ตอนที่ 110 ฉันไม่คิดถูกใครบงการ
เฟิงหลินถูกล้อม
รถที่ถูกทิ้งและอุปกรณ์เสริมโลหะซ้อนกันรอบลานขยะรถบินขนาดใหญ่ ทำให้เส้นทางยุ่งเหยิงและซับซ้อนเหมือนเขาวงกต
เงาทั้งสี่ยืนอยู่แต่ละทิศ ล้อมรอบเขาไว้ไม่มีโอกาสหลบหนีได้
ในความมืด มีสายตาจ้องมองเฟิงหลินอย่างฟาดฟันราวกับจะทะลุผ่านร่างของเขา
บรรยากาศมืดและน่ากลัว
นี่เป็นดินแดนรกร้าง ยากที่จะมีผู้คนมาวุ่นวายไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
จากที่เห็นดูเหมือนว่าลุคจะไม่ได้มีเจตนาดีในการนัดครั้งนี้
ช่างบังเอิญ!
นี่คือสิ่งที่ฉันคิดไว้เช่นกัน!
มันเหมาะกับฉันมากที่นัดพบในสถานที่ที่โดดเดี่ยวเช่นนี้!
ในกรณีนี้ มันจะไม่เป็นที่น่าสนใจมากเกินไปไม่ว่าฉันจะทำอะไรหรือก่อให้เกิดปัญหาที่ไม่จำเป็น
ฮี่ๆๆๆ...
เงาทั้งสี่ใกล้เข้ามาอย่างรวดเร็ว พวกเขาคือทั้งสี่ดูแตกต่างกัน
"หัวหน้า นี่คือเฟิงที่คุณพูดถึงหรอ? ก็แค่เด็กเหลือขอ!" ร่างสูงสามเมตรก้าวออกมาจากเงามืด เขาเป็นชายร่างใหญ่ที่สวมชุดเกราะ จ้องมองเฟิงหลินเหมือนเหยี่ยว และยิ้มอย่างเหนือชั้น "ถึงอย่างนั้น เจ้าหนูนี่ก็มีความกล้าพอ กล้าที่จะมาพบกับหน่วยเลือดเหล็ก ไม่รู้ว่าโง่หรือ…อวดดีกันแน่?”
“อย่าประมาท เสือโอหัง! ความแข็งแกร่งของร่างกายเขาไม่ได้ด้อยไปกว่านาย!” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังชายร่างใหญ่ ลุคก้าวออกมาในชุดปกติ - เสื้อคลุมโบราณของดาวอังคาร
"เขาเนี่ยนะ?!" ชายร่างใหญ่หัวเราะอย่างบ้าคลั่งด้วยความไม่เชื่อ ตาของเขาเบิกกว้างมองเหมือนเสือที่มองเห็นเหยื่อ
เฟิงหลินยังคงนิ่งเฉย เขาไม่สนใจคนเหล่านี้ขณะมองไปยังอีกสองเงาที่เหลือ
คนหนึ่งคือชายที่มีปืนสไนเปอร์โดดเด่นอยู่บนหลัง ดวงตาของเขาเรียวยาวราวกับเหยี่ยว และอีกคนคือผู้หญิงที่เย้ายวนทรงเสน่ห์ มีร่างกายที่น่าดึงดูด เธอสวมกางเกงขาสั้นกระชับพอดีตัว เอวเรียวนั้นช่างดึงดูดใจ เธอมีรอยสักเป็นเอกลักษณ์ของคนจากดาวอังคาร
แม้ทั้งสี่จะดูแตกต่างกัน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่แตกต่าง พวกเขาทั้งหมดมีกลิ่นอายดุร้ายและเป็นภัย นี่เกิดจากสถานะพลังที่สูง
บุคคลทั่วไปจะมีใครกล้าเผชิญหน้ากับพวกเขาทั้งสี่คน
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนพวกนี้เป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวที่มีพลังมากกว่า 10
หัวใจของเฟิงหลินลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จำได้ว่าลุคเป็นหัวหน้าทีมของหนึ่งในหน่วยรบของกองทัพปฏิวัติดวงดาว เขาทำการเชื่อมต่อกับสิ่งที่ชายร่างใหญ่พูดขึ้นก่อนหน้า...หรือว่าคนเหล่านี้จะเป็นเพื่อนร่วมทีมเขา?
ถ้าอย่างนั้นทำไมสเนคบอยถึงไม่มาล่ะ?
เป็นเพราะพวกเขากลัวว่าลูกศิษย์จะเป็นตัวถ่วง?นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีแต่ผู้บ่มเพาะพันธุกรรมสี่คนนี้เท่านั้น
...
มุมปากของเฟิงหลินขดเป็นรอยยิ้มเหยียดหยาม
ตามที่คาดไว้ พวกเขามาพร้อมกับเจตนาไม่ดี!
"เฟิงหลินคุณรักษาสัญญาจริงๆ! เอาละ จงบอกความลับของบริษัทยาไจแอนท์มา!จากนั้น เรา กองทัพปฏิวัติจะรับคุณเข้าร่วมเป็นสมาชิก!" ลุคยิ้ม
"พาผมเข้าเป็นสมาชิก?" เฟิงหลินหรี่ตา แผ่กลิ่นอายอันตราย เขาถามคำถามกลับ "หืม นี่ไม่ใช่สิ่งที่เราพูดกันก่อนหน้านี้ ไม่ใช่ว่าคุณจะพาผมออกจากดาวอังคารทันทีที่ผมบอกความลับกับคุณหรอกหรือ?”
"ไม่ ไม่ ไม่!" ลุคพูดต่ออย่างมั่นใจ "เฟิงหลินผมพูดว่าผมจะจัดการให้คุณออกเดินทาง แต่ผมไม่ได้พูดว่าเมื่อไหร่ ในความเป็นจริง เราต้องการความสามารถของคุณและต้องการให้คุณเป็นสายในบริษัทยาไจแอนท์เพื่อรวบรวมข้อมูลภายใน ตราบใดที่คุณช่วยเราทำลายบริษัทยาไจแอนท์ เราจะส่งคุณกลับสู่โลกทันที!”
เขาเสนอการร้องขอที่อุกอาจต่อเฟิงหลิน โดยขอให้อีกฝ่ายเสี่ยงชีวิตยอมเป็นไส้ศึกในบริษัทยาไจแอนท์
ทุกคนหันมาเยาะเย้ย พวกเขาดูมั่นใจมาก แสดงว่าพวกเขามีข้อมูลที่จะเอามาใช้บังคับเฟิงหลินได้
“คุณจะกลับคำพูด!” ดวงตาของเฟิงหลินหรี่แคบลง
ลุคไม่พอใจ "ไม่! เฟิงหลิน คุณต้องโทษที่ความสามารถของคุณ อย่างที่เขาบอกกันว่าคนที่มีความสามารถที่สุดมักทำงานได้ดีที่สุด"
เฟิงหลินพูด "คุณทำเหมือนผมเป็นคนโง่? ถ้าคุณเปิดเผยว่าผมคือคนที่ปล่อยข้อมูล ผมจะไม่รนหาที่ตายด้วยการกลับไปที่บริษัทยาไจแอนท์แน่นอน"
ลุคหัวเราะ เมื่อรู้สึกว่าเฟิงหลินเริ่มเข้าใจ "ไม่ต้องกังวล! เนื่องจากเราต้องการข้อมูลวงในจากคุณ พวกเราจะเก็บความลับนี้ไว้อย่างแน่นอน นอกจากพวกเราทั้งสี่คนก็ไม่มีใครรู้ความลับนี้แล้ว!สเนคบอยประมาทไป ดังนั้นผมจึงไม่บอกเขา!”
เฟิงหลินหัวเราะในใจและพึมพำกับตัวเองว่า "งั้นก็ค่อยโล่งใจขึ้นหน่อย”
“เยี่ยม!” ลุคพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
โดยไม่พูดอะไรเลย เฟิงหลินพุ่งเข้าหาเขา ดวงตาของเขาเยือกเย็นราวกับน้ำแข็ง ท่าทางทั้งหมดของเขาเหมือนมีดที่ค่อยๆเผยให้เห็นความคมชัดอย่างช้าๆ
“แกจะทำอะไร?”ลุคพบว่ามีบางอย่างผิดปกติ“ระวัง!”
เฟิงหลินลงมือในชั่วพริบตาก่อนเสียงเตือนเขาจะดัง ด้วยพลังชีวิต45.8 พลังเขาจึงเหมือนศรที่พุ่งจากคันศร ตัดผ่านเหมือนสายฟ้าฟาด
ลุคคร่ำครวญด้วยความโกรธ“เฟิงหลิน แกไม่กลัวว่าเราจะล้างแค้นและเผยความลับของแกงั้นหรอ?”
เฟิงหลินหัวเราะลาน "ฉันไม่มีทางยอมให้คนคุกคามฉันไปตลอดชีวิต!”
เขายกแขนทั้งสอง รวบรวมพลังและเหวี่ยงมันลงอย่างฉับพลัน แขนของเขาหมุนวนในอากาศเหมือนแส้พระเจ้า
มันบดขยี้ทุกอย่างตรงหน้าจนแหลกเป็นผุยผง
เฟิงหลินไม่เคยเชื่อใจใครเลย ถึงอย่างงั้นก็มีคนสองประเภทที่เขาไว้ใจ : ตัวเขาเองและอีกอย่างคือ ...
คนตาย!
เปิดเผยความลับของเขา?แก้แค้น?
ไม่มีใครสามารถทำอย่างนั้นได้ ถ้าพวกเขาจะต้องตาย!
เขาจะไม่เลือกเส้นทางที่คนอื่นเลือกให้เขา เขาจะใช้วิธีของเขาผ่านทุกปัญหา!
บูม!
รอยแตกจากการฟาดทำให้อากาศดูราวกับติดไฟ พร้อมกับทำให้เกิดสูญญากาศไร้เสียงขึ้น
ชายร่างสูงสามเมตรฉายา’เสือโอหัง’กระโจนเข้าใส่เฟิงหลิน
ใช้มือทั้งสองเป็นอุ้งเล็บ ตะปบไปที่ลำคอของเฟิงหลิน หากมันโดน คอของเฟิงหลินจะถูกฉีก
พายุเริ่มก่อตัวขึ้นด้านหลังชายร่างใหญ่ ก่อตัวเป็นรูปเสือ เอียงศีรษะพร้อมกับปล่อยเสียงคำราม มันดังก้องกังวานอยู่ในอากาศ
พยัคฆ์คำรน!
แส้ปะทะกับค้อน พายุพลันหายไปและเสือก็ถูกทำลาย กระดูกเขาถูกบดขยี้จนแหลกเละ
รอยยิ้มของชายร่างใหญ่หายไป ดวงตาถลนออกมาจากเบ้าตา
ร่างใหญ่ของเขาทรุดลงในวินาทีต่อมา พร้อมกับมีเลือดไหลออกจากมุมปาก
เพียงเพราะมีขนาดใหญ่ไม่ได้หมายความว่าพละกำลังจะเหนือกว่า!
เฟิงหลินมีสถานะพลังอยู่ที่ 45.8 ยีนลิงหินทำให้เขามีกระดูกที่แข็งแกร่งและมีพลังมหาศาล เขาไม่ได้อยู่ในขอบเขตของมนุษย์อีกแล้ว
ชายร่างใหญ่อาจดูดุร้าย แต่สถานะพลังของเขาอยู่ที่ประมาณ 20 แค่แส้ก็จัดการเขาได้แล้ว!
เฟิงหลินจ้องมองด้วยสายตาเย็นชา รอยประทับฝ่ามือของเขาไล่ตามโจมตีที่หน้าผากศัตรู อีกครั้งพลังที่ท่วมท้นทำให้เลือดไหลผ่านรูรับแสงทั้งเจ็ด
รอยประทับของเฟิงหลินพลันเปลี่ยนไปอีกครั้ง สร้างเป็นรอยประทับอีกอันและแสดงการเปลี่ยนแปลงในหยินหยางไม่รู้จบ
ชายร่างใหญ่จ้องมองด้วยความงุนงง ดวงตาของเขาเริ่มไม่อยู่กับที่ สติของเขาพลันเรือนราง
ยีนจิตของเฟิงหลินแข็งแกร่ง เขามีพลังจิตที่แข็งแกร่งมาก ดุจดั่งคลื่นเมื่อพุ่งผ่านช่องว่างระหว่างคิ้วของชายร่างใหญ่
"แกควรสำนึกเสียใจที่กล้ามาสู้กับฉันซึ่งๆหน้า!”สีหน้าโหดเหี้ยมของเฟิงหลินกลายเป็นความทรงจำสุดท้ายของชายร่างใหญ่ สายตาเขาซ้อนทับในวินาทีถัดมาและหมดสติไป เขาพลันยืนขึ้นด้านหลังเฟิงหลิน ขยับตามคำสั่งเขา
"ฆ่าพวกมัน!" เสียงเฟิงหลินสั่ง ชายร่างใหญ่พุ่งเข้าหาชายหนุ่มและหญิงสาวในทันที
"เสือโอหัง แกบ้าไปแล้วหรือไง!"
"หยุด!"
...
นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจสำหรับผู้บ่มเพาะดวงดาวหนุ่มเหล่านี้
ชายร่างใหญ่งอตัว กล้ามเนื้อของร่างกายใหญ่ขึ้น เส้นผมจากทุกส่วนของร่างกายของเขาตั้งเหมือนเข็ม เขากลายเป็นเหมือนมนุษย์เสือดุร้ายเปล่งรัศมีรุนแรงและอันตราย
กรงเล็บของเขาฉีกทะลุพายุ ทำให้สายลมหมุนวนเหมือนใบมีดที่มองไม่เห็น
รถที่ถูกทิ้งร้างถูกแบ่งออกจากกันด้วยใบมีดลม
สิ่งนี้ทำให้ชายและหญิงสาวมาก ในฐานะผู้บ่มเพาะดวงดาว ยีนของเสือโอหังคือยีนแรกเริ่มเกรดกลาง ยีนเสือลม!
มังกรมาจากก้อนเมฆ และเสือมาจากสายลม!
เสือโอหังคนนี้ไม่เพียงแต่น่ากลัวในการต่อสู้ระยะประชิด แต่เทคนิคของเขายังมาพร้อมกับความแข็งแกร่งเหมือนพายุเฮอริเคน พลังของเขาก็บ้าดีเดือด ทำให้เขาแข็งแกร่งที่สุดในหน่วยพวกเขา
พวกเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้
ท้ายที่สุดแล้วยีนที่พวกเขาปลุกขึ้นนั้นไม่ใช่ชนิดทำให้ร่างกายแข็งแรง ถ้าพวกเขาถูกลมพัดหรือถูกดูดเข้าสู่พายุเฮอริเคนของเสือโอหัง พวกเขาจะบาดเจ็บสาหัส
พวกเขาหลบเลี่ยงการโจมตีแต่อย่างไรก็ถูกเสือโอหังดึงเอากลับมา พวกเขาเสียเปรียบมาก
"เทคนิคสะกดจิต?" ลุคตกใจมาก เขารู้ว่าเฟิงหลินปลุกยีนจิต แต่ไม่คิดว่าจะมีพลังจิตสูงส่งขนาดนี้
เมื่อเห็นว่าเพื่อนร่วมทีมทั้งสามของเขาต่อสู้กันเอง เขาก็กังวลอย่างมากและสีหน้าของเขาก็ดูไม่ดีนัก
"แกควรกังวลตัวแกเอง!" เฟิงหลินหัวเราะเบาๆ มือของเขากำแน่นกลายเป็นค้อนพลิกฟ้าเหมือนภูเขาที่ถูกกดลงอย่างไร้ความปราณี
ฉันคือคนที่สอนรอยประทับฝ่ามือคุนหลุนให้กับแก!
แกอยากใช้มันกับฉัน?!
ลุคพูดดูถูกเหยียดหยาม ใช้ค้อนพลิกฟ้าตอบโต้กลับ
แต่ในวินาทีต่อมา เขาก็ถูกเหวี่ยงออกไปเหมือนกระสอบทรายชนเข้ากับกองขยะ
เขาพยายามยันตัวลุกขึ้นจากกองซากโลหะสนิม เขาดูย่ำแย่มาก สองมือเขาต้องรับพลังมหาศาลและยังสั่นอยู่
".... " ลุคตกใจจนพูดไม่ออก
พวกเขาทั้งคู่ใช้รอยประทับฝ่ามือคุนหลุนและเขาก็เป็นคนสอนเฟิงหลิน!
นั่นเป็นเทคนิคแบบเดียวกัน แต่เขาแพ้!
เป็นไปได้ไหมว่าในระยะเวลาอันสั้นเฟินหลินกลับเก่งเกินกว่าความสามารถของอาจารย์อย่างเขาแล้ว!