ตอนที่แล้วWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 28
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปWOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 30

WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 29


เซียวอวี๋จ้องมองไปยังค่ายทหารขณะที่เขากำลังไตร่ตรองถึงประเภทและจำนวนของทหารที่จะสร้าง นี่นับได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียว ค่ายทหารสามารถที่จะสร้างพลเดินเท้า คนแคระผู้ใช้ปืน และอัศวิน เซียวอวี๋ตระหนักได้ว่า เขาจำเป็นจะต้องป้องกันเมืองอีกครา ดังนั้นเขาจึงตัดอัศวินทิ้งไปก่อน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าอัศวินนั้นเป็นนักรบที่ดีที่สุดของเผ่าพันธุ์มนุษย์

เซียวอวี๋ทราบดีว่า หากเขาไปเผชิญเข้ากับโจรกลุ่มที่ทรงอำนาจเข้าล่ะก็ แน่นอนว่าพวกมันย่อมต้องมีกองทหารม้าอยู่ด้วย และนั่นจะทำให้เขาต่อสู้โดยเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างยิ่ง แต่การที่เขาสามารถควบคุมจำนวนทหารได้น้อยกลับเป็นปัญหาที่สำคัญยิ่งกว่า ด้วยยศหัวหน้าหมู่ทหารแล้ว เขาจะสร้างควบคุมกองทัพได้เพียง 1000 นาย และเขาจะต้องแน่ใจว่าทุกตัวเลือกที่ได้ตัดสินใจไปนั้นจะมีประโยชน์ในสงครามครั้งต่อไป

"คงต้องยอมแพ้เรื่องอัศวินไปก่อน ฉันคงต้องสร้างนักรบออร์ค พลเดินเท้า และพลปืน จากนั้นค่อยสร้างอัศวินออกมาเมื่อมียศสูงกว่านี้ ถึงตอนนั้นฉันจะมีกองทัพอัศวินและกวาดพิชิตบุกตะลุยไปได้ทุกที่ หากจัดให้นักรบออร์คเป็นทัพหลังอัศวินด้วยแล้ว เราก็จะสามารถบดขยี้ได้กองทัพได้ทุกรูปแบบ!"

เซียวอวี๋วางแผนขึ้นภายในใจ เขาตระหนักดีว่าทัพม้านั้นมีบทบาทอย่างมากในการทำสงครามของโลกใบนี้ พวกเขาจะสามารถทำลายรูปแบบกองทัพของศัตรูได้อย่างรวดเร็ว และหากว่าเขาส่งเหล่านักรบออร์คตามกวาดล้างในระลอกที่ 2 ด้วยแล้ว เช่นนั้นชัยชนะก็ต้องตกอยู่กับฝั่งเขาอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนั้นเขาจึงออกคำสั่งให้สร้างนักรบออร์คขึ้นอีก 300 นาย กองทัพหลักของเขาก็คือนักรบออร์ค เขามีพลธนูเอลฟ์อยู่แล้ว 200 นาย และเขาไม่อยากใช้จ่ายไปกับเอลฟ์อีก เนื่องจากพวกเอลฟ์นั้นเปราะบางเกินไปในการสู้รบระยะประชิด อีกทั้งระยะการโจมตีของพวกเขาก็ยังมีขีดจำกัด

เซียวอวี๋ยังสามารถสร้างทหารได้อีก 200 นาย ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจสร้างพลเดินเท้า 100 นาย และพลปืนเผ่าคนแคระ 100 นาย ที่เขาตัดสินใจจัดสร้างพลเดินเท้าทั้งที่เขามีนักรบออร์คอยู่แล้วก็เพราะว่า พวกเขามีโล่! พลเดินเท้าจะมีบทบาทสำคัญในสงคราม พวกเขาสามารถต้านทานการโจมตี หรือปกป้องกองทัพจากพลธนูฝ่ายตรงข้ามได้

สำหรับพลปืน เซียวอวี๋ครุ่นคิดอยู่เพียงครู่ก่อนที่จะตัดสินใจสร้าง พวกเขานั้นแตกต่างจากพลธนูเอลฟ์โดยสิ้นเชิง อย่างแรกเลยคือ คนแคระย่อมไม่ 'เปราะบาง' ดังเช่นพวกเอลฟ์ ดังนั้นการต่อสู้ในระยะประชิดของพวกเขานั้นแข็งแกร่งไม่เบา นอกจากนี้อำนาจทำลยล้างของพลปืนยังสูงกว่าธนูอย่างเห็นได้ชัด พลปืนเหล่านี้จะสามารถทำลายกองทัพเกราะหนักของฝ่ายศัตรูได้ไม่ยาก

ผ่านไปไม่นานพลเดินเท้าผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากค่ายทหาร เซียวอวี๋นั้นเคยเห็นตอนออร์คถูกสร้างมาแล้ว เขาจึงไม่ได้ไปคอยดูอีกและเลือกที่จะมาดูพลเดินเท้าและพลปืนเผ่าคนแคระแทน

เซียวอวี๋ดกลายเป็นตื่นเต้นขณะที่พลเดินเท้าถูกอัญเชิญออกมา เป็นชายที่ดูแข็งแกร่ง ถือโล่ใบยักษ์และกุมดาบไว้อย่างมั่นคง พลเดินเท้าหยุดยืนเบื้องหน้าเซียวอวี๋และตะโกนขึ้นเสียงดัง "คำนับนายท่าน!"

พลเดินเท้ามิได้มีรูปร่างที่สูงหรือแข็งแรงเท่านักรบออร์ค ทว่าคุณภาพของพวกเขานั้นจัดได้ว่ายอดเยี่ยม! พลเดินเท้ามีส่วนสูงอยู่ที่ราวๆ 180 ซม. และร่างกายที่สมมาตร เมื่อเปรียบเทียบกันแล้วพวกทหารที่เขาเคยได้พบมานั้นดูด้อยค่าไปเลย ทว่า ในวินาทีถัดมาเซียวอวี๋ก็อ้าปากค้างขณะที่จ้องมองดูโล่และดาบของพลเดินเท้าอย่างละเอียด

"บัดซบ! กระทั่งชุดเกราะ โล่ และดาบที่พวกโจรใช้ยังดูดีเสียยิ่งกว่า! โล่ที่ทำมาจากไม้ผุๆและมีเหล็กเสริมเข้าไปที่ด้านข้าง... และดาบนี่มันอะไรกัน! นี่มันเศษเหล็กชัดๆ! ชุดเกราะที่ฉันได้มาจากกองทัพของแคร์รี่ยังคุณภาพดีกว่านี้เสียอีก!"

เซียวอวี๋ถอนหายใจหมดหนทาง เขาทราบดีว่าเขาจำต้องจ่ายเงินออกไปอีกมาก ระบบกำลังขูดรีดเลือดเนื้อจากเขาอยู่!

เซียวอวี๋สั่งให้ช่างตีเหล็กของเผ่ามนุษย์จัดสร้างชุดเกราะและโล่ขึ้นสำหรับพลเดินเท้าทันที แต่เซียวอวี๋ก็ต้องรู้สึกตกตะลึงอีกครั้งเนื่องจากราคาของอุปกรณ์สวมใส่เผ่ามนุษย์ยังมากกว่าออร์คถึงสองเท่า! ชุดเกราะของพวกออร์คนั้นเพียงปกปิดจุดสำคัญ แต่ของมนุษย์นั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง เซียวอวี๋อยากจะร้องไห้ที่เขาตัดสินใจสร้างพลเดินเท้าขึ้นมา หากเขาทราบล่วงหน้า เขาจะสร้างพวกออร์คสุดรักขึ้นแทน!

โชคดีที่เขาออกคำสั่งสร้างพลเดินเท้าไปเพียง 100 นาย มิฉะนั้นเพียงค่าชุดเกราะ เซียวอวี๋ก็ต้องจ่ายออกไปถึง 200,000 เหรียญแล้ว

ในขณะเดียวกันพลปืนก็สร้างเสร็จแล้ว เซียวอวี๋แทบกลั้นขำไว้ไม่อยู่ขณะมองดูคนแคระ หนวดของคนแคระนั้นเกือบจะยาวระพื้น พวกเขากอดปืนเอาไว้ขณะเดินมาหยุดที่เบื้องหน้าเซียวอวี๋ และเสียงตะโกนของพวกเขากระทั่งดังยิ่งกว่าอร์ค "คำนับนายท่าน! ท่านมีไวน์ให้ข้าหรือไม่?"

เซียวอวี๋นั้นประทับใจคนแคระอย่างยิ่งยามแรกพบ ทว่าคำถามสุดท้ายกลับทำให้มันพังทลายลงไปในทันที ตอนนี้เขาอยากจะเตะก้นคนแคระนี่แทนแล้ว

"เล็งยิงไปยังต้นไม้ ข้าต้องการทราบความสามารถของเจ้า" เซียวอวี๋ต้องการทราบประสิทธิภาพและความแม่นยำของพวกพลปืน เขาต้องการจะเปรียบเทียบกับพลธนูเอลฟ์

พลปืนนั้นผงกศีรษะ "ขอรับนายท่าน"

พลปืนหยิบถุงเล็กๆออกมาและล้วงเอาลูกกระสุนเม็ดกลมๆออกมา หลังจากนั้นเขาก็ยัดลูกกระสุนเข้าไปที่รังเพลิงชักและเล็งไปยังต้นไม้

ปังงงงงงง!

มีเสียงดังก้องออกมา และเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ขึ้นบนหินที่อยู่ข้างๆต้นไม้

เซียวอวี๋กุมขมับทันที

"นายท่าน......ระดับของข้ายังต่ำอยู่ ดังนั้นจึงไม่แม่นยำอย่างที่ควรจะเป็น" คนแคระเกาศีรษะขณะที่กล่าวออกมาด้วยความอับอาย เซียวอวี๋พูดไม่ออกไปชั่วขณะ เห็นอยู่ชัดๆว่าเล็งไปที่ต้น แล้วไหงมันกลับไปโดนหินได้ฟระ! ยิ่งไปกว่านั้นคนแคระนี้ยังยอมรับอย่างซื่อตรงอีกด้วย! โอ สวรรค์....

"อืม" เซียวอวี๋กลายเป็นทดท้อขณะนำผลลัพธ์ไปเปรียบเทียบกับฝีมือที่แม่นยำของพวกเอลฟ์ ไม่นาน เขาก็ทำใจยอมรับได้ว่านี่อาจจะเป็นข้อดีและข้อเสียเพื่อทำให้สมดุลกันของระบบเอง แม้อำนาจทำลายล้างของมันจะรุนแรง ทว่ากับมาพร้อมความแม่นยำที่ต่ำ มันเป็นการคิดตื้นเขินเกินไปว่า พวกคนแคระจะสามารถยิงสังหารแม่ทัพที่ถูกล้อมรอบโดยพลทหารทั่วไปได้

นอกจากนี้มันยังมีข้อเสียอยู่อีก การบรรจุกระสุนของพวกเขานั้นใช้เวลามากเกินไป ในขณะที่พวกเอลฟ์นั้นรวดเร็วกว่าราวสี่ถึงห้าเท่าหากเทียบกันในด้านของความเร็ว นอกจากนี้ปืนไรเฟิลที่คนแคระใช้ยังเป็นปืนไรเฟิลที่เก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ เซียวอวี๋ทราบว่ามันสามารถอัพเกรดได้ ทว่าเขาไม่ทราบว่ามันจะได้ถึงระดับไหน หากว่ามันสามารถที่จะอัพเกรดเป็นปืน AK47s ได้แล้วล่ะก็ เช่นนั้นก็ฝากทุกสิ่งให้กับพวกคนแคระและรอคอยปกครองโลกใบนี้ได้เลย

"ฉันต้องหาทางเปลี่ยนปืน" เซียวอวี๋ยิ้มอย่างเจ็บปวด แต่เนื่องจากตอนนี้เขายังมีเงินอยู่ในมือมันจึงไม่เป็นปัญหามากนัก

แม้ว่าทั้งพลเดินเท้าและพลปืนจะมีข้อบกพร่องอยู่บ้าง แต่เขาก็ทราบว่าพวกเขาจะมีประโยชน์ในบางสถานการณ์

นอกจากมนุษย์แล้ว เขายังต้องจัดสร้างชุดเกราะให้กับพวกเอลฟ์อีก และมันยังเร่งด่วนยิ่งกว่าในส่วนของทัพมนุษย์และออร์ค พวกเอลฟ์นั้นอ่อนแอเกินไป เพียงมีดเล่มบางๆก็จบชีวิตพวกเขาได้แล้ว

เซียวอวี๋พยายามจะหารือกับทิรันด้าเพื่อเปลี่ยนชุดเกราะหนังให้มีคุณภาพดีขึ้น หากทว่าทิรันด้าไม่แม้แต่จะฟังเขา นางกล่าวว่าชุดเกราะนั้นเพียงให้มนุษย์และออร์คที่เป็นสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำสวมใส่ก็เพียงพอแล้ว! เอลฟ์ชั้นสูงจะไม่สวมใส่พวกของดังกล่าว!

กรอมคำรามด้วยโทสะทันทีที่ได้ยิน เขาชักดาบออกมาและต้องการที่จะสั่งสอนทิรันด้า เซียวอวี๋ต้องพยายามอยู่นานไม่ให้พวกเขาทะเลาะกันเอง

จ้าวมนตราก็ไม่พอใจในนิสัยทะนงตนของทิรันด้าเช่นกัน หากแต่ว่าเขายังควบคุมอารมณ์ไว้ได้ อย่างไรก็ตาม เซียวอวี๋ทราบว่าจ้าวมนตรายังอยู่ในระดับที่ต่ำ ดังนั้นชายผู้นี้จึงทำได้เพียงเข่นเขี้ยวขณะที่สะกดข่มเพลิงโทสะลงไปเพราะความแข็งแกร่งที่ไม่มากพอ

ถึงกระนั้น เซียวอวี๋ก็ทราบดีว่าคงเป็นไปไม่ได้ที่จะให้ทิรันด้ากล่าวขอโทษพวกเขา ความหยิ่งทะนงของพวกเขานั้นฝังอยู่ในสายเลือด

เซียวอวี๋ใช้จ่ายเงินไปจำนวนในการอัพเกรดชุดเกราะและอาวุธของพวกเขา แม้ว่าชุดเกราะใหม่จะยังคงเป็นหนังสัตว์ หากทว่าพลังป้องกันของพวกเขากลับเพิ่มขึ้นอยู่มากโข

คันธนูของทิรันด้าก็ถูกอัพเกรดขึ้นเช่นกัน อีกทั้งมันยังเพิ่มระยะยิงขึ้นด้วย หลังจากนั้นเซียวอวี๋ก็กลับไปเป็นยาจกอีกครั้ง

เขาได้สร้างโรงตีเหล็กของมนุษย์ อาคารนักล่าของเอลฟ์ และวูดูเลาจน์เรียบร้อยแล้ว เขาวางแผนที่จะสั่งซื้อน้ำยาฟื้นพลังไว้สำหรับใช้ให้นักรบที่บาดเจ็บหนัก มีนักรบออร์คจำนวนมากที่ยังบาดเจ็บอยู่จากการป้องกันเมืองและยังคงพักฟื้นอยู่ภายในโพรง

ทว่าเซียวอวี๋ก็ต้องเศร้าอีกครั้งเมื่อทราบว่าวูดูเลาจน์นั้นถูกจำกัดด้วยระดับ ในตอนนี้เขาสามารถสั่งซื้อน้ำยาได้เพียง 2 ชนิด หนึ่งคือยาฟื้นฟูพลังชีวิต อีกหนึ่งคือ น้ำยาฟื้นฟูพลังมานา

นอกจากนี้มันยังมีระยะเวลาคูลดาวน์ในแต่ละการสั่งซื้ออยู่ด้วย ซึ่งเขาสามารถซื้อน้ำยาทั้งสองชนิดได้เพียง 10 ขวดเท่านั้นในแต่ละวัน เซียวอวี๋สาปแช่งระบบ เขาจำเป็นต้องส่งกรอมมาซื้อน้ำยา 10 ขวดในทุกๆวัน

หากแต่เซียวอวี๋ก็หยุดบ่นไปในทันทีเมื่อเห็นประสิทธิภาพของมัน บาดแผลค่อยๆสมานกันด้วยระดับความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า! แม้ว่านักรบออร์คจะยังไม่กลับมาแข็งแรงในทันที หากแต่บาดแผลนั้นหายไปหมดแล้ว

"ฮ่าฮ่าฮ่า นี่มันยาแห่งปาฏิหาริย์ชัดๆ หากนำไปขายล่ะก็ รวยไม่รู้เรื่อง!....ฮ่าฮ่าฮ่า" เซียวอวี๋หัวเราะอย่างคลุ้มคลั่ง

เซียวอวี๋ตัดสินใจสร้างคลังสรรพวุธ ทว่าระบบได้บอกว่า ไอเท็มที่เขาสามารถซื้อได้จะสามารถใช้ร่วมกันได้ทุกเผ่าพันธุ์ เซียวอวี๋เกือบจะระเบิดโทสะออกมาทันทีที่ได้ฟัง หลังจากที่เซียวอวี๋มีค่าคุณความดีกว่า 2000 แต้ม เขาต้องการที่จะจัดสร้างเครื่องยิงทำลายของออร์คและเครื่องจู่โจมของเอลฟ์ เขาทราบดีว่าอาวุธหนักจะช่วยเขาได้อย่างมากในสงครามครั้งต่อไป

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เซียวอวี๋ก็ตัดสินใจที่จะสร้างเครื่องจู่โจม เครื่องจู่โจมนั้นจะสามารถยิงใบมีดจันทร์เสี้ยวที่กำลังหมุนอยู่ออกไปได้ และมันจะตัดร่างทหารของศัตรูเป็นสองท่อน ความโหดร้ายที่เด่นชัดของมันนี้จะทำให้ขวัญกำลังใจของศัตรูพังทลายลง

เซียวอวี๋ต้องการจะสร้างพวกมัน 100 คัน จากนั้นเขาวางแผนที่จะติดตั้งพวกมันไว้บนกำแพงของเมืองไลอ้อน

แต่เขากลับได้รับการแจ้งตือนว่า สามารถสร้างได้เพียง 2 เครื่องเท่านั้นจากเงินที่มีอยู่ ในตอนนี้เขาไม่สามารถสร้างได้ตามจำนวนที่ต้องการ เซียวอวี๋บ่นเป็นเป็นหมีกินผึ้งกระทั่งรถยิงโจมตีคันแรกปรากฏออกมา

เซียวอวี๋กลายเป็นตกตะลึงยามเมื่อเห็นประสิทธิภาพของมัน พวกออร์คช่วยกันใส่ใบมีดเข้าไปที่ด้านบนของมัน ซึ่งใบมีดมีน้ำหนักอยู่ราวๆ 60 ปอนด์ กลไกค่อยๆทำงานและใบมีดก็ถูกยิงออกไป

ฟุบบบ

ใบมีดตัดผ่านต้นไม้ที่ห่างออกไปกว่า 50 เมตรทันที

"เยี่ยม! นี่แค่เพียงระดับแรกเท่านั้น ผลของมันคงน่าประทับใจยิ่งขึ้นหลังจากอัพเกรดแล้ว!" เซียวอวี๋ตื่นเต้นจนลิงโลด ขอแค่เพียง 10 เครื่อง แค่ 10 เครื่อง! กองทัพของแคร์รี่จะต้องย่อยยับด้วยสิ่งนี้!