ตอนที่แล้วกฏแห่งมารตอนที่ 6
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปกฏแห่งมารตอนที่ 8

กฏแห่งมารตอนที่ 7


บทที่ 7 - หญิงสาวขายาว

ผู้ชายทุกคนต่างก็จับจ้องไปที่ผู้หญิงคนนี้ มีคนเมาหนึ่งคนได้ลุกขึ้นและตรงเข้าไปหาเธอ “เฮ้ แม่สาวน้อย…”

ก่อนที่เขาจะพูดจบ นักรบตัวใหญ่ก็ได้ลากเขาไปด้านนอกโรงเตี๊ยม ผู้คนต่างก็เริ่มหัวเราะชายขี้เมาคนนั้น

ดวงตาของดู๋เวยนั้นเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ทั้งนักรบ นักธนู หญิงสาวผู้นี้ได้ถูกล้อมรอบไปด้วยสหายของตน บางทีเธอคงจะเป็นหัวหน้ากลุ่มนี้ นี่เป็นกลุ่มนักผจญภัยเหมือนที่มีอยู่ตามเรื่องเล่าใช่มั้ย?

หลังจากเรียนรู้เกี่ยวกับโลกใบนี้ ดู๋เวยก็รู้ว่ามีกลุ่มนักผจญภัยที่คล้ายคลึงกับกลุ่มทหารรับจ้างอยู่ กลุ่มใหญ่ๆก็จะประกอบไปด้วยหลายร้อยคน ในขณะที่กลุ่มเล็กๆก็จะมีคนเพียงแค่สามถึงสี่คน ซึ่งพวกสัตว์ประหลาดมักปรากฏขึ้นในป่าทางตอนใต้ของอาณาจักร นั้นทำให้มันเป็นที่ดึงดูดเหล่านักผจญภัยที่คิดจะเสี่ยงโชคกับสัตว์ประหลาดได้เยอะแยะเลย เผื่อว่าพวกเขาจะสามารถหากำไรได้จากมัน พื้นที่ท้องถิ่นบางแห่งก็จะจัดจ้างนักผจญภัยพวกนี้มาทำงานบางอย่าง เช่นการจับโจรหรือกำจัดสัตว์ประหลาด

ซึ่งไม่มีสิ่งที่เรียกว่าสมาคมนักผจญภัยหรอกนะ ราชอาณาจักรไม่อนุญาตให้มีอำนาจนอกเหนือจากที่ตัวเองจะสามารถควบคุมแน่

แต่มีนักเวทย์ในปาร์ตี้นี้ด้วยงั้นเหรอ? เรื่องนี้ทำให้ดู๋เวยประหลาดใจมาก หลังจากอ่านหนังสือหลายเล่ม เขาก็รู้ว่าโลกใบนี้ขาดแคลนนักเวทย์มาก ไม่เพียงแต่จะต้องใช้ความสามารถ แต่ยังต้องพยายามเป็นปีถึงจะเป็นนักเวทย์ได้

ตามที่เขาอ่านมา มีนักเวทย์หลายร้อยคนในอาณาจักรแห่งนี้ แม้แต่ขุนนางบางคนก็ยังไม่สามารถหานักเวทย์มาเข้ารับใช้ตนได้เลย นั่นเป็นสาเหตุที่นักเวทย์ได้รับค่าตอบแทนที่ดีเป็นอย่างมาก หากไม่มีเงินมากพอสมควรก็คงจะไม่สามารถจ้างนักเวทย์สักคนได้อย่างแน่นอน

ทว่า กลุ่มนักผจญภัยนี้กลับมีนักเวทย์อยู่ในทีม นี่เป็นสิ่งที่หาได้ยากยิ่ง

กลุ่มนักผจญภัยกลุ่มนี้นั่งอยู่ที่โต๊ะหัวมุม คนในโรงเตี๊ยมเริ่มพูดถึงพวกเขาอย่างเงียบๆ โดยเฉพาะที่โต๊ะของดู๋เวย

อัศวินพวกนี้ต่างก็อารมณ์ไม่ดีนักที่ต้องมาอยู่สถานที่แบบนี้ หลังจากดื่มแอลกอฮอล์ไปไม่กี่ยกแล้ว พวกเขาก็เริ่มขึ้นเสียงขึ้น ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่เคารพดู๋เวยมากนักและเริ่มพูดคุยกันโดยไม่ยั้งคิด

ในที่สุดอัศวินคนหนึ่งก็ได้พูดขึ้นมาว่า“ดูขานั้นสิ พระเจ้า ข้าไม่เคยเห็นขาใครสวยขนาดนี้มาก่อนเลย ผู้หญิงคนนี้คงจะมีราคาสัก 100 ทองหากว่าอยู่ในซ่องของเมืองหลวงจักรวรรดิ!”

"อะไรนะ? 100 ทองงั้นเหรอ? แกเคยไปที่ซ่องของเมืองหลวงจักรวรรดิเปล่าเนี้ย สาวที่ราคาถูกสุดก็มีราคา 300 ทองแล้ว” อัศวินข้างๆเขาหัวเราะขึ้นมา

ดู๋เวยมองไปที่พวกเขาพร้อมคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นว่า “พวกเจ้าคิดว่าเธอสวยงั้นเหรอ? ข้าคิดว่าเธอธรรมดามาก แม้ว่าขาของเธอจะแบบนั้นก็เถอะนะ”

“...”

อัศวินตกใจมากที่เจ้านายตัวน้อยของพวกเขาที่เงียบไปตลอดการเดินทางกลับมาพูดอะไรแบบนี้ ไม่ใช่ว่ามีข่าวลือว่าเด็กนี้เป็นเด็กปัญญาอ่อนงั้นเหรอ? นั่นเป็นเหตุผลที่พวกเขาพูดคำพวกนั้นโดยไม่ได้สนใจเขาเลยสักนิด

"อะไรกันเนี้ย? พวกเจ้ายังเป็นผู้ชายอยู่หรือเปล่า?“ดู๋เวยหัวเราะ” เธอเป็นผู้หญิงและพวกเจ้าเป็นถึงอัศวิน พวกเจ้าแค่นั่งและพวกเจ้าจะพูดคุยเรื่องของเธออย่างนี้งั้นเหรอ? ข้าจะมอบ 10 ทองให้แก่คนที่กล้าทำอะไรสักอย่างหน่อย"

อัศวินพวกนั้นหัวเราะออกมาในทันที แม้ว่านายน้อยผู้นี้จะสูญเสียตำแหน่งของเขาไปแล้ว แต่เขาก็ดูเหมือนจะเป็นคนประเภทเดียวกันกับพวกเขา อัศวินคนหนึ่งจึงได้กล่าวขึ้นมาว่า “นายท่าน โปรดมอบเหรียญทอง 10 ทองให้แก่ข้าด้วย”

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นและตะโกนไปตรงหัวมุม "เฮ้สาวน้อย ให้ข้าเลี้ยงเหล้าหน่อยไหม?"

ผู้หญิงคนนั้นดูโกรธมากและเธอก็ต้องการที่จะลุกขึ้นมา แต่เพื่อนของเธอรั้งตัวเธอไว้และจ้องมองมาที่ดู๋เวย พวกเขากระซิบบางอย่างกับเธอ คงเป็นเพราะพวกเขาเห็นว่าดู๋เวยเป็นขุนนางและก็ไม่ต้องการสร้างปัญหาอะไรขึ้นมาด้วย

เมื่อพวกเขาไม่ตอบอะไรกลับมา อัศวินก็ได้พูดอะไรบางอย่างอีก นั้นก็เป็นจังหวะเดียวกับตอนที่ดู๋เวยลุกขึ้นมาและผิวปากไปที่โต๊ะหัวมุมด้วย จากนั้นเขาก็สะบัดนิ้วกลางของเขา

อัศวินทุกๆคนพลันตะลึงอีกครั้ง! นี้แทบจะเป็นครั้งแรกเลยที่พวกเขาเห็นชนชั้นสูงทำตัวหยาบคายแบบนี้ โดยเฉพาะคนที่เป็นลูกชายของเอิร์ลที่น่าเคารพอย่างนี้

ในขณะนี้อัศวินก็ได้เพียงแต่จ้องมองไปที่นายน้อยของพวกเขา ปฏิกิริยาของหญิงสาวผู้นี้รวดเร็วมาก เธอโยนแก้วมาทางดู๋เวยอย่างรวดเร็ว

อัศวินที่อยู่ด้านหน้าของดู๋เวยก็ตอบสนองได้ทันเวลาและป้องกันแก้วด้วยแขนของเขา แต่น้ำที่อยู่ในแก้วก็พลันกระจายออกมา นั้นทำให้มีแอลกอฮอล์นิดหน่อยที่เปื้อนแขนของดู๋เวย อัศวินรู้สึกโกรธมากและดึงดาบออกมา พวกเขาเดินเข้าไปที่โต๊ะหัวมุมอย่างช้าๆ ผู้หญิงคนนั้นเองก็ดึงดาบออกมาและการต่อสู้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

โรงเตี๊ยมนั้นตกอยู่ในความโกลาหล บางคนก็ได้หนีไปแล้ว ส่วนบางคนก็คอยดูอยู่ไกลๆ

นักรบร่างยักษ์ได้จัดการกับอัศวินหกคนด้วยตัวเขาคนเดียว แม้ว่าทุกๆคนจะดูตัวใหญ่นิดหน่อย แต่พอพวกเขาต่อสู้กันแล้วก็ดูตัวเล็กนิดเดียว โดยเฉพาะนักผจญภัยพวกนั้น นักเวทย์ก็ได้แต่ตะโกนบอกพวกเขาว่าอย่าสร้างบาดแผลร้ายแรง แต่เมื่อนักรบตัวใหญ่ได้ถูกต่อยที่จมูกและมีเลือดออก เขาก็ได้ทุบไปที่อัศวินคนหนึ่งแทบจะในทันที อัศวินผู้ที่ถูกทุบได้ชนกับเคาน์เตอร์และเริ่มพ่นเลือดออกมา อัศวินที่เหลือเริ่มที่จะใช้ความรุนแรงมากขึ้นเช่นกัน จากนั้นก็ได้มีร่องรอยบาดแผลปรากฏไปทั่วร่างของเขา

นักธนูเองก็อยู่ในตำแหน่งที่แย่ที่สุด นักธนูนั้นมีทักษะในการโจมตีระยะไกล แต่ในสถานที่เล็กๆแบนี้ คันศรของเขาถือว่าไร้ความหมาย เขาได้แต่ดึงกริชออกมาและใช้มันโจมตีเพียงเท่านั้น ไม่นานนัก เขาก็ได้ล้มลงไป

หญิงสาวที่เห็นเพื่อนร่วมกลุ่มของตนล้มลงไปก็ได้มองไปที่ดู๋เวย เธอหลบการโจมตีของอัศวินและกระโดดไปหาดู๋เวย แต่เหล่าอัศวินไม่ลืมหน้าที่ๆต้องปกป้องเจ้านายของตน หนึ่งในอัศวินได้ขว้างโต๊ะเขามาและทำให้หญิงสาวคนนั้นกระเด็นไปไกล จากนั้นอัศวินอีกคนก็ได้ฟันเข้าไปที่เกราะของเธอ แสงสีขาวได้เกิดประกายรอบดาบจากนั้นก็กระเด็นออกไป ดูเหมือนว่าเกราะของเธอคงจะถูกเอนชานท์มา

นักเวทย์นั้นซ่อนอยู่ที่อีกมุมหนึ่ง แต่พอเขาเห็นหญิงสาวถูกโจมตี ใบหน้าของเขาก็ดูมืดมัวมาก เขายกแขนขึ้นมาและเริ่มทำสัญลักษณ์ราวกับกำลังร่ายมนตราอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นก็ได้มีวงกลมเวทย์ปรากฏขึ้นที่นิ้วของเขา

อัศวินตระกูลโรแลนด์ต่างก็รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาหนักขึ้นและการกระทำของพวกเขาก็เริ่มที่จะช้าลง ดาบของพวกเขาหนักกว่าครั้งใดที่เคยได้ถือมา ผ่านไปพักหนึ่ง เหล่าอัศวินหลายคนก็ได้รับบาดแผลมามากมาย

ดู๋เวยที่เห็นแบบนี้ ดวงตาของเขาก็เริ่มที่จะส่องประกายแสงขึ้นมา เวทย์มนต์ลดความเร็ว นี้สิเวทย์มนต์ที่แท้จริง!

นิ้วของนักเวทย์ยังคงสะบัดไปมา จากนั้นเขาก็ได้ร่ายบอลไฟใส่อัศวิน หนึ่งในอัศวินสามารถตวัดบอลไฟขาดครึ่งไปได้ แต่ลูกบอลไฟที่เหลืออยู่ก็ยังคงไปโดนอัศวินคนอื่นๆอีก นักเวทย์ยังคงยิงมันไปเรื่อยๆและอัศวินก็เริ่มเสียเปรียบในเวลาไม่นานนัก

ดู๋เวยรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง นักเวทย์ผู้นี้ได้ร่ายบอลไฟมาแปดลูกแล้ว เขาไม่ทราบว่านักเวทระดับหนึ่งนั้นมีมานาเท่าใด แต่มันไม่ควรจะมากพอที่จะใช้มนตราได้เยอะขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อดู๋เวยกำลังให้ความสนใจกับนักเวทย์อยู่ เขาก็สังเกตเห็นว่านักเวทย์ผู้นี้ไม่ได้ท่องอะไรเลยเมื่อเขาขว้างลูกบอลไฟมา และความเร็วของเขายังเร็วมากด้วย เห็นได้ชัดว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่นักเวทย์ระดับแรกเริ่มจะสามารถทำได้

ดู๋เวยจำได้ดีว่านักเวทย์นั้นต่อสู้ในระยะไกลได้ยอดเยี่ยมและอ่อนแออย่างมากในการต่อสู้ระยะประชิด เขาหยิบขวดๆหนึ่งมาแล้วโยนใส่นักเวทย์ นักเวทย์หลบขวดได้ แต่ดู๋เวยเข้าประชิดตัวเขาแล้ว แต่แล้ว ดู๋เวยก็ลืมไปว่าเขาเพิ่งจะอายุสิบสามปีเท่านั้น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถึงนักเวทย์จะอ่อนแอทางด้านกายภาพเพียงใด แต่ก็คงจะไม่ใช่เรื่องยากที่จะเอาชนะเด็กน้อยอย่างเขาได้ ในขณะที่ดู๋เวยได้สูญเสียความคิดไปชั่วขณะ ทันใดนั้นเอง ปัง...นักเวทย์ก็ได้สิ้นสติไป มัดยืนอยู่ข้างๆอย่างตกใจและมือของเขาก็ได้ถือขาโต๊ะไว้อยู่

เมื่อไร้ซึ่งความช่วยเหลือของนักเวทย์ เหล่าอัศวินก็สามารถควบคุมสถานการณ์นี้ได้

ดู๋เวยหาเก้าอี้แล้วก็นั่งลง เขาเป็นคนที่ทำให้สถานการณ์นี้แย่ลงเอง พวกนี้เป็นเพียงนักผจญภัยธรรมดา เทคนิคของพวกเขาก็ยังแค่พื้นฐาน ในหมู่พวกเขาไม่มีใครรู้จักชีเลย

แต่ถึงกระนั้น คนพวกนี้ก็ยังทำให้อัศวินของเขาทั้งยี่สิบคนตกในสถานากรณ์ลำบากอีก ซึ่งนี้ก็แสดงออกด้วยว่าเขาในตระกูลนั้นอยู่ในฐานะอะไร พวกเขาให้อัศวินยอดแย่กับเขามายี่สิบคน

ดู๋เวยเดินไปทางที่หญิงสาวและเริ่มศึกษาเกราะของเธอ หลังจากที่ได้อ่านหนังสือเวทย์มนต์มาจำนวนมาก เขาก็จำลายเอนชานท์สองอันบนเกราะได้ มีหนึ่งอันที่เพิ่มความเร็วและอีกหนึ่งอันที่เพิ่มความแข็งแกร่ง

ซึ่งการเอนชานท์เกราะแค่สองอย่างก็ยังมีราคาสูงมาก แม้จะอยู่ในเมืองหลวงจักรวรรดิก็ตาม แล้วหญิงสาวที่มีทักษะต่ำอย่างนี้มีเกราะเช่นนี้ได้ยังไงกัน?

จากนั้นเขาก็มองไปที่ดาบสั้นของเธอ มันมีอัญมณีฝังอยู่ด้วย ซึ่งดูเหมือนจะเป็นของวิเศษที่สามารถกักเก็บมานาได้ และแน่นอน สิ่งที่มีค่าที่สุดของเธอคือธนูและลูกศรสีเงิน เงินไม่ใช่สิ่งที่ดีสุดสำหรับการต่อสู้เนื่องจากมีความแข็งของมัน แต่มันเป็นวัสดุที่ใช้ต่อต้านเวทย์มนต์ได้ เป็นที่ทราบกันอย่างกว้างขวางว่าโลหะบางชนิดสามารถต้านทานเวทมนตร์ได้ ธนูนี้และลูกศรต่างก็มีคุณสมบัติต้านทานเวทย์มนต์

ดู๋เวยมองไปที่ผู้หญิงคนนี้อีกครั้ง เธอมีอุปกรณ์ที่มีคุณค่ามากมายเช่นนี้ได้ยังไงกัน?

"เอาเกราะของเธอมา" ดู๋เวยสั่งไปโดยไม่คิดอะไรนัก เขาอยากที่จะศึกษาอุปกรณ์เวทย์มนต์ในห้องของเขาเหลือเกิน จากนั้นอัศวินอีกคนก็ได้ตอบกลับมาว่า “อ่า นายน้อย ท่านต้องการให้เราเปลือยเธอที่นี่...”

แฟนเพจ:TranslateEverthingที่ใจต้องการจ๊ะ

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด