ตอนที่แล้วWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 60.1
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 61

WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 60.2


พ่อบ้านโม่ตกตะลึงอย่างมาก แต่ในขณะเดียวกันความคิดที่ชั่วร้ายก็ปรากฏขึ้นในใจ เขาทราบดีว่าดยุคเช่นเซียวอวี๋สามารถใช้ม้า 8 ตัวในการลากรถได้

แม้ว่าตระกูลกำลังตกต่ำ แต่ขุนนางคนอื่นๆก็ยังคงต้องไว้หน้าและกล่าวทักทายเขายามพบปะ มันเป็นกฎของขุนนาง ตอนนี้ลอร์ดของเขาวางแผนที่จะบังคับคุณหนูสี่ให้แต่งงานใหม่ มันจะไม่มีปัญหาเกิดขึ้นหรือหากว่าเจ้าหนุ่มนี่ไม่เห็นด้วย?

"ฮึ่ม! สนใจทำอะไร ไม่มีอะไรมาขัดขวางแผนการได้แม้ว่าเขาจะเป็นดยุคก็ตาม! เขามีประชาชนไม่ถึง 50,000 คนเสียด้วยซ้ำ เป็นเพียงดยุคแต่ในนาม ไม่จำเป็นต้องกังวลกับเรื่องเล็กน้อยนี้"

พ่อบ้านโม่ยังคงแสดงออกอย่างเรียบเฉย ทว่ามีความอิจฉาและความริษยาปรากฏอยู่ในแววตาของเขาขณะที่จ้องมองไปยังรถม้า อย่างไรก็ตาม รถม้านี้ก็เป็นสัญลักษณ์แสดงศักดิ์ฐานะ ผู้คนต่างต้องการได้โดยสารมันสักครั้งในชีวิต โชคไม่ดีที่พวกเขาไม่มีวาสนาพอ

ไม่แปลกเลยที่พ่อบ้านหงส์กล่าวว่าคุณหนูสี่ไม่ต้องการโดยสารรถม้าคันอื่นและเลือกใช้คันนี้ รถม้าของตระกูลหวังแน่นอนว่าดี แต่มันก็ยังไม่สามารถเทียบได้กับคันที่อยู่เบื้องหน้าเขาได้ นี่เหมือนการนำลูกแมวไปเปรียบกับพญาราชสีห์

.......................................

.......................................

หญิงรับใช้สองนางช่วยพยุงซีเหวินขึ้นรถม้าส่วนที่สอง ส่วนแรกนั้นเป็นของเซียวอวี๋

เซียวอวี๋มีอาชาคู่ใจ ทว่าเขาชื่นชอบที่จะดื่มไวน์พร้อมเพลิดเพลินไปกับการชมวิวทิวทัศน์

"เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเราก็ควรออกเดินทางได้แล้วกระมัง" พ่อบ้านโม่กล่าวออกมาขณะมองไปยังเซียวอวี๋

เซียวอวี๋ยกยิ้ม "พ่อบ้านโม่ เหล่าองค์รักษ์ของข้ายังมาไม่ถึง ข้าทราบว่ามีพวกโจรเล็กโจรน้อยออกปล้นชิงในดินแดนของข้า ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยแล้วจึงต้องมีพวกเขา ที่จริงแล้วข้าไปโดยไม่ต้องมีพวกเขาก็ได้ ทว่าข้าเกรงว่าอาจจะมีโจรกลุ่มเล็กๆเข้าโจมตีขบวนของพวกเราเพื่อชิงตัวพี่สะใภ้ห้า รูปโฉมของนางงดงามยิ่ง มีผู้คนมากมายที่ต้องการชิงตัวนางไป"

เซียวอวี๋ใช้คำพูดกำกวมเสียดสีพ่อบ้านโม่

พ่อบ้านโม่ขุ่นเคืองขึ้นมาทันที "ตระกูลหวังทราบดีถึงเรื่องการจัดการอันย่ำแย่ของไลอ้อน ดังนั้นพวกเราจงได้จัดส่งมือดี 100 นายมาด้วย 5 คนในนั้นเป็นผู้ฝึกยุทธ์ ดังนั้นพวกโจรต่ำต้อยย่อมไม่อาจทำอย่างไรได้ ข้าทราบว่าเมืองไลอ้อนไม่อาจเคลื่อนย้ายได้อย่างเสรี ทว่าตระกูลหวังของเราไม่เกรงกลัวใครหน้าไหนทั้งสิ้น ภายใต้การคุ้มกันจากตระกูลหวังเรา ท่านจะปลอดภัยอย่างแน่นอน"

พ่อบ้านโม่พยายามจะสะกดข่มเซียวอวี๋ด้วยการกล่าวอย่างตรงไปตรงไปมา

เซียวอวี๋ทำเพียงอมยิ้ม ไม่นานนักเสียงคำรามก็ดังสะท้อนมาจากภายนอกเมือง ร่างหลายสิบร่างดึงความสนใจจากเหล่าทหารม้าไปทันที

หนึ่งในพวกมันตะโกนขึ้น "ออร์ค!! พวกออร์คมาที่นี่ได้อย่างไร? เตรียมตัวปะทะ!"

ทหารม้าเหล่านี้ต่างได้รับการฝึกฝนมาอย่างดี ทว่าพวกเขาก็ยังตกตะลึงเมื่อเห็นออร์คหลายสิบตน ทุกคนต่างได้ยินชื่อเสียงของเผ่าพันธุ์ออร์คมาก่อน คำว่าออร์คจึงเป็นความหมายของคำว่า กล้าหาญ

เซียวอวี๋โบกมือขณะที่กล่าวออกมาโดยไม่แยแส "ไม่จำเป็นต้องวิตก พวกมันเป็นหน่วยองค์รักษ์ของข้า"

"อะไรนะ? องค์รักษ์?" เหล่าทหารม้ากลายเป็นมึนงง

หน่วยองค์รักษ์ออร์ค?! เป็นเวลาหลายปีแล้วที่พวกเขาไม่เคยได้ยินคำคำนี้! มีเพียงลอร์ดที่ทรงอำนาจอย่างที่สุดเท่านั้นที่มีทรัพยากรสามารถกำราบพวกออร์คที่ป่าเถื่อนและดุร้ายให้กลายเป็นองค์รักษ์ของเขาได้ นี่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่เสียยิ่งกว่าการมีพวกเอลฟ์เป็นสัตว์เลี้ยง

เมื่อไม่นานมานี้เซียวอวี๋ได้ศึกษาตำราเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของทวีปไปมากมาย แม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ทิรันด้าถูกขนานนามเป็นเทพธิดาแห่งเผ่าพันธุ์เอลฟ์ได้ก็ตาม ถึงกระนั้นข้อมูลที่เขาได้รับมาระหว่างนั้นก็มีไม่น้อย

เผ่าพันธุ์ออร์คไม่ได้สูญพันธุ์ไปในทันที ทว่าพวกมันถูกมนุษย์ออกปราบปรามทีละน้อย พวกมันไม่เคยสูญพันธุ์ไปจริงๆแม้แต่ปัจจุบัน พวกมันหลบซ่อนตัวอยู่ภายในส่วนลึกของภูเขาเพื่อหลีกหนีจากสายตาของมนุษย์

ในอดีตพวกออร์คไม่ได้หายากมากนัก พวกมันถูกมนุษย์ออกล่าและจับกุม พวกออร์คจะถูกใช้ในฐานะกลาดิเอเตอร์เพื่อสู้กับนักรบจากเผ่าพันธุ์อื่นหรือแม้กระทั่งออร์คตนอื่นเพื่อมอบความบันเทิงให้กับมนุษย์

ต่อมา มีขุนนางบางคนเริ่มฝึกพวกออร์คให้กลายเป็นผู้คุ้มกัน มันเป็นที่นิยมของเหล่าชนชั้นสูงที่จะมีออร์คเป็นหน่วยผู้คุ้มกัน

ราว 100 ปีก่อน พวกออร์คค่อยๆลดจำนวนลงและสุดท้ายพวกมันก็หายตัวไป

อย่างไรก็ตาม มีการบอกเล่าว่ายังคงมีออร์คนักสู้หลงเหลืออยู่ตามเมืองใหญ่ในฐานะกลาดิเอเตอร์

เซียวอวี๋ทราบว่าจะอย่างไรก็ต้องมีปัญหากับตระกูลหวังขึ้นแน่แล้ว เขาจำต้องเพิ่มหมากในการต่อรองขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงคิดจะใช้หน่วยองค์รักษ์ออร์คที่มีชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์เป็นตัวส่งเสริม นี่เป้นการแสดงออกถึงความเข้มแข็งของเขา นอกจากนักรบออร์ค 10 ตนแล้ว เขายังพาทิรันด้า กรอม และจ้าวมนตรา แอนโทนีดาสไปกับเขาด้วย

เหตุผลที่เขานำทิรันด้าร่วมทางไปด้วยก็เนื่องจาก การมีเอลฟ์เป็นผู้คุ้มกันย่อมดึงดูดความสนใจผู้คนได้มากกว่าหน่วยองค์รักษ์ออร์ค แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วพวกขุนนางจะต้องการพวกเอลฟ์ในฐานะสัตว์เลี้ยงก็ตาม แต่ผู้คนก็ทราบว่าพวกเอลฟ์ชั้นสูงย่อมไม่ยินยอมก้มหัวให้กับมนุษย์ พวกเขาจะทำหน้าที่ผู้คุ้มกันให้กับวีรบุรุษของเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น บุคคลสำคัญอย่าง ออกุสตุสมหาราช มีหน่วยองค์รักษ์เอลฟ์และออร์ครวมกันถึง 1,000 นาย

ฐานะและชื่อเสียงของเซียวอวี๋จะเพิ่มพูนขึ้นมาก หากเขาแสดงให้เห็นว่ามีหน่วยองค์รักษ์ที่เป็นเอลฟ์และออร์ค

นอกจากนี้ ผู้ใช้มนตราเองก็หาตัวจับยาก พวกเขาเป็นตัวตนที่สูงส่ง มีเพียงตระกูลมหาอำนาจเท่านั้นที่จะมีผู้ใช้มนตราชั้นสูงประจำตระกูล เซียวอวี๋พาแอนโทนีดาสไปด้วยเพื่องแสดงถึงความองอาจ จ้าวมนตรานั้นอยู่ที่ระดับ 13 ซึ่งเทียบเท่ากับผู้ใช้มนตราขั้นที่สองของโลกใบนี้

เซียวอวี๋ได้วางแผนการที่จะสร้างภาพลักษณ์ให้กับตนเองไว้ล่วงหน้าแล้ว

"หากพวกมันทำตัวไร้ยางอาย เช่นนั้นที่ต้องทำก็เพียงพาตัวนางกลับมา!"

นักรบออร์คทั้งหมดที่เขานำไปด้วยล้วนมีระดับอยู่ที่ 6 พวกมันไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแรกแม้แต่น้อย อันที่จริงผู้ฝึกยุทธ์ขั้นแรกยังไม่อาจเป็นคู่มือของพวกมันเสียด้วยซ้ำเนื่องจากความแตกต่างทางด้านสรีระ เซียวอวี๋ทราบว่าเขาไม่อาจเผชิญหน้ากับกองทัพด้วยเพียงพวกมันได้ แต่มันก็เพียงพอที่จะพาเขาหลบหนี

มีความตื่นตะลึงปรากฏอยู่ในแววตาของพ่อบ้านโม่ ตาของเขาแทบจะถลนออกจากเบ้า เซียวอวี๋เข้าไปนั่งในรถม้าและโบกมือ "ไปได้"

เขาไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย ทิ้งพ่อบ้านโม่ที่ยังคงตกตะลึงลานไว้เบื้องหลัง...........

------------------------------------------------------

ติดตามได้ที่ Lazy Meow นิยายแปล