ตอนที่แล้ว44 การปะทะกันของอนุภาคพลังงาน!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไป 46 สวรรค์ของผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์

45 การโต้เถียงของเต๋าอันยิ่งใหญ่


45 การโต้เถียงของเต๋าอันยิ่งใหญ่

เมื่อพูดจบแล้ว จ้าวเทียนเกอก็ได้หันหน้าไปหาจงโป๋ยา เขาพยักหน้าให้และเดินจากไป

มีนักเรียนส่วนใหญ่ได้เดินตามจ้าวเทียนเกอไปด้วย มีเพียงนักเรียนส่วนน้อยเท่านั้น ที่ยังคงยินดีที่จะอยู่ฟังเรื่องของการปะทะของอนุภาคพลังวิญญาณต่อ พวกเขาอยู่ต่อและได้สอบถามจงโป๋ยาเกี่ยวกับรายละเอียดที่ลึกซึ้งกว่าเดิม

“เกือบไปแล้ว! ฉันคิดว่าสองคนนี้จะสู้กันแล้วซะอีก!” การโต้เถียงกันในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่หลี่เย้าไม่ได้คาดคิดมาก่อน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ ในตอนที่เขาพูดออกมา ความหวาดกลัวก็ยังคงลามเลียอยู่ภายในหัวใจของเขา

ศาสตราจารย์ของทั้งสองมหาวิทยาลัยต่างก็ต้องมีระดับไม่ต่ำกว่า รากฐานวิญญาณอย่างแน่นอน หากพวกเขาระเบิดพลังออกมา มันจะต้องเป็นพลังที่น่ากลัวมาก และไม่ใช่สิ่งที่คนแบบหลี่เย้าจะสามารถทนรับได้

“ใครบอกว่ามันไม่เกิดขึ้นกัน! 修真者(ผู้ฝึกตน) ในทางเต๋านั้น ตัวอักษรคำว่า 真 ก็แปลว่าความจริง ผู้ฝึกตนทุกคนต่างก็มีข้อเท็จจริงในแบบของตัวเองทั้งนั้น และถ้าหากความจริงนั้นแตกต่างกัน และแบ่งแยกออกเป็นสองฝักฝ่าย ความขัดแย้งระหว่างความจริงก็จะเกิดขึ้น และพวกเขาก็จำเป็นที่จะต้องทำลายฝ่ายตรงข้ามให้สิ้นซาก! โชคดีที่วันนี้มีคนอยู่เยอะมาก ทั้งสองฝ่ายเลยจำเป็นต้องควบคุมตัวเองเอาไว้ แต่ถ้าเป็นอีกสถานการณ์หนึ่ง ที่ไม่มีใครอยู๋รอบๆละก็ ทั้งสองก็คงจะปะลองฝีมือกันไปแล้ว และมันก็เป็นเรื่องธรรมดามากๆด้วย!” เจิ้งตงหมิงพูดออกมาด้วยความเสียดาย

“พวกเขาจำเป็นที่จะต้องจริงจังขนาดนั้นเลยเหรอ? แค่เรื่องของทฤษฎี พวกเขาก็ต้องทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอ?” หลี่เย้าเดาะลิ้นของเขา

“พวกเขาต้องทำถึงขนาดนั้นอยู่แล้ว ผู้ฝึกตนหรือคำว่า 修真, ความหมายของการบ่มเพาะ ‘修’ ในความจริง ‘真理’ ถ้าอธิบายในโลกยุคโบราณของการบ่มเพาะแล้วละก็ ‘ความจริง’ ก็คือ หัวใจแห่งเต๋าของเรา เส้นทางของหัวใจเรา และเมื่อความจริงของเราถูกคนอื่นปฏิเสธ ความสงสัยก็จะเกิดขึ้นในใจของเรา จากนั้น หัวใจของเราก็จะเกิดการไขว้เขว และกลายเป็น ‘หัวใจแห่งเต๋าที่ไร้การป้องกัน’ ทำให้เราตกไปอยู่ในความบ้าคลั่งได้ การบ่มเพาะก็จะเกิดการหยุดชะงักไป ในกรณีที่เลวร้าย โลกของพวกเขาก็จะล้มสลาย การบ่มเพาะของพวกเขาก็จะร่วงหล่น และพวกเขาก็จะกลายเป็นพวกไร้ประโยชน์! ตำนานเล่าว่า ครั้งหนึ่งเคยมีผู้ฝึกตนระดับรวมวิญญาณที่แข็งแกร่งคนหนึ่ง ได้ทำการโต้เถียงในเรื่องของเต๋ากับผู้ฝึกตนอีกคน ฝ่ายตรงข้ามได้ยกความจริงที่ไม่สามารถโต้แย้งได้ขึ้นมา และทำลายความจริงของผู้ฝึกตนคนนั้นไป แล้วความจริงของเขาก็ถูกทำลาย! และหัวใจของเขาก็เข้าสู่ภาวะที่ไร้การป้องกัน! จิตปีศาจจากภายนอกได้ใช้โอกาสนี้ และเข้าไปแฝงอยู่ในหัวใจของเขา แล้วทำให้เขากลายร่างเป็นผู้ฝึกตนปีศาจไป! และผู้ฝึกตนปีศาจคนนั้นก็ได้สร้างความเสียหายอันใหญ่หลวงขึ้น! ดังนั้น เวลาที่ผู้ฝึกตนโต้เถียงในเรื่องของความจริงกัน มันก็คล้ายกับพวกเขากำลังโต้เถียงในเรื่องของเต๋าที่ยิ่งใหญ่ มีเพียงผู้ที่กล้าหาญเท่านั้น ถึงจะสามารถก้าวผ่านมันไปได้ และพวกเขาไม่สามารถถอยหลังได้แม้แต่ครึ่งก้าว!” เจิ้งตงหมิงพูดออกมาด้วยความจริงจัง

หลี่เย้าอยู่ในท่าทีที่ครุ่นคิดตาม และพยักหน้าให้กับเขา

ในวันนี้ โลกของเขาได้ถูกเปิดออกกว้างขึ้นไปอีก เขาได้รับความรู้เกี่ยวกับโลกของผู้ฝึกตนมากขึ้น แต่ก็ยังมีบางส่วน ที่เขายังไม่สามารถทำความเข้าใจได้

“อ่อ จริงด้วย ในตอนสุดท้าย ที่จงโป๋ยาเรียกจ้าวเทียนเกอว่า สหายเต๋าจ้าว มันหมายความว่ายังไงเหรอ? หลังจากที่จ้าวเทียนเกอได้ยิน ฉันก็เห็นว่าท่าทีของเขาดูอ่อนลง แล้วเขาก็ยังแสดงความเคารพให้กับจงโป๋ยาด้วยการพยกหน้า ก่อนที่เขาจะเดินออกไปด้วย มันดูคล้ายกับว่า เขาไม่ได้แสดงการต่อต้านอีกต่อไป”

เจิ้งตงหมิงได้อธิบายออกมาว่า “สหายเต๋า เป็นคำเรียกสุภาพที่ใช้กันในโลกของผู้ฝึกตน ความหมายของมันก็คือ ‘ฉันอาจจะไม่เห็นด้วยกับความคิดของคุณ แต่ฉันรู้ว่าเราทั้งสองนั้นเหมือนกัน พวกวเราต่างก็ยืนหยัดในความจริงเพื่อมุ่งสู่เต๋าอันยิ่งใหญ่ ความจริงของพวกเราอาจจะต่างกัน แต่เราล้วนมีหัวใจแบบเดียวกัน—ก็คือหัวใจที่ยืนหยัดในความจริง ดังนั้นแล้ว เราก็คือสหาย ที่ก้าวเดินไปบนเส้นทางของเต๋าอันยิ่งใหญ่ที่เราเคารพ’ และนี่ก็คือความหมายของคำว่า ‘สหายเต๋า’ ยังไงล่ะ มันเป็นคำที่ถูกเอามาใช้เรียกกันง่ายๆ! ในตอนที่จงโป๋ยาเรียกฝ่ายตรงข้ามว่าสหายเต๋า ก็เป็นการแสดงความปรารถนาในแบบของเขา จ้าวเทียนเกอก็ไม่ได้อยากจะสร้างปัญหาเพิ่มขึ้นอีก ดังนั้น เขาจึงได้ไหลไปตามน้ำ และเดินออกไปจากเวที”

เมื่อเจิ้งตงหมิงเห็นว่า หวังเย้ากำลังพึมพำอยู่กับตัวเองและไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาก็หัวเราะและถามว่า “อะไรกัน? นายเกิดสนใจมหาวิทยาลัยชิงหยุนขึ้นมาอย่างนั้นเหรอ?”

หลี่เย้าคิดอย่างจริงจัง เขาส่ายหน้าพร้อมกับพูดออกมาว่า “ดูเหมือนว่า มหาวิทยาลัยชิงหยุนนั้นให้ความสำคัญในเรื่องของทฤษฎีมาก และฉันก็ไม่ได้เรียนรู้ในด้านนี้มาอย่างเต็มที่ ดังนั้น พื้นฐานของฉันยังอ่อนอยู่มาก แล้วฉันก็ไม่สนใจในเรื่องของทฤษฎีพวกนี้ด้วย ยังมีมหาวิทยาลัยไหนอีกไหม ที่เน้นไปในเรื่องของภาคปฏิบัติมากกว่าน่ะ?”

“เน้นไปที่เรื่องของภาคปฏิบัติอย่างนั้นเหรอ? แน่นอนว่ามีอยู่แล้ว เราไปดูวิทยาลัยการแพทย์เทียนตูกัน!”

ทั้งสองได้เดินไปยังบริเวณที่มีหมอสวมเสื้อกาวน์และหน้ากากสำหรับผ่าตัด อากาศรอบๆเต็มไปด้วยกลิ่นของน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

หลอดทดลองขนาดใหญ่ได้ตั้งอยู่ตรงกลางบูธ ซึ่งมีสัตว์อสูรที่คล้ายกับเสือถูกขังเอาไว้ด้านใน ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาได้ใช้เทคนิคลับอะไรในการผู้มัดมันเอาไว้ ถึงได้ทำให้มันยืนนิ่งไม่ไหวติง และแม้แต่หางมันก็ไม่มีการแกว่งเลยสักนิดเดียว

ลูกตาของมันกลอกไปมาและเต็มไปด้วยความสับสน มันได้เปล่งแสงออกมา ที่รวมไปทั้งความตื่นกลัวและความโหดร้ายป่าเถื่อน ซึ่งมันเป็นเพียงสิ่งเดียว ที่สามารถใช้ยืนยันได้ว่า สัตว์อสูรที่อยู่ภายในหลอดทดลองนั้นยังคงมีชีวิตอยู่

หมอในชุดกาวน์สองสามคน กำลังวุ่นวายอยู่ตรงหน้าจอควบคุม หลังจากนั้นสักพัก...

หมอในชุดกาวน์คนหนึ่งก็เงยหน้าขึ้นมา เขาส่งเสียงพูดออกมาอย่างสดใสว่า “นักเรียนทุกคน โปรดดูทางนี่!”

ได้มีแสงของคมดาบนับพันฟาดฟันวูบวาบไปมาอยู่ภายในหลอดทดลอง ทุกคนที่ได้เห็นแทบจะร้องไห้ออกมา และบางคนก็ถึงกับต้องถอยหลังออกไปหลายก้าว

เมื่อทุกคนมองดูหลอดทดลองอีกครั้ง พวกเขาก็พบว่าความโหดร้ายป่าเถื่อนในดวงตาของสัตว์อสูรที่คล้ายกับเสือได้ถูกแช่แข็ง

“วูซซซ! วูซซซ! วูซซซ! วูซซซ! วูซซซ!”

ตั้งแต่หัวจรดปลายหาง ได้เกิดเป็นเส้นสีแดงขึ้นบนร่างกายของสัตว์อสูรนับร้อยนับพันเส้น! ดาบที่มองไม่เห็น ได้ตัดผ่านร่างกายของสัตว์อสูรเป็นกลายเป็นชิ้นๆ!

หมอในชุดกาวน์ได้พูดออกมาโดยไร้ความกระตือรือร้นว่า “สิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นนั้น ก็คือ ‘โปรเจควิจัยการหั่นสัตว์อสูร’ ของทางวิทยาลัยการแพทย์เทียนตูของเรา เราได้นำสัตว์อสูรมา และทำการหั่นร่างของมันให้มีความหนาแค่ 0.01 มิลลิเมตรต่อชิ้น เราได้ใช้กระแสจิตในการสแกนแต่ละชิ้นส่วน จากตรงนี้ เราก็จะสามารถระบุองค์ประกอบของร่างกายของสัตว์อสูรได้  แล้วเราก็เก็บข้อมูลทุกอย่างและอัพโหลดเข้าไปในคริสตัลโพรเซสเซอร์ จากนั้น เราก็จะสามารถสร้างแบบจำลองเสมือนจริงของสัตว์อสูรได้”

“เมื่อทำตามขั้นตอนเหล่านี้ได้แล้ว เราจะก็จะสามารถรู้ถึงพฤติกรรม, ลักษณะเฉพาะ, และความสามารถในการต่อสู้ของมัน ได้ราวกับพลิกฝ่ามือ และพวกเราก็ยังสามารถเก็บข้อมูลเหล่านี้ได้จากดินแดนภาพลวงตา โดยที่ไม่ต้องกลัวจะได้รับบาดเจ็บ หรือถูกสัตว์อสูรฆ่าด้วย”

“ในเวลานี้ เรามีคลาสทั้งหมด 98 คลาส มีสัตว์อสูรทั้งหมด 1,352 ชนิดที่ถูกนำมาทำการทดลองในโปรเจคนี้ นักเรียนทุกคน หากพวกคุณสนใจละก็ พวกคุณสามารถสมัครเข้าเรียนในวิทยาลัยการแพทย์เทียนตูของเราได้...ภารกิจของพวกเราไม่ใช่เรื่องง่ายๆอย่างการช่วยคนตายหรือรักษาโรค – สิ่งสำคัญของเราก็คือการวิจับปีศาจและสัตว์อสูร!”

เจิ้งตงหมิงขยิบตาให้กับหลี่เย้า “นายคิดว่าอันนี้เป็นไง? แต่ก่อนหน้านั้น ฉันขอเตือนนายเอาไว้ก่อนนะ คะแนนต่ำสุดที่ทางวิทยาลัยการแพทย์เทียนตูต้องการนั้นสูงมาก และอาจจะเป็นคะแนนที่สูงที่สุดของทั้งเกามหาวิทยาลัยแล้วก็ได้ แม้แต่ฉันก็ยังไม่มั่นใจเลย”

หลี่เย้าเกาหัวของเขา และมีอาการลังเล

มีมหาวิทยาลัยอยู่เยอะมาก และแต่ละที่ก็มีเทคนิคที่น่าตกใจและสุดยอดกันทั้งนั้น แต่เมื่อเทียบกับมหาวิทยาลัยในฝันของเขาแล้ว มันก็คล้ายกับว่า มีความต่างเล็กๆอยู่ในนั้น

“ในสหพันธรัฐของเรา มีมหาวิทยาลัยไหนที่เน้นในเรื่องของการสร้างอาร์ติเฟ็กซ์บ้างไหม? ฉันไม่ได้พูดถึงอาร์ติเฟ็กซ์แบบเครื่องปะทะอนุภาคพลังวิญญาณแบบนั้นนะ แล้วก็ไม่ใช่แบบการทหารด้วย ฉันอยากได้มหาวิทยาลัยแบบที่เน้นในเรื่องของการสร้างพวกยานบิน, ดาบบิน, ปืนใหญ่คริสตัล, เกราะคริสตัล...อะไรแบบนี้น่ะ”

“แน่นอนว่ามี แค่ตรงไปที่มหาวิทยาลัยเชินห่ายได้เลย ในสหพันธรัฐ พวกเขาคือมหาวิทยาลัยที่แข็งแกร่งในเรื่องของการสร้างและกลั่นอาร์ติเฟ็กซ์ที่สุดแล้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในนามของ 'สวร‘ค์ของผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์!'” เจิ้งตงหมิงชี้ไปยังบูธที่ตั้งอยู่ไม่ไกล

“สวรรค์ของผู้สร้างอาร์ติเฟ็กซ์!”

เกิดประกายไฟลุกโชติช่วงอยู่ภายในดวงตาของหลี่เย้า และได้รวมตัวกันกลายเป็นรูปร่างของงูที่ดุร้าย ซึ่งกำลังร่ายรำอย่างบ้าคลั่ง

บูธของมหาวิทยาลัยเชินห่ายไม่ได้ต่างไปจากบูธอื่นๆ ซึ่งเต็มไปด้วยฝูงชนเลย มันดูเหมือนว่า นักเรียนส่วนใหญ่ได้ให้ความสนใจกับมหาวิทยาลัยแห่งนี้ ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่เน้นในเรื่องของภาคปฏิบัติ จนหลี่เย้าแทบจะหมุดเข้าไปด้านในบูธไม่ได้

ตรงกลางของบูธ มีโมเดลของเมืองจำลองขนาดใหญ่ตั้งอยู่ มันมีทั้งภูเขาและแม่น้ำ มีทั้งตึกสูงและอาคารมากมาย บนท้องฟ้าของเมืองจำลองยังมียานบินผ่านไปผ่านมาอีกด้วย มันเป็นเพียงแบบจำลองขนาดเล็กเท่านั้น แต่กลับใส่รายละเอียดทุกอย่างลงไปจนครบ มันคือแบบจำลองที่ถูกสร้างขึ้นมาได้สมบูรณ์แบบมาก

ในเวลานั้นเอง ที่สัตว์อสูรขนาดเล็กที่ถูกสร้างขึ้นมาด้วยเหล็ก ได้บินออกมาจากด้านหนึ่งของแบบจำลอง จนเกิดเป็นเสียงแหลมดังเสียดหูและเสียงหวิดหวิวของสายลม ยานบินเหล่านั้นได้พุ่งเข้าโจมตีเมืองจำลองขนาดเล็ก

แทบจะในเวลาเดียวกัน ก็ได้มีลูกบอลเหล็กทรงห้าเหลี่ยมผุดขึ้นมารอบๆตัวเมืองจำลอง ตัวลูกบอลได้หมุนอย่างรวดเร็วอยู่ในอากาศ เกิดเป็นรูปแบบของตาข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมท้องฟ้าเอาไว้ พวกมันได้เชื่อมต่อกันเอาไว้ และเกาะติดสัตว์อสูรจำลองที่บินอยู่ จนไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก

หลังจากที่เกิดเสียงต่อสู้ดัง “ติ้ง ติ้ง ติ้ง ติ้ง” สัตว์อสูรบินได้ทั้งหมดก็ถูกสกัดเอาไว้โดยลูกบอลทรงห้าหลี่ยม สัตว์อสูรได้ติดแน่นอยู่กับตัวเหล็กของลูกบอลเหล็กห้าเหลี่ยม ด้วยพลังบางอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้

“นักเรียนทุกคน”

เขาเป็นชายที่มีผมขาวจนทั่วศีรษะ และมีใบหน้าที่แดงเรื่อราวกับแก้มของเด็กน้อย ชายในชุดสีม่วงคนนี้มีร่างกายที่แข็งแรงและกระชุ่มกระชวย เขายิ้มกว้างและพูดออกมาว่า “โมเดลที่พวกคุณเพิ่งจะได้ดูไปนั้นคือ ‘ระบบป้องกันการโจมตีของสัตว์อสูร’ ที่มหาวิทยาลัยเชินห่ายของเราได้ค้นคว้า, พัฒนา,และสร้างมันขึ้นมา และมันก็ได้ถูกซื้อไปโดยกองทัพ เพื่อใช้ในทุกเมืองที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ของสหพันธรัฐ มันสามารถทนรับการโจมตีของสัตว์อสูรได้ถึง 1,500 ตัว และยังสามารถขับไล่ดาบบินของผู้ฝึกตนปีศาจที่แข็งแกร่งได้อีกด้วย เมื่อมีอาร์ติเฟ็กซ์ชนิดนี้อยู่ ไม่ว่าจะมีสัตว์อสูรหรือผู้ฝึกตนปีศาจที่แข็งแกร่งสักแค่ไหน ทันทีที่พวกทันเข้ามาถึงน่านฟ้าของสหพันธรัฐ พวกมันก็จะได้รับของขวัญถึงมือ และรอคอยการเป็นนักโทษในเรือนจำ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด