WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 42
ผู้คนภายในเมืองไลอ้อนนั้นสัมผัสได้ถึงความสงบก่อนพายุจะมา หากว่าพวกเขาสามารถต้านทานและฟันฝ่าลูกนี้ไปได้ล่ะก็ พวกเขาก็จะพบเจอกับวันที่แสนสดใส ฟ้าหลังฝนนั้นย่อมงดงามเสมอ
ในตอนนี้เซียวอวี๋มีนักรบที่แข็งแกร่ง 1,000 นายแล้ว เซียวอวี๋ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อการผลิตนักรบสามารถเสร็จทันกำหนด
เขาทอดสายตามองดู ออร์ค 500 ตน พลเดินเท้า 100 นาย พลธนู 200 นาย และพลปืนอีก 100 นาย เซียวอวี๋นั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจเมื่อสายตาของเขากวาดผ่านกองทัพอันเข้มแข็งนี้
เซียวอวี๋สั่งให้กรอม ทิรันด้า และแอนโทนีดาสนำเหล่านักรบของเขาเข้าสู่ส่วนลึกของเทือกเขาเพื่อกำจัดสัตว์อสูรและเพิ่มระดับให้กับนักรบใหม่
เซียวอวี๋ทราบว่าต้องให้เหล่านักรบใหม่เหล่านี้ผ่านสงครามเพื่อเพิ่มพูนประสบการณ์
เซียวอวี๋ตระหนักดีว่าเป็นการยากเกินไปที่จะมอบหมายภารกิจกวาดล้างพวกโจรกลุ่มเล็กๆให้กับเหล่านักรบใหม่ แต่ทว่าในส่วนของเหล่าออร์คนั้น เมื่อพวกมันมีระดับเพิ่มขึ้น พวกโจรย่อมไม่เป็นปัญหาสำหรับพวกมัน นอกจากนี้ความรู้และสติปัญญาในการสู้รบของเหล่านักรบจะเพิ่มเพิ่นขึ้นจากการผ่านการสู้รบอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าการเพิ่มความแข็งแกร่งนั้นจะสำคัญ หากทว่าปัญญานั้นมีอิทธิพลต่อสนาบรบกว่ามาก เขาไม่ต้องการเครื่องจักรที่ไม่มีสติปัญญาและถูกทำลายด้วยลูกไม้ตื้นๆของศัตรู เขาต้องการเหล่านักรบที่มีคิดและสามารถตอบสนองสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
นี่จึงเป็นผลให้เขาตัดสินใจที่จะส่งนักรบเข้าไปในภูเขาเพื่อฝึกและเพิ่มพูนประสบการณ์
......................
......................
สายลับที่ถูกส่งตัวไปเฝ้าจับตาดูกองทัพของแคร์รี่นั้นรายงานกลับมาว่า แคร์รี่จะเริ่มเปิดฉากการโจมตีครั้งใหญ่ภายในสี่วัน ทุกคนรู้สึกโล่งใจที่สามารถรู้วันเข้าโจมตีได้ ขณะที่พวกเขากำลังทุกข์ทรมานจากการรอคอยการโจมตีจากศัตรู
เซียวอวี๋เรียกตัวเหล่านักรบทั้งหมดมาที่เมืองไลอ้อน เว้นเพียงแต่เหล่านักล่าที่ถูกส่งไปสอดแนมตำแหน่งของศัตรู
สะใภ้คนที่สี่เสวี่ยซานั้นกลับมาอยู่ในชุดศึกอีกครั้ง นางตั้งใจที่จะเข้าร่วมในสงคราม เซียวอวี๋จึงสั่งให้หัวหน้าทหารฮุ่ยส่งคนไปอารักขานางอย่างลับๆ
แคร์รี่กำลังเดินทางมาพร้อมด้วยกองทัพ 20,000 นายของเขา นี่จำนวนที่มากกว่าครั้งก่อนถึง 4 เท่า ผู้คนต่างรับรู้ข้อเท็จจริงข้อนี้ดี แต่ทว่าพวกเขาก็ยังหวังว่าลอร์ดของพวกเขาจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นได้อีกครั้ง
สี่วันผ่านไป นักล่าก็กลับมารายงานว่าแคร์รี่กำลังอยู่ระหว่างการเดินทัพมา เซียวอวี๋ได้แจกจ่ายของว่างและสุราให้แก่ไพร่พลที่อยู่บนกำแพงเพื่อให้พวกเขาได้ผ่อนคลายจนกระทั่งถึงเวลาสู้รบ
หัวหน้าทหารฮุ่ยได้คัดค้านความคิดของเซียวอวี๋ที่แจกสุราให้แก่ไพร่พลอย่างมาก สิ่งนี้จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการรบของกองทัพได้ ซึ่งเซียวอวี๋ก็ไม่ได้ยืนกรานต่ออีก เขาได้สอนให้พวกออร์คหัดเล่นหมากรุกเพื่อเพิ่มพูนสติปัญญาของพวกมัน เขาต้องการให้พวกมันสามารถคิดด้วยตนเองได้ และกลายมาเป็นออร์คและเอลฟ์ที่แท้จริงไม่ใช่แค่เพียงหุ่นเชิดที่ทำตามคำสั่งของเขาเพียงอย่างเดียว
มันเป็นเกมสนุกๆที่แม้กระทั่งเหล่าทหารทั่วไปก็เข้าร่วมด้วย ออร์คที่ป่าเถื่อนและหยาบคายนั้นใช้นิ้วคีบตัวหมากขณะที่ส่ายหัวและครุ่นคิดถึงการเดินหมากครั้งต่อไป
"เจ้าทำแบบนั้นไม่ได้! เจ้าได้เดินหมากไปแล้ว! จะเปลี่ยนไม่ได้อีก! นายท่าน เจ้าทึ่มนี่ไร้ยางอายและพยายามที่จะโกงข้า!" อสูร18 เอ่ยประท้วงอย่างรุนแรงกับพฤติกรรมของอสูร50 มันหันไปร่ำร้องหาความยุติธรรมจากเซียวอวี๋
"เล่นอย่างใสสะอาดและกระทำตนเฉกเช่นสุภาพชน" เซียวอวี๋กล่าวออกมาขณะที่เขากำลังพิงเก้าอี้อยู่ มือข้างหนึ่งของเขาถือหนังสือประวัติศาสตร์อยู่ในมือ ขณะที่อีกข้างหนึ่งยกแก้วไวน์ขึ้นจิบ ทิรันด้าและแอนโทนีดาสกำลังจิบไวน์พร้อมกับเล่นหมากรุกอยู่ที่โต๊ะข้างเซียวอวี๋
เดิมทีแล้วเหล่าไพร่พลของเมืองไลอ้อนนั้นต่างอยู่ในความวิตกกังวลอย่างยิ่งเมื่อได้ยินว่าแคร์รี่มีกองทัพถึง 20,000 นาย หากทว่าพวกเขาก็ผ่อนคลายทันทีเมื่อเห็นว่าเซียวอวี๋กำลังกินและดื่มอย่างสบายใจราวกับว่าศึกครั้งนี้นั้นไม่อยู่ในสายตาของเขา
แม้ทหารบางนายที่ไม่กล้าเข้ามาชมดูการเดินหมากใกล้ๆเพราะหวาดเกรงหัวหน้าทหารฮุ่ย พวกเขาจึงทำเพียงล้อมวงดูอยู่เงียบๆ เหล่าทหารที่ชาญฉลาดนั้นสามารถเข้าใจกฏของหมากรุกได้อย่างรวดเร็ว และได้แนะนำเหล่าออร์คที่หัวช้าให้เดินหมากได้อย่างถูกต้อง
ตูมมมมมม!
ทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังอยู่ในงานรื่นเริงเมื่อมีเสียงดังขึ้น หลังจากนั้นเสียงแตรก็เริ่มดังไปทั่วบริเวณ
ในที่สุดกองทัพของแคร์รี่ก็มาถึงแล้ว
"หยุดก่อน! พวกศัตรูได้มาถึงแล้ว เอาไว้จบศึกแล้วเจ้าค่อยมาแก้มือใหม่" อสูร7 คำรามออกมา
"เกมนี้ข้าชนะแล้วชัดๆ! อย่าได้เล่นตุกติกกับข้า หากว่าเลิกราในลักษณะนี้แน่นอนว่าข้าย่อมต้องได้รับชัยชนะ" อสูร21 คำรามตอบ
เซียวอวี๋ยังคงอยู่ในท่าทีสบายๆ เขามีนักรบอยู่ 1,000 นายและสามารถจัดกระบวนทัพเพื่อจัดการศัตรูได้โดยง่าย นอกจากนี้เขายังได้ออกคำสั่งให้เหล่านักล่าทั้งหมดอยู่ภายในเมือง พวกนักล่าส่วนใหญ่นั้นอยู่ในระดับที่ 2 ในขณะที่มีบางส่วนไปถึงระดับ 3 เมื่อพวกเขาไปถึงระดับที่ 3 พวกเขาก็จะได้รับทักษะที่รักว่า ทวนจันทรา เมื่อทักษะนี้ถูกเปิดใช้งาน พวกเขาก็จะสามารถขว้างทวนให้ทำหน้าที่ดั่งบูมเมอแรงและย้อนกลับมาหาพวกเขาได้
ทักษะนี้ของพวกนักล่าสร้างความอิจฉาให้กับซียวอวี๋ เซียวอวี๋นั้นชื่นชอบการเล่นบูมเมอแรงมาตั้งแต่เด็ก ทว่าเขาก็ไม่สามารถทำให้มันบินกลับมาหาเขาได้เลยสักครั้ง
.................................
.................................
แคร์รี่ยังคงนั่งอยู่ในรถม้าที่หรูหราคันเดิม ดวงตาของเขานั้นมืดมน ขณะที่ที่ปรึกษากองทัพ โดทู ยืนอยู่ด้านข้างรถม้าอย่างเงียบๆ
"เซียวอวี๋ คอยดูว่าคราวนี้เจ้าจะสามารถต้านทานกองทัพที่ยิ่งใหญ่ของข้าได้หรือไม่! ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจที่เกิดมาเป็นศัตรูกับนายท่านผู้นี้!" แรงจากการกำมือของเขาทำให้แก้วไวน์ที่อยู่ในมือพลันแตกออกทันที
กองทัพทั้ง 20,000 นายกำลังเคลื่อนทัพอย่างเป็นระเบียบ แถวของพวกมันถูกจัดขึ้นอย่างเรียบร้อย ทหารเหล่านี้ต่างรวมใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันหลังจากฝึกซ้อมร่วมกันมาตลอดหนึ่งเดือน พวกเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจว่าคราวนี้เมืองไลอ้อนย่อมไม่อาจฝืนชะตากรรมได้อีก
นอกจากนี้แคร์รี่ยังประกาศจะมอบรางวัลแก่ผู้ที่มีผลงานโดดเด่นในสงคราม เช่น ผู้ใดที่สามารถเข้าสู่เมืองไลอ้อนได้เป็นคนแรกจะสามารถเพลิดเพลินไปกับการปล้นชิงได้ตลอดสามวันเต็ม นอกจากนี้ยังมีผลตอบแทนอื่นๆ อีกมากมายมหาศาล
แคร์รี่เข้าใจดีว่าการมอบรางวัลนั้นเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ไพร่พลสู้ถวายหัวโดยไม่เสียดายชีวิต ในมุมมองของเขาแล้ว รางวัลเหล่านี้ไม่นับเป็นอย่างไรตราบใดที่เขาสามารถจับเซียวอวี๋มาได้
เขากวาดมองไปยังกองทัพของเขาที่ราวกับน้ำหลาก กองทัพของแคร์รี่นั้นมากกว่าเซียวอวี๋อย่างน้อยก็ 20 เท่า เขาไม่เชื่อว่าเซียวอวี๋จะสามารถหลบหนีความตายได้อีก
ตึงงงงงงง!
เหล่าทหาราบเกราะหนักกระแทกเท้าลงบนพื้นดิน การเคลื่อนไหวอย่างเป็นจังหวะของพวกมันนั้นไม่ต้องพึ่งพากลองศึกเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจ
"พวกออร์คงั้นหรือ? แล้วอย่างไร? พวกเรามีทั้งผู้ใช้มนตราและผู้ฝึกยุทธ์! ยิ่งไปกว่านั้นเรายังทัพม้า! พวกเราจะเข่นฆ่าและตัดหัวพวกมันทั้งหมดลงมา! สิ่งนี้จะพิสูจน์เกียรติยศของพวกเรา! พวกเราจะแสดงกระโหลกศีรษะของพวกมันยามเมื่อพวกเรากลับไป!"
เหล่าทหารนั้นไม่หวาดเกรงพวกออร์ค กลับกันพวกมันกำลังคึกคัก พวกมันไม่ใช่ไพร่พลชั้นเลวที่ไม่ได้รับการฝึก พวกมันทุกคนล้วนผ่านการฝึกมาอย่างเข้มงวด ทั้งยังมีเกราะและอาวุธชั้นเลิศ จำนวนของพวกมันก็มากกว่าอีกฝ่าย หากว่าพวกออร์คนั้นไร้ผู้ต้านจริง แล้วเหตุไฉนพวกมันจึงสูญพันธุ์?
กองทัพของแคร์รี่หยุดอยู่ห่างจากจากเมืองไลอ้อนประมาณพันก้าว
พวกทหารของแคร์รี่เริ่มโห่ร้องเพื่อข่มขวัญ! ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเสียงตะโกนจากคนกว่า 20,000 จะทรงพลังขนาดไหน นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่าพวกมันมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่าจะสามารถตีหักเมืองไลอ้อนได้
เหล่าทหารเริ่มจัดรูปขบวนขึ้นมา การโจมตีจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า.......
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------