ตอนที่ 111 เหนือกว่าอาจารย์
รอยประทับฝ่ามือคุนหลุนปะทะรอยประทับฝ่ามือคุนหลุน!
ค้อนพลิกฟ้าปะทะค้อนพลิกฟ้า!
ศิลปะและเทคนิคการต่อสู้แบบเดียวกัน ...
เบื้องหลังความประหลาดใจของลุคทำให้เกิดความสับสน เขาเป็นคนที่สอนศิลปะการต่อสู้เหล่านี้ให้กับเฟิงหลินแล้วเฟิงหลินจะแข็งแกร่งกว่าเขาไปได้ยังไง?!
ทำไม?
เขาไม่เข้าใจและไม่สามารถหาคำตอบได้
แต่นั่นไม่เป็นไร ไม่นานเฟิงหลินก็ให้คำตอบเขาด้วยการโจมตีอย่างหนัก
เฟิงหลินจะไม่ให้โอกาสคู่ต่อสู้โต้กลับ หลังจากถูกโจมตีด้วยความงุนงง เขาก็แบนิ้วเรียงกันแหลมเหมือนดาบแทงไปกลางคิ้วของลุค
ดาบสังหารเทพ!
การโจมตีที่ดูเหมือนปกติ แต่มันมากกว่าสิ่งที่เห็นด้วยตา กล้ามเนื้อนิ้วมือสั่นสร้างแรงมหาศาลในอากาศตัดผ่านช่องว่าง มันคือแก่นของการสังหารเทพที่แท้จริง
จากศิลปะการต่อสู้ทุกรูปแบบในโลก การสังหารด้วยเต๋าดาบน่าประทับใจสุด
ในตำนานการบ่มเพาะยุคโบราณ ดาบเทพคือหลักการของเต๋าดาบ มีการทำงานของชะตากรรมหลายชั้น ทำให้มันเข้าถึงได้ยากกว่าการบ่มเพาะสายอื่น
หากดาบเทพเป็นอันดับสองในด้านเทคนิคการสังหาร ใครจะกล้าลอง ?
ดาบสังหารเทพรวบรวมพลังทั้งหมดของร่างกายไว้ในปลายนิ้วเล็กๆ ทำให้นิ้วต้องรับพลังมหาศาลที่จะต้องทนให้ได้ เฟิงหลินก็ไม่ได้ใช้มันบ่อยนัก เหมือนคำปฏิญาณที่จะฆ่าศัตรูด้วยคมดาบ
ดวงตาของลุคถลนออกมา เขารู้สึกถึงจิตสังหารเบื้องหลังการโจมตีนี้
แต่เขาไม่สามารถหลบสิ่งนี้ได้!
ในจุดสำคัญระหว่างชีวิตกับความตาย เขากดปุ่มบนเอวทันที ทันใดนั้นข้อมือของเขาก็เริ่มเปล่งแสงและสร้างเป็นโล่แข็งตรงหน้าเขา
บูม!
เขาใช้นิ้วเป็นดาบแทงทะลุอย่างไร้เมตตา
ถึงกระนั้นพลังก็อ่อนกำลังลงครึ่งหนึ่ง
ลุคดิ้นรนเอาชีวิตรอดมาได้ เขารีบถอยหนีอย่างรวดเร็วโดยไม่สนใจอุปกรณ์หายาก
"ไม่ดีแล้ว!พลังและความเร็วฉันเทียบไม่ได้กับเด็กนี่! พลังการต่อสู้ของฉันไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว และแม้มีเทคนิคก็เปล่าประโยชน์! ฉันต้องใช้ - การโจมตีด้วยลมและไฟ!"
เทคนิคไม่อาจเอาไปเทียบกับพลังนั่นได้ มีเพียงพลังต่อสู้ถึงสามารถใช้ได้ในสถานการณ์แบบนี้
เขาตระหนักว่าเขาอยู่ในสภาพเลวร้าย!
เขาอาจคาดไม่ถึง...
ความรู้สึกหดหู่เข้ากลืนกิน
เฟิงหลินเกรี้ยวกราดมาก ในทำนองเดียวกัน ลุคก็ปฏิเสธที่จะพึ่งพาโชคชะตาและตัดสินใจปลดปล่อยพลัง เขาเข้าปะทะกับเฟิงหลินซึ่งๆหน้า
ยิ่งลากถ่วง เขาก็ยิ่งได้เปรียบ
เมื่อความช่วยเหลือมาถึง เขาก็จะถือโอกาสนั่นรุมสังหารเฟิงหลิน ต่อให้เฟิงหลินมีปีกก็หนีไม่พ้น!
ลุคมีลมและไฟที่มือทั้งสอง
ไฟเป็นหยางลมเป็นหยิน!
ด้วยการรวมกันของไฟและลม ก่อเป็นกงล้อแห่งลมและไฟล้อมรอบทุกสิ่งไว้รอบตัว ทำให้เกิดพายุและคลื่นความร้อน
เฟินหลินรู้ว่าเป็นรอยประทับกระจกหยินหยาง อย่างไรก็ตามลุคได้ผสมผสานรอยประทับฝ่ามือคุนหลุนเข้ากับวิชายุทธ์ยีน และได้พัฒนาให้เป็นเทคนิคใหม่ที่ไม่เหมือนใคร
วงล้อแห่งลมและไฟหมุนด้วยความเร็วสูงมาก เฟิงหลินถูกขังอยู่ในกงล้อลมและไฟ พายุทอร์นาโดที่ล้อมรอบเขาไม่ยอมปล่อยให้เขาหนี
เฟิงหลินมองเห็นลุครีบไปที่อีกด้านผ่านช่องว่างของพายุไฟเหล่านี้
เสือโอหังที่ถูกสะกดจิตต่อสู้กับชายหนุ่มและหญิงสาว
ชายตาเหยี่ยวใช้ปืนรังสียิงอย่างบ้าคลั่ง
หญิงสาวมีแส้ในมือ มันร่ายรำขณะฟาดใส่รอบๆเสือโอหัง ทำให้มันยากสำหรับเขาที่จะเคลื่อนที่ได้อิสระ
ในฐานะเพื่อนร่วมทีม พวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะฆ่าและหลีกเลี่ยงจุดสำคัญของเสือโอหัง
อย่างไรก็ตาม หลังถูกเฟิงหลินสะกดจิต เขาจึงขาดสติ ทุกการโจมตีของเสือโอหังเต็มไปด้วยจิตสังหาร
ด้วยความได้เปรียบของการมียีนเสือลม ร่างกายของเขาจึงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ เขาปล่อยลมพายุ โจมตีอย่างดุเดือดและระงับศัตรูสองคนด้วยตัวคนเดียว
ลุคได้ประมือกับเฟิงหลินมาก่อนและเข้าใจว่าพลังลมและไฟเขาไม่อาจทำลายการป้องกันของเฟิงหลินได้ ดังนั้น เขาจึงอยากถ่วงเวลาเฟิงหลิน ใช้เวลานี้เพื่อปลุกเสือโอหังให้ตื่นเพื่อที่พวกเขาจะได้รวมพลังกันจัดการกับเฟิงหลิน
มันเป็นความคิดที่ดี แต่เฟิงหลินรู้กลยุทธ์ของเขา เขาจะปล่อยให้เป็นยังงั้นทำไม?
เฟิงลินเหยียดแขนออกจากเกลียวคลื่นซึ่งเต็มไปด้วยพลังแรกเริ่ม เทคนิคฝ่ามือยังสำแงดออกมาอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมันทิ้งร่องรอยของฝ่ามือจำนวนนับไม่ถ้วนไว้บนอากาศ ปั่นป่วนพายุให้เกิดความไม่มั่นคง
"ทำลาย!"
เฟิงหลินคำราม อากาศที่รวมกันตรงหน้าอกเขาระเบิด ทำให้พายุลมร้อนที่ขังเขาอยู่สลายหายไป
เขาหลบหนีได้ เคลื่อนที่ดุจสายฟ้าและตัดผ่านระยะทางอย่างรวดเร็ว
ความเร็วนั้นเร็วเกินกว่าจะเปรียบได้ แม้แต่เฟิงหลินเองยังไม่มีเวลาที่จะเปลี่ยนเทคนิคของเขา
การโจมตีไม่มีอะไรงดงาม แต่มันเต็มไปด้วยผลกระทบที่มาจากพลังหมัดความเร็วสูง มันเร็วและรุนแรงมาก เหมือนกระสุนปืนใหญ่ที่ยิงใส่ร่างมนุษย์
"แย่แล้ว!" การแสดงออกของลุคเปลี่ยนไปอย่างมากก่อนที่จะใช้รอยประทับธงแรกเริ่มที่เด่นด้านการป้องกัน
เทคนิคเดียวกันอาจมีพลังที่แตกต่างกันมากถ้าถูกใช้โดยคนอื่น
การชกตามปกติของเฟิงหลินทำให้พลังฝ่ามือป้องกันพังทลายลงและกระแทกใส่หน้าอกของลุคอย่างโหดเหี้ยม
ปัง!
เกราะที่ลุคสวมทับถูกกระแทก เผยให้เห็นรอยแตกคล้ายกับเปลือกของเต่าที่ลุกลามไปทั่ว ขณะที่เขากระอักเลือดออกมาพร้อมอวัยวะภายใน
ถึงกระนั้นเขาก็เป็นคนที่ผ่านประสบการณ์มามาก เขาถ่มน้ำลายออกมาเป็นลูกศรเลือดพุ่งใส่เฟิงหลิน
เฟิงหลินหลบและลุคก็รีบถอยรน น่าเสียดายที่มันเป็นแค่การดิ้นรนไร้ความหมาย
คว้าโอกาสตอนคู่ต่อสู้กำลังอ่อนแอ เฟิงหลินยึดมั่นคตินี้มาตลอด!
เฟิงหลินจะปล่อยให้คนหนีไปง่ายๆได้ยังไง?เขารีบไล่ตาม
กรงเล็บมังกรวัชระ
มือข้างหนึ่งของเฟิงหลินเปลี่ยนเป็นกรงเล็บแล้วเอื้อมมือไปบนสุดของหัวคู่ต่อสู้
มือของเขาตะปบลง กะโหลกของลุคกำลังจะถูกบดขยี้เป็นฝุ่นผงโดยการคว้า
ในช่วงเวลาวิกฤต ร่างเขาพลันหมุนเหมือนลูกข่าง หลบช่วงเวลาแห่งความเป็นและความตายมาได้ เขาล้มลงกับพื้น ดูไม่มั่นคงขณะหนีไปอย่างทุลักทุเล
กรงเล็บที่แข็งแกร่งนั้นแหลมคมมากและเต็มไปด้วยพลังการคว้าจับ มันฉีกเสื้อเขาเป็นเศษผ้า
ลุคยืนอย่างสั่นคลอน ต้องฝืนทนอาการบาดเจ็บภายในนับไม่ถ้วน หัวใจเขาจมลงก้นบ่อ
พวกเขาต่างใช้รอยประทับฝ่ามือคุนหลุน แต่เฟิงหลินกลับเก่งเกินความสามารถของเขา ลุคไม่ใช่คู่ต่อกรเลย
เสือโอหังนั้นคือคนที่แกร่งสุดในหน่วยพวกเขา ต่ก็ถูกสะกดจิตไปแล้ว มันจึงทำให้พวกเขาเสียเปรียบ
ดูเหมือนว่าจะไม่มีโอกาสเลย!
เขาไม่คิดว่าเฟิงหลินจะพัฒนาขึ้นมามากขนาดนี้หลังไม่เจอกันแค่สักพัก วิธีการและกระบวนการเขาดูแปลกไป
แผนเดิมคือใช้พลังของหน่วยเพื่อสะกดข่มเฟิงหลิน แต่ตอนนี้พวกเขากลับยังเอาตัวไม่รอด!
“เอ๊ะ?”ในเวลานั้น เฟิงหลินก็เปล่งเสียงอยากรู้ออกมา
พลังชีวิตเขามีมากกว่าลุคอย่างน้อยสามเท่า แม้จะโจมตีต่อเนื่อง ศัตรูก็ยังสามารถหลบได้
มันไม่แปลกใจที่ลุคคือผู้บ่มเพาะดวงดาวที่ผ่านประสบการณ์มาอย่างโชกโชน
นี่เป็นเหตุผลหลักว่าทำไมเฟิงหลินถึงไม่อาจปล่อยให้ใครรอดชีวิตไปได้
เหตุผลนั้นง่ายมาก มีเพียงคนตายถึงเก็บความลับได้!
เว้นแต่เขาจะไม่มีทางเลือก เฟิงหลินไม่อยากทิ้งโอกาสที่จะเข้าไปสำรวจเศษซากนิกายเตาหลอมอมตะ นี่ทำให้คนเหล่านี้ต้องตาย!
รอยประทับค้อนพลิกฟ้า!
หมัดเขาเหมือนกลองสายฟ้า ที่กระหน่ำซัดลงมา
เฟิงหลินรุกคืบอย่างไร้ปราณี
ลุครวบรวมพลังทั้งหมดที่เหลือและแทบไม่อาจป้องกันตัวเองได้
หมัดเหมือนก้อนหินใหญ่ที่กลิ้งตกลงมา และเขาก็เหมือนวัชพืชที่แกว่งอยู่ท่ามกลางการถล่มของภูเขา
หากมันเป็นสัปดาห์ก่อน เขาคงยังสามารถพึ่งพารอยประทับฝ่ามือคุนหลุน อย่างน้อยก็รับกระบวนท่าของเฟิงหลินได้นับร้อย
ตอนนี้ เขาไม่อาจรับได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว
ทุกๆหมัด ร่างเขารู้สึกเหมือนถูกภูเขาบดทับ
เขากระอักเลือดไม่หยุด ร่างเขาล้อมไปด้วยพลังของลมและไฟ แต่ภายใต้หมัดของเฟิงหลิน พวกมันกลับมอดดับทีละน้อย
เฟิงหลินปล่อยคลื่นหมัดถาโถมเขา ไม่มีแสงแห่งความหวังใดๆ
เขารู้สึกเสียใจที่ประมาทไปและนำแค่ทีมเล็กๆมายับยั้งเฟิงหลิน ดูเหมือนว่าการที่เขาจะหลบหนีไปได้คงยากมาก!
แต่เขาไม่อาจตายไปแบบนี้ได้ เขาคว้าความหวังสุดท้ายและอ้อนวอน“เฟิงหลิน ฉันคือคนที่สอนรอยประทับฝ่ามือคุนหลุนให้นาย ยังไงเราก็นับว่ารู้จักกัน นายต้องกำจัดเราทุกคนจริงงั้นหรอ?”
ดวงตาของเฟิงหลินไม่ไหวติ่งและเย็นชา เขากระโดดไปข้างหน้าแทนคำตอบ
ด้วยหมัดวัชระสยบอสูร แขนเขากวัดแกว่งเหมือนไม้เทา ฟาดใส่กะโหลกของลุคอย่างโหดเหี้ยม
หากลุครู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้ เขาคงไม่แม้แต่จะคิดถึง!
ลางสังหรณ์ของลุคถูกต้อง
เฟิงหลินอยากกำจัดพวกเขาทุกคน!