WOW : ราชันย์ต่างภพ ตอนที่ 14
เซียวอวี๋เอามือไปกุมที่ส่วนล่างโดยสัญชาตญาณทันที ทิรันด้าผู้นี้คุกความผู้คนเกินไปแล้ว! เขารู้สึกราวกับว่าเขากำลังถูกลงลงทัณฑ์ เขาทำได้เพียงจ้องมองเค้กที่อยู่เบื้องหน้าหากแต่ว่าเขาไม่สามารถรับประทานมันลงไปได้! อา~ สวรรค์~ ใยถึงทำกับข้าเช่นนี้
"เช่นนั้น....มีคำสั่งแบบใดบ้างที่เจ้าจะรับฟัง?" เซียวอวี๋กล่าวถามด้วยน้ำเสียงขมขื่น
"ข้าจะปฏิบัติตามคำสั่งที่เกี่ยวข้องกับการรบเพียงเท่านั้นและข้ามีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธคำสั่งอื่นๆ" ทิรันด้าไม่แม้แต่จะชายตามองเซียวอวี๋
เซียวอวี๋ยังคงถามคำถามอีกเพิ่มเติม ซึ่งทิรันด้าก็ตอบเพียงบางคำถาม บางคำถามเธอก็จะเพิกเฉย
"นี่มันไม่ใช่สูงส่ง! นี่มันหยิ่งทะนงแล้ว!" เซียวอวี๋คร่ำครวญขณะมองไปที่ทิรันด้า
เอลฟ์เป็นเผ่าพันธ์ุที่หยิ่งทะนงเป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ทิรันด้าจะหยิ่งยโสด้วยเช่นกัน
"โถ่~ คิดว่าเธอจะออกมาเพื่อเป็นเมดของฉันเสียอีก แต่นี่ดูราวกับว่าฉันกลับตกอยู่ในฐานะทาสเสียเอง....สวรรค์~"
อย่างไรก็ตามน้ำลายยังคงไหลออกมาจากมุมปากของเขาขณะที่ใช้สายตากวาดผ่านเรือนร่างของทิรันด้าอยู่ดี
หลังจากครึ่งชั่วโมงผ่านไป พลธนูคนแรกก็ปรากฏออกมา แต่เซียวอวี๋กลับรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก พลธนูเอลฟ์กลับเป็นผู้ชาย! พวกเขารับฟังคำสั่งของเขาแต่ภายในแววกลับมีความรู้สึกต่อต้านยามเมื่อมองมายังเซียวอวี๋ นั่นทำให้เขาโกรธเป็นอย่างมาก เขานั้นมีสายสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าออร์ค แม้ว่าพวกออร์คจะมีนิสัยไม่ดีที่กินเนื้อมนุษย์ แต่พวกเขาก็ยังแข็งแกร่งกว่าพวกผู้ชายร่างบางเหล่านี้
"เฮอะ! ข้าก็ไม่อยากที่จะเรียกพวกเจ้าออกมาหรอก หากว่าข้านั้นไม่ขาดแคลนพลธนู" เซียวอวี๋ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ
เขาลองสอบถามระบบเกี่ยวกับการที่จะสามารถเรียกเอลฟ์สาวสวยออกมา
เซียวอวี๋ไม่สามารถทนมองเอลฟ์ผู้ชายที่หยิ่งยโสเหล่านี้ได้ มันจะดีกว่ามากหากว่าเป็นสาวสวย
ระบบตอบกลับว่าไม่สามารถบอกได้จนกว่าเขาจะได้รับอนุญาติ เซียวอวี๋กลายเป็นหดหู่หลังจากที่ได้ฟังคำตอบ อย่างไรก็ตามเขาจำได้ว่ายังมีชนชั้นสูงของเอลฟ์ที่เรียกว่า พรานหญิง อยู่ พวกเธอนั้นเป็นเอลฟ์ผู้หญิง
เซียวอวี๋ต้องการที่จะหยุดสร้างพลธนูขึ้นมาในทันทีและสร้างพรานหญิงขึ้นมาแทน อย่างไรก็ตาม เขาเหลือบไปเห็นที่อินเทอร์เฟซของเกม ซึ่งคำว่าพรานหญิงถูกเปลี่ยนไปเป็นพรานเสียแล้ว เซียวอวี๋ก่นด่าออกมาเสียงดังเมื่อรู้ว่าพวกเขาจะต้องเป็นเพศชายด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม เขาทราบว่าพวกพรานนั้นต้องมีพาหนะคู่กาย และในตอนนี้เขาก็ยังไม่มีกองทหารม้าเลย สัตว์พาหนะของพวกเขาย่อมไม่แข็งแกร่งเทียบเท่าฝูงหมาป่าของพวกออร์ค อย่างไรก็ตาม เขายังสามารถใช้พวกเขาในการสอดแนมได้
สุดท้าย เขาก็สั่งผลิตพลธนูเอลฟ์ 200 นายและนายพราน 100 นาย
เซียวอวี๋รีบออกจากฐานทัพของเอลฟ์อย่างรวดเร็ว เขาไม่ต้องการที่จะอยู่ท่ามกลางพวกเอลฟ์ที่หยิ่งยโสเหล่านั้น เขากำลังคิดหาวิธีที่จะครอบครองทิรันด้าอยู่ ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ทิรันด้าก็ยังเป็นสาวในฝันสำหรับผู้ชายโดยทั่วไปอยู่ดี
เซียวอวี๋ลองเลียบเคียงถามจากระบบ แต่คำตอบมีเพียงความเงียบ ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนไปถามกรอม....
............................
...........................
เขานั้นสนิทสนมกับกรอมและกรอมก็ยังจงรักภักดีต่อเขาอย่างยิ่ง ดังนั้นเซียวอวี๋จึงคาดหวังว่าเขาควรจะได้รับข้อมูลมาบ้างเล็กน้อย
เมื่อเซียวอวี๋เดินกลับมา เขาก็พบว่าพวกนักรบออร์คกำลังฝึกซ้อมอยู่ภายในฐาน เขารู้แล้วว่าพวกนักรบออร์คนั้นจะสามารถเพิ่มระดับได้เมื่อพวกมันฝึกซ้อม อย่างไรก็ตามมันก็เป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป ไม่ได้รวดเร็วนัก วิธีเดียวที่จะสามารถเพิ่มระดับได้อย่างรวดเร็วก็คือ การต่อสู้ในสนามรบจริง
เซียวอวี๋เรียกตัวกรอมออกมาด้านข้าง เขาอมยิ้มอย่างมีเลศนัย "กรอม ดูเหมือนว่าชีวิตของเจ้าช่วงนี้จะดีไม่น้อย"
มีเพียงการแสดงออกที่สัตย์ซื่อปรากฏอยู่บนใบหน้าของกรอม เขาพยักหน้า "ขอบคุณนายท่าน ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเราในที่นี้นับว่าไม่เลวเลย"
เซียวอวี๋หยีตาลง "อืม....ข้าอยากจะสอบถามเจ้าสักเล็กน้อย เจ้าก็รู้ว่าพึ่งทำการอัญเชิญพวกพลธนูเผ่าเอลฟ์มาเมื่อเร็วๆนี้ แต่ดูเหมือนพวกเขาจะมีอคติบางอย่างต่อข้า มีหนทางใดบ้างที่ข้าจะเปลี่ยนความคิดของพวกเขา?"
กรอมชักดาบออกจากหลังและคำรามออกมา "ข้าจะไปหาพวกมันและมอบบทเรียนให้แก่พวกมัน ว่าหากดูหมิ่นนายท่านจะต้องพบกับสิ่งใด!"
"เฮ้ย! เดี๋ยว....เดี๋ยว.." เซียวอวี๋รีบรั้งตัวกรอมเอาไว้
ความจงรักภักดีของกรอมนั้นย่อมไม่ต้องกล่าวถึงและเซียวอวี๋ก็รู้สึกซาบซึ้งอย่างยิ่ง หากแต่ปัญหาก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกออร์คและเอลฟ์นั้นไม่อาจเรียกได้ว่าดี เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้ว เขาจึงไม่ต้องการให้มีปัญหาระหว่างฐานทัพเกิดขึ้น
"พวกเขายังคงเชื่อฟังคำสั่งของข้าเพียงแต่ไม่ให้ความเคารพเท่านั้น ข้าต้องการจะทราบวิธีที่จะทำให้พวกเขาเคารพข้าบ้าง" เซียวอวี๋ยิ้มขณะที่เขาพยายามเกลี้ยกล่อมกรอมให้อารมณ์เย็นลง
อกของกรอมขยับขึ้นลงตามจังหวะการหายใจที่ฟึดฟัด ดูเหมือนว่าความโกรธของเขายังคงไม่จางหาย "พวกเอลฟ์ที่คิดว่าตัวเองสูงส่งและหยิ่งยโส พวกมันคิดว่าเผ่าพันธ์ของพวกมันไร้ที่ติ ไม่ช้าข้าจะมอบบทเรียนที่แสนล้ำค่าให้แก่พวกมัน! นายท่าน ยากนักที่จะทำให้พวกมันยอมนอบน้อม แต่ท่านสามารถทำให้พวกมันภักดีได้ เมื่อท่านได้รับค่าความภักดีในระดับสูงสุด พวกมันจึงจะนอบน้อมต่อนายท่าน แต่ยากนักที่จะได้รับความภักดีมาจากพวกมัน"
"ค่าความภักดี?" ทันใดนั้นเซียวอวี๋ก็จำได้ว่าเคยเห็นสิ่งนั้นในหน้าต่างความสามารถของกรอม แต่ในตอนนั้นเขาไม่ได้ใส่ใจกับมัน
เขาเปิดหน้าต่างอินเตอร์เฟซของเกมขึ้นมาและมองดูค่าความภักดีของกรอม มีตัวเลข 20 แสดงอยู่บนพื้นหลังสีเขียว
ในขณะที่ด้านข้างเป็นพื้นหลังสีแดง ซึ่งมันเอาไว้แสดงการกระทำเชิงลบเท่านั้น
มีค่าความภักดีของทิรันด้าแสดงเอาไว้ นั่นคือ -10
"ติดลบสิบงั้นหรอ?" เซียวอวี๋พึมพำ
"ค่าความภักดีมีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงด้วยงั้นหรือ?" เซียวอวี๋หันไปถามกรอม
กรอบกล่าวตอบ "พวกมันจะถูกสะสมอย่างช้าๆ ข้าและนายท่านต่อสู้เคียงบ่าเคียงกัน ผ่านช่วงเวลาคับขันมาด้วยกัน นี่คือหนทางในการได้รับความจงรักภักดีจากพวกเรา นอกจากนี้ ยังมีการแสดงออกทางอารมณ์ซึ่งจะได้รับความภักดีอยู่ด้วย ดังเช่น พวกเรานั้นรู้สึกซาบซึ้งเป็นอย่างเมื่อนายท่านนำศพของนักรบที่ตายกลับมาทำพิธีที่แท่นบูชาแห่งวายุ ในขณะเดียวกัน ค่าความจงรักภักดีของพวกเราจะลดลงหากท่านข่มเหงรังแกหรือทอดทิ้งพวกเราโดยไม่สนใจใยดี"
"เป็นเช่นนั้นเอง" เซียวอวี๋รู้แล้วว่าทำไมค่าความจงรักภักดีของกรองถึงสูงและของทิรันด้าถึงต่ำ
เขาแสดงท่าทีคุกคามเธอยามเมื่ออัญเชิญเธอออกมา และนั่นก็เป็นผลให้ความประทับใจแรกพบของพวกเขานั้นย่ำแย่
หากว่าเขาทราบล่วงหน้า เขาจะแสดงออกถึงความเป็นสุภาพบุรุษให้พระเอกยังต้องอายกันเลยเมื่อตอนที่อัญเชิญทิรันด้าออกมา
"จะเกิดอะไรขึ้นหากว่าค่าความภักดีสูงหรือต่ำจนเกินไป?" เซียวอวี๋ถามอย่างสงสัย
"หากว่าความภักดีมีค่าเป็นติดลบ 50 แล้วล่ะก็ พวกรบจะจากท่านไป หากมีค่าติดลบ 100 พวกเขาจะมองท่านเป็นศัตรู หากว่าค่าความภักดีมีมาก ขวัญกำลังก็จะเพิ่มมากขึ้นและหากว่ามีค่าถึง 100 พวกเราจะทำตามคำสั่งของนายท่านทุกประการ" กรอมอธิบายอย่างละเอียด
"ทุกอย่างเลยงั้นหรือ?" เซียวอวี๋ตัวแข็งค้างเมื่อได้ยินคำนั้น
"ขอรับ พวกเราจะเชื่อฟังและทำทุกอย่างที่นายท่านประสงค์ด้วยด้วยจิตวิญญาณทั้งหมดของพวกเรา" กรอมตอบคำถามด้วยความซื่อสัตย์
"หากว่าเป็นเช่นนั้น หึหึหึ....." มีรอยยิ้มที่ดูชั่วร้ายปรากฏอยู่บนใบหน้าของเซียวอวี๋ เขาค้นพบหนทางที่จะครอบครองทิรันด้าแล้ว!