ตอนที่แล้วตอนที่ 16 ข้าอยากเป็นเพื่อนร่วมห้องกับเจ้า
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปตอนที่ 18 ข้าจะกินให้ท่านเจ็บ

ตอนที่ 17 เกาะขาคนรวย!


“พวกเราต่างก็พึ่งพาความสามารถของตนทั้งนั้น อย่าบอกนะว่านักเชิดหุ่นมายาเช่นข้าควรจะฝ่าประตูหลักด้วยกำลังแทนที่จะใช้ภาพมายา?”

ถึงแม้ป๋ายเสี่ยวเฟยจะกริ่งเกรงอยู่บ้างแต่เขาไม่มีความตั้งใจที่จะยอมรับว่าเขาเป็นฝ่ายผิด

“เจ้าพึ่งพาสุนัขตัวนี้?”

ความเหลือเชื่อมีให้เห็นอยู่ทุกที่ในน้ำเสียงของฉินหลิงหยานขณะที่นางก้มหัวลงจ้องมองเสี่ยวเอ้อข้างๆ

จากที่นางรู้ มีนักเชิดหุ่นสายมายาหลายคนที่สามารถแปลงโฉมตนเองแต่นางไม่เคยได้ยินที่ไหนมาก่อนว่ามีคนที่สามารถเปลี่ยนเท็จให้เป็นจริงและโกหกหลอกลวงผู้คนอย่างเปิดเผย

นางยิ่งรู้สึกยากจะเชื่อขึ้นไปอีกเมื่อรู้ว่าป๋ายเสี่ยวเฟยได้หลอกลวงป๋ายเย่ผู้ถือได้ว่าแข็งแกร่งพอตัวและไล่ตามเกี้ยวพาราสีนางอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

ก่อนที่ป๋ายเสี่ยวเฟยจะได้ตอบ เสี่ยวเอ้อเห่าสองครั้งอย่างไม่สบอารมณ์เมื่อมันถูกสงสัย

“เสี่ยวเอ้อไม่ใช่สุนัขธรรมดา แล้วท่านจะเข้าใจในภายภาคหน้า”

ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้มปล่อยให้นางคาดเดาต่อไป

“แต่ศิษย์พี่หญิง เรื่องสัญญาของพวกเราล่ะ?”

ถึงเขาจะตายก็ไม่สำคัญเพราะการเติมเต็มท้องอันว่างเปล่ามาก่อนเป็นอันดับแรก

“ข้าได้ยินว่าเจ้าเชิญป๋ายเย่มาด้วย? เจ้าได้ขออนุญาตข้าหรือยัง?”

สีหน้าของฉินหลิงหยานเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดขึ้นเรื่อยๆ เพราะทุกสิ่งที่ป๋ายเสี่ยวเฟยทำลงไปล้วนแตะสัมผัสเส้นที่มิอาจล่วงล้ำ

“เหตุใดข้าต้องขออนุญาตท่านด้วย? ท่านมีหน้าที่แค่จ่ายค่าอาหารเท่านั้นส่วนศิษย์พี่ป๋ายเย่เขาจ่ายเองได้”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเผยสีหน้าชอบธรรมที่ราวกับว่าสิ่งที่เขาพูดไปนั้นคือเรื่องปกติ เขาจ้องฉินหลิงหยาน

“อา...เป็นเช่นนี้หรอกหรือศิษย์พี่หญิง? ท่านตั้งใจจะกลับคำพูดใช่หรือไม่? ท่านไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้หากท่านไม่อยากจ่าย ท่านเพียง...”

“ผาย...! เหลวไหล!”

ฉินหลิงหยานรีบตัดบทป๋ายเสี่ยวเฟยก่อนที่เขาจะทันได้พูดจบเพราะนางไม่อาจทนฟังได้อีกต่อไป

‘อืม... นางถึงกับเกือบสบถ...’

“ตั้งแต่เมื่อใดกันที่ข้าฉินหลิงหยานเคยกลับคำพูด? ก็แค่อาหารมื้อเดียว ข้าเพียงแต่กลัวว่าทางสถาบันจะกล่าวโทษข้าหากเจ้ากินเยอะจนท้องระเบิด!”

หลังกล่าวจบ นางเดินจากไป

“ศิษย์พี่หญิงหลิงหยานท่านจะไปไหน?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยถามแสร้งทำเป็นไม่รู้ เสียงของเขาดังก้องราวกับกลัวคนอื่นจะไม่ได้ยิน

“หุบปากแล้วตามข้ามา!”

ฉินหลิงหยานหันกลับมากลอกตาให้ป๋ายเสี่ยวเฟยแล้วจึงก้าวเดินต่อไปข้างหน้า จากต้นจนจบนางควบคุมระยะห่างระหว่างนางกับป๋ายเสี่ยวเฟยอย่างแม่นยำราวกับเกรงกลัวว่าคนอื่นจะเข้าใจผิด

แต่เรื่องที่นางกลัวก็พลันบังเกิดขึ้นเมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยตะโกนเรียกศิษย์พี่หญิงหลิงหยานซ้ายบ้างขวาบ้างไปตลอดทั้งเส้นทาง เขาตะโกนชื่อนางมากจนนักเรียนทั้งหลายที่เดินผ่านไปผ่านมาต่างก็หันหัวกลับมามองทุกคน

เป็นช่วงเวลานี้เองที่ภายในตัวฉินหลิงหยานเต็มไปด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้ง สิ่งที่นางคิดไว้ว่าเป็นเพียงเรื่องล้อเล่นและอย่างมากนางก็แค่ต้องเลี้ยงอาหารป๋ายเสี่ยวเฟยมื้อนึงในตอนนี้นางรู้แล้วว่าเรื่องราวไม่ได้ง่ายดายอย่างที่นางคิดไว้

ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่มีทางปล่อยขาของฉินหลิงหยานคนทีเขาสามารถพึ่งพาได้เป็นอันขาด!

ด้วยเหตุนี้เองแม้ฉินหลิงหยานจะต้องการหรือไม่ ป๋ายเสี่ยวเฟยก็จะยังคงเป็นหัวข้อสนทนาเมื่อเรื่องของนางถูกยกขึ้นมาพูดในอนาคต

“น้องป๋าย!!!”

เมื่อฉินหลิงหยานและป๋ายเสี่ยวเฟยกำลังจะเดินเข้าไปในโรงอาหารเสียงของป๋ายเย่ก็ดังก้องมาแต่ไกล ในพริบตาป๋ายเย่มาปรากฏตัวต่อหน้าป๋ายเสี่ยวเฟยก่อนที่เขาจะทันตอบเสียอีก

“น้องป๋าย ข้าไม่ได้มาสายใช่หรือไม่!?”

ถึงแม้นป๋ายเย่จะกำลังพูดกับป๋ายเสี่ยวเฟยแต่ดวงตาทั้งคู่ลอบแอบจ้องฉินหลิงหยาน ความตื่นเต้นมีให้เห็นทุกที่บนใบหน้า

“ไม่ต้องกังวล ต่อให้ท่านมาสายข้าก็จะรอ ศิษย์น้องต้องให้เกียรติศิษย์พี่สิ จริงหรือไม่?”

ป๋ายเสี่ยวเฟยเลิกคิ้วขึ้นพลางส่งสายตาที่บอกว่า ‘เข้าใจใช่หรือไม่’

“เจ้าพูดอะไร? กฎพิสดารพวกนั้นมีไว้สำหรับพวกเด็กใหม่เท่านั้น เจ้าแตกต่างออกไปเพราะเจ้าคือเพื่อนของข้าป๋ายเย่ หากมีใครมารังแกเจ้าแค่เอ่ยชื่อข้าก็พอและข้าจะปกป้องเจ้านับแต่นี้ไป!”

เสียงของป๋ายเย่ดังกังวานไปทั่ว เขาไม่ได้พูดถึงป๋ายเสี่ยวเฟยแม้แต่น้อย

หากแต่ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่คิดมากเขากล่าวตกลงทันที

“ในเมื่อศิษย์พี่พูดเช่นนั้น ข้าจะไม่ถือว่าท่านเป็นคนนอกอีกและหากมีวันใดท่านไม่สนใจไยดีข้าขึ้นมาข้าจะกล่าวหาท่านให้ทุกคนรู้”

เมื่อป๋ายเสี่ยวเฟยพูดจบป๋ายเย่หันกลับมามองเขาทันทีด้วยใบหน้าตกตะลึงพรึงเพริด ความรู้สึกเสียใจพลันผุดขึ้นมาจากก้นบึ้งของหัวใจ

‘บ้าเอ๊ย! เหตุใดข้าจึงวางท่าเกินกำลังตน! หากเจ้าเด็กนี่ไปก่อเรื่องขึ้นมาจริงๆ...’

“ไปเถอะศิษย์พี่ ได้เวลากินข้าวแล้ว ท่านสามารถกลับไปได้เลยหากท่านไม่อยาก”

ป๋ายเสี่ยวเฟยทิ้งระเบิดใส่ป๋ายเย่ที่ยังคงลังเลทำให้เขาได้แต่กัดฟันเดินตามป๋ายเสี่ยวเฟยไป

“เจ้าอยากกินที่ใด!? พูด!”

น้ำเสียงเย็นเยือกของฉินหลิงหยานเต็มไปด้วยการข่มขู่ว่าจะสังหารป๋ายเสี่ยวเฟยทิ้งเสียหากเขายังไม่รีบ

แต่ป๋ายเสี่ยวเฟยราวกับไม่ได้ยินที่นางพูด ดวงตาทั้งคู่ของเขากวาดมองทุกซอกทุกมุมของโรงอาหารอย่างระมัดระวัง

“ที่นั่น!”

ป๋ายเย่ผู้ยืนอยู่ข้างเขากวาดตามองไปตามนิ้วที่ป๋ายเสี่ยวเฟยชี้ ใจเขาพลันเย็นเยียบขึ้นมาทันที

บ้านร้อยรส ร้านอาหารที่แพงที่สุดในสถาบันชิงหลัว เพียงแค่มองท่านก็จะเข้าใจถึงเหตุผล มันครอบคลุมพื้นที่กว้างขวางรวมกับสิ่งของตกแต่งหรูหราอลังการ และคงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ป๋ายเสี่ยวเฟยเลือกร้านนี้...

“งั้นไป ก็แค่มื้อเดียว!”

ฉินหลิงหยานกัดฟันแน่นพลางขึงตามองป๋ายเสี่ยวเฟย ก่อนจะเป็นคนแรกที่เดินเข้าไปในร้าน

ถึงแม้จะเป็นแค่ร้านอาหาร บ้านร้อยรสมีป้ายบอกราคาติดอยู่ตรงบริเวณทางเข้าทำให้ไม่มีผู้คนมากนักนอกจากจะมีงานเลี้ยงใหญ่ คนปกติไม่มีใครใช้บริการที่นี่มากนัก

แต่หากจะเลี้ยงอาหารใครสักมื้อ บ้านร้อยรสราวกับเป็นเขตหวงห้ามเพราะคนผู้นั้นจำเป็นต้องคิดหนักเนื่องจากราคาของมัน ต่อให้คนเป็นลูกขุนนางหรือองค์ชายก็ตาม

ด้วยการนำทางของบริกร สามคนหนึ่งสุนัขถูกพามาที่ห้องส่วนตัว ป๋ายเสี่ยวเฟยจงใจนั่งในมุมห้อง ป๋ายเย่อยากจะนั่งข้างฉินหลิงหยานใจจะขาดแต่เขาก็ต้องหยุดความคิดนั้นทันทีเมื่อถูกนางขึงตาใส่ เขาจำต้องนั่งข้างป๋ายเสี่ยวเฟย

“ศิษย์พี่ ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้”

ป๋ายเสี่ยวเฟยกระซิบใส่ป๋ายเย่กล่าวแนะนำเขาถึงวิธี จากสีหน้าของป๋ายเย่ไม่ยากเลยที่จะบอกว่าวิธีนั้นต้องน่าตกตะลึงเป็นแน่แท้

ในสุดท้ายป๋ายเย่ก็ตอบตกลง...

เขาไม่มีทางเลือกอื่น!

“พวกเจ้ามัวคุยอะไรกันอยู่? รีบสั่งอาหาร! ข้าไม่ได้ว่างนัก อย่าทำให้ข้าเสียเวลา!”

ฉินหลิงหยานไม่คิดจะปกปิดอารมณ์ที่แท้จริง เพราะตั้งแต่นางได้พบป๋ายเสี่ยวเฟยนางก็รู้สึกราวกับถูกเขาจูงจมูกอยู่ตลอดเวลา

“ศิษย์พี่หญิงอย่าเพิ่งโกรธ ข้าจะสั่งอาหารเดี๋ยวนี้”

ป๋ายเสี่ยวเฟยยกเมนูขึ้นมาแต่จู่ๆ เขาก็หยุดนิ่งราวกับเขาเพิ่งนึกได้ เขาถามอย่าง ‘ไม่ทันคิด’ ว่า

“ศิษย์พี่หญิง สุนัขของข้าไม่ได้กินมานานแล้ว ข้าสั่งเผื่อมันได้หรือไม่?”

“เจ้าพามาแล้วหนึ่งคน เพิ่มมาอีกตัวก็ไม่ต่างกัน”

ฉินหลิงหยานกลอกตาใส่ป๋ายเสี่ยวเฟยอีกครั้ง จากนั้นจึงหันหน้าหนีเพราะแค่มองป๋ายเสี่ยวเฟยก็ทำให้นางรู้สึกไม่สบายขึ้นมาแล้ว

หลังจากฉินหลิงหยานตอบตกลง เสี่ยวเอ้อเห่าฮ่งๆ สองครั้งใส่ป๋ายเสี่ยวเฟยราวกับกำลังถามเขาอยู่

“ได้ ได้ ครั้งนี้เจ้ากินได้ตามใจชอบเพราะมีคนเลี้ยงอาหารเรา”

“ฮ่ง! ฮ่ง!”

ครั้งนี้มันเห่าใส่ฉินหลิงหยานด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“มันบอกว่าขอบคุณ”

ป๋ายเสี่ยวเฟยทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษา ฉินหลิงหยานหัวเราะเล็กน้อยพลางกลอกตาอีกครั้ง

“ข้าไม่คิดเลยว่าเจ้าจะพูด ‘ภาษาสุนัข’ เป็น”

ฉินหลิงหยานกล่าวเน้นคำว่า ‘ภาษาสุนัข’ นางรู้สึกราวกับได้เอาคืนป๋ายเสี่ยวเฟยสักที

“ข้าสั่งเสร็จแล้ว”

ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้มแก้มปริพลางส่งเมนูให้บริกรก่อนจะหันไปหาป๋ายเย่

“ศิษย์พี่ จะเกิดอะไรขึ้นหากลูกค้าไม่มีเงินจ่ายค่าอาหารที่นี่?”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด