ตอนที่แล้วWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 55
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 57

WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 56


ใบหน้าของชายชราซึ่งนั่งอยู่ที่ด้านของแขกเปลี่ยนเป็นน่าเกลียดเมื่อมองเห็นเซียวอวี๋เดินขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์โดยไม่เอ่ยทักทายพวกเขา ชายชราผู้นี้สวมใส่เสื้อผ้าหรูหราที่ประดับด้วยดิ้นทองเพื่อแสดงถึงฐานะอันมั่งคั่งออกมา

อย่างไรก็ตาม เซียวอวี๋ยังคงรักษาท่าทีเอาไว้ เขาได้ปราบพิชิตเหล่าโจรในดินแดนจากตะวันตกจรดตะวันออก มีคนอยู่ไม่มากที่เขาให้ความเคารพ ซึ่งแน่นอนว่าไม่ได้นับรวมแขกกลุ่มนี้

เซียวอวี๋เป็นลอร์ดแห่งเมืองไลอ้อนและพื้นที่โดยรอบ ซึ่งเปรียบได้กับเป็นกษัตริย์ของอาณาจักรเล็กๆแห่งหนึ่ง ราชวงศ์พยัคฆ์คำรนกำลังเผชิญกับความตกต่ำ มีหลายดินแดนที่เคยอยู่ภายใต้ราชวงศ์ได้แยกออกไปตั้งตัวเป็นอิสระ ซึ่งเซียวอวี๋ก็จัดอยู่ในคนกลุ่มนั้น เขาไม่เกรงกลัวการรุกรานจากผู้ใด ดังนั้นเขาจึงไม่นอบน้อมหรือเก็บงำใดๆทั้งสิ้น เขาคือผู้ปกครองแห่งดินแดนทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ การสนับสนุนจากตระกูลหรือดินแดนใดๆล้วนไม่จำเป็น เขาคือผู้มีอำนาจสูงสุดในดินแดนแห่งนี้ แล้วทำไมเขาจะต้องเป็นฝ่ายไปทักทายเหล่าแขกของเขาด้วย?

"แขกเหล่านี้คือ?" เซียวอวี๋ทราบอยู่แล้วว่าพวกเขาเป็นคนจากตระกูลหวัง ตระกูลของพี่สะใภ้ห้า ทว่าเขาก็ยังจงใจถามออกไป

พ่อบ้านหงส์มองออกถึงจุดประสงค์ของเซียวอวี๋ แต่เขาก็ยังแสร้งเป็นไม่ทราบความหมายของมัน "ท่านลอร์ด แขกเหล่านี้คือญาติของนายหญิงที่ห้า พวกเขาเดินทางมาเยี่ยมนางเนื่องจากไม่ได้พบปะกันเป็นเวลานานแล้ว"

โดยปกติแล้วพ่อบ้านหงส์มักเรียกหาเซียวอวี๋ว่า นายน้อยหรือนายท่านในกรณีที่ไม่มีคนนอกอยู่ด้วย ซึ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นเขาก็ต้องเปลี่ยนคำเรียกหาเป็นลอร์ด

เซียวอวี๋ยังแสร้งกล่าวต่อไป "โอ เช่นนั้นพวกเขาก็คือคนจากตระกูลหวัง ช่วงนี้ข้ามัวแต่ยุ่งวุ่นวายอยู่กับการกวาดล้างค่ายโจรกลุ่มต่างๆ ดังนั้นจึงไม่อาจพบปะได้ ข้าหวังว่าพวกท่านจะให้อภัยในความหยาบคายของข้า เนื่องจากพวกท่านเป็นญาติของพี่สะใภ้ห้า เช่นนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นคนอื่นคนไกล ข้าเชื่อว่าพวกท่านจะไม่ขุ่นเคือง"

วาจาของเซียวอวี๋ไม่ได้หยิ่งยโสหรือถ่อมตน นี่เป็นการวางตัวในฐานะลอร์ด

พ่อบ้านหงส์ชื่นชมการแสดงออกของเซียวอวี๋อยู่ในใจ เขาไม่คาดคิดว่าเซียวอวี๋จะสามารถกล่าวถ้อยคำเช่นนี้ออกมาได้ เขารู้สึกเป็นสุขเมื่อมองเห็นผู้สืบทอดของตระกูลเซียวสามารถประสบความสำเร็จต่อจากผู้นำตระกูลรุ่นก่อน

ซึ่งความจริงแล้วเซียวอวี๋เพียงคัดลอกประโยคนี้มาจากภาพยนตร์ที่เคยชมมาแทบไม่มีผิดเพี้ยน ในชีวิตก่อนเขาได้ดาว์นโหลดภาพยนตร์และละครโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับจักรพรรดิ ประวัติศาสตร์หรือสงครามต่างๆมาดูทั้งวันทั้งคืน ซึ่งประโยคหรือถ้อยคำของตัวละครล้วนผ่านตาเขามาแล้ว

"ข้าได้ยินมาว่านายน้อยแห่งตระกูลเซียวมักยุ่งวุ่นวายในยามค่ำคืน บางครั้งเขากระทั่งไม่ได้กลับดินแดนเป็นเวลาหลายวัน วันนี้พวกเราได้ประจักษ์ด้วยตาตนเองแล้ว ช่างมีชื่อเสียงใหญ่โตนัก"

ชายชรากล่าวออกมาด้วยท่าทีสุภาพ แต่ความตั้งใจของเขากลับต่างไปจากท่าทาง เขาไม่แม้กระทั่งลุกขึ้นยืนขณะกล่าวกับเซียวอวี๋ นอกจากนี้เขายังมุ่งประเด็นไปที่เรื่องการดื่มกิน เล่นการพนัน และการกระทำอันเหลวแหลกของเซียวอวี๋ในอดีต

ผู้คนจำนวนมากต่างทราบว่าเมืองไลอ้อนได้อ่อนแอลงตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชื่อเสียงของเซียวซานเทียนขุนพลผู้เลื่องชื่อแห่งราชวงศ์พยัคฆ์คำรนพวกเขาต่างเคยได้ยินได้ฟังมา นี่จึงเป็นสาเหตุที่เขาได้รับสะใภ้ที่งดงามจากหลากหลายตระกูล เซียวซานเทียนเป็นเหตุผลเดียวที่ทำให้ทุกฝ่ายตระหนักถึงการดำรงอยู่ของเมืองไลอ้อน

ทว่า หลังจากที่เขาเสียชีวิตลง ผู้คนส่วนใหญ่ไม่แม้แต่จะชายตามองไปยังดินแดนอันรกร้างทางตะวันตกเฉียงเหนือผืนนี้เสียด้วยซ้ำ นอกจากนี้ชื่อเสียงที่เหลวแหลกของเซียวอวี๋ยังยิ่งใหญ่จนกลบบังชื่อเสียงของบิดาจนสิ้น ดังนั้นคนส่วนใหญ่จึงคิดว่าเมืองไลอ้อนต้องถึงคราวจบสิ้นแน่แล้ว

ดังนั้น มหาอำนาจขุมต่างๆจึงไม่ทราบถึงการออกกวาดล้างค่ายโจรและการมีชัยเหนือกองทัพแคร์รี่ของเซียวอวี๋ พวกเขาไม่ได้สนใจเรื่องราวของดินแดนนี้มาเนิ่นนานแล้ว

เหตุผลประการแรกก็คือ พวกเขาไม่ได้คิดว่าดินแดนแห่งนี้น่าสนใจ ประการที่สอง บิดาของแคร์รี่ได้ใช้ความทุ่มเทอย่างมากในการปกปิดข่าวการพ่ายแพ้ของบุตรชายเอาไว้ ฝ่ายอื่นๆเพียงทราบว่าดินแดนของเดวิดและเมืองไลอ้อนเกิดความขัดแย้งทางทหาร แต่พวกเขาไม่ล่วงรู้รายละเอียดเบื้องลึก

ด้วยเหตุนี้การกระทำอันพลิกฟ้าคว่ำดินของเซียวอวี๋ในช่วงเดือนที่ผ่านมาจึงไม่ระแคะระคายไปถึงหูของขุมกำลังฝ่ายต่างๆ พวกเขาเพียงคิดว่าดินแดนแห่งนี้ยังคงเผชิญกับการถดถอย และอีกไม่นานมันก็จะเลือนหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์

นอกจากนี้อาณาเขตของตระกูลหวังยังอยู่ห่างไกลออกไปหลายพันไมล์จากเมืองไลอ้อน เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะไม่ทราบถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นช่วงนี้ นี่จึงเป็นเหตุผลที่พวกเขาดูถูกเมืองไลอ้อนและเซียวอวี๋

ผู้ใดจะยังให้การยกย่องดินแดนที่กำลังจะล่มสลายกัน? หากเซียวซานเทียนยังคงอยู่ เช่นนั้นชื่อเสียงของเขาก็ยังสามารถสะกดข่มผู้คนเอาไว้ได้ แต่ตอนนี้เขาได้จากไปแล้ว อีกทั้งชื่อเสียงของบุตรชายที่รับช่วงต่อยังย่ำแย่อย่างมาก...

เซียวอวี๋ย่อมไม่โง่และมองออกถึงความตั้งใจของชายชรา แต่เซียวอวี๋กลับมองต่างออกไป เมื่อเห็นว่าตระกูลหวังไม่ได้ให้ความสนใจใดๆเกี่ยวกับเขา เช่นนั้นแล้วก็ปล่อยให้พวกเขาคิดเช่นนั้นต่อไป ประการแรก เขาต้องการเวลาในการกวาดล้างกองโจรที่อยู่ภายในดินแดนรวมถึงพัฒนาดินแดนให้เข้มแข็ง หลังจากนั้นเขาจะสร้างความประหลาดใจแก่ผู้คน ยุคแห่งความวุ่นวายได้มาถึงแล้ว จะเป็นการดีที่สุดหากเก็บงำไพ่ลับเอาไว้อย่างมิดชิด

พ่อบ้านหงส์และหัวหน้าทหารฮุ่ยกลายเป็นมีโทสะจากถ้อยคำของชายชราจากตระกูลหวัง เขาไม่แม้แต่จะให้เกียรติลอร์ดของพวกเขาด้วยซ้ำ เขาคิดว่าตนเองเป็นใครกัน? นี่เป็นการหยามกันมากเกินไปแม้ว่าจะเป็นคนจากตระกูลของซีเหวินก็ตาม!

ทั้งสองต้องการจะกล่าวบางอย่างทว่ากลับถูกปรามเอาไว้โดยเซียวอวี๋ เซียวอวี๋ยังคงแสดงท่าทีเฉยเมย

เมืองไลอ้อนไม่มีแขกที่เป็นชนชั้นสูงมาเนิ่นนานแล้ว การมาเยือนของตระกูลหวังในครั้งนี้ย่อมไม่มีเจตนาดี

ผู้คนย่อมประจบเอาใจยามเมื่อท่านมั่งคั่งและเรืองอำนาจ ทว่าพวกเขาจะแปรเปลี่ยนไปในทันทีที่ท่านหมดวาสนา ในสายตาของพวกเขาเมืองไลอ้อนจะต้องพบกับจุดจบในอีกไม่ช้า ดังนั้นการมาครั้งนี้ย่อมไม่ใช่เพื่อหยิบยื่นความช่วยเหลือ

"ข้าต้องการทราบเหตุผลในการมาของพวกท่าน พวกท่านพาคนมาที่เมืองเสียมากมาย คงไม่ใช่เพียงเที่ยวชมเมืองไลอ้อนของข้าหรอกนะ?" เซียวอวี๋แค่นเสียง

เขาจะไม่สุภาพกับแขกที่หยาบคาย อันที่จริงที่เขาทนรับฟังอยู่นี่ก็เพื่อเป็นการไว้หน้าพี่สะใภ้ห้าของเขา มิฉะนั้นเขาคงสั่งโยนคนเหล่านี้ออกจากเมืองไปเนิ่นนานแล้ว

แม้ว่าเซียวอวี๋จะสร้างความไม่พอใจให้กับพวกเขาก็ตาม เรื่องราวล้วนไม่แปรเปลี่ยนไป ดินแดนของตระกูลหวังนั้นอยู่ห่างไกลจากเมืองไลอ้อนอย่างมาก ทั้งยังมีดินแดนต่างๆขั้นกลางระหว่างพวกเขา การจะส่งกองกำลังมาโจมตีจึงเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แล้วเซียวอวี๋ยังจะเกรงกลัวคนพวกนี้ไปทำไม?

เซียวอวี๋สลัดท่าทีที่ดูสุภาพทิ้งไป

ขุมอำนาจขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับเขามีเพียง อาณาจักรเว่ยและดินแดนของเดวิด อย่างไรก็ตามในตอนนี้ทั้งสองย่อมไม่มายุ่งวุ่นวายกับดินแดนของเขา นั่นทำให้เขาได้มีเวลาเสริมความแข็งแกร่งของดินแดน

"พวกเรามาเยี่ยมเยียนคุณหนูสี่ มารดาของนางป่วยหนักและต้องการพบหน้านางอย่างมาก พวกเรามาเพื่อรับตัวนางกลับไปหามารดา" ชายชราจิบชาโดยไม่เหลือบมองเซียวอวี๋

"อ่อ เป็นเช่นนี้เอง หากมารดาของพี่สะใภ้ห้าป่วยหนักจริงเช่นนั้นางก็สมควรกลับไป ทว่าเหตุใดถึงมาโดยไม่ส่งข่าวมาก่อนล่วงหน้า?" เซียวอวี๋ทราบว่าคำกล่าวของชายชรานั้นเป็นเพียงข้ออ้าง มันยังมีเหตุผลแอบแฝงอยุู่

ชายชราพบว่าเซียวอวี๋ฉลาดพอจะมองข้ออ้างนั้นออก เขาจึงพึมพำกับตนเอง "ข่าวที่สืบทราบมาล้วนบอกว่าชายผู้นี้เป็นสัดใส่ข้าว เหตุใดเขาจึงมีนัยต์ตาที่แหลมคมเช่นนี้?"

พ่อบ้านโม่ครุ่นคิดชั่วขณะหนึ่ง "เหตุผลที่ชายชราผู้นี้เดินทางมาที่นี่ก็สืบเนื่องมาจากข่าวคราวที่ไม่ค่อยจะสู้ดีนักของดินแดนแห่งนี้ ลอร์ดเซียวซานเทียนได้เสียชีวิตลงแล้ว ดังนั้นพวกเราเกรงว่าจะมีอันตรายเกิดขึ้นกับคุณหนูสี่ พวกเราต้องการพานางกลับไปอยู่ที่ตระกูลช่วงเวลาหนึ่ง"

"โอ? 'ช่วงเวลาหนึ่ง' ที่ว่านี่นานเพียงใดกัน?" เซียวอวี๋หรี่ตาลงขณะที่ประกายเย็นชาปรากฏขึ้นวูบหนึ่ง

ความจริงแล้วพ่อบ้านโม่ตระหนักดีถึงช่วงเวลาที่ว่า ย่อมหมายถึงตลอดไป ตระกูลหวังคาดว่าเมืองไลอ้อนกำลังจะล่มสลายลงในไม่ช้า ดังนั้นด้านอาหารและเสื้อผ้าย่อมต้องขาดแคลน สามีของนางก็ตายจากไป นางยังจะอยู่ที่นี่ทำอะไร? พวกเขาต้องการรับตัวนางจากไปและไม่กลับมาเหยียบที่แห่งนี้อีก

เซียวอวี๋ยังจดจำถึงช่วงเวลาที่ถ้ำมองพี่สะใภ้สี่และห้าอาบน้ำได้เป็นอย่างดี เขาเคยได้ยินเสวี่ยซากล่าวกับซีเหวินให้กลับไปยังตระกูล เซียวอวี๋จ้องมองไปยังชายชรา เขาทราบดีว่าพวกเขากำลังคิดที่จะรับตัวนางกลับไปและจัดงานแต่งงานขึ้นมาใหม่

พ่อบ้านหงส์และหัวหน้าทหารฮุ่ยลุกขึ้นยืนทันทีได้ฟังถ้อยคำของพ่อบ้านโม่ ทว่าพวกเขาก็สงบลงเมื่อเห็นว่าเซียวอวี๋ยังคงนิ่งเฉย ในตอนนี้เซียวอวี๋เป็นลอร์ดที่พวกเขาให้การยอมรับ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่กล้าพูดขัดก่อนเซียวอวี๋

สะใภ้คนอื่นๆเองก็ขุ่นเคืองขึ้นมาเมื่อได้ยินวาจาของพ่อบ้านโม่ พวกนางต่างทราบความตั้งใจจริงของตระกูลหวังตั้งแต่แรก อย่างไรก็ตามพวกนางไม่ได้เอ่ยวาจาใดๆเพราะอาจทำให้ตระกูลเซียวต้องเสื่อมเสีย

เดิมที ฉีอิ่นและคนอื่นๆต่างแนะนำให้ซีเหวินกลับไปอยู่กับตระกูลเพื่อชีวิตที่ดี ทว่าการกระทำของเซียวอวี๋ได้แปรเปลี่ยนเมืองไลอ้อนไปจากก่อนหน้าโดยสิ้นเชิง ดังนั้นพวกนางจึงละทิ้งความคิดเดิมทิ้งไป

มีความแตกต่างกันอย่างมากระหว่างเซียวอวี๋เป็นผู้ส่งซีเหวินไปด้วยตนเองกับพวกนางเป็นผู้ผลักไสซีเหวินไป