AtW ตอนที่ 29 กับดักหมียักษ์
AtW ตอนที่ 29 กับดักหมียักษ์
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย
อาเบลกลับไปที่ปราสาทในเช้าวันรุ่งขึ้น หลังจากที่รับประทานอาหารเช้าเสร็จแล้วอาเบลก็ได้ใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมงในการพักผ่อนก่อนที่จะกลับไปที่ห้องทำงานส่วนตัวของเขาในโรงตีเหล็ก
นับครั้งไม่ถ้วนที่อาเบลได้กลายเป็นเทรนเนอร์ผู้ฝึกสอนเพาะกายในชาติก่อน ในอดีตอาเบลได้เคยไปปีนเขากับเพื่อนๆ ในป่าแห่งหนึ่ง ในตอนนั้นเองได้ทำให้เขามีประสบกาณณ์ในการล่าสัตว์มากขึ้น
คราวนี้อาเบลต้องสร้างกับดักหมียักษ์ตามที่เคยได้สร้างขึ้นมาในอดีต ตามที่อาจารย์เบธแฮมแนะนำนั้นกลุ่มวูฟไรเดอร์จะมีทั้งความเร็วและความยืดหยุ่นที่มากกว่าหน่วยทหารอื่นๆ พวกกลุ่มทหารวูฟไรเดอร์จะชอบใช้กลยุทธ์ตีแล้วด้นถอยหนีนั่นเอง หากไม่มีกองกำลังที่มากพอโอบล้อมพวกวูฟไรเดอร์ไว้การที่จะสังหารพวกวูฟไรเดอร์ทั้งหมดเองก็ไม่ใช่เรื่องที่ง่ายๆ เลย แต่กับดักหมีที่อาเบลสร้างขึ้นนั้นจะสามารถชดเชยจำนวนคนที่ขาดหายไปนั่นเอง ถ้าหากวูฟไรเดอร์เหยียบกับดักหมีเข้าแน่นอนว่าขาของพวกมันจะต้องบาดเจ็บ ส่งผลให้ความเร็วของพวกมันนั้นถูกลดทอนไปนั่นเอง
สัตว์และมนุษย์ทั้งหลายในโลกใบนี้ล้วนแต่แข็งแกร่งกว่าสัตว์และมนุษย์ในโลกเดิมที่อาเบลจากมามาก ดังนั้นอาเบลคิดว่าต้องใช้อะไรที่พิเศษกว่านั้นในการหยุดพวกวูฟไรเดอร์
ส่วนประกอบของกับดักหมียักษ์ทีอาเบลทำขึ้นต้องใช้สปริงอัดที่มีขนาดใหญ่เป็นพิเศษ, ตัวหนีบที่แหลมคม 2 ชิ้น, ไกปืน, ปุ่มกลไก และโซ่
หลังจากที่สปริงขนาดใหญ่ถูกอัดเอาไว้บนพื้นแบนราบมันจะถูกยึดไวอย่างเบาๆ ด้วยไกปืน ถ้าหากมีใครเหยียบเข้าที่กลไกของกับดับแล้วตัวหนีบที่แหลมคมนี้จะถูกผลักขึ้นด้วยแรงของสปริงที่ถูกบีบอัดไว้ที่พื้นอย่างฉับพลัน จากนั้นตัวหนีบนี้เองจะจับเหยื่อผู้โชคร้ายด้วยแรงจับที่มหาศาล เนื่องจากที่หนีบอันแหลมคมทั้งสองชิ้นนั้นไม่สามารถที่จะหยุดการเคลื่อนไหวของเหยื่อผู้โชคร้ายได้ซะทีเดียว ดังนั้นแล้วเหยื่อจึงสามารถที่จะดิ้นรนต่อไปได้นั่นเอง
มันคงเป็นเรื่องง่ายที่จะจินตนาการว่าวูฟไรเดอร์นั้นถูกจับโดยกับดักหมียักษ์ ด้วยความเร็วของวูฟไรเดอร์หมาป่าที่ถูกขี่นั้นจะต้องเจ็บปวดจากกับดักหมียักษ์อย่างแน่นอน
โลกใบนี้นั้นไม่มีกับดักหมียักษ์แบบนี้มาก่อน ดังนั้นแล้วการวางกับดักไว้เฉยๆ นั้นจะทำให้พวกออร์คไม่รู้ตัวอย่างแน่นอน แต่ถ้าหากเติมลายพรางให้กับกับดักด้วยแล้วมันจะสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
แต่การที่จะสร้างกับดักนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย ปัญหาเดียวที่เป็นอุปสรรคนั่นคือสปริงนั่นเอง จากที่อาเบลจำได้ว่าการที่จะทำสปริงได้จะต้องใช้ปริมาณคาร์บอนสูงเพื่อรักษาความยืดหยุ่นของเหล็กเอาไว้
อาเบลได้เคยทดลองการสร้างดาบแห่งร้อยทักษะโดยการเคลือบคาร์บอนมาก่อนแล้วในอดีต แต่หลังจากที่อาเบลได้ทดลองทำคาร์บูไรซิ่งมาแล้วหลายครั้งเขาก็พบว่าปริมาณคาร์บอนที่ต้องการนั้นแตกต่างกัน อาเบลจึงต้องทดลองทำคาร์บูไรซิ่งเพื่อที่จะหาปริมาณคาร์บอนที่เหมาะสมที่สุดสุดสำหรับความยืดหยุ่นของสปริง
หลังจากที่อาเบลได้ทดลองจนพบกับปริมาณคาร์บอนที่ต้องการใช้แล้วอาเบลจึงไม่รอช้าผลิตสปริงที่มีความยืดหยุ่นสูงออกมาจากเหล็กที่มีอยู่อย่างมากมายนับไม่ถ้วน สปริงที่ยืดหยุ่นเป็นพิเศษถูกสร้างขึ้นเพื่อที่จะนำสปริงเหล่านี้ไปสร้างสปริงเกลียวขนาดใหญ่นั่นเอง สปริงเกลียวขนาดใหญ่นี้จะเองจะสามารถใช้เป็นโช้คอัพให้กับยานพาหนะในอนาคตที่อาเบลจะสร้างได้อีกด้วย
อาเบลไม่ได้สร้างอุปกรณ์ส่วนเสริมอื่นๆ ของยานพาหนะในอนาคตเพราะตอนนี้อาเบลไม่เหลือเวลามากพอแล้ว สปริงเป็นเหมือนกับส่วนประกอบที่สำคัญที่สุดสำหรับการทำกับดัก อาเบลตัดสินใจที่จะทำสปริงทั้งหมดเองส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ของกับดักนั้นอาเบลตัดสินใจที่จะให้ช่างตีเหล็กคนอื่นๆ ในโรงตีเหล็กตระกูลแฮรี่ดูแลแทนตัวเขา
อาเบลต้องให้รุ่นพี่ของเขาอย่างกอร์ดอนคอยดูแลพิมพ์เขียวของส่วนประกอบกับดักหมียักษ์ชิ้นอื่นๆ กอร์ดอนจะต้องสร้างชิ้นส่วนของกับดักตามพิมพ์เขียวของอาเบลโดยใช้เวลาเพียงแค่ 2 วันเท่านั้น แน่นอนว่ากอร์ดอนไม่ได้มีปัญหาอะไรเนื่องจากเขาเองก็เป็นช่างตีเหล็กที่มากประสบการณ์และมากทั้งความสามารถอยู่แล้ว
เช้าวันต่อมาอาเบลก็ได้เดินทางมาถึงโรงตีเหล็กเหมือนกับทุกๆ วัน ทันทีที่อาเบลเดินทางมาถึงกอร์ดอนก็ได้เดินมารายงานอาเบลในทันทีด้วยดวงตาที่แดงก่ำและดูเหนื่อยล้าเป็นอย่างมาก "อาเบล ชิ้นส่วนอื่นๆ ที่นายต้องการฉันเตรียมให้กับนายในห้องตีเหล็กส่วนตัวของนายแล้วนะ"
อาเบลรู้สึกตกใจเป็นอย่างมาก เขาคิดว่าเต็มที่แล้วก็คงใช้เวลาอย่างน้อยๆ 2 วันแต่กอร์ดอนนั้นสามารถทำทุกอย่างเสร็จตามที่ได้รับมอบหมายในเพียงคืนเดียวเท่านั้น แต่เมื่อมองเห็นดวงตาที่แดงก่ำของกอร์ดอนอาเบลจึงอดไม่ได้เลยที่จะถามออกไป "เมื่อวานคุณไม่ได้นอนเลยอย่างงั้นหรอ? ผมไม่ได้ต้องการชิ้นส่วนพวกนี้เร็วขนาดนี้นะ"
"เมื่อช่างตีเหล็กทั้งหลายได้ยินคำขอร้องจากนาย พวกเขาก็รีบทำโดยอดหลับอดนอนทั้งคืน" กอร์ดอนไม่ได้ยกความดีในครั้งนี้เข้าตัวเอง เขายกความดีความชอบทั้งหมดให้กับช่างตีเหล็กคนอื่นๆ ที่ยืนอยู่ข้างหน้าของอาเบลในตอนนี้
"ถ้าครั้งหน้าผมสร้างดาบแห่งร้อยทักษะทุกคนก็มาดูผมได้เลยนะ ตอนนี้ทุกคนไปพักกันก่อนเถอะ" อาเบลพูดพร้อมกับยิ้มให้กับช่างตีเหล็กทุกคนรวมถึงกอร์ดอน
"ขอบคุณมากอาเบล ฉันจะบอกให้ทุกคนรู้เอง" กอร์ดอนขอบคุณอาเบลก่อนที่จะวิ่งออกไป
เมื่ออาเบลเดินเข้าไปในห้องตีเหล็กส่วนตัวของเขา อาเบลก็พบกับอุปกรณ์ส่วนเสริมทั้งหมดที่ใช้สำหรับทำกับดักนั้นวางอยู่บนพื้นอย่างครบครันแล้ว ส่วนประกอบของกับดักที่อาเบลจะสร้างนั้นดักหมียักษ์ได้ทั้งหมด 10 ชิ้นด้วยกัน ส่วนประกอบของกับดักแต่ละชิ้นนั้นแสดงให้เห็นถึงความละเอียดละออและความใส่ใจในสามารถสร้างของกอร์ดอนรวมไปถึงช่างตีเหล็กคนอื่นๆ
อาเบลต้องใช้ความพยายามอย่างหนักในการประกอบส่วนต่างๆ ให้เป็นกับดักหมียักษ์ อาเบลพยายามอย่างเต็มที่ก่อนที่จะประกอบกับดักหมียักษ์ทั้ง 10 ชิ้นสำเร็จภายในเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงเท่านั้น
ม้าสองตัวถูกนำเข้ามาก่อนที่จะถูกมัดกับดักหมียักษ์ไว้ตัวละ 5 ชิ้น หลังจากที่ตรวจสอบความเรียบร้อยเสร็จหมดแล้วอาเบลก็ได้ให้สัญญาณมือเพื่อส่งสัญญาณว่าอาเบลนั้นเตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางแล้ว
ด้านหลังปราสาทแฮรี่เองเป็นป่า ตั้งแต่ที่อาเบลยุ่งอยู่กับการฝึกฝนตัวเองเขาก็ไม่เคยที่จะสำรวจป่าหลังปราสาทเลย อาเบลเคยได้ยินมาว่ามีสัตว์ร้ายขนาดใหญ่อาศัยอยู่รอบๆ ป่าหลังปราสาทนี้ ดังนั้นอาเบลตัดสินใจที่จะทดสอบกับดักหมียักษ์กับสัตว์ร้ายตัวใหญ่พวกนั้น
แม้ว่าตอนนี้ปราสาทแฮรี่จะเริ่มระวังตัวและเริ่มเฝ้าระวังเพื่อเพิ่มความปลอดภัยรอบปราสาทมากยิ่งขึ้นแต่อาเบลก็ยังเดินทางออกจากปราสาทไปพร้อมกับม้า 2 ตัวของอาเบลโดยที่ไม่มีใครถามอาเบลเลยว่าเขาจะเดินทางไปไหน ตอนนี้ทุกคนที่อยู่ในปราสาทแฮรี่นั้นรู้อยู่แล้วว่าอาเบลนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับตอนแรกที่เขามาถึงปราสาทแฮรี่ ทุกคนในปราสาทรู้ดีว่าอาเบลได้กลายเป็นปรมาจารย์ช่างตีเหล็กไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยในโลกแห่งนี้นั้นคำว่าปรมาจารย์จะเป็นคำที่ใช้เรียกเหล่าชนชั้นนำที่สามารถขึ้นไปที่จุดสูงสุดของสายอาชีพนั้นๆ ได้ ดังนั้นพวกเขาจะได้รับความเคารพอย่างที่ไม่ต้องสงสัยไม่ว่าจะเดินไปทางไปที่ไหนก็ตามในทวีปศักดิ์สิทธิ์ทวีปนี้
ในเวลานี้เองเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่แสงอาทิตย์เจิดจ้าของบ่ายวันนี้มากที่สุด ดวงอาทิตย์ได้ให้แสงสว่างทะลุผ่านช่องว่างระหว่างกิ่งไม้เผยให้เห็นถึงใบไม้ที่ลวงหล่นสู่พื้น ด้วยสภาพแวดล้อมของป่านี้เองทำให้ม้าที่อาเบลพามาด้วยนั้นส่งเสียงคร่ำครวญคล้ายกับว่าพวกมันกำลังไม่พอใจอะไรบางอย่าง แต่เมื่ออาเบลเดินต่อไปพวกมันก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากจะเดินตามอาเบลนั่นเอง โดยปกติแล้วม้าส่วนใหญ่จะไม่ชอบสภาพแวดล้อมในป่าใหญ่แบบนี้ เพื่อแสดงความไม่พอใจออกมาพวกมันจึงเริ่มส่งเสียงผ่านทางจมูกของพวกมันเองให้กับผู้เป็นนายอย่างอาเบล
หลังจากที่อาเบลใช้เวลาเดินทางกว่าชั่วโมงครึ่งตอนนี้อาเบลก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังอยู่ที่ใจกลางของป่าป่านี้แล้ว แม้ว่าอาเบลจะไม่เห็นสัตว์ร้ายแม้แต่ตัวเดียวในระหว่างการเดินทางแต่อาเบลเองก็พบกับกองของมูลสัตว์ขนาดใหญ่อยู่ นี้เป็นเหมือนกับหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้รู้ได้ว่าป่าแห่งนี้จะต้องมีสัตว์ร้ายตัวใหญ่อาศัยอยู่อย่างแน่นอน สถานที่แห่งนี้ถูกทิ้งร้างมาเนิ่นนานแล้ว ไม่มีมนุษย์คนไหนที่เข้ามาในป่าแห่งนี้มาเป็นเวลานาน อาเบลรู้ได้ทันทีว่าป่าแห่งนี้จะต้องเหมาะเป็นที่ทดสอบกับดักหมียักษ์ของเขาอย่างแน่นอน กับดักที่อาเบลทำนั้นทรงพลังเกินกว่าที่จะใช้กับพวกมนุษย์ด้วยกันเอง ดังนั้นแล้วป่าที่ปลอดผู้คนจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการทดสอบที่สุดไป
อาเบลได้ก้มลงมองที่พื้นเพื่อที่จะหาร่องรอยของสัตว์ป่า สัตว์ป่าส่วนมากจะต้องเดินทางไปไหนมาไหนทางพื้นดินอยู่แล้วด้วยเหตุนี้เองพวกมันจึงต้องทิ้งรอยเท้าเอาไว้ที่พื้นอย่างแน่นอน ดังนั้นแล้วนักล่าที่มากประสบการณ์นั้นจะสามารถรู้ได้ทันทีว่าที่ตรงไหนนั้นเหมาะที่จะวางกับดักจับสัตว์มากที่สุด
แม้ว่าอาเบลจะไม่จะไม่มีประสบการณ์อะไรในการล่าสัตว์มากนักแต่อาเบลเองก็เคยได้รับการฝึกฝนด้านนี้มาบ้าง ดังนั้นการสังเกตรอยเท้าสัตว์อย่างรอบคอบจึงทำให้อาเบลสามารถเห็นรอยเท้าของสัตว์ป่าได้ อาเบลหยิบกับดักหมียักษ์จำนวน 2 ชิ้นลงจากหลังม้าทันที จากนั้นเขาก็เปิดกับดักออกด้วยแรงอันมหาศาลก่อนที่จะง้างไกปืนเพื่อเปิดใช้กับดักนั้นทำงาน ถ้าจะว่ากันเรื่องวางกับดักแล้วมีเทคนิคมากมายในการวางกับดัก ในทคนิคพื้นฐานนั้นจะต้องมองดูที่พื้นให้ดีว่าจุดไหนที่สัตว์ป่าที่เป็นเป้าหมายนั้นเดินผ่านอยู่เป็นประจำ ดังนั้นแล้วการวางกับดักที่จุดนั้นจะสามารถเพิ่มโอกาสในการจับได้นั่นเอง การวางกับดักถึง 2 ชิ้นด้วยกันจะทำให้สัตว์ป่าที่สามารถหลบกับดักชิ้นแรกได้ติดกับดักชิ้นที่สองที่ถูกวางไว้นั่นเอง
หลังจากที่อาเบลติดตั้งกับดักเสร็จเขาก็ได้ทำเครื่องหมายในแบบลูกศรไว้ที่ด้านบนของต้นไม้ เครื่องไม้อันนี้จะเอาไว้คอยเตือนอาเบลว่าเขาได้วางกับดักไว้ที่ตรงนี้นั่นเอง ด้วยเครื่องหมายนี้จะทำให้อาเบลไม่เหยียบกับดักของตัวเอง และเครื่องหมายที่เป็นลูกศรนี้เองจะทำให้อาเบลนั้นไม่หลงป่าอีกด้วย
หลังจากที่ทำเครื่องหมายเสร็จแล้วอาเบลก็เดินต่อไปข้างหน้า ทุกๆ สิบนาทีอาเบลจะหาที่วางกับดักไว้ อาเบลได้ใช้เวลาไปกว่าหนึ่งชั่วโมงก่อนที่จะวางกับดักหมียักษ์ทั้งหมดไว้ในป่าแห่งนี้
ท้องฟ้าของวันนี้เริ่มที่จะมืดลงแล้ว อาเบลกำลังเก็บข้าวของทั้งหมดที่เตรียมมาเพื่อที่จะกลับปราสาทแฮรี่นั่นเอง ยังคงมีเวลาอีก 2 ชั่วโมงก่อนที่ท้องฟ้าจะมืดสนิท จนกว่าจะถึงตอนนั้นอาเบลจะสามารถเดินทางกลับไปที่ปราสาทโดยไม่หลงทางได้
ในขณะนั้นเองอาเบลก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอันแสนเจ็บปวดอะไรบางอย่างจากระยะไกลเข้า
ดูเหมือนว่าจะมีสัตว์ร้ายได้ติดกับดักหมียักษ์ของอาเบลแล้วนั่นเอง คงจะมีแต่สัตว์ร้ายเท่านั้นที่จะสามารถส่งเสียงร้องในป่าแบบนี้ได้
อาเบลมัดม้าของเขาไว้ที่ต้นไม้ต้นหนึ่งก่อนที่จะตรงไปทางที่เสียงดังทันที ในขณะที่อาเบลวิ่งเขาก็ได้สังเกตเครื่องหมายที่ทำไว้บนต้นไม้ มันคงจะเป็นเรื่องน่าอับอายถ้าอาเบลจะเหยียบกับดักของตัวเอง
หลังจากใข้เวลาไปกว่าสิบนาทีอาเบลก็พบกับจุดที่เขาวางกับดักแล้ว อาเบลจึงต้องชะลอตัวลงก่อนที่จะเดินอย่างช้าๆ ด้วยความระมัดระวัง
แม้ว่ากับดักจะถูกเปิดใช้งานแล้วแต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเหยื่อผู้โชคร้ายถูกจับโดยกับดักอยู่เลย อาเบลก้มลงก่อนที่จะจับส่วนหนีบอันแหลมคมของกับดักที่เขาทำ อาเบลพบว่ามีเลือดติดอยู่ที่กับดักของเขา
สิ่งที่ติดกับดักอาเบลอาจจะไม่ใช่สัตว์ร้าย แม้ว่าอาเบลจะไม่รู้ว่าอะไรกันแน่ที่ติดกับดักของเขาแต่ถ้าเป็นสัตว์ร้ายพวกมันคงจะไม่มีความฉลาดมากพอที่จะปลดกับดักได้ด้วยตัวเองแบบนี้ คงไม่มีสัตว์ร้ายตัวไหนเลยที่สามารถปลดกับดักได้โดยปราศจากความช่วยเหลือของมนุษย์ แต่ถ้าสัตว์ร้ายตัวนั้นมีแข็งแกร่งมากพอกับดักจะถูกทำลายนั่นเอง แต่กับดักอันนี้ก็ยังไม่ได้ถูกทำลายไป
หรือว่าจะเป็นมนุษย์กัน? อาเบลส่ายหัวของตัวเอง เสียงที่อาเบลได้ยินก่อนหน้านี้ไม่ใช่เสียงมนุษย์อย่างแน่นอน อาเบลค่อนข้างที่จะมั่นใจในความคิดตอนนี้
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย