นับว่าเป็นคนสวยมากมายอะไร แต่กลับสร้างความประทับใจให้กับคนที่ได้เห็นอย่างลึกซึ้ง

แต่ถึงแม้ว่าอารกระทำของเธอจะดูพิเศษ และคำพูดของเธอจะทำให้รู้สึกถึงเลือดที่เดือดพล่าน มันก็ยังคงเป็นไปไม่ได้สำหรับหลี่เย้า ที่เขาจะเข้าเรียนในสาขาการต่อสู้ ของสถาบันการสงครามต้าฮวง

เส้นทางเดินของเขาได้ถูกวางเอาไว้แล้ว—และนั่นก็คือ สาขาการสร้างอาร์ติเฟ็กซ์ของมหาวิทยาลัยเชินห่าย!

“คืนนี้ ฉันจะต้องพักผ่อนให้เยอะๆ เพื่อพรุ่งนี้ฉันจะได้มีแรงทำผลงานให้ออกมาดีได้ ฉันจะเอาชนะทุกคน ด้วยการทำลายจิตใจของพวกเขาด้วยความชาญฉลาดของฉัน ฉันจะต้องเข้าตา เซี่ยทิงเสียน แมวมองของมหาวิทยาลัยเชินห่านให้ได้!” หลี่เย้าตั้งปณิธานเอาไว้ในใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด