ตอนที่แล้วบทที่ 142 จักรพรรดิสัตว์อสูร
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 144 มันไม่น่าดึงดูดพอ

บทที่ 143 การสังหารสัตว์อสูร


สองชั่วโมงต่อมา สมาชิกของตระกูลเฉียนให้สัญญาณท่าทางด้วยมือ เฉียนว่านก้วนลุกขึ้นยืนและตบก้นของเขา "มา ลูกพี่มาดูที่พักใหม่ของเรากันเถอะ"

"ฟึ่บ!"

ทั้งสามคนพุ่งไปและจับเชือกที่ห้อยไว้อย่างง่ายดาย พวกเขาใช้เวลาเพียงไม่นานในการเข้าไปในถ้ำหินที่สูงกว่าสามร้อยเมตร

ทั้งสามคนเดินผ่านประตูหินแคบและเข้าไปในถ้ำหิน สมาชิกตระกูลเฉียนนั้นมีประสิทธิภาพมาก มีพื้นที่กว้างขวางที่มีพื้นที่อย่างน้อยสามสิบเมตร ที่ผนังยังมีไข่มุกส่องสว่างที่ทำให้ภายในถ้ำเหมือนตอนกลางวัน

"เอาล่ะ เฉียนคุน ไปเตรียมการกันเถอะ!"

เฉียนว่านก้วนโบกมือ สมาชิกที่มีระดับพลังสูงสุดกระโดดลงมาจากปากถ้ำทันที เฉียนว่านก้วนมองไปรอบๆและเริ่มสั่งรายการสิ่งของ "เมื่อเจ้ากลับมาแล้ว นำของตกแต่งและเตียงมาปรับสถานที่นี้ด้วย เราจะพักที่นี่หลายเดือนและเราก็คงไม่สามารถนอนบนพื้นได้ทุกวันใช่ไหม? ขุดห้องอีกสองสามห้องให้เราสามคน สร้างห้องหนึ่งให้กับหลิวเหล่าและผู้คุ้มกันลับของจ้านอู๋ซวงด้วย พวกเขาแก่แล้วและเราก็คงไม่สามารถปล่อยให้พวกเขานอนหลับและกินอยู่ในที่กันดารได้หรอก ใช่ไหม?"

เจียงอี้และจ้านอู๋ซวงกลอกตา เฉียนว่านก้วนผู้นี้เป็นบุคคลที่รู้กับการเสพสุขเสียจริง พวกเขาคาดได้ว่าหลังจากพักไปไม่กี่เดือน ถ้ำหินแห่งนี้คงจะกลายเป็นวังที่หรูหรา

สมาชิกตระกูลเฉียนไม่ได้มีความแปลกใจเลย มีคนไม่กี่คนขอแก้ตัวและเห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังจะจัดการสิ่งเหล่านั้น คนกว่าสิบสองคนเริ่มใช้เครื่องมือเพื่อขุดห้องและขนย้ายเศษหินออก

"เอ๊ะ?"

ทันใดนั้นเจียงอี้ก็ได้กลิ่นหอมจางๆ จมูกของเขากระตุก "นั่นกลิ่นอะไรน่ะ?"

คิ้วของจ้านอู๋ซวงยกขึ้นขณะที่เขาพยายามดมกลิ่น ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็สว่างขึ้น เขามองเฉียนว่านก้วน "ไอ้เจ้าอ้วน นี่เจ้าใช้อำพันทะเลจริงๆเหรอ?"

"ฮิฮิ!"

เฉียนว่านก้วนยิ้มเยาะและตอบว่า "ยังมีบางส่วนอยู่ในโกดังที่แผงขายเมืองจิตอสูรและข้าขนมันมา ไม่มีปัญหาน่า! แพะแก่นั่นจะไม่รู้อะไรเลย"

"เจ้า!" จ้านอู๋ซวงอยู่เหนือการควบคุม เมื่อเขาเห็นสีหน้าของเจียงอี้ เขาก็หัวเราะและพูดว่า "เจียงอี้ออกไปดูเถอะ ข้ากลัวว่าฝีมือของเจ้าจะด้อยลงจากการฆ่า"

"โบร๋วววว!"

"จิ๊จิ๊"

"ฟึ่ดฟึ่ด"

"คุคุ!"

เสียงคำรามนับไม่ถ้วนจากสัตว์อสูรถูกปล่อยออกมา ดวงตาของเจียงอี้สว่างขึ้นและรีบออกจากถ้ำทันที เขายืนอยู่บนแผ่นหินที่ยื่นออกมาและมองไปรอบๆ ซึ่งสิ่งที่เขาเห็นก็ทำให้เขาตกใจ

ณ เส้นขอบฟ้าที่ห่างไกล เงาดำจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังตรงมายังทิศทางนี้ มันอาจดูเหมือนสัตว์อสูรเพียงไม่กี่สิบตัว แต่ที่ไกลออกไปก็คือสัตว์อสูรที่กำลังรวมตัวกันมาที่นี่

เสือสองหัว, จิ้งจอกน้ำเงิน, ลิงแขนยาว, หมาป่าปีศาจ, หมูป่าเขี้ยวแหลม…ราชสีห์ดุร้ายสามตา…

ดวงตาของเจียงอี้ตื่นตาไปหมด การเห็นสัตว์อสูรจำนวนมากพุ่งทะยานเข้ามาที่เขาเป็นฉากที่มีผลกระทบมาก มนุษย์ต่างก็หวาดกลัวสัตว์อสูร ตอนนี้เจียงอี้รู้สึกหายใจแทบไม่ออกด้วยการปรากฏตัวของสัตว์อสูรที่มาจากทุกทิศทุกทาง

ในที่สุดเขาก็เข้าใจแผนการของเฉียนว่านก้น สถานที่แห่งนี้อยู่สูงมากและยอดเขาหินสูงชันซึ่งสัตว์อสูรไม่สามารถขึ้นมาได้ แม้ว่าสัตว์อสูรเวหาที่หายากจะปรากฏออกมา ร่างของมันก็มีขนาดใหญ่ซึ่งตามปกติแล้วพวกมันจะไม่สามารถลอดประตูหินแคบๆมาได้ เฉียนว่านก้วนและคนอื่นๆก็สามารถสังเกตการต่อสู้ได้อย่างสะดวกสบายจากที่นี่ สำหรับเจียงอี้ ... เขาก็สามารถฆ่าสัตว์อสูรด้านล่างทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วและจะได้รับตำลึงทองจำนวนมหาศาล

สัตว์อสูรเหล่านี้มารวมตัวกันที่นี่หลังจากสมาชิกตระกูลเฉียนจุดประกายกลิ่นแปลกๆที่ดึงดูดพวกมันมา ดูเหมือนว่าจะเป็น 'อำพันทะเล' ที่จ้านอู๋ซวงพูดถึง เจียงอี้ไม่รู้ว่าเครื่องหอมนี้มีค่ามากเพียงใด แต่เขารู้ว่าเขาเป็นหนี้บุญคุณเฉียนว่านก้วนใหญ่หลวงอีกเรื่องหนึ่ง

"ฟึ่บ! ฟั่บ!"

เฉียนคุนและสมาชิกของตระกูลเฉียนก็รีบกระโดดไต่เชือกขึ้นมา ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของพวกเขา พวกเขาไม่กล้าที่จะอยู่ด้านล่าง มีสัตว์อสูรระดับสองมากมายในระลอกสัตว์อสูรที่กรูกันมา หากพวกเขายังคงอยู่เบื้องล่างพวกเขาคงได้กลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรอย่างแน่นอน

"ตึก ตึก!"

เงาดำในป่าจากที่ไกลๆพุ่งตรงมาหาพวกเขา พวกเขาทั้งสองมีสถานะที่แข็งแกร่งและไม่จำเป็นต้องใช้เชือกในการปีนขึ้นมา แค่เพียงการบินขึ้นมาเพียงครู่เดียวก็มาถึงยอดผาหินแล้ว

เมื่อเจียงอี้เห็นเฉียนคุนและคนอื่นๆคุกเข่า เขาเข้าใจว่าคนเหล่านี้เป็นผู้คุ้มกันลับจากตระกูลเฉียนและตระกูลจ้าน มีสัตว์อสูรมากมายที่นี่ พวกเขาต้องเป็นกังวลกับเฉียนว่านก้วนและจ้านอู๋ซวงอย่างแน่นอน

"เจียงอี้คารวะผู้อาวุโส!"

เจียงอี้คำนับและทักทายด้วยความเคารพ ชายชราทั้งสองไม่ได้พูดอะไรและพากันเข้าไปในถ้ำ

"ลูกพี่!"

เฉียนว่านก้วนและจ้านอู๋ซวงออกมา เมื่อพวกเขามองลงไปด้านล่างและเห็นสัตว์อสูรหลายสิบตนที่รวมกันอยู่ด้านล่าง พวกเขารู้สึกหายใจแทบไม่ออก เฉียนว่านก้วนพูดด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลว่า "ลูกพี่ ข้าไม่ได้ใช้เครื่องหอมมากเกินไปในครั้งนี้และมันกำลังจะหมดลงในไม่ช้า เจ้าแน่ใจหรือไม่ว่าเจ้าจะจัดการได้? ถ้าไม่ได้ ก็แค่รอเวลาแล้วสัตว์อสูรจะแยกย้ายกันไปเอง"

สัตว์อสูรรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนด้านล่างพวกเขา พวกมันทั้งหมดหมอบและมึนเมา ดูเหมือนพวกมันจะเพลิดเพลินไปกับกลิ่นหอมของอำพันทะเล แต่เมื่อสัตว์อสูรบางตนสังเกตเห็นเจียงอี้และคนอื่นๆบนยอดหิน พวกมันสองตนก็เริ่มพุ่งไปที่ยอดเขาหินดุร้าย

"ข้าจะลองดู!"

เจียงอี้พูดด้วยความรู้สึกกดดันและเหงื่อก็ออกที่ฝ่ามือของเขา แม้ว่าซูรั่วเสวี่ยเคยกล่าวไว้ว่าเจตจำนงแห่งการสังหารของเขาสามารถหยุดสัตว์อสูรและทำให้สัตว์ประหลาดน้ำแข็งถูกตรึงไว้ แต่ในเวลานั้นเขาก็อยู่ในสถานะที่บ้าคลั่งและไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

แต่เมื่อเขานึกถึงหินวิญญาณเพลิงในไข่มุกวิญญาณเพลิง เจียงอี้ก็รู้สึกสงบ หากเจตจำนงแห่งการสังหารของเขาไม่ทำงาน เขาก็สามารถใช้หินวิญญาณเพลิงไม่กี่ก้อนฆ่าสัตว์อสูรด้านล่างได้อย่างง่ายดาย เขาไม่ได้สังเกตเห็นสัตว์อสูรระดับสองตนใดที่แข็งแกร่งเกินไป

"บูม!"

สัตว์อสูรเริ่มชนที่ยอดหินมากขึ้น ผาหินอาจมีขนาดใหญ่ แต่สัตว์ร้ายก็มีพลังมากมายเช่นกัน ซึ่งทำให้ทั่วผาหินสั่นไหวเล็กน้อย

"ฆ่า!"

เจียงอี้คิดวิธีการแก้ปัญหาของเขาออกและคำราม เขาคว้าเชือกและลงไป เมื่อเขาอยู่กลางอากาศ ดวงตาของเขาเริ่มเปล่งแสงสีแดง กลิ่นอายสังหารที่เปรียบเสมือนสายลมฤดูหนาวปกคลุมสัตว์อสูรด้านล่างทุกตน

ฉากที่แปลกประหลาดเกิดขึ้น!

เมื่อเจียงอี้ลงมือ สัตว์อสูรหลายตนก็เบิกตากว้างและพวกมันเต็มไปด้วยความโกรธแค้นและความโหดร้าย เหมือนพวกมันถูกขัดจังหวะจากสิ่งที่พวกมันชอบ การแสดงตัวตนอย่างรุนแรงถูกปล่อยออกมาจากร่างของพวกมัน เนื่องจากพวกมันไม่สามารถรอที่จะฉีกเจียงอี้ออกเป็นชิ้นๆได้

เมื่อเจตจำนงแห่งการสังหารของเจียงอี้ปกคลุมพวกมัน ความดุร้ายก็หายไปจากดวงตาของสัตว์อสูร สัตว์อสูรทุกตนกลายเป็นเหมือนแกะราวกับว่าเจียงอี้เป็นราชาปีศาจที่น่าเกรงขาม เจตจำนงแห่งการสังหารครั้งนี้ทำให้พวกเขารู้สึกราวกับว่าวิญญาณกำลังสั่นเทา

สัตว์อสูรส่วนใหญ่ที่ลุกขึ้น ต่างพากันหมอบกราบและเชื่อฟังทันที สัตว์อสูรระดับหนึ่งส่วนใหญ่ต่างสั่นเทา สัตว์อสูรที่พากันกระแทกหินก็หยุดเคลื่อนไหวแล้วและกลายเป็นเหมือนลูกแมวนอนหมอบอยู่บนพื้น ฉากทั้งหมดนั้นแปลกประหลาดมากเสียจนน่ากลัว

"ฟู่ ฟู่…"

จ้านอู๋ซวงสูดลมหายด้วยความหนาวเหน็บ วิญญาณของเขาตกตะลึงและนึกย้อนกลับไปที่สุสานแห่งราชันสวรรค์เมื่อเขาเห็นเจียงอี้ใช้เจตจำนงแห่งการสังหารครั้งแรก ใบหน้ากลมๆของเฉียนว่านก้วนในขณะนี้เปิดปากค้าง สมาชิกคนอื่นๆทั้งหมดจากตระกูลเฉียนต่างก็รู้สึกงุนงงเช่นกัน

"หืม?"

ชายชราทั้งสองปรากฏตัวเงียบๆที่ปากทางเข้าถ้ำ เมื่อพวกเขาเห็นเจียงอี้กระโดดลงไปและดึงกริชสีแดงออกมาและสังหารอย่างง่ายดาย ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความตกใจ

ผู้คุ้มกันลับขอบเขตเสินโหยวแห่งตระกูลเฉียนได้รับผลกระทบอย่างลึกล้ำ "เจตจำนงแห่งการสังหารของราชันสวรรค์สังหารนั้นเป็นเรื่องที่น่ากลัวจริงๆ ดูเหมือนว่าคงมีแต่เจตจำนงแห่งผู้พิชิตของเจียงเปี๋ยหลีเท่านั้นที่พอจะต่อต้านได้"

"ถูกต้อง!"

ผู้คุ้มกันลับของตระกูลจ้านพยักหน้าและถอนหายใจ "ข้าได้ยินมาว่าเจตจำนงแห่งการสังหารนี้มีห้าขั้น เมื่อเด็กคนนี้อยู่ในสถานะที่บ้าระห่ำ เขาจะมีเพียงร่องรอยของสติและเห็นได้ชัดว่าแค่ในขั้นที่สอง กลิ่นอายสังหารนั้นก็ล้นหลามเสียแล้ว หากเป็นขั้นที่ห้า แม้แต่พวกเราก็คงจะถูกเขาฆ่าอย่างไม่ได้ตั้งใจ ... "

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด