ตอนที่แล้วนักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 2
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 4

นักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 3


บทที่ 3 - เด็กผู้ถูกทอดทิ้งจากพระเจ้า

สามวันต่อมา จักรพรรดิแห่งอาณาจักรลอยฟ้าได้อัญเชิญหัวหน้าของตระกูลเย่และลูกชายของเขา โดยขอให้พวกเขานำเจ้าชายที่สิบสามมาพบด้วย

หลังจากถูกเชื้อเชิญโดยจักพรรดิแล้ว เรื่องราวเกี่ยวกับการหมั้นของเจ้าชายที่สิบสามก็ได้เริ่มขึ้น ตอนนี้เขามีคู่หมั้นแล้ว คู่หมั้นของเขาคือเจ้าหญิงน้อยของจักรวรรดิและยังสดใหม่ราวกับเพิ่งอบมาจากเตาขนมปัง พวกเขาเกิดในวันเดียวกัน แต่เธอก็เกิดก่อนเล็กน้อย

ในทางเทคนิคแล้ว เจ้าหญิงผู้นี้ก็เกิดภายใต้แสงของพระเจ้าเช่นกัน ดังนั้นแล้วแสงของพระเจ้าจึงเกี่ยวข้องกับวันเกิดของเธอด้วย นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมจักรพรรดิจึงรู้สึกเหมือนกับว่า เจ้าชายที่สิบสามผู้นี้กับเจ้าหญิงน้อยจะเป็นคู่สร้างคู่สมจากสวรรค์

ซึ่งการหมั้นหมายนี้ก็ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การแต่งงานแบบนี้สำหรับเด็กตั้งแต่ยังน้อยถูกจัดมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งก็ไม่มีใครคิดว่ามันแปลกเลย

หนึ่งเดือนต่อมา ก็ได้มีการจัดพิธีเฉลิมฉลองหนึ่งเดือนของเจ้าชายที่สิบสาม แน่นอนว่างานของตระกูลเย่นั้นจะต้องอลังการ คนระดับสูงเกือบทั้งหมดอยู่ที่นั่น แม้แต่จักรพรรดิก็ได้เข้าร่วมงานนี้กับลูกสาวของเขาซึ่งมีอายุหนึ่งเดือนเช่นเดียวกัน

ในเวลานั้น จักรพรรดิต้องการให้เด็กทั้งสองคนฉลองร่วมกัน เพื่อที่จะทำให้ใกล้ชิดกันยิ่งขึ้นไป ซึ่งนี้ทำให้เหล่าฝูงชนแยกออกไปจากกัน อีกทั้งเขายังมีเหตุผลที่จะเลือกสถานที่แห่งนี้แทนพระราชวังเพื่อจัดงานเฉลิมฉลองด้วย

ไม่ว่ายังไงก็ตาม ทุกๆคนต่างเห็นว่าจักรพรรดิกำลังให้หน้ากับตระกูลเย่อยู่ ซึ่งทำให้ศักดิ์ศรีของเจ้าชายที่สิบสามเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

หนึ่งปีต่อมา...

มีการเปลี่ยนแปลงของแผนเล็กน้อย ในขณะที่การเติบโตทางกายภาพของเขานั้นปกติ เขาไม่ได้กระโดดหรือวิ่งหรือพูดแบบที่ใครทำนายไว้ แต่มัน---

“เฉิงเทียน ทำไมลูกของเราถึงเป็นแบบนี้?” หญิงสาวผู้สง่างามถามอย่างกังวลขณะที่มองไปที่เด็กอายุหนึ่งขวบ

สาวเจ้าผู้นี้คือแม่ของเจ้าชายที่สิบสาม --- หลงแอนคี ในขณะที่เย่เฉิงเทียนเป็นสามีของเธอ คิ้วของเขาก็ขมวดเหมือนกับเธอ

ทำไมพวกเขาถึงขมวดคิ้วงั้นเหรอ? เป็นเพราะเจ้าชายที่สิบสาม บุตรแห่งพระเจ้านั้นโดดเด่นเกินไป ดังนั้นพวกเขาจึงเป็นถึงขนาดนี้ใช่มั้ยละ?

ไม่ ไม่เป็นแบบนั้นเลยสักนิด ในความเป็นจริงแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะพัฒนาการช้ากว่าเด็กวัยเท่ากันอีก

ตอนอายุหนึ่งขวบ เด็กๆบางคนก็สามารถเดินได้ แม้กระทั่งพูดประโยคง่ายๆกันได้แล้ว อย่างไรก็ตาม เจ้าชายที่สิบสามผู้นี้ไม่เพียงแต่จะเดินไม่ได้ แต่เขาก็ยังพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ

“ไม่เป็นไรหรอก เด็กหลายคนเองก็พูดและเดินได้ตามอายุเองแหละ อีกทั้งในอนาคตเขาก็ยังสามารถโดดเด่นได้มากกว่านี้อีก ตอนนี้มันไม่ได้มีความหมายอะไรนักหรอก” เย่เฉิงเทียนขมวดคิ้ว เขาปลอบโยนภรรยาของเขา ในเวลาเดียวกันเขาก็ปลอบโยนตัวเองด้วย

“อืม…” หลงแอนคียิ้มเบาๆขณะที่เธอประคองลูกของเธอไป ราวกับว่าเธอเองก็เชื่อแบบที่สามีของเธอกล่าว

ใช่แล้ว นั่นแหละถูกต้อง เด็กบางคนก็เป็นแบบนี้ ถึงจะทำได้มากกว่านี้มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไรนักหรอก

เรื่องราวในอนาคตของเจ้าชายที่สิบสาม เราก็คงต้องคอยดูกันต่อไป

สองปีผ่านไปไวเหมือนลมตด...

เจ้าชายที่สิบสามในที่สุดก็ได้เรียนรู้วิธีการเดิน โดยเขาสามารถเรียกชื่อคนได้ด้วย เพียงแต่ว่า เขาเพิ่งจะอยู่ในระดับเริ่มต้นเท่านั้น เรื่องนี้ทำให้หลายคนผิดหวังและก็เริ่มมีบางอย่างพุ่งเข้าใส่ความคิดของพวกเขาช้าๆ จากนั้นพวกเขาก็ได้ไล่ความคิดพวกนั้นออกจากหัวไป

ในบรรดาสมาชิกตระกูลเย่บางคน บางคนก็มีความสุขในขณะที่บางคนก็ออกจะเป็นห่วง แน่นอนว่าคนที่ห่วงใยนั้นคือคนที่ห่วงใยเขาจริงๆ ส่วนคนที่สุขใจก็มีแต่คนที่ไม่ชอบเย่เฉิงเทียน

ส่วนเหล่าเด็กน้อยดูเหมือนจะเป็นข้อยกเว้น บางทีเธอยังคงเด็กเกินไป เพราะเธอดันมีความสุขในสถานการณ์ตอนนี้ของเจ้าชายที่สิบสามซะงั้น เธอเป็นพี่สาวของเด็กคนนี้ เด็กน้อยผู้บอบบางที่ต้องการอุ้มเขาตอนแรกเกิด

เธอมักจะพาเด็กน้อยที่สิบสามผู้นี้เดินไปรอบๆอย่างมีความสุข ราวกับจะเติมเต็มความเสียใจที่เธอมีตั้งแต่วันนัน้ เธอเติบโตมากจากวันนั้น แต่ก็ยังคงตัวเล็กอยู่ ภาพที่เธอกำลังแบกน้องชายตัวน้อยคงจะเป็นอะไรที่แปลกมาก

ลองนึกภาพเด็กสาวอายุห้าขวบกำลังแบกเด็กชายตัวเล็กอายุสองขวบดูสิ มันเป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่เธอสามารถยกเขาขึ้นมาได้

แล้วคุณลองคิดถึงความรักระหว่างพวกเขาดูสิ พี่น้องนั้นมักจะใกล้ชิดกันอยู่เสมอ

สามปีต่อมา…

เกือบทุกคนต่างก็เข้าใจในสิ่งๆหนึ่งตรงกัน เจ้าชายที่สิบสามไม่ใช่อัจฉริยะ แต่เป็นพวกปัญญาอ่อน ไม่ ควรจะบอกว่าเขาเป็นพวกโง่มากกว่า

ในที่สุดเขาก็เรียนรู้ที่จะพูดคำง่ายๆได้แล้ว การเติบโตทางสติปัญญาของเขาน่าผิดหวังมาก ตอนนี้ ดูเหมือนว่าบุตรของพระเจ้าจะโง่เล็กน้อย เรื่องแบบนี้ทำให้ใครหลายๆคนต่างตกใจมาก

ผลลัพธ์ของวันๆเดียวเพียงแค่นี้ก็ทำให้หลายๆคนยอมแพ้ในตัวเจ้าชายที่สิบสามไปหมดสิ้น ไม่มีใครคาดหวังถึงเขาอีกเลย แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงบุคคลภายนอก ไม่ใช่คนในตระกูลของเขา

มีประเพณีในแผ่นดินใหญ่อยู่ ซึ่งเมื่อเด็กอายุสามขวบ เด็กจะต้องทำการทดสอบเพื่อค้นหาคุณลักษณะของเขา/เธอ

ทุกๆคนต่างมีคุณลักษณะเป็นของตนเอง คนธรรมดามีเพียงหนึ่งเดียว มีเพียงไม่กี่คนที่มีสองหรือมากกว่าสอง คุณลักษณะที่พบบ่อยที่สุดคือ 4 ชนิดมี ลม ไฟ ดินและน้ำ

สิ่งที่แปลกกว่าคือ แสงความมืด มิติ ฯลฯ และคุณลักษณะที่สามารถแปลงร่างได้ ซึ่งลักษณะพวกนี้จะแปลกมากๆ คนที่มีอาจจะมีคุณลักษณะพวกนี้เพียงหนึ่งหรือสองในรอบพันปี

การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดหรือความสามารถเวทมนต์ของบุคคลนั้นขึ้นอยู่กับคุณลักษณะของพวกเขาด้วย พวกมันก็เป็นเหมือนคะแนนโบนัส แต่ความแตกต่างก็คือพลังนั้นไม่ได้เล็กน้อยแบบนั้น มันสามารถส่งผลกระทบต่อความสามารถทั้งหมดของคนที่มีมันเลยก็ได้

โดยพื้นฐานแล้ว ผู้เชี่ยวชาญที่มีคุณลักษณะของน้ำจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้เทคนิคที่เกี่ยวข้องกับน้ำ ถ้าเขาใช้ความสามารถอื่น มันก็จะเป็นเรื่องยากมากกว่าการฝึกทักษะน้ำของเขาอย่างแน่นอน ซึ่งนั้นทำให้เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดา

ทำไมพวกเขาต้องกำหนดคุณลักษณะตอนอายุสามขวบได้งั้นเหรอ? ดูเหมือนจะมีคำกล่าวว่า ความสามารถของคนต่างก็จะปรากฏตอนที่อายุสามขวบกัน แค๊ก แค๊ก ก็เป็นแบบนั้นแหละ

ตามเรื่องราวแล้ว คุณลักษณะของคนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงเมื่อตอนที่มีอายุสามขวบ คนๆนั้นจะมีคุณลักษณะแบบนั้นไปเตลอดชีวิตโดยที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงได้เลย

เจ้าชายที่สิบสามเองก็มีผลลัพธ์ที่น่าตกใจมากจากการทดสอบนั้น เขาไม่มีคุณสมบัติเลยสักนิด! นี่คือสิ่งที่แทบจะไม่เกิดขึ้นมาเลยภายในรอบหมื่นปี ไม่ว่าคุณสมบัติของคนๆนั้นจะอ่อนแอเพียงใดหรือแปลกเพียงใด อย่างน้อยพวกเขาก็จะมีกันหนึ่งอย่าง

เขาเป็นบุตรของพระเจ้าอย่างแน่นอน แต่ตอนนี้ชื่อเล่นของเขาได้เปลี่ยนไปแล้ว แทนที่จะเป็นบุตรของพระเจ้า กลายมาเป็นบุตรที่ถูกพระเจ้าทอดทิ้ง!

เขาไร้ประโยชน์มากกว่าคนธรรมดาทั่วไปเสียอีก แม้ว่าเขาจะฉลาดมาก แต่โลกก็ได้คัดให้ผู้เหมาะสมเท่านั้นที่จะอยู่รอด คนที่ไม่มีคุณสมบัติอะไรเลยก็ยากที่จะได้รับการเคารพ

นอกจากนี้ ไอคิวของเขาก็ยิ่งแย่กว่าคนทั่วไปเสียอีก เขาเป็นเด็กที่เติบโตช้ามาก นี้มันคนโง่เง่าในหมู่คนโง่เง่าเลยนี้หว่า

หลายคนต่างก็คิดเช่นนี้ แต่แน่นอนไม่มีใครกล้าพูดออกมาดังๆ แม้ว่าเจ้าชายที่สิบสามจะเป็นคนงี่เง่า แต่ก็ไม่มีใครพูดอะไรออกมา อย่างน้อยก็ต่อหน้าแหละนะ

ตระกูลเย่นั้นทรงพลัง เขาย่อมได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ซึ่งเขาก็มีชีวิตที่แสนผ่อนคลายและสนุกสนานรอคอยอยู่ หากใครดูถูกเขา มันก็เท่ากับดูถูกตระกูลเย่ไปด้วย นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะทนได้เลย

บางทีมันอาจจะเป็นโชคก็ได้ที่เกิดมาในตระกูลเย่ เจ้าชายที่สิบสามนี้แทบจะไม่ต้องกังวลอะไรกับชีวิตที่เหลืออยู่เลยสักนิด เพราะเขาเป็นคนงี่เง่า เด็กโง่ๆย่อมไม่ถูกนำเข้าไปในวังวนแห่งพลังและความขัดแย้งอยู่แล้ว

บางที นี้มันอาจจะเป็นโชคก็ได้นะ

แฟนเพจ:แปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด