ตอนที่แล้วนักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปนักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 3

นักเล่นแร่แปรธาตุปัญญานิ่มตอนที่ 2


บทที่ 2 - เจ้าชายที่สิบสาม

ในระยะหนึ่งหลาของบ้านตระกูลเย่มีกลุ่มคนจำนวนหนึ่งอยู่ มีชายหนุ่มรูปหล่อและดูสมวัยอยู่ เขาดูเด็กกว่าอายุเขามาก

"แน่นอน หลานชายของข้าย่อมไม่ใช่คนธรรมดาสามัญ เขาจะต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่แน่นอน เขาทำได้แม้กระทั่งเปลี่ยนเมฆายามสายัญให้แปรเปลี่ยนเป็นพิรุณได้” ชายวัยกลางคนที่ดูจะแข็งแกร่งถัดจากชายหนุ่มได้กล่าวขึ้นมา ในเวลาเดียวกัน เขาก็จ้องมองไปที่ท้องฟ้ายามเย็นด้วยดวงตาอันแสนสับสน

“ดูทั้งพ่อและก็ลูกนี้สิ เจ้ากลับมาเสียเวลาอยู่ที่นี่ทั้งที่อิสตรีกำลังทรมานอยู่ข้างใน แล้วยังมาพูดจาไร้แก่นสารที่นี่อีก ใครบอกว่าเป็นหลานชายกัน บางทีอาจจะเป็นหลานสาวแสนน่ารักก็ได้! ท้องฟ้าจะไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับเด็กได้อย่างไร มันก็เป็นเพียงแค่อากาศ” ผู้หญิงแสนสวยพูดขึ้นมา เธอดูโกรธแต่กลับดูสง่างาม

“ถ้าข้าบอกว่าเด็กผู้นี้จะเป็นหลานชาย เขาก็จะต้องเป็นหลานชาย ถ้าข้าบอกว่าท้องฟ้าแสดงถึงสัญลักษณ์ว่านั่นเป็นหลานชายของเจ้า นั่นก็คือหลานของเจ้า เจ้าเป็นเพียงแค่ผู้หญิง เจ้าจะไปรู้อะไรกัน?” ชายวังกลางคนตอบกลับไปอย่างเคร่งขรึม

“ใช่แล้วครับ ใช่แล้วครับ…อ้า ข้าขอโทษด้วย…” ชายหนุ่มเริ่มพยักหน้าเห็นด้วยเมื่อมองเห็นว่าปัญหากำลังจะใหญ่ขึ้น ...

“ลูกเนรคุณ ข้าเสียใจที่ให้กำเนิดเจ้าออกมา! มันจะดีแค่ไหนกันถ้าเจ้าเป็นลูกสาวแทน! ดูน้องสาวของเจ้าสิ พวกเธอทั้งใจดีและเอาใจใส่ ซึ่งแตกต่างจากเจ้าและคนงี่เง่าที่ทำให้ข้ามักอารมณ์เสียเสมอ”ผู้หญิงคนนี้ตะโกนพร้อมกับบิดหูของชายหนุ่มขณะที่จ้องมองไปทางชายแก่

“เจ้าหมายความว่าถ้าเป็นลูกสาวจะดีกว่างั้นเหรอ? แต่เจ้ากลับให้ลูกชายเพียงคนเดียวเท่านั้น! ถ้าหากว่ามันออกมาไม่ดี ข้าก็คงจะไปแต่งงานกับคนอื่นแล้ว” ชายแก่สวนกลับไปในทันที

“เจ้ากล้า!! ฮึ่ม เจ้าบอกว่าข้าเป็นเพียงของเจ้าคนเดียว เป็นเพราะตอนนี้ข้าแก่ไปแล้วงั้นเหรอ? หรือว่าเจ้าต้องการคนที่อายุน้อยกว่านี้สินะ?” ผู้หญิงคนนี้ยังคงบ่นต่อไปพร้อมกับจ้องมองไปที่ชายแก่

“ภรรยาของข้า ความรักที่มีต่อเจ้าก็เหมือนกับดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ มันไม่เคยเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว ข้าบอกว่าข้าจะรักเจ้าเพียงคนเดียวเท่านั้น ดังนั้นข้าจะรักเจ้าคนเดียวตลอดไป” ชายแก่พยายามเกลี้ยกล่อมและจับมือของเธอในทันที

“โอ้ สามีของข้า…”

"ภรรยาของข้า..."

