ตอนที่แล้วบทที่ 235 - ผู้พิทักษ์ (5) [20-08-2020]
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 237 - ผู้พิทักษ์ (7) [24-08-2020]

บทที่ 236 - ผู้พิทักษ์ (6) [22-08-2020]


บทที่ 236 - ผู้พิทักษ์ (6)

จักรวรรดิไซออนเป็นหนึ่งในประเทศที่ยิ่งใหญ่ในทวีปไซรอนจนถูกยกย่องว่าเป็นจักวรรดิ ด้วยพลังที่ย่งใหญ่นี้ทำให้พวกเราได้รับการยกย่องอย่างไม่หยุดหย่อนจากประเทศและพวกเขายังมีกองทัพอัศวินและจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งคอยปกป้องจักวรรดิจากทั้งมนุษย์และมอนสเตอร์ที่จะมาคุกคามความปลอดภัย แน่นอนว่าประชาชนส่วนใหญ่ของจักรวรรดิไซออนก็เป็นมนุษย์

"ก่อนที่บุ๊ควอร์คเกอร์จะบุกรุก พวกเขาเป็นศัตรูของจักรวรรดิเซลโลน"

"ทำไมหรอ"

"เอลฟ์เทามีรูปลักษณ์ที่สวยงาม น่าหลงใหล"

"ถ้างั้นจะไปพูดสั้นๆและ--- อะแฮ่ม"

"คนของจักวรรดิได้ใช้เอลฟ์เทา...เป็นทาสเซ็กส์"

เดซี่ได้ผงกหัวของเธอและพูดต่อออกมาอย่างปกติ ฉันได้ก้มหน้ากัดฟันและมองไปที่เธอ จากนั้นหลินก็พูดออกมาด้วยรอยยิ้มขมขื่น

"ถ้างั้นการบุกของบุ๊ควอร์คเกอร์ก็ทำให้พวกนั้นต้องกลายเป็นพวกเดียวกัน"

"แม้แบบนั้นพวกเขาก็ยังสู้กันต่อไป เจ้าพวกเวรนี้ได้รับสิ่งที่สมควรได้รับ"

เดซี่ได้อธิบายอย่างโมโหด้วยการเตะออกไปใส่อากาศ แรงสะท้อนที่ดังเสียดออกมาทำให้แสดงเห็นว่าเธอไม่ชอบไฮเดลเซินมากแค่ไหน

"โดยเฉพาะเจ้าโรเดิท ไฮเดลเซินที่น่ารำคาญ ดวงตาที่น่าคนลุกนั่น ยิ่งคิดเกี่ยวกับหมอนั่นมากเท่าไหร่ยิ่งน่ารำคาญมาก เจ้าคนผิดปกตินั่น"

"ถ้างั้นทำไมผู้หญิงแบบซิปัวถึงชอบเขาล่ะ"

"มนุาย์ไม่แย่มาตั้งแต่เกิดนะ เขาจะต้องเปลื่ยนไปแน่นอน นอกไปจากนี้ถ้าหากคู่รักมองเพียงแค่นิสัยของอีกคน ไม่ใช่ว่าคู่แต่งงานทุกคนต้องเป็นนักปราชญ์หรอ"

"ชิ"

ฉันเพียงแค่ถามออกไปเฉยๆ แต่ว่านั่นมันได้แสดงออกถึงความด้อยประสบการณ์ในด้านความรักของฉัน.... ระหว่างเดซี่กับหลิน ไม่ใช่ว่าฉันอยู่ในจุดที่อ่อนแอสุดหรอ

ในตอนนี้พวกเรากำลังอยู่บนหลังของลาน่า ลาน่านั้นเร็วเทียบเท่าได้กับล็อทเต้ที่วิวัฒนาการมาแล้วด้วย ฉันงงมากที่เจ้าหมูตัวเล็กนี้มันมาเร็วแบบนี้ได้ยังไง แต่ว่ามันเป็นเรื่องที่ง่ายมากๆ เดซี่ได้ตั้งสมาธิส่งพลังเวทย์ของเธอไปให้กับลาน่า

เนื่องจากว่าเราได้คุยกันในก่อนหน้านี้แล้วว่าหลังของลาน่าไม่ได้ใหญ่มากนะทำให้พวกเราจะต้องเบียดกัน หลินได้อยู่ข้างหลัง ฉันอยู่ตรงกลาง และเดซี่ก็อยู่ด้านหลังของฉัน

"คังชินอย่ามาติดฉันมากสิ นายทำให้ฉันได้กลิ่นแปลกๆและมันน่ารำคาญนะ"

"นายก็พูดแบบนี้ด้วยหรอหลิน ฉันพยายามจะคควบคุมมันเหมือนกันนะ"

"นายกินอากาศบริสุทธิ์หรืออะไรแบบนี้หรอ"

"อย่าได้ล้อฉันเหมือนกับพ่อฉันนะ"

ในตอนที่ฉันได้ตะโกนใส่หลิน เดซี่ก็พูดออกมาเบาๆ

"ฉันอยากจะเอาลากิออกมา"

"ลากิ อะไรล่ะนั่น"

"มันเป็นศัตรูของโลกที่เราได้เปลื่ยนมันมาเป็นอันเดท"

หลินได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจ

"อย่าทำนะ ถ้าเธอทำแบบนั้นพวกมันจะสังเกตุเห็นเราในทันที"

"แม้ว่ามันจะเป็นพวกตัวอ่อนแอหรอ"

"อ่อนแอตูดฉันสิ มันจะไม่มีอะไรแบบนั้นแน่ในตอนที่ศัตรูของโลกมาถึง เธอ มันดูเหมือนว่าเธอจะต้องได้รับการอบรบเกี่ยวกับฮีโร่ใหม่แล้ว"

"นายเคยสอนฉันด้วยหรอ"

เดี๋ยวนะ ในตอนที่ฉันคิดถึงมัน บางทีตอนนี้เขาก็อาจจะกำลังแนะนำฉันด้วย... แต่เพราะฉันไม่อยากยอมรับมัน ฉันจึงทำเพียงแค่เงียบไว้ ในตอนนั้นเองเดซี่ก็ขัดขึ้นมา

"บุ๊ควอร์คเกอร์จะมาเป็นกลุ่ม ข้อมูลของฉันถูกรู้แล้ว มันจะมาเพื่อจับฉัน"

"จับเธอหรอ"

"บุ๊ควอร์คเกอร์มีเพศหญิงน้อย เมื่อที่จะสืบพันธุ์ต่อไปเผ่าอื่นๆจึงถูกนำมาใช้"

"อึก"

"พวกมันมีข้อมูลของฉัน มันจะถือว่าจับได้ง่าย"

ใบหน้าของเดซี่ดูสงบมากในตอนที่เธอพูดเรื่องนี้ ที่เธอได้ตอบกลับไปเพราะเธอยังไม่มั่นใจในความแข็งแกร่งของหลินงั้นหรอ ฉันรู้สึกงงเล็กน้อยและจากนั้นเดซี่ก็พูดออกมา

"ข้อมูลจะไม่มีวันหายไป แม้อย่างนั้นด้วยความต่างกันหนึ่งระดับทำให้มันต้องใช้เวลาพักหนึ่งในการปรับตัวเนื่องจากว่าฉันได้พัฒนาขึ้นมามาก"

"อ่า ฉันเข้าใจแล้ว"

"ฉันเป็นเพียงคนเดียวที่ถือครองดวงตามาร และชื่อที่แท้จริงของเทพ ดังนั้นมันจึงการที่จะคำนวณและปรับตัว"

"ถ้างั้นแม้ว่าพวกนั้นจะรู้ว่ามีชื่อของเทพและดวงตามาร มันก็ยังยากที่พวกนั้นจะจดบันทึกลงไปในหนังสือและหาทางมาตอบโต้งั้นสินะ"

"ใช่แล้ว นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ฉันอยู่รอดมาได้นานขนาดนี้"

มันดูเหมือนว่ามันจะเป็นเรื่องปกติระหว่างศัตรูของโลก แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องง่ายที่จะสวนกลับระบบของดันเจี้ยน แต่ว่าพลังดั้งเดิมจากดันเจี้ยนก็ยังอยู่เหนือการควบคุมอย่างชื่อที่แท้จริงของเทพ ดวงตารมารและพลังมานาอินิกม่ามันก็เป็นการยากที่ศัตรูของโลกจะโต้กลับได้... แม้ว่าฉันจะมีคำถามอื่นอีกในหัว แต่ว่าในตอนนี้ฉันมีอีกคำถามที่อยากจะถาม

"เดซี่ฉันขอถามอะไรซักอย่างได้ไหม"

"แน่นอน เหมือนว่าฉันจะรู้คำตอบ... หน้าอกของฉันใหญ่เกินไป"

"ฉันไม่ได้อยากจะรู้ขนาดหน้าอกของเธอซะหน่อย แต่ว่ามันก็ใหญ่จริงๆแหละ"

"...นายรู้ได้ยังไง"

"ตอบได้ดีนี่คังชิน ที่ๆกระสุนของฉันจะไปอยู่ส่วนไหนมันจะขึ้นอยู่กับคำตอบของนาย"

"นายตัดสินใจที่จะยิงฉันแล้วหรอ"

ฉันได้ขุดหลุมฝังตัวเอง...! ฉันเพียงแค่พูดไปตามจริงจากสิ่งที่เห็นจากเดซี่ในตอนแรกเองนะ ให้ตายสิถ้าโรเล็ตต้ารู้เรื่องนี้เขา ตาของฉันต้องอยู่ในอันตรายอีกแน่...! ฉันได้แต่เปลื่ยนหัวข้อไปอย่าหมดท่า

"นั่นมันไม่ใช่เรื่องสำคัญนะ คำถามของฉันคือชื่อที่แท้จริงของเทพแล้วก็ดวงตามารมันเป็นส่วนหนึ่งของดันเจี้ยนด้วยหรอ"

เดซี่ได้แต่งงกับคำถามของฉันและตอบกลับมาช้าๆ

"ดวงตามารและชื่อที่แท้จริงมีหลักการที่คล้ายคลึงกัน มันเป็นการสนับสนุนภายนอกด้วยการยืมระบบดันเจี้ยน"

"เธอช่วยอธิบายให้ละเอียดอีกหน่อยได้ไหม"

"อย่างที่ฉันหวังกับนักสำรวจบียอนเลย เธอรู้เพียงแค่หางอึ่ง เดี๋ยวฉันจะอธิบายที่เหลือเอง"

หลินได้หยิบปืนออกมาและพูดขึ้น ฉันกลัวว่าเขาจะยิงมาที่ฉัน แต่ว่าโชคดีที่เขาเพียงแค่เล็กไปในที่อากาศที่วางเปล่าและยิงมันออกไป

"มันไม่ไม่อะไรตรงนั้นใช่....อ่า"

"โอ้ ตอนนี้นายรู้สึกได้แล้วหรอ ใช่แล้วที่นี่มีผู้เฝ้าอยู่"

ด้วยคำพูดของหลินทำให้ลาน่าได้เร่งความเร็วขึ้น จากที่ไกลๆได้มีออร่าจิตสังหารพุ่งมาทางเราอย่างพุ่งพล่าน ฉันรู้สึกได้แม้แต่พลังเวทย์อีกด้วย หลังจากหลินได้ยินกระสุนไปอีกนัดเขาก็ได้จัดการทำลานจิตสังหารนั้นไปและพูดออกมาราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

"เทพจากตำนานนั้นมีตัวตนอยู่ พวกเราไม่รู้ถึงความหมายของพลังศักดิ์สิทธิ์ทีพวกเขาได้รับมา แต่ว่าพวกเรารู้ว่าพวกเขารู้จักสิ่งต่างๆ ได้เห็นสิ่งต่างๆ และมีตัวตนอยู่ในหลายๆยุค สิ่งที่น่าแปลกก็คือแม้ว่าพวกเขาจะทำสิ่งต่างๆมากมาย แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะทำด้วยร่างกายที่แท้จริงได้""

"ร่างจริง ตัวตนที่แท้จริง...."

"มีผู้ชื่อได้รับชื่อที่แท้จริงของเทพอยู่ก่อนที่ดันเจี้ยนจะมีตัวตนเสียอีก ในตอนที่ดันเจี้ยนได้ถูกสร้างขึ้ลอร์ดได้ทำข้อตกลงกับเทพเอาไว้โดยใช้สิ่งที่เรียกว่าความสำเร็จเป็นตัววัดให้เทพเข้ามาตรวจสอบในคนๆนั้น"

"เทพเห็นด้วยที่จะยอมรับกับความสำเร็จจากดันเจี้ยนงั้นหรอ"

"ถูกเพ่งเลยล่ะ พระเช้าได้ยอมรับความสำเร็จนี้ แต่ว่าพวกเขาก็ยังต้องกำหหนดความต้องการพื้นฐานเอาไว้ด้วย ยังไงก็ตามพวกเขาก็ไม่สามารถจะมอบชื่อของพวกเขาให้กับใครก็ได้ทุกคน มีเพียงแค่คนที่เหมาะสมเท่านั้นที่จะได้รับชื่อของพวกเราไปเพื่อที่จะใช้ยกระดับความศักดิ์สิทธิ์ในตัวของพวกเทพด้วยกันเอง"

"นายกำลังจะหมายความว่าพวกเทพได้ให้ยืมชื่อของพวกเขาเพื่อที่จะให้คนที่สมควรได้รับไปเผยแผ่ชื่อเสียงของพวกเขาให้กว้างไกลงั้นหรอ"

"ถูกแล้วล่ะ มันดูเหมือนว่าค่าสติปัญญานายจะไม่ได้มีไว้โชว์นะ"

หลินได้เติมกระสุนปืนพกอย่างคล่องแคล่วและยิงต่อไป เดซี่ได้พึมพัมขึ้นข้างหูฉัน

"หากไม่เข้าไปใกล้การสวนกลับก็จะไม่เกิดขึ้น หากพวกนั้นไม่เห็นการโจมตีหรือหากพวกนั้นตายก่อนที่จะได้เขียนลงไปในหนังสือมันจะไร้ความหมาย"

"ฉันจะจำเอาไว้"

"เพียงเพราะแบบนี้มันก็เลยง่ายที่นักสำรวจดันเจี้ยนจะได้รับชื่อของเทพ แต่ว่านั้นเทพพวกนั้นไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพลังดันเจี้ยน ชื่อของเทพก็คือชื่อของเทพอยู่ ไม่มีอะไรมากหรือน้อยไปกว่านั้น ฉายาจากดันเจี้ยนก็คือของเลียนแบบที่มีระดับต่ำกว่าชื่อของเทพนะ"

"เข้าใจล่ะ..."

ฉันรู้สึกตกใจเล็กน้อยที่ได้ยินว่าฉายาเป็นของก็อปจากชื่อของเทพ แต่ยังไงก็ตามหลินยังพูดไม่จบ

"ดวงตามารก็เป็นผลพลอยได้ที่มาจากตำนาน ตัวอย่างง่ายๆก็ ลองดูสิ... โลกของนายรู้จักดวงตามารที่ทำให้คนเป็นหินยังไง?"

"อื้ม บาซิลิสจากตำนานยุโรป เมดูซ่าจากทำงานกรีกที่มีชื่อเสียงมาก... อ่า"

"นอกจากนี้ก็ยังมีดวงตามารของบาลอรจากตำนานของชาวไอริช ... ตอนนี้นาบรู้หรือยัง ทำไมดวงตามารถึงเป็นสิ่งที่พิเศษ การได้รับดวงตามารมันก็เหมือนกับการได้รับชื่อของเทพ แม้ว่ามันจะมีรางวัลอื่นๆอีกในดันเจี้ยนที่มาจากตำนานเก่าแก่โบราณนอกเหนือไปจากดวงตามาร แต่ว่าส่วนใหญ่ก็จะเป็นของก็อปเหมือนกับฉายาในดันเจี้ยนแหละ แต่ว่าบางคนยังบอกว่าดวงตามารได้รับยากยิ่งกว่าชื่อที่แท้จริงของเทพซะอีก"

"ถ้างั้นดวงตามารก็..."

"ดวงตามารพวกนวนก็ยังเก็ฐซ่อนพลังที่วิเศษเอาไว้อีก ดวงตาพวกนี้มันต่างไปจากวัตถุในดันเจี้ยน แม้แต่ฉันก็ยังไม่มีดวงตามารเลย

และมันก็ไม่มีทางที่จะพลาดโอกาสนี้

"ฉันมีนะ"

"ไอเวรนี่...."

เดซี่ก็ยังเสริมขึ้นมา

"ฉันก็มีเหมือนกันนะ หุหุ"

"ผู้หญิงคนนี้"

หลินได้หยุดยิงปืนลงและลาน่าก็ได้หยุดวิ่งลงอย่างรวดเร็ว พวกเราได้มาถึงหน้าปราสาทที่พังลงก่อนที่จะรู้ตัวซะอีก

"เมืองเอเรี่ยน ถ้าหากว่ากองกำลังต่อต้านยังมีชีวิตอยู่ทุกคนจะต้องอยู่ที่นี่"

"ยังมีคนรอดอยู่ในโลกที่ถูกควบคุมด้วยบุ๊ควอร์คเกอร์อีกหรอ"

"ฐานใต้ดินทนทาน พลังเวทย์ที่ยิ่งใหญ่แหล่งสุดท้ายของมนุษยชาตอยู่ที่นี่.... ที่นี่เป็นที่ๆเห็นโรเดิท ไฮเดลเซินครั้งสุดท้าย"

คำพูดของเธอเหมือนการโจมตีปิดท้ายทำให้หลินยิ้มออกมา

"ทำได้ดี พาฉันไปตามทางที่เธอเลือกเลยเอลฟ์เทา"

"เรียกฉันว่าแอคทราเดี่ยน"

"โอเคแอคทราเดี่ยน ซิปัวอยู่ที่นี้ฉันรู้สึกได้เลย มันดูเหมือนว่าเราจะได้เจอสิ่งดีๆในวันนี้นะ"

"นั่นมันเยียมเลย"

กลับกันแบบนั้นมันอาจจะหมายความว่าโรเดิท ไฮเดลเซินยังมีชีวิตอยู่ เขานี่ตายแยกยิ่งกว่าแมลงสาบจริงๆ ในตอนที่ฉันกำลังรู้สึกเหนื่อยหน่าย หลินก็ได้หยิบปืนขึ้นมาถือเอาไว้และยักไหล่ขึ้นมา มันทำให้ฉันอดที่จะถามออกไปไม่ได้

"ที่นี่ก็มีพวกมันอยู่หรอ"

"เหมือนกับรังแมลงสาบเลยล่ะ น่ารำคาญจริงๆ"

"เดี๋ยวฉันจะช่วยด้วย คังชินแค่ดูก็พอ"

"ได้ ได้ ฉันรู้แล้ว"

ในตอนที่ฉันตัดสินใจจะไปสู้เดซี่ได้มองมาที่ฉันด้วยท่าทางที่ทำให้ฉันต้องหวาดกลัว ฉันได้เร่งรีบที่จะถอยหลังกลับมาก้าวหนึ่งทันที ฉันกำลังถูกทำให้เหมือนกับเป็นภาระ ในตอนที่ฉันส่ายหัวเดซี่ก็เปิดประเป๋าและหยิบเอาตั๊กแตนยักษ์มากิออกมา

"มากิจะสู้ด้านหน้าให้ นายจัดการได้เต็มที่เลย"

"ยอดเยี่ยม ไปกันเถอะ"

หลินได้กระโดดข้ามกำแพงที่พังของปราสาทมเข้าไปในเมืองทันที หลังจากนั้นบุ๊ควอร์คเกอร์ได้เริ่มปรากฏตัวทันที

"มนุษย์ที่เรากำลังรอมา"

"มนุษย์ฆ่าพวกของเราไปจำนวนมาก"

"มันจะต้องใช้เวลานานในการวิเคราะห์ข้อมูล"

"ผู้หญิงคนที่หนีไปกลับมา"

"ข้อมูลของเราบอกว่าเธอเป็นเผู้หญิงที่ยอดเยี่ยม เธอจะพัฒนาขึ้นอีก"

หลินอดไม่ได้ที่จะระเบิดหัวพวกมันและตะโกนออกมา

"อ๊ากกก วิธีพูดของไอพวกนี้มันทำให้ฉันรำคาญ"

กระสุนของหลินไม่เคยพลาดเป้าและมีพลังทำลายล้างที่น่ากลัว เขาไม่จำเป็นต้องยิงซ้ำสองเพื่อฆ่าบุ๊ควอร์คเกอร์เลย และเนื่องจากพวกมันได้มารวมกันที่นี่เพื่อค้นหาและฆ๋ากองกำลังต่อต้าน พวกมันจะต้องเป็นพวกระดับสูงในหมู่บุ๊ควอร์คเกอร์ แต่ว่าหลินก็ยังใช้กระสุนเพียงแค่นัดเดียวเพื่อฆ่าพวกมัน

"เราโดนโจมตีและได้รับความเสียหายไม่ได้ เราจะต้องดูจากไกลๆและบันทึก"

"ข้อมูลที่ถูกบันทึกจากพรรคพวกระยะปลอดภัย"

"ตาย ตายแล้ว"

"ฟังดูดี พี่น้องเรากำลังมาเพิ่ม พวกเราจะได้วิเคราะห์ด้วยการเขียนลงไปทีละนนิด"

"ฉันไม่ยอมให้ทำแน่ มากิ"

[ก๊าซซซซซซซซซ]

มากิ ราชินีตั๊กแตนที่เกิดมาใหม่ในฐานะอันเดนได้คำรามออกมาอย่างโกรธแค้นและกางปีกออกมา ในเวลาเดียวกันออร่าลมจากมากิก็ได้ยิงเข้าใส่บุ๊ควอร์คเกอร์จำนวนมากที่อ่อนแออย่างเงียบๆ ตั๊กแตนก็ยังแข็งแกร่งขึ้นหลังจากกลายมาเป็นอันเดท

"มากิ ฆ่าเจ้าตัวจดบันทึก"

[ก๊าซซซซซ]

มากิได้คำร่างรับและมุ่งเข้าไปใส่บุ๊ควอร์คเกอร์ ทุกๆครั้วที่เคียวของมากิได้ตัดผ่านอากาศ อาคารรอบๆที่ตั้งอยู่ก็จะถูกตัดพร้อมๆกับหัวของบุ๊ควอร์คเกอร์

"ตัวนี่แข็งแกร่งเกินไป เราไม่มีบันทึก"

"พลังตัดที่ทรงพลัง เราต้องการความต้านทานพลังตัด"

"พงกเราต้องการตัวตนพิเศษ ความต้านทานที่จะตัดไม่ได้"

"พวกเราไม่รู้ว่าเมื่อไหร่พี่น้องจะเกิด เราไม่รู้ว่าพี่น้องจะรู้เรื่องนี้เมื่อไหร่"

"มันเป็นสองวันหลังจากนี้ เราจะต้องเพิ่มข้อมูลใหม่"

"ตอนนี้ ฉันจะไม่ให้แกได้ทำ"

ด้วยเสียงของเดซี่ทำให้มากิเร็วยิ่งขึ้นไปอีก มากิได้เหวี่ยงเคียวของเธอไปอย่างรวดเร็วจนเกือบจะเทียบได้กับความเร็วปืนของหลิน ไม่สิ บางทีมากิอาจจะเร็วกว่า ในตอนที่ฉันเฝ้ามองพวกบุ๊ควอร์คเกอร์กำลังถูกฉีกเป็นชินๆ เดซี่ก็พูดขึ้น

"ในตอนที่พวกมันได้บันทึกแล้วทุกๆคนจะได้รับความต้านทาน สิ่งที่น่ากลัวคือพวกหน่วยที่จะเกิดขึ้นใหม่ มันจะเอาบทเรียนที่เจอมาใช้"

"ตัวที่เกิดทีหลังจะแข็งแกร่งขึ้นสินะ"

"อื้ม พวกมันเรียนรู้และวิวัฒนาการในพริบตาเดียว"

"พวกมันไม่มีที่สิ้นสุดเลย ให้ตายสิ"

"ป้องกันไม่ให้มันบันทึกได้ จัดการในปริมาณที่เหมาะสทจากนั้นก็ไปที่ทางชั้นใต้ดิน"

"เข้าใจแล้ว"

หลินได้เร่งความเร็วขึ้นทำให้หัวของบุ๊ควอร์คเกอร์ที่กำลังป้องกันทางอยู่ได้ถูกเจาะอย่างรวดเร็ว"

"ไม่ถูกด้วยการสังเกตบันทึก มันยังเป็นไปได้ทีมันจะสร้างความต้านทานได้ ถ้าเป็นไปได้กำจัดมันทั้งหมด"

"ก่อนอื่นเราต้องผ่านมันไปก่อน"

พวกเราได้จัดการบุ๊ควอร์คเกอร์ที่ขวางทางเราทั้งหมดและพุ่งเข้าไปในเมือง การปรากฏตัวของบุ๊ควอร์คเกอร์ที่ไม่สิ้นสุดลงมันทำให้ฉันนึกไปถึงฝันร้ายในทวีปพาแนน แต่ว่าก็ไม่มีพวกมันแม้แต่ตัวเดียวที่ทนต่อกระสุนของหลินและเคียวของมากิได้ ยังไงก็ตามพวกมันก็เริ่มน่ากลัวมากยิ่งขึ้นเมื่อมันหลบการโจมตีของมากิได้

"การต้านทานได้เริ่มถูกสร้างแล้ว รูปแบบการเคลื่อนไหวของมากิจะต้องเปลื่ยนแปลง"

"นี่คือการสังเกตบันทึกที่เธอพูดถึงสินะ"

"อื้อ ถ้าทักษะถูกใช้แม้แต่นิดบุ๊ควอร์คเกอร์จะเขียนลงไป มันเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกัน"

เดซี่ได้พูดออกมาในขณะกัดฟัน

"เพื่อที่จะป้องกันมัน ทักษะที่ใช้จะต้องเหนือไปกว่าความเข้าใจตามปกติ"

"ชื่อของเทพและดวงตามาร..."

"และก็พลังของชิน อินิกม่า หรือไม่ก็พลังของแตรมังกร"

"แตรงกร!? เมื่อกี้เธอเพิ่งจะเรียกฉันว่าแตรมังกรหรอ"

ในตอนนั้นเองมากิที่เพลิงจะยิงออร่าคมเคียวออกไปและจัดการพังบุ๊ควอร์คเกอร์ที่อยู่ด้านหน้ายับเยิน เดซี่ก็ได้กลิ้งไปกับพื้นพร้อมกับเก็บมากิลงไปในช่องเก็บของของเธอ....

และพวกเราก็ได้เข้ามาในชั้นใต้ดินโดยไม่ตั้งใจ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด