บทที่ 6: เสียงแตกหักอันแสนรุงแรง! ความเศร้าโศกของปริศนาแท่งไม้
บทที่ 6: เสียงแตกหักอันแสนรุงแรง! ความเศร้าโศกของปริศนาแท่งไม้
โลลิน้อยชาญฉลาดเป็นอย่างมาก พอนางรู้ว่าเฉินรุยสามารถสร้าง "ของน่าสนใจ" ได้ เมื่อวันก่อนนางจึงส่งเคียไปห้องทดลอง เพื่อบอกให้เฉินรุยทำของขวัญที่ “น่าสนใจ” อีกครั้ง
เฉินรุยอยู่ในดินแดนของคนอื่น ดังนั้นเขาจึงต้องจำยอมไปก่อน พอเป็นแบบนี้แล้ว เขาจึงร่วมมือกับอัลดาซเพื่อสร้างของอีกชิ้น วันนี้อลิซมาที่นี่เพื่อดูของขวัญของนาง ในขณะที่พาอาเธน่าผู้ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทมาด้วย
“ไม้อีกแล้วเหรอ? คราวนี้อะไรกันล่ะ?” อลิซมองดูชิ้นไม้ที่มีรูปร่างและขนาดต่างกันอย่างสงสัย
“เจ้าหญิงน้อย เรามาดูมันกันเลยดีกว่า” เฉินรุยวางแท่งไม้ไว้บนโต๊ะและประกอบเข้าด้วยกันอย่างชำนาญ ในไม่ช้าแท่งไม้ก็ถูกรวมเข้าเป็นรูปหัวใจที่สวยงามแบบสามมิติ สิ่งที่น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือ มันไม่มีรอยต่อราวกับว่ามันถูกสร้างมาให้เป็นแบบนี้อยู่แล้ว
อลิซหยิบมองไปที่มันอย่างประหลาดใจและนางก็หยิบมันขึ้นมาอย่างระมัดระวัง มันเป็นเพียงกองแท่งไม้ อย่างไรก็ตาม มันสามารถกลายเป็นสิ่งที่เล็กลงและแข็งแรงได้ หลังจากที่ประกอบเสร็จ ถ้านางไม่เห็นเขาทำขึ้นมาด้วยตนเอง นางคงคิดว่าเฉินรุยใช้กาวต่อมันเข้ากันแล้ว อาเธน่าเองก็เดินไปข้างหน้าและมองดูสิ่งที่น่าประหลาดใจนี้ ดวงตาที่มีเสน่ห์ของเคียเองก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“สิ่งนี้เรียกว่า ปริศนาแท่งไม้ มันทำจากไม้เรืองแสงสีเข้ม ความแข็งของมันเปรียบได้กับโลหะที่แข็งแกร่งมาก” เฉินรุยพูดพร้อมกับนึกถึงเรื่องนี้ในหัวของเขา ปริศนาแท่งไม้มีอีกชื่อเรียกว่า ล็อคแห่งความรัก โครงสร้างนั้นซับซ้อนจริงๆ แต่เขาก็จำได้ขึ้นใจ เพราะมันเป็นของขวัญชิ้นแรกที่เขาได้รับในวันวาเลนไทน์ อย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนกับเรื่องราวความรักในมหาลัย พอต้องทำงานอย่างหนัก ชีวิตของเขากับผู้หญิงคนนั้นก็จบลงแบบธรรมดาๆ
เมื่ออัลดาซเห็นปริศนาแท่งไม้ที่รวมตัวกันเป็นครั้งแรก เขาก็ประหลาดใจอย่างยิ่ง ทันทีนั้นเองเขาก็รู้สึกเสียใจที่ตนไปเรียนรู้ด้านการปรุงยา ถ้าเขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านกลศาสตร์เทคนิค การต่อสิ่งของแบบนี้โดยไร้รอยต่อย่อมต้องสร้างแรงบันดาลใจให้เขามากมายอย่างแน่นอน
อลิซเองก็ชอบของเล่นที่สวยงามชนิดนี้เป็นพิเศษ นางกำลังเล่นกับมันอย่างลุ่มหลงและถามขึ้นมาว่า“ปริศนาแท่งไม้นี้สามารถถูกแยกออกมาอีกครั้งได้ไหม”
“แน่นอน ความสนุกของมันก็คือการแยก ข้าเชื่อว่าด้วยความเฉลียวฉลาดของเจ้าหญิงน้อยคงไม่มีปัญหาใดเลย” ในความเป็นจริง มีบางสิ่งที่เฉินรุยไม่ได้พูดถึงด้วย ปริศนาแท่งไม้นี้ถือเป็นปริศนาที่ซับซ้อน มันยากมากหากไม่มีคำแนะนำอะไรเลย
เขาปล่อยให้โลลิตัวน้อยที่เคยหักหลังเขาเล่นมันไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า โดยที่เขาจะได้ใช้เวลาช่างนี้กับการเพิ่มค่าระบบสุดยอด
อลิซตรวจสอบมันอย่างถี่ถ้วน นางกลัวว่าตนจะเผลอไปทำลายมัน แต่การต่อกันของปริศนาแท่งไม้นั้นแน่นจนเกินไป นางไม่สามารถที่จะหาจุดที่ใช้แยกมันได้เลย แม้ว่าจะใช้เวลาไปนานแล้วก็ตาม
อาเธน่าที่อยู่ด้านข้างก็กระตือรือร้นที่จะลองและก็ได้พูดขึ้นว่า“เจ้าหญิงน้อย ขอให้ข้าลองเถิด”
อลิซแสร้งทำเป็นไม่ได้ยินพร้อมกับยังพยายามต่อไป หลังจากอาเธน่าตะโกนสองสามครั้งและไม่ได้รับคำตอบใดๆ นางก็ได้เปลี่ยนวิธีการของนาง “ดูเหมือนว่าแก้วมังกรหยกรอบทะเลสาบสีฟ้าจะใกล้ครบกำหนดแล้ว ข้าว่าข้าจะพาท่านไปที่นั่น…”
เมื่อประโยคนั้นจบลง มือที่จับปริศนาแท่งไม้ก็ได้วางลงไปต่อหน้านาง
เพียงแค่ประมาณวินาทีเดียวเท่านั้นที่เฉินรุยมอง เจ้าปริศนาแท่งไม้ก็ได้ไปอยู่บนมือของอาเธน่า ในขณะที่อาเธน่าได้เป็นคนถือของเล่นแล้ว นางก็กล่าวอย่างไม่สนใจอะไรว่า “แม้ว่าข้าจะอยากพาท่านไปที่นั่นจริงๆ ก็เถอะ แต่เจ้าหญิงเชียรู้แล้วว่าท่านตามข้าไปที่ป่าฝนสีดำครั้งก่อน ดังนั้นเจ้าหญิงเชียจึงสั่งให้ข้าไม่พาท่านออกไปจากเมืองอีก ดังนั้นแล้ว…”
อลิซได้แต่กำมือขึ้นและปล่อยมันออกมาในเวลาไม่นานนัก ใบหน้าของอลิซยามนี้เผยให้เห็นถึงรอยยิ้มอันแสนไร้เดียงสาและก็เกิดรอยบุ๋มแสนน่ารักบนใบหน้าของนาง ซึ่งเหมือนกับตอนที่นางพบเฉินรุยครั้งแรกไม่มีผิด
เฉินรุยรู้ได้เลยว่ากำลังจะมีคนกำลังโชคร้าย โชคดีที่เป้าหมายในครั้งนี้คือ อาเธน่า
“อาเธน่า เวลส์ นักดาบหญิงที่แข็งแกร่งที่สุดในเมืองพระจันทร์ดับผู้เป็นลูกสาวของนายพลคนสำคัญของอาณาจักร จอร์จ เวลส์ นางผู้นี้จะมีความสามารถในการแก้ปริศนาแท่งไม้นี้หรือเปล่านะ?” โลลิน้อยหยุดยิ้มและแสดงท่าทางจริงจัง ดูราวกับว่านางกำลังจะใช้อำนาจของการเป็นเจ้าหญิงเลย
เมื่อได้ยินชื่อบิดาของตนเอ่ยขึ้นมานั้น ก็ปานว่ากำลังถูกไล่ต้อน นางจึงได้ตอบไปว่า:“ได้แน่นอน!”
“งั้นก็เดิมพันด้วยเกียรติยศของตระกูลเวลส์ เจ้าจะต้องแก้ปริศนาแท่งไม้นี้ให้ได้ภายใน 1 ชั่วโมง!” ในที่สุดคำพูดของโลลิตัวน้อยก็ได้เปิดเผยวัตถุประสงค์ของตัวเองออกมา“ถ้าเจ้าทำไม่ได้ เจ้าจะต้องพาอลิซ ลูซิเฟอร์เพื่อนสนิทของเจ้าไปยังทะเลสาบสีเงิน อีกทั้งเจ้าก็จะต้องปกป้องนางโดยไม่คำนึงถึงความยากลำบากในการเดินทาง เจ้าทำได้ไหม?”
อาเธน่าตกตะลึงและส่ายศีรษะทันที“นั่นไม่สามารถทำได้ ท่านหญิงเชียบอกว่า…”
“คนในตระกูลเวลส์ไม่ใช่ว่าจะรักษาคำพูดของตัวเองอย่างั้นหรอกเหรอ?” อลิซแสดงความผิดหวังและส่ายหัว “ลืมมันไปเถอะ กระทั่งปริศนาแท่งไม้แสนง่ายเจ้าคงจะทำไม่ได้สินะ”
เมื่อคำนึงถึงชื่อตระกูลของนางแล้ว วิญญาณแห่งวีรบุรุษของอาเธน่าก็ได้ลุกโชนขึ้นมา นางคิดภาพที่มนุษย์ประกอบมันอย่างรวดเร็ว มันก็คงจะไม่ได้ยากขนาดนั้น จากนั้นนางก็ตอบเสียงดังว่า“ก็ได้! อาเธน่า เวลส์ยอมรับคำท้าทายนี้! ข้าจะไขมันได้ภายในไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง!”
อลิซยิ้มกว้าง ดวงตาที่แสนจะฉลาดแกมโกงของนางเหมือนสุนัขจิ้งจอกตัวน้อย แม้แต่เคียก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ นี่คล้ายกับการเดิมพันครั้งก่อนที่ป่ามืด อาเธน่าผู้น่าสงสารกำลังทำผิดพลาดซ้ำเดิม
เวลาในนาฬิกาทรายเริ่มผ่านไปนาทีแล้วนาทีเล่า เฉินรุยที่นั่งอยู่บนโต๊ะก็กำลังอ่าน“พื้นฐานของสมุนไพร” ของอัลดาซ
ส่วนอลิซก็กำลังเล่นเส้นทางฮัวหยงเวอร์ชั่นปีศาจอยู่ หมากรุกที่เพิ่งสร้างใหม่ของอัลดาซที่ดูเหมือนว่าจะยังไม่สามารถหนีจากเงื้อมมือของนางได้
ทางด้านเคียเองก็ได้ให้คำแนะนำเล็กๆ น้อยอยู่ข้างๆ เป็นครั้งคราว และท่านอาจารย์อัลดาซผู้น่าสงสารก็ได้แต่นั่งวาดวงกลมอยู่ตรงมุมห้อง
ปริศนาแท่งไม้ยังไม่ได้ถูกแก้ ตัวของอาเธน่าเต็มไปด้วยเหงื่ออยู่ “ของเล่นไม้ง่ายๆ” มันไม่ง่ายเลยสักนิดสำหรับนาง
พอสังเกตเห็นสัญญาณว่านางกำลังจะอาละวาด อลิซก็ก็ได้ตะโกนออกมาทันที“เวลาใกล้จะหมดแล้ว!”
ประโยคนั้นจุดชนวนฟิวส์ของนักดาบสาวอย่างรุนแรง ดวงตาของอาเธน่าแปรเปลี่ยนเป็นเปลวไฟทันที ผิวของนางเริ่มแดง เขาโค้งสองเขาปรากฎขึ้นบนหัวของนางอย่างช้าๆ มันเปล่งรัศมีที่แข็งแกร่งออกจากร่างกายของนาง นางกัดฟันแล้วก็พูดว่า“เกียรติยศของตระกูลเวลส์จะมาขายหน้าเพราะของพังๆ นี้ได้ยังไง…”
“แคร๊ก” ปริศนาแท่งไม้ที่ติดกันหนึบเริ่มแตกและต่อมา ไม้เนื้อแข็งสีเข้มที่เป็นโลหะก็ถูกทำลายด้วยแรงดึงที่แสนแข็งแกร่ง
ทุกคนต่างก็ตกตะลึงและมองไปที่ปริศนาแท่งไม้ที่กลายเป็นกองไม้ที่แตกสลาย อัลดาซสั่นและชี้ไปที่อาเธน่า เขาโกรธมากจนพูดไม่ออกเลย ในตอนนี้เขาได้รวมนางไว้ในบัญชีดำของห้องทดลองไว้ในใจแล้ว เพราะนั่นเป็นการดูหมิ่นภูมิปัญญาอันล้ำค่าของปรมาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่เลยนะ!
เฉินรุยเองก็รู้สึกได้ถึงอาการหนาวเหน็บไปถึงกระดูกสั่นหลัง ที่นี่มันอันตรายสำหรับเขามาก เขาจะต้องรีบกลับไปยังพื้นโลกโดยด่วน
หลังจากที่อาเธน่าทุบปริศนาแท่งไม้แล้ว นางก็ฟื้นคืนสติและอารมณ์ก็กลับสู่สภาวะเดิมของนาง จากนั้นก็ตระหนักว่าสิ่งที่ตนเองทำไป ดวงตาของอลิซกระพริบไปมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออก นอกจากนี้นางยังส่งเสียงคร่ำครวญด้วย“อาเธน่า นั่นเป็นของขวัญที่ข้าโปรดปรานเลยนะ…”
“อลิซ ข้าขอโทษ…” อาเธน่าพยายามอธิบาย แต่ไม่ว่านางจะพยายามอย่างหนักเพียงใด ปริศนาแท่งไม้ก็ไม่มีทางกลับมาเหมือนเดิมได้
อลิซไม่ได้ร้องไห้ดังนัก แต่นางก็ยังก้มศีรษะของนางด้วยความโศกเศร้า ร่างผอมเพรียวของนางสั่นจนดูเหมือนว่านางกำลังพยายามที่จะกลั้นมันไว้ อาเธน่ารู้ดีว่าอลิซกำลังเศร้าอยู่ นางจึงได้กล่าวขอโทษออกไป " อย่าเศร้าเลย เจ้าหญิงน้อย ไปทะเลสาบฟ้ากันเถอะ”
อลิซมองไปที่อีกฝ่ายด้วยตาแดงๆ แล้วก็ส่ายศีรษะ “ไม่ได้ พี่สาวของข้าได้ตำหนิข้าเพราะเหตุการณ์ที่ป่าฝนดำครั้งที่แล้ว ข้าไม่ต้องการที่จะสร้างปัญหาอีกแล้ว”
ครั้งนี้นางพยายามที่จะทำตัวเป็นแพะรับบาปงั้นเหรอ แล้วยังต้องการมากกว่าเดิมอีก! ในสายตาของเฉินรุย เขาได้ประเมินโลลิน้อยอีกครั้งหนึ่งว่านางมีจิตใจดำมืดได้เพียงใด
“มั่นใจได้เลยเจ้าหญิงน้อย ท่านเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของอาเธน่าผู้นี้ การลงโทษไม่มีผลอะไรกับข้า!” อาเธน่าตบหน้าอกของนาง จากนั้นนางก็ได้พูดออกมาด้วยความซื่อสัตย์ว่า“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องทะเลสาบสีฟ้าเลย แม้ว่ามันจะเป็นภูเขาซีหลาน ข้าก็จะปกป้องท่านเอง!”
“นั่นคือสิ่งที่เจ้าพูดแล้วนะ นอกเหนือจากทะเลสาบสีฟ้าแล้ว เจ้าจะต้องพาข้าไปที่ภูเขาซีหลานด้วย!” ในที่สุดอลิซก็เปลี่ยนจากน้ำตากลายเป็นเสียงหัวเราะ อาเธน่ารู้สึกว่ามีอะไรผิดปกติ แต่นางก็ไม่สามารถอธิบายได้ จากนั้นนางก็คุกเข่าและหยิบเศษไม้ที่แตกขึ้นมา
อลิซกระตือรือร้นที่จะไปที่ทะเลสาบสีฟ้าก็ได้เร่งเร้านาง “เจ้ากำลังทำอะไรอยู่? อาเธน่า รีบไปทะเลสาบสีฟ้ากันเถอะ”
“เดี๋ยวก่อน ขอข้าลองหาคนมาพยายามต่อชิ้นส่วนพวกนี้ก่อน”
“นั่นง่ายมากเลย” อลิซพูดอย่างไม่สนใจอะไร “ปริศนาแท่งไม้นี้ถูกทำโดยเฉินรุย ให้เขาสร้างอีกสองสามชิ้นก็ได้”
ทันใดนั้นนิ้วของอาเธน่าก็แข็งทื่อพร้อมกับเศษไม้ที่ตกลงมา พออลิซเห็นแบบนั้น นางจึงรีบพูดขึ้นมาอีกว่า" พี่สาวอาเธน่า ตระกูลเวลส์รักษาคำพูดของตัวเองเสมอนะ”
อาเธน่ายืนขึ้นอย่างคอตก ทางด้านเฉินรุยก็กำลังมองหน้าอกใหญ่ของนักดาบหญิงที่ซื่อบื้อคนนี้อยู่
ทันใดนั้นเอง เขาก็ต้องรู้สึกงุนงงหลังจากที่เขาได้ยินคำพูดของอลิซ “เฉินรุย เจ้าหญิงผู้นี้อนุญาตให้เจ้ามาด้วยนะ”
เฉินรุยส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว การออกไปข้างนอกและไปเล่นกับสาวงามควรเป็นประสบการณ์ที่น่ารื่นรมย์ เขาเองก็ต้องการแบบนั้นเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งสามคนนั้น คนหนึ่งก็ใจดำ อีกคนก็สามารถดูดวิญญาณได้ ส่วนอีกคนก็แสนจะรุนแรง เขากลัวว่าถ้าเขาได้ไปเขาอาจจะไม่สามารถกลับมาครบสามสิบสอง
“เจ้าจะทำให้ความเมตตาของเจ้าหญิงน้อยผู้นี้ผิดหวังงั้นหรือ?” อลิซตะโกนออกไปด้วยความไม่พอใจ
“เฉินรุย เจ้าคงยังไม่เคยไปอาณาจักรปีศาจ หาเจ้าหญิงน้อยเมตตาเจ้า เจ้าก็ควรจะไป” อัลดาซกล่าวขึ้นทันที “อย่าลืมกลับมาอ่าน 'หนังสือพื้นฐานสมุนไพร' ต่อล่ะ พรุ่งนี้ข้าจะสอนวิธีพื้นฐานที่สุดในการจำแนกสมุนไพร”
คำพูดของอัลดาซทำให้อลิซและผู้หญิงอีกสองคนดูประหลาดใจ เพราะนั่นหมายความว่า เฉินรุยกลายเป็นลูกศิษย์ของเขา ไม่มีการลองยาอีกต่อไปแล้ว!
อัลดาซเป็นผู้เชี่ยวชาญการปรุงยาที่มีชื่อเสียงทั่วทั้งอาณาจักรมาร แม้กระทั่งผู้ปกครองของพระจันทร์ดับ เจ้าหญิงเชียก็ปฏิบัติต่อเขาด้วยความสุภาพ แม้กระทั่งยังให้เชลยมนุษย์กับเขาเลยด้วยซ้ำ! แต่ตอนนี้ มนุษย์คนนั้นกลับเป็นถึงลูกศิษย์ของเขาแล้ว!
ถึงแม้ว่าการจะกลายลูกศิษย์ของอาจารย์อัลดาซจะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับอลิซและอาเธน่า แต่สำหรับเฉินรุย มันเป็นเหมือนกับเครื่องรางช่วยชีวิต สิ่งนี้จะทำให้เขาสามารถเปิดเผยตัวตนปกติในอาณาจักรมารได้ ซึ่งหากไม่มีมัน เขาอาจจะถูกฆ่าตายในทันที เมื่อเดินออกจากห้องทดลงด้วยรูปลักษณ์ของมนุษย์
เยี่ยมไปเลย พี่ชายคนนี้จะตอบแทนกลับไปอย่างดีเลย ความพยายามของข้าในที่สุดก็มีค่าสักที เฉินรุยมองดูอัลดาซด้วยความซาบซึ้งและยอมรับคำเชิญนั้น
ครั้งนี้อลิซไม่ได้มาวนเวียนกับเฉินรุยเหมือนครั้งก่อน นางเดินตรงไปโดยไม่สนเขาเลยตลอดทั้งทาง
เฉินรุยตระหนักแล้วว่า "คฤหาสน์" เป็นลานด้านนอกของวังเมืองพระจันทร์ดับและลานด้านในเป็นที่อยู่อาศัยของเจ้าหญิงทั้งสอง มันได้รับการป้องกันอย่างแน่นหนา โชคดีที่เขาได้พบกับอลิซในครั้งก่อน เพราะหากเขาดันไปเจอยาม เขาคงจะต้องถูกฆ่าอย่างแน่นอน
สำหรับตำนานของอาณาจักรมารนั้น มีแต่เรื่องราวว่ามารนั้นกินมนุษย์ ซึ่งเฉินรุยก็อยากรู้เกี่ยวกับอาณาจักรมารจริงๆ ซะเหลือเกินว่ามันจะเป็นเช่นไรกันแน่