ตอนที่แล้วนักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 9
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 11

นักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 10


บทที่ 10 - ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา

เวลานั้นผ่านไปเร็วมาก ห้าปีผ่านไปในพริบตา

ช่วงบ่ายวันนี้แดดส่องประกายเจิดจ้ามาก ตามถนนสายเล็กๆนี้ผู้คนก็เดินผ่านไปมาอย่างสงบ

มันดูธรรมดามาก แต่ทุกอย่างก็ได้เปลี่ยนไปเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น ตาของพวกเขาเป็นประกาย จากนั้นฝูงชนก็เริ่มมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

"เจ้าชายที่สิบสามกำลังมา! เขาไปถลุงเงินที่ศาลายิ้ม! มีที่นั่งจำกัดนะเห้ย รีบหน่อยถ้าเจ้าอยากจะไป!”

“อ่า เจ้าชายที่สิบสามกำลังจะใช้เงินอีกแล้ว”

“ศาลายิ้ม! ข้าไม่เคยไปสถานที่ที่แพงเช่นนั่นมาก่อนเลย”

"ฮ่าฮ่า! วันนี้ข้าก็กะว่าจะไปกินดื่มอะไรดีๆบ้าง!”

“……”

ทันใดนั้นทุกคนบนถนนก็ได้ทิ้งทุกอย่างพร้อมวิ่งไปที่ร้านอาหารที่หรูหราที่สุดบนถนน —— ศาลายิ้ม พร้อมกับส่งเสียงอึกทึกทุกครั้งที่วิ่งไป

ในขณะเดียวกัน พวกเขาก็รู้กันดีว่า ถึงแม้เจ้าชายที่สิบสามของตระกูลเย่จะเป็นพวกใจป้ำ แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเป็นคนที่เมตตาอารีแก่คนอื่นหรอกนะ ถ้าที่มันไม่พอ เขาก็ไม่คิดจะเพิ่มที่นั่งพิเศษให้

ดังนั้นแล้ว ทุกๆคนที่ต้องการจะแดร๊กอาหารฟรีก็ต้องแข่งกันแย่งชิงศึกเจ้าที่นั่ง พวกเขาอาจจะต้องวิ่งให้เร็วที่สุดเท่าที่เคยวิ่งมาทั้งชีวิตของพวกเขา บางคนยังหวังกระทั่งให้ตัวเองมีขามากกว่าเดิมสองขาด้วยซ้ำ

ทั่วเมืองหลวงของจักรวรรดิทั้งหมดต่างก็รู้เรื่องเย่หลางว่าเขานั้นเป็นคนที่แสนจะฟุ่มเฟือย เพราะต้องการที่จะเป็นอาเสี่ย แต่ตระกูลเย่ก็ยังไม่เคยจำกัดการใช้เงินของเขาเลย

มีคนลองคำนวณดูว่าเขาถลุงเหรียญทองไปเท่าไหร่ ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เขาก็ได้ใช้เงินไปเกือบล้านเหรียญทองแล้ว ซึ่งเงินจำนวนนี้ก็มากพอที่จะทำให้ตระกูลหนึ่งใช้จ่ายได้ชั่วอายุคนแล้ว มีเพียงตระกูลเย่เท่านั้นที่มีเงินมากพอที่จะให้เขาสามารถถลุงเงินจำนวนมหาศาลขนาดนี้ได้

ว่าแต่ทำไมพวกเขาถึงยังใจเย็นเกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้เงินของเขาล่ะ? หรือเป็นเพราะเขานั้นพิเศษ? ทุกๆคนต่างก็อยากรู้อยากเห็นเรื่องนี้ แต่เมื่อเวลาผ่านไป ดูเหมือนว่าผู้คนก็เริ่มชินและไม่สนใจไปเสียแล้ว

“ขออภัยด้วยขอรับ แต่เราไม่มีที่เหลือแล้ว” แม้แต่คนที่วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วก็ต้องถูกกันโดยพนักงานร้านอาหาร ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่ต้องการรับเงินเพิ่มหรอกนะ แต่มันไม่มีที่นั่งเหลือแล้วเห้ย! พวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากห้ามไม่ให้ลูกค้าเข้า

"ไอ้แม่ย้อย! ทำไมเจ้าถึงไม่สร้างที่นี่ให้มันใหญ่กว่านี้เล่า? ที่นั่งก็หมดเร็วโคตร!” พวกเขาต่างตะโกนอย่างไม่พอใจ

เพื่อนเอ๋ย สถานที่ของเราก็ใหญ่มากแล้วนะ เราเป็นร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงทั้งหมดด้วยซ้ำ! ซึ่งถึงแม้ร้านอาหารจะขนาดใหญ่มากกว่านี้ มันก็คงไม่เพียงพอสำหรับทุกคนอยู่ดี เราไม่ใช่จัตุรัสกลางเมืองนะเฟ้ยเห้ย!

ในร้านอาหารนั้น ที่นั่งถัดจากบันไดของชั้นสอง ก็มีเจ้าหนุ่มตัวน้อยและแม่เสือสาวแสนน่ารักอยู่ คุณสามารถเพลิดเพลินกับมุมของร้านอาหารทั้งหมดจากตรงนี่ได้อย่างเห็นชัด

“เสือสาว พวกเขากำลังทำอะไรกันอยู่?” เจ้าหนูน้อยถามอย่างสงสัยขณะที่ดูเมนูอาหาร

“ฮึ่ม พวกเขามาที่นี่เพื่อใช้ประโยชน์จากท่าน! นายท่าน ท่านต้องการจะเป็นอาเสี่ยจริงๆเหรอ?” แม่เสือสาวถามอย่างปวดหัว เธอถามเขามานับครั้งไม่ถ้วน แต่คำตอบของเขาก็เหมือนเดิมเสมอ

“ไม่ งานของข้าคือการเป็นลูกคนรวย ข้าจะต้องถลุงเงิน ข้าจะเป็นอาเสี่ย” เจ้าชายน้อยพูดออกมาอย่างจริงจัง นี่อาจเป็นประโยคที่ดูจริงจังที่สุดที่เขาเคยพูดมาทั้งชีวิตของเขาด้วยซ้ำ

“ข้าไม่รู้เลยว่าจะพูดยังไงกับท่านดี” แม่เสือสาวส่ายหัวพร้อมคิดวิธีที่จะลดนิสัยบ้าบอของเจ้านายเธอลง หากเธอไม่สามารถหยุดเขาได้ อย่างน้อยเธอก็ควรลดปริมาณการใช้เงินของเขาลงเล็กน้อย

เสือสาวผู้นี้ได้อยู่เคียงข้างเขาในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งก็เพื่อควบคุมนิสัยการใช้เงินของเขา ถ้าเธอไม่อยู่ บางทีเขาอาจจะใช้เงินมากกว่านี้ด้วยซ้ำ

“มาสั่งกันเถอะ! เสี่ยวเอ้อ เอาก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ลูกชิ้นปลามาให้ข้า” เจ้าหนุ่มน้อยพูดออกมาทันที มันเป็นบะหมี่ที่เขาโปรดปรานและเป็นอาหารที่แม่เสือสาวมักจะทำให้เขากินอยู่บ่อยๆ

ดูเหมือนว่าเธอจะชอบปลามาก นั่นคงเป็นเพราะว่าเธอก็เกี่ยวข้องกับเผ่าแมว

เสี่ยวเอ้อเงียบลงแล้วพูดกลับมาว่า “ทางเราไม่มีเส้นใหญ่ขอรับ”

นี่เป็นสถานที่ที่แสนหรูหรา พวกเขาจึงมีอาหาร 'คนธรรมดาสามัญ' น้อยมาก แล้วเสี่ยวเอ้อเองก็ดูเหมือนไม่ได้ต้องการให้เขาสั่งเมนูนี้เลย เพราะว่าเมนูนี้มันมีราคาน้อยมาก

อีกทั้งเขายังถูกเจ้านายกำชับมาด้วย เจ้านายของเขาต้องการที่จะรีดเงินจากตระกูลเย่ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ น่าเสียดายที่พวกเขาไม่คิดเลยว่าความคิดอันแสนโลภของพวกเขาจะมีผลตามมาในภายหลัง ...

แน่นอน หนึ่งในเหตุผลก็เพราะพวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่ควรให้บริการอาหารประเภท 'ต่ำๆ' เช่นนี้ในร้านอาหารชั้นสูง

เจ้าชายน้อยอ่านเมนูจากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า “โอ้ งั้นเอาก๋วยเตี๋ยวเหอเฟ่นลูกชิ้นปลาชามหนึ่งแทน”

[หมายเหตุ: ก๋วยเตี๋ยวเหอเฟ่นเป็นก๋วยเตี๋ยวเส้นแบนกว้างชนิดหนึ่ง]

เสี่ยวเอ้อเงียบไปอีกครั้งแล้วพูดว่า “เราไม่มีลูกชิ้นปลาขอรับ”

“โอ้แล้วก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ล่ะ”

“... เราไม่มีเส้นใหญ่ขอรับ”

“งั้นข้าจะเอาลูกชิ้นปลา”

“... ทางเราไม่มีลูกชิ้นปลาขอรับ”

“ทำไมเจ้าถึงไม่มีอะไรเลย? ไหนเขาว่านี้เป็นร้านที่ดีที่สุด…งั้นข้าต้องการก๋วยเตี๋ยวปลาหมึกเส้นใหญ่”

ตอนนี้ทุกๆคนต่างรู้สึกสับสน เจ้าไปพูดแบบนั้นได้อย่างไร? เจ้าต่างหากเล่าที่เป็นปัญหา! เจ้าชายที่สิบสามนี้คงจะมีปัญหาสมองแบบที่พวกเขาได้ยินมาอย่างแน่นอน

“ทางเราไม่มีเส้นใหญ่ขอรับ!!” เสี่ยวเอ้อกำลังจะร้องไห้แล้วในตอนนี้

"อีกแล้วงั้นเหรอ? งั้นข้าจะเอาลูกชิ้นปลา”

“ไม่มีลูกชิ้นปลาขอรับ!!” ฆ่าฉัน ฆ่าฉันให้ตายดีกว่า

แม่เสือสาวเองก็ไม่สามารถทนต่อได้อีกแล้ว “นายท่าน พวกเขาไม่มีทั้งเส้นใหญ่และลูกชิ้นปลา แล้วท่านก็ไม่สามารถสั่งเส้นใหญ่หรือลูกชิ้นปลารวมกันอย่างอื่นได้หรอก”

“โอ้ รวมไม่ได้งั้นเหรอ…แต่ที่ข้าชอบก็มีแต่ลูกชิ้นปลานะ”

อุ้ป ทุกๆคนแทบจะเป็นลมแล้ว

“ไม่มีลูกชิ้นปลา!!”

“ก๋วยเตี๋ยวเส้นใหญ่ก็ด้วยเหรอ?”

พอได้ยินเจ้าชายที่สิบสามทวนถามมาหลายรอบ เสี่ยวเอ้อก็กระโดดลงมาจากชั้นสอง ตอนนี้เขาไม่สามารถขยับไปไหนได้แล้ว

"เกิดอะไรขึ้นกับเขากัน? บันไดอยู่ตรงนั่นไม่ใช่หรือไง ไม่ใช่ตรงนี่สักหน่อย” เขาถามอย่างช้าๆพร้อมกับจ้องมองเสี่ยวเอ้อที่อยู่บนพื้น

“นายท่าน…” เสือสาวส่ายหัวด้วยรอยยิ้มที่แสนจะเหนื่อยล้า

“เสือสาว ที่นี่มันไม่มีอะไรเลย เราไปที่อื่นกันเถอะ แล้วเราก็จะไม่มาที่นี่อีกแล้วด้วย” เย่หลางยืนขึ้นพร้อมกับจ่ายเงินค่าน้ำชาเล็กน้อย จากนั้นก็ได้เดินลงบันไดชั้นล่างไป

ซึ่งเงินค่าน้ำชานี้ก็เรียกได้ว่ามากมายเลยสำหรับแม่เสือสาว พอเห็นแบบนี้ เธอก็ได้เปลี่ยนเหรียญทองที่อยู่บนโต๊ะกลายเป็นเหรียญทองแดงอย่างรวดเร็ว และนี่ก็เป็นสิ่งที่เธอทำบ่อยๆมาก

“เขาจะไปแล้วงั้นเหรอ??”

ทุกๆคนต่างจ้องมองไปที่เขาอย่างเงียบงัน ในขณะที่เจ้าชายน้อยเริ่มเดินไปชั้นล่างเพื่อเดินออกไป ถ้าเขาออกไป นั่นก็หมายความว่าเราต้องจ่ายค่าอาหารของเราด้วยหรือไม่?

“นายน้อยที่สิบสาม…” มีคนบอกเริ่มพูดถึงชื่อเขาเบาๆ เผื่อว่าเขาจะทิ้งอะไรเล็กๆน้อยแบบเงินไว้บ้าง

“เชิญอิ่มอร่อยกับอาหารเถิด ข้าจะออกไปแล้ว” เจ้าชายน้อยพูดอย่างสุภาพมาก

“ไปกันเถอะนายท่าน” หลังจากเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น แม่เสือสาวก็รีบพานายน้อยออกไปอย่างรวดเร็ว เธอรู้ว่าคนพวกนี้ต้องการอะไรและรู้ว่าเจ้านายของเธอนั้นเข้าใจช้ามาก เจ้าชายที่สิบสามไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคนพวกนั้นกำลังใบ้ให้เขาจ่ายเงินค่าอาหารให้กับพวกเขา

แฟนเพจ:แปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด