WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 53
เรื่องละเอียดอ่อนนี้ ทำให้เขาต้องระมัดระวังในการดำเนินการ
เซียวอวี๋ทราบว่านี่เป็นอุปสรรคชิ้นใหญ่ในการก่อสร้างฐานทัพที่สี่ ทว่าเขาก็ยังคงเลือกก่อสร้างมัน ฐานทัพแห่งที่สี่นั้นหมายถึง ฮีโร่คนที่สี่ และนักรบชุดใหม่ที่เขาจะสามารถใช้สอยได้ในอนาคต
อันเดดนั้นเป็นเผ่าพันธุ์ที่คลุมเครือ ทว่าบทบาทในสงครามของพวกมันนั้นยอดเยี่ยมอย่างมาก
เซียวอวี๋ออกค้นหาถ้ำลึกในบริเวณใกล้เคียงเพื่อป้องกันไม่ให้คนนอกพบเจอ จากนั้นเขาจึงลงมือก่อสร้างฐานทัพอันเดดขึ้นมา
ครืนนนน~
มีเสียงดังสะท้อนออกมาขณะที่สุสานซากศพปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าของเขา สายลมเริ่มโหมกระหน่ำและอุณภูมิโดยรอบลดลงอย่างรวดเร็ว
เสียงโหยหวนเริ่มดังสะท้อนออกมาจากสุสานราวกับว่าเซียวอวี๋ได้ตกลงไปในขุมนรก นั้นทำให้เขาสยิวกายด้วยความสยอง เหงื่อเย็นไหลเต็มแผ่นหลังของเขา
ขณะที่เล่นเกมเขาไม่ได้ใช้พวกอันเดด โดยปกติแล้วคนทั่วไปมักรู้สึกไม่ดียามข้องเกี่ยวกับสิ่งที่น่าสยดสยอง
"สร้างแท่นบูชาแห่งความมืด" เซียวอวี๋กลืนน้ำลายขณะออกคำสั่งสร้าง
ครืนนนน~
แท่นบูชาแห่งความมืดปรากฏขึ้นมาที่เบื้องหน้าเซียวอวี๋ เป็นแท่นสูงที่สร้างขึ้นมาจากกระดูกของมนุษย์ นี่ทำให้มันราวกับเป็นภูเขาโครงกระดูก
"โปรดเลือกฮีโร่" เสียงจากระบบปลุกสติของเซียวอวี๋กลับมาจากความตกตะลึง
"เดธไนท์" เซียวอวี๋ทำการเลือกฮีโร่ที่คุ้นเคยมากที่สุด เขาเคยเล่น WoW และอาร์ทัสก็เป็นฮีโร่ที่เขาชื่นชอบจากโศกนาฏกรรมที่เขาต้องเผชิญ นอกจากนี้เขายังตื่นเต้นที่จะได้เห็นดาบฟรอสเมิร์นในตำนาน ยังมีอาชาที่อาร์ทัสเคยใช้อีก
ครึ่งชั่วโมงถัดมาเสียงร้องของอาชาก็ดังขึ้นที่แท่นบูชา
มีเปลวเพลิงลุกท่วมและพวยพุ่งออกมาจากกรีบเท้าทั้งสี่ จมูก และปากของเดธชาร์จเจอร์ที่เป็นสัตว์พาหนะของเดธไนท์ ม้าส่งเสียงร้องออกมาอีกครั้งขณะยกขาหน้าและกระโจนลงมาจากแท่นบูชา
"อาร์ทัสน้อมคำนับนายท่าน" เดธไนท์กระโดดลงมาจากหลังม้าและทำความเคารพเซียวอวี๋ตามธรรมเนียมของอัศวิน
เซียวอวี๋จ้องมองไปยังอาร์ทัส เจ้าชายและพาลาดินที่กลายมาเป็นอัศวินแห่งความตาย ชายผู้ผ่านโศกนาฏกรรมมาไม่น้อย เซียวอวี๋ถอนหายใจขณะที่จำได้ว่าไจน่าต้องกลายเป็นม่ายก็เพราะชายผู้นี้ เขารู้สึกเศร้าเป็นอย่างมากและต้องการที่จะปลอบโยนไจน่าโดยเร็ว
เซียวอวี๋สลัดความคิดนั้นออกไปก่อนและมองดูฟรอสเมิร์นที่ทำให้มนุษย์จำนวนกลายเป็นบ้าคลั่งเพราะมัน
"เป็นอย่างที่คิด ร่างสูง หล่อเหลา....อืม....ถ้าฉันมีรูปร่างหน้าตาแบบนี้ล่ะก็..." เซียวอวี๋กล่าวต่อ "อาร์ทัส จะว่าอะไรไหมหากว่าข้าต้องการยืมดูฟรอสเมิร์น?"
อาร์ทัสตอบกลับมาในทันที "ขออภัยนายท่าน ทว่าดาบเล่มนี้อาจทำร้ายท่านได้ ดังนั้นข้าจึงไม่อาจหยิบยื่นมันให้กับท่านได้"
"อ่า ไม่เป็นไร" เซียวอวี๋จ้องมองเดธไนท์
หลังจากสำรวจดูอาร์ทัสและอาชาของเขาแล้ว เซียวอวี๋ก็เปิดทักษะขึ้นดู และเลือกเรียนรู้ให้อาร์ทัส
เซียวอวี๋ต้องการจะลองขี่อาชาตัวนั้น แต่เขาก็ละทิ้งความคิดนั้นในทันทีที่เห็นเปลวเพลิงพวยพุ่งขึ้นทั่วร่างของมัน
ทักษะที่อาร์ทัสสามารถเรียนรู้ได้:
กลืนกินวิญญาณ(สามารถเพิ่มได้ถึงระดับที่ 3): เดธไนท์สามารถรวบรวมพลังแห่งความมืดและยิงพลังงานออกจากฝ่ามือเพื่อสร้างความเสียหายแก่ศัตรูหรือเยียวยาพวกพ้อง ทักษะมีระยะคูลดาวน์ 10 วินาที
พันธสัญญาแห่งความตาย(สามารถเพิ่มได้ถึงระดับที่ 3): เดธไนท์สามารถสังหารศัตรูและดึงพลังชั่วร้ายเพื่อนำมาฟื้นฟูตนเองได้ ทักษะมีระยะคูลดาวน์ 10 นาที
ข้ารับใช้แห่งความตาย(สามารถเพิ่มได้ถึงระดับที่ 3): เดธไนท์สามารถปลุกซากศพ 2 ตนขึ้นมาช่วยในการต่อสู้ได้ ที่ระดับ 1 อันเดด 2 ตน ที่ระดับ 2 อันเดด 4 ตน ที่ระดับ 3 อันเดด 6 ตน
คำสาปพรากวิญญาณ(สามารถเพิ่มได้ถึงระดับที่ 3): เดธไนท์สามารถร่ายคำสาปใส่ศัตรูด้วยความเสียหาย 50% ผลของมันจะทำให้ วิญญาณ เนื้อหนัง อวัยวะและเลือดเนื้อถูกกัดกร่อนอย่างทรมาณ ทักษะมีระยะคูลดาวน์ 5 วินาที
"เป็นทักษะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความชั่วร้าย" เซียวอวี๋ลูบคางขณะใช้ความคิด ก่อนที่สุดท้ายเขาจะเลือกเรียนทักษะกลืนกินวิญญาณ
ทักษะนี้จะมีประโยชน์อย่างมากในการโจมตีศัตรูและรักษาอันเดดฝ่ายเดียวกัน
ระบบได้มอบกูล 5 ตัวมาในฐานะแรงงาน นั่นทำให้เซียวอวี๋มีความสุขอย่างมาก พวกกูลสามารถใช้แรงงานและเข่นฆ่าศัตรูได้
ยิ่งไปกว่านั้นพวกกูลยังนับเป็นครึ่งยูนิต ตัวอย่างเช่น กูล 2 ตัวจะถูกนับเท่ากับออร์ค 1 ตน นั่นหมายความว่าหากเซียวอวี๋อัญเชิญกูลออกมา 100 ตัว เช่นนั้นก็นับได้ว่าเขาสร้างนักรบออกมาเพียง 50 นายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้มีแผนที่จะเรียกพวกกูลออกมามากมาย เขาไม่ได้วางแผนจะใช้พวกมันอย่างเปิดเผยในสนามรบ
..................................
..................................
เซียวอวี๋สามารถมีนักรบใต้บัญชาการได้ 2,000 นายหลังจากที่ยศของเขาเลื่อนขึ้นมาเป็นครูฝึกทหาร
เซียวอวี๋รู้สึกตื่นเต้นอย่างมาก นี่หมายความว่าเขาจะสามารถควบคุมนักรบได้เพิ่มอีก 1,000 นาย ความแข็งแกร่งของกองทัพเขาจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เซียวอวี๋วางแผนที่จะสร้าง พลธนู 100 นาย พลปืน 100 นาย พลเดินเท้า 100 นาย และออร์คอีก 100 นายในตอนนี้ เขายังวางแผนที่จะสร้างทัพม้า 500 นายและอันเดดอีก 100 ตัว
เซียวอวี๋ออกจากสุสานซากศพและไปยังฐานทัพแห่งอื่นๆเพื่อสั่งสร้างนักรบ
ทว่าเขาได้หยุดลงที่ฐานทัพของออร์คเมื่อมองเห็นว่าไม่มีให้เขาถลุงเล่นอีกต่อไป
จ้าวมนตราได้มาถึงระดับ 10 เมื่อวานนี้ เซียวอวี๋ได้จัดสรรแต้มทักษะไปที่อัญเชิญจิตวิญญาณธาตุน้ำและทำให้มันเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 3 จากนั้นเขาจึงจัดซื้อชุดเกราะเซ็ตที-หนึ่ง อุปกรณ์สวมใส่สำหรับจ้าวมนตรา เกราะชุดนี้ได้เพิ่มความแข็งแกร่งของจ้าวมนตราขึ้นมาเกือบสองเท่าหลังจากที่สวมใส่
อุปกรณ์สวมใส่นั้นมีบทบาทสำคัญในสงคราม ที่กรอมสามารถเข่นฆ่าราวกับเครื่องจักรสังหารก็เป็นผลงานของเกราะเซ็ตที-หนึ่งที่เขาสวมใส่อยู่ เขาสามารถสังหารผู้ฝึกยุทธ์ขั้นที่ 2 ที่โจมตีเข้าใส่เขาได้
ซึ่งผลมาจากการซื้อเซ็ตเกราะนี้เองที่ทำให้เซียวอวี๋หมดตัวอีกครั้ง
"อืม.....ต้องออกทำงานมากกว่านี้แล้วสินะ...." เซียวอวี๋กล่าวออกมาอย่างหงุดหงิด
เซียวอวี๋มองไปที่เงิน 1,000 เหรียญที่อยู่ภายในระบบ นอกจากนี้เขายังเห็นข้อความอีก 2 ข้อความ นั่นทำให้เขาลิงโลดด้วยความยินดี ข้อความแรกมาจากระบบบอกว่า เซียวอวี๋สามารถอัญเชิญฮีโร่เพิ่มได้อีก 2 คนจากการที่เขาสามารถสร้างฐานทัพทั้ง 4 แห่งได้สำเร็จ ข้อความฉบับที่สองเป็นการแจ้งข่าว เนื่องจากเขาสามารถสร้างฐานทัพทั้งสี่แห่งได้ โรงตีเหล็กและร้านค้าต่างๆจะสามารถอัพเกรดให้เป็นระดับที่ 2 ได้ซึ่งจะวางขายน้ำยามานา น้ำยาฟื้นฟูพลังชีวิต และชุดเกราะที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
"ฮ่าฮ่า~ งั้นนี่ก็คือรางวัลจากการสร้างฐานครบทั้งสี่แห่งสินะ! สวรรค์ทรงโปรด ฮ่าฮ่าฮ่า!"
ฮีโร่อีก 2 คนนั่นหมายความว่าอำนาจของเขาจะเพิ่มขึ้นอีกโข ยิ่งไปกว่านั้นเขายังสามารถสร้างเกราะ อาวุธ และอุปกรณ์เกรดดีกว่าเดิมได้ ทั้งยังสามารถซื้อหาน้ำยาที่ทรงประสิทธิภาพยิ่งกว่าเดิม
เซียวอวี๋มือสั่นเทา ขณะที่เขากำลังตัดสินใจจะเลือกฮีโร่อีกสองคน ทันใดนั้นข้อความจากระบบก็เด้งขึ้นมา
"บัดซบ! ต้องใช้เงินอีก 200,000 เหรียญ! นี่เราต้องไปปล้นโจรอีกกี่ค่ายถึงจะหาเงินได้พอ!"