เหมือนกับว่าทั้งคู่กำลังอยู่ใต้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยแสงสีชมพูกันอยู่ ราวกับกำลังประกาศความรักอันแสนหวานให้ทุกๆคนรับรู้ หลังจากเวลาผ่านมานับทศวรรษ ความรักของพวกเขาก็ยังคงแข็งแกร่งเช่นดั่งเคย

“เหลียนเอ้อ ความรักที่ข้ามีต่อเจ้าเหมือนแสงยามเย็นที่มันไม่มีวันสิ้นสุด ...” เมื่อชายแก่กำลังพูดขึ้นก็เหมือนกับมีสิ่งประหลาดเกิดขึ้น

แสงของดวงอาทิตย์ได้สว่างขึ้นและในเวลาเดียวกันมันก็สวยงามยิ่งกว่าเคย ไม่มีใครจะลืมความงดงามของมันไปตลอดชีวิตแน่นอน ซึ่งเป็นเรื่องแปลกมากๆ ใครหลายๆคนเองก็รู้สึกแปลกๆที่แสงนี้ส่องเข้ามาในเฉพาะบริเวณภายในเมืองหลวงเท่านั้น จากนั้นครู่หนึ่ง แสงที่สาดทอก็ได้หายไปแทบจะทันทีที่มันปรากฏขึ้น

ท้องฟ้าได้กลับสู่ปกติอีกครั้ง ทุกคนสงสัยว่าพวกเขาฝันอยู่หรือเปล่านะ

ในตอนนั้นเอง ไม่มีใครสนใจการเปลี่ยนแปลงอะไรของท้องฟ้าอีกแล้ว เพราะพวกเขาได้ยินเสียงเด็กร้องขึ้นมา

“ขอแสดงความยินดีด้วยครับท่าน! ยินดีด้วย ...” คำพูดพวกนี้ล้วนแล้วแต่ทำให้หญิงแก่ผู้นี้ยิ้มขึ้นมา

"เป็นยังไงบ้าง? เธอเป็นอะไรไหม?” ชายหนุ่มถามขึ้น

“ทั้งแม่และเด็กชายนั้นปลอดภัยดี…” หญิงชราที่ทำหน้าที่หมอตำแยยังพูดไม่ทันจบประโยค ตัวของชายหนุ่มก็ได้หายตัวไปราวกับสายลมแล้ว

“แม่และเด็กผู้ชายปลอดภัย ดูสิ ข้าพูดถูก หลานชาย” ชายแก่กล่าวออกมาด้วยความยินดี ส่วนหญิงแก่ที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาก็เริ่มรู้สึกรำคาญ

“แล้วเด็กอีกสองสามคนก่อนหน้านี้ละ? คราวก่อนเจ้าก็บอกว่าเป็นหลายชายไม่ใช่หรือไง?” หญิงแก่พูด

"น้องชาย! "เขาคือน้องชาย! พี่สาว เรามีน้องชายแล้ว"เสียงของเด็กหญิงคนหนึ่งตะโกนขึ้นมา ซึ่งในมือของเธอก็กำลังกุมมือของเด็กสาวอีกคนที่มีอายุมากกว่าเธอเล็กน้อย เธอวิ่งเข้าไปในบ้านพร้อมกับเหล่าเด็กวัยรุ่น

พี่สาว นั้นเป็นหลักฐานได้ดีเลยว่าชายแก่ผู้นี้เคยทายผิดมาก่อน

“ก…ก็คราวนี้ข้าถูกแล้วไง…แต่นี้แปลกมาก ท้องฟ้ากลับมาเป็นเช่นเดิมแล้ว” ชายแก่กล่าวโดยชี้ไปที่ท้องฟ้าเพื่อพยายามเปลี่ยนหัวข้อ

“ใช่แล้ว มันเหมือนกับว่าพวกแสงนั้นหายไปเมื่อหลานชายของเราเกิด นี้ผิดปกติ” หญิงแก่คิ้วขมวดและพูดออกมาด้วยความงงงวย

ก่อนที่ชายแก่จะพูดต่ออีกครั้ง ชายแก่ก็เหมือนกับนึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้

“เจ้าบอกว่าความรักที่มีต่อข้านั้นไม่มีวันจบสิ้นเหมือนแสงยามเย็น แต่ตอนนี้แสงพวกนั้นได้หายไปแล้ว…”

“แค๊ก แค๊ก เรื่องนั้นมัน…”

“หึ้มมมมมม!”

ในขณะที่คู่รักชรากำลังทะเลาะกันอยู่ข้างนอก ก็ได้มีอีกหนึ่งคู่รักที่กำลังชำเลืองสายตามองกันอยู่ที่ภายใน หนึ่งในนั้นคือชายหนุ่ม ส่วนอีกคนก็เป็นหญิงสาวที่เพิ่งจะคลอดลูกออกมา เธอยังคงนอนอยู่บนเตียง

แม้ว่าเธอจะอ่อนแอมาก แต่ก็ราวกับเธอกำลังเปล่งรัศมีที่ใครก็ตามปฏิเสธไม่ได้และเธอยังดูสง่างามทุกๆอิริยาบถอีก

“ที่รัก เจ้าต้องเหนื่อยแล้ว” ชายหนุ่มกล่าวกับหญิงสาวผู้อ่อนแอพร้อมกับจับมือของเธอ เขาจ้องตรงไปที่เธอ ไม่แม้แต่จะมองเด็กเล็กที่อยู่ข้างๆหมอนของเธอ

ฉากนี้ ดูเหมือนจะบอกว่าเขาแตกต่างจากผู้ชายคนอื่นๆ สิ่งที่เขาใส่ใจมากที่สุดคือภรรยาของเขา มิใช่บุตรชายของตน

“เลิกแสดงได้แล้ว ข้ารู้ว่าสิ่งที่เจ้าต้องการมากที่สุดคือการอุ้มเจ้าเด็กชายตัวน้อยนี้” เธอพูดอย่างอบอุ่น เธอไม่ได้หมายความว่าสามีของเธอนั้นแค่แสดงจริงๆ เพราะตัวเขานั้น้ตองการทั้งสองอย่าง ในฐานะภรรยา เธอรู้เรื่องพวกนี้ดีพอสมควร

ซึ่งเธอก็พอใจมากที่สามีของเธอดูแลเธอดีและยังเป็นห่วงเป็นใยเธอมากขนาดนี้

“ฮิฮิ งั้นข้าก็ขอโอบกอดลูกชายอันมีค่าของเราหน่อยแล้วกัน…” ชายหนุ่มจึงได้พูดอย่างตรงไปตรงมา หลังจากหัวเราะเบาๆแล้ว เขาก็หยิบลูกที่ถูกห่อด้วยผ้าขึ้นมา

"นัยน์ตาสีดำ มีเส้นผมเพียงไม่กี่เส้น ไม่แน่ใจเลยว่ามีสีอะไร…” เขารำพึงรำพันพร้อมกับลอบมองตัวเด็กผู้ชาย

“พ่อ พ่อ หนูก็อยากอุ้มเขาด้วย” เด็กสาวตะโกนออกมา ช่างน่าเสียดาย ด้วยรูปร่างอันแสนเล็กของเธอ ใครมันจะไปกล้าให้เธออุ้มลูกได้กัน?

“หยุดพูดเล่นได้แล้ว ข้าจะดูแลเขาเอง ส่วนเจ้าคงไม่สามารถอุ้มเขาได้หรอก”ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างโหดเหี้ยม

“ฮึ่ม งั้นให้หนูดูหน่อย” เด็กสาวตัวน้อยพูดออกมาด้วยความโกรธ จากนั้นเธอก็ก้มลงมองดูเขาอย่างมีความสุข เด็กสองคนที่อยู่ใกล้ๆก็เข้ามาดูเช่นเดียวกัน

“โว้ว…เขาน่ารักมาก…”

"อืม..."

"ใช่...."

เด็กทั้งสามพูดคุยกันขณะที่ผู้ใหญ่ทั้งคู่ต่างก็ชำเลืองตาดู บ้านนี้เต็มไปด้วยความอบอุ่นและความสุข มันก็ให้ความรู้สึกเหมือนบ้านนั้นแหละ

ในทางกลับกัน เด็กทารกไม่เข้าใจเลยว่าความรู้สึกนั้นคืออะไร ทันทีนั้นเอง เขาก็เริ่มส่งเสียงร้องดัง ...

หลังจากคืนนั้นผ่านไป ก็ได้มีข่าวลือเริ่มแพร่กระจายไปทั่วเมืองว่า สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นเป็นสัญญาณจากสวรรค์และเป็นเพราะคนๆหนึ่ง ทารกแรกเกิด และนั่นคือเจ้าชายที่สิบสามของตระกูลเย่ สดๆราวกับอบมาจากเตา

เจ้าชายที่สิบสาม นี่ไม่ได้หมายความว่าพ่อของเขามีลูกชายหลายคน มันแค่หมายความว่าในหมู่เด็กๆในรุ่นของเขา เขาอยู่ในอันดับที่สิบสามในหมู่ลูกพี่ลูกน้องของเขาเอง

แน่นอนว่านี่คือการจัดอันดับภายในสาขาหลักของตระกูล แต่ไม่ใช่ลำดับวงศ์ตระกูลทั้งหมด ถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาอาจจะเป็นเจ้าชายอันดับที่หนึ่งพันหนึ่งและบางทีอาจจะเป็นจำนวนที่มากกว่านี้ก็ได้

แสงแห่งเทพพร้อมด้วยตระกูลที่โดดเด่นเป็นแรงขับดันให้เจ้าชายอันดับที่สิบสามกลายมาเป็นเหมือนสปอตไลท์ของเมืองแห่งนี้ ทุกคนต่างก็คิดว่าเขาเป็นลูกของพระเจ้า ไม่มีใครคัดค้านหรือสงสัยเลย อย่างน้อยก็ในตอนนี้

ซึ่งนั่นทำให้เด็กน้อยแรกเกิดผู้นี้ได้มีชื่อเสียงไปทั่วดินแดนแห่งนี้

หลายคนทำนายว่าเขาจะโดดเด่นมากแน่ในอนาคต มีกระทั่งบางคนได้ทำนายบางอย่างอันแสนยาวเหยียดจนแค่จะอ่านก็ลายตาแล้ว

เมื่อเขาอายุได้หนึ่งขวบ เขาก็ได้วิ่ง กระโดดและพูด จิตใจของเขาเฉียบแหลมราวกับแสงที่สาดส่อง

เมื่ออายุสองขวบ เขาเริ่มอ่านได้ เขาเริ่มอ่านหนังสือหลายเล่มและศักยภาพของเขาก็เริ่มที่จะส่องประกายขึ้นมาอีก

เมื่ออายุสามขวบ เขาเริ่มเรียนรู้พลังชี่หรือเวทย์มนตร์ และทันใดเขาก็ได้เป็นอัจฉริยะ

เมื่ออายุห้าขวบ เขาก็ได้เข้าสู่สำนักหลวง ซึ่งความสามารถของเขานั้นเกินกว่าคนธรรมดาทั่วไป

เมื่ออายุสิบขวบ เขาก็ได้จะจบการศึกษา ชื่อของเขาดังก้องไปทั่วดินแดนจนกลายเป็นตำนาน

เมื่ออายุยี่สิบเอ็ด เขาก็จะได้เป็นผู้ปกครองพื้นแผ่นดินและขยายอำนาจของเขาข้ามดินแดนต่างๆไป

มันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาที่จะเป็นแค่คนธรรมดา ทุกๆการย่างก้าวของเขาล้วนแล้วแต่ดึงดูดความสนใจของทุกคน ในช่วงชีวิตของเขา เขาจะได้พบกับเซียนหลายคน จากนั้นก็ได้ทำธุรกิจร่วมกัน พบกับผู้หญิงหลายคนที่ตกหลุมรัก ...

อย่างไรก็ตาม เรื่องแบบนั้นมันจะเกิดขึ้นจริงๆงั้นเหรอ?!

แฟนเพจ:แปลNiyay

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด