GE429 ล่าสังหาร (6) [ฟรี]
ในรัศมีล้านลี้จากวังอัสนีของราชามังกร ทั่วทุกหนแห่งนองไปด้วยโลหิต
เหลยฉียี่นำคนของวังสมบัติอนันต์และทาสvud 200 ตนสังหารคนของราชามังกรอย่า’บ้าคลั่ง
หนิงฝานตะลุ่ยฝ่าดวงจิตอัสนีไปพร้อมกับกระบี่แยกสวรรค์ ฟาดฟันทุกผู้ที่ขวางหน้า
ผ่านไป 1 ชั่วยาม ขุมกำลังของราชามังกรทั้งหมดถูกสังหารราวกับสายลมพัดพา
เดิมทีหนิงฝานไม่ได้อยากจะสร้างเรื่องราวใหญ่โต แต่ในเมื่อราชามังกรเลือกที่จะตามล่าเขา เขาก็ต้องให้มันชดใช้อย่างสาสม
“ซัวหมิง ไอ้สารเลว!”
เสียงคำรามที่อัดแน่นไปด้วยโทสะดังกังวาล แรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวสั่นสะเทือนไปชั้น 24
แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา เขาคาดไม่ถึงว่าผู้ติดตามของราชามังกรจะมีมากมายขนาดนี้
ก่อนหน้านี้ 1 ขั่วยาม...
พวกมันมีขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น 19 ตน ขั้นกลางอีก 3 ตน
ในจำนวนขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางนั้น มี 2 คนที่ทรงพลังกว่าเหลยฉียี่
“อย่าได้คิดจะไปต่อกรกับราชามังกรเลย แค่ข้าคนเดียวเจ้าก็ตามความเร็วไม่ทันแล้ว!” ดวงจิตอัสนีขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นตนหนึ่งกล่าวอย่างเย่อหยิ่ง ก่อนจะทะยานเข้าหาหนิงฝาน
การเคลื่อนไหวของมันผู้นั้นรวดเร็วจนเกือบเทียบเคียงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง ที่สำคัญ มันไม่เห็นหนิงฝานอยู่ในสายตา
แต่นั่นคือสิ่งที่มันพลาด มันดูแคลนหนิงฝานเกินไป และเพราะเขาตามความเร็วของมันได้ทัน!
เมื่อมันเข้าใกล้หมื่นจ้าง หนิงฝานชูมือขึ้น อัสนีที่ทรงพลังแปรบปราบรอบกาย ภาพอัสนีขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นใต้ฝ่าเท้า
ภาพอัสนีสร้างแรงดึงดูดที่ทรงพลัง จนต่อให้เป็นของเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงก็ยากจะสลัดหลุด
“แผนภาพอัสนีไท่ซู!”
แผนภาพอัสนีเคลื่อนขึ้นมายังฝ่ามือของหนิงฝาน เปล่งอานุาภาพสั่นฟ้าสะเทือนดิน แผนภาพอัสนีในยามนี้ยกระดับจากเดิมไปมาก หลังจากได้ดูดซับปฐมอัสนีจำนวนมหาศาล
เมื่อสัมผัสได้ถึงพลังที่น่าสะพรึงกลัว ดวงจิตอัสนีตนนั้นเสียวสันหลังวาบ มันพยายามเบี่ยงทิศทางออกจากหนิงฝาน แต่ก็สายเกินไป!
“ตาย!”
หนิงฝานซัดฝ่ามือออกไปเบื้องหน้า ทุกสิ่งรอบข้างนับหมื่นลี้ถูกสลายกลายเป็นฝุ่นผง ดวงจิตอัสนีตนนั้นแผดเสียงร้องโหยหวนด้วยความหวาดกลัว ก่อนที่ร่างของมันจะกลายเป็นธุลีเช่นเดียวกัน
“แผนภาพอัสนีนั่นน่ากลัวมาก! นั่นสมควรเป็นแผนภาพอัสนีไท่ซูในตำนาน!”
“ตามตำนานกล่าวขาน นอกจากจักรพรรดิอัสนีไท่ซูแล้วก็ไม่มีผู้ใดใช้วิชานี้ได้อีก แต่การที่เด็กนั่นทำได้ แสดงว่าพรสวรรค์ของมันสูงส่งเป็นอย่างมาก”
“พวกเราไม่ทางรับมันไหว บางทีราชามังกรอาจจะต้องลงมือด้วยตัวเอง!”
เหล่าดวงจิตอัสนีขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นของราชามังกรที่ปกติจะเย่อหยิ่ง ยามนี้หวาดกลัวและไม่กล้าลงมือกับหนิงฝาน
แต่ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางกลับแค่นเสียงและไม่คิดเหมือนพวกมัน
“ถึงแผนภาพนั่นจะทรงพลัง แต่เด็กนั่นก็ยังไม่บรรลุขอบเขตไร้ดัดแปลง อย่างมากมันก็สังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ แต่กับข้าและขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางตนอื่นๆ มันไม่อาจทำอันใดได้! เจ้าจัดการกับเหลยฉียี่ เดี๋ยวข้าจัดการกับมันเอง อย่าให้พวกมันได้เข้าใกล้ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง!”
ผู้ที่กล่าวคือขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางที่ทรงพลังที่สุด นามของมันคือ ‘เฉิงหวาง’
ในหมู่พวกมันทั้ง 3 ตัวมันคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด รองลงมาคือ ‘เตี่ยวลี่’ และผู้ที่อ่อนแอที่สุดคือ ‘ฉือจื่อ’
พวกมันให้ฉือจื่อรับมือกับเหลยฉียี่ ส่วนเฉิงหวางและเตี่ยวลี่เข้าล้อมหนิงฝาน พวกมันรู้ว่าแผนภาพอัสนีของหนิงฝานทรงพลังถึงขนาดที่สังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ในพริบตา
เดิมทีพวกมันไม่เชื่อว่าหนิงฝานจะแข็งแกร่งขนาดนั้น แต่ตอนนี้พวกมันเชื่อแล้ว
ฝั่งของราชามังกรเหลือขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น 18 ตน แต่ยามนี้พวกมันไม่ต้องต่อสู้กับหนิงฝานแล้ว เพราะขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางรับมือแทน
ฉือจื่อทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้เหลยฉียี่เข้าช่วยหนิงฝาน เพื่อให้หนิงฝานได้เผชิญหน้ากับขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง 2 ตนเพียงลำพัง แต่ถึงอย่างนั้น หนิงฝานกลับไม่หวาดกลัวพวกมันแม้แต่น้อย
เฉิงหวางและเตี่ยวลี่ไม่ได้เข้าจู่โจมหนิงฝานทันที พวกมันนำอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของตน ซึ่งอยู่ในระดับไร้ดัดแปลงขั้นกลางออกมา
“กระบี่อัสนีมิติ!”
“ผลึกน้ำแข็งอัสนีม่วง!”
พวกมันนำอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของตนออกมา แม้จะไม่ใช่อาวุธโบราณ แต่ก็จัดว่าเป็นอาวุธที่ทรงพลังไม่น้อย
อาวุธระดับนี้ทำให้พวกมันแข็งแกร่งจนแทบจะไร้ผู้ต้านในระดับเดียวกัน นอกจากราชามังกรและผู้ปกครองชั้น 22 แล้ว ก็ไม่มีผู้ใดเอาชนะพวกมันได้อีก
เตี่ยวลี่และเฉิงหวางบทะยานเข้าปิดทางหนีหนิงฝานพร้อมกับจู่โจมด้วยอาวุธในมือ ส่วนหนิงฝานก็ไม่คิดหลบและเร่งสวมเกราะอัสนี
*ตูม ตูม ตูม*
พวกมันกระหน่ำจู่โจมหนิงฝานอย่างรุนแรง อานุภาพของพลังไม่ธรรมดา สมกับเป็นผู้เชี่ยวาญขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางแนวหน้า
ภูเขาโดยรอบถล่ม สายน้ำเหือดแห้ง แผ่นดินปริแตกปะทุลาวาที่ร้อนละอุ
แต่ถึงการจู่โจมของพวกมันจะทรงพลังขนาดไหน กลับไม่อาจสร้างความเสียหายให้หนิงฝานได้แม้แต่น้อย
“นั่นมันวิชาเกราะอะไรกัน ทำไมถึงได้แข็งขนาดนั้น!”
“แย่แล้ว! เด็กนั่นกำลังจะตอบโต้!”
อัสนีแปรบปราบ แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา เขาชี้นิ้วไปบนท้องนภา ดาราแก่นชีวิต 99 ดวงปรากฏ แสงดาราฉายอาบร่างเสริมการฟื้นฟูและเกราะอัสนีให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
หนิงฝานเอื้อมมือไปเบื้องหน้าทำท่าคว้าจับ คันธนูสีดำก่อตัวขึ้นจากพลังดารา อักษรปีศาจ 99 ตัวปรากฏบนคันธนู
ธนูดับดาราของหนิงฝานในตอนนี้ ทรงพลังกว่าธนูดับดาราของผู้อาวุโสใหญ่แห่งเผ่าหกปีกมาก
กลิ่นอายและแรงกดดันของหนิงฝานเปลี่ยนไป ราวกับเขาคือโม๋หลัวแม้ว่าจะไม่ทรงพลังทัดเทียม
อานุภาพที่ธนูดับดาราเปล่งออกมา ทำให้ทุกสิ่งในรัศมีแสนลี้พังทะลาย
ด้วยปราณของหนิงฝานในยามนี้ เขาจะยิงธนูดับดาราได้เพียง 1 ดอกเท่านั้น แต่ด้วยที่เขาดูดกลืนมังกรอัสนีในขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง 10 ตนเอาไว้ในแผนภาพอัสนี ทำให้เขาสามารถดึงพลังจากส่วนนั้นมาใช้ได้ จึงไม่ต้องกังวลว่าปราณจะไม่พอ
“ตาย!”
หนิงฝานปล่อยสายรั้งคันศร ลูกศรที่น่าสะพรึงกลัวถูกดีดออกจากคันศร พุ่งแหวกท้องนภาราวกับกระชากเป็นชิ้นๆ จนทำให้สีหน้าพวกมันแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“ระวังด้วย ลูกศรนั่นทรงพลังมาก!”
พวกมันยกอาวุธในมือขึ้น โคจรพลังเสริมอาวุธเข้าต้านลูกศรของหนิงฝานเพื่อหวังป้องกัน
แต่ถึงแม้อาวุธของพวกมันจะทรงพลัง แต่ลูกศรของหนิงฝานกลับสร้างความเสียหายให้อาวุธของพวกมันไม่น้อย
*ตูม*
เสียงระเบิดดังสนั่น รอยแตกร้าวปรากฏขึ้นทั่วอาวุธของพวกมัน ทำให้อานุภาพของอาวุธลดลงไปมาก
มือของพวกมันทั้งสองมึนชา หากไม่เพราะพวกมันมีร่างกายที่ทรงพลัง ลูกศรเมื่อครู่คงทำให้พวกมันบาดเจ็บสาหัส
“วิชาอะไรถึงได้ทรงพลังขนาดนั้น!”
“ขนาดอาวุธระดับไร้ดัดแปลงขั้นกลางยังไม่อาจต้านรับ ถ้าร่างกายของข้าบรรลุขอบเขตกายทองคำที่ 2 น่าจะรับลูกศรนั่นได้ง่ายกว่านี้!”
“แต่ลูกศรนั่นต้องผลาญปราณของมันไปไม่น้อย ถึงจะทำลายอาวุธของเรา แต่มันคงไม่เหลือแรงไว้สู้กับพวกเราแน่ มันโง่จริงๆ”
พวกมันคิดว่าหนิงฝานผลาญปราณจนไม่เหลือแรงที่จะสู้ พวกมันจึงยิ้มอย่างถือดี ขยับมือเป็นท่าทาง ใช้วิชาตรงเข้าจู่โจมหนิงฝาน
แต่เมื่อพวกมันลงมือ พวกมันกลับต้องตกตะลึง เพราะหนิงฝานไม่ได้มีท่าทีจะหวาดกลัวแม้แต่น้อย
ในชั่วพริบตาเดียวกันนั้น หนิงฝานเอื้อมมือไปเบื้องหน้า คันธนูสีดำปรากฏอีกครั้ง มือรั้งสายธนูแล้วปล่อย ส่งธนูแหวกอากาศทะลวงร่างของพวกมัน!
พวกมันไม่รู้ว่าเหตุใดหนิงฝานที่อยู่เพียงขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงถึงได้ทรงพลังขนาดนั้น อีกอย่างปราณก็สมควรมีจำกัด ไม่น่าจะยิงลูกศรได้ถึง 2 ลูก
ต่อให้เป็นพวกมันก็ยิงลูกศรได้อย่างมากก็ 3 ลูก เพราะลูกศรแต่ละลูกต้องใช้ปราณมหาศาล
หรือหนิงฝานมีปราณเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง? แต่จะเป็นไปได้ยังไง!
แม้พวกมันสงสัยแต่ก็ไม่ได้คำตอบ พวกมันไร้ซึ่งอาวุธเพราะถูกทำลาย เกราะที่นำออกมาก็ไม่ทรงพลังมากพอที่จะต้านทานลูกศรได้ จึงบาดเจ็บสาหัส
เฉิงหวางและเตี่ยวลี่กระอักโลหิตอยู่หลายครั้ง ขนาดมีเกราะที่ทรงพลังช่วยต้านรับ ยังเลี่ยงไม่พ้นอาการบาดเจ็บสาหัส
อาการบาดเจ็บในคราวนี้ทำให้มันเสียหน้าเป็นอย่างมาก พวกมันอยู่ถึงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง แต่กลับไม่อาจสู้กับขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง
พวกมันขบคิด ต่อให้หนิงฝานมีปราณเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง ก็ไม่น่าจะยิงลูกศรลูกที่ 3 ได้อีก
แต่พวกมันคิดผิด เพราะหนิงฝานยังคงยิงธนูต่ออีก 3 ดอกซ้อน!
“บัดซบ! ลูกศรที่น่ากลัวขนาดนั้น เหตุใดมันถึงยิงต่อเนื่องได้”!
ปราณในร่างของหนิงฝานถูกสูบออกไปอย่างรวดเร็ว แต่ปราณที่อัดแน่นอยู่ภายในแผนภาพอัสนีได้เติมเข้ามาอย่างรวดเร็วเช่นกัน
นอกจากแผนภาพอัสนีไท่ซูจะโด่ดเด่นเรื่องการป้องกัน การป้องกันนั้นยังเปลี่ยนให้เป็นแหล่งกักเก็บพลังงานได้ด้วย
ไม่แปลกที่แผนภาพอัสนีไท่ซูจะเป็นวิชาที่ทรงพลังที่สุดของจักรพรรดิอัสนีไท่ซู
ยามนี้ปราณที่อัดแน่นอยู่ในผนภาพอัสนีมีมากพอให้ยิงธนูได้อีกอย่างน้อย 25 ลูก
จากสีหน้าของหนิงฝาน พวกมันรู้ว่าเขายังยิงธนูได้อีกหลายลูก จึงไม่กล้าสู้กับด้วยอีก หากพวกมันฝืนดึงดัน พวกมันจะถูกปลิดชีพเอา ดังนั้นพวกมันจึงเลือกที่จะหนี
ลูกศรที่หนิงฝานยิงออกไปอย่างเนื่อง 3 ลูก ตรงเข้าหาพวกมันที่กำลังหลบหนี แม้ความเร็วของพวกมันจะไม่ธรรมดาแต่ก็ไม่อาจรอดพ้น ถูกลูกธนูทะลวงร่าง 3 ดอกซ้อน!
ธนูที่ทรงพลังยังไม่อาจปลิดชีพพวกมันได้ แต่เพลิงที่ลุกไหม้บนร่าง กลับเริ่มเผาทำลายพวกมัน จนแรงกดดันอ่อนลงอย่างต่อเนื่อง จนต่ำกว่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง
“ข้ายังยิงได้อีกประมาณ 25 ลูก...” คำกล่าวของหนิงฝานราวกับอัสนีฟาดผ่ากลางศรีษะของพวกมัน
หากหนิงฝานยังยิงได้ขนาดนั้น พวกมันคงอยู่รับไม่ไหวและตายก่อน
พวกมันพยายามยื้อชีวิตให้ราชามังกรมาช่วย หนิงฝานรู้ว่าการสังหารพวกมันจะต้องสิ้นเปลืองปราณมหาศาล เขาจึงไม่ได้ไล่ตามพวกมันไป
เมื่อไร้ซึ่งขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางป้องกัน หนิงฝานจึงยิงธนูดับดาราอีกลูก เข้าใส่ดวงจิตอัสนีขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น
ลูกธนูสามารถปลิดพวกมันได้ในพริบตา ร่างกายถูกเพลิงเผาจนไม่เหลือซาก
เมื่อพวกมันสังเกตุเห็นว่าหนิงฝานเอาชนะขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางได้ พวกมันจึงสังหรณ์ใจว่าไม่อาจรอดพ้นมือหนิงฝานได้แน่
“ท่าไม่ดีแล้ว! ไปต้านมันไว้” พวกมันรู้ดีว่าหนิงฝานทรงพลัง พวกมันย่อมไม่อาจต้านลูกศรได้ ดังนั้นพวกมันจึงเรียกเหล่าดวงจิตอัสนีขอบเขตดวงจิตแรกเริ่มจำนวนนับหมื่นมาช่วยต้านรับ...