ตอนที่ 9 ท่านนุ่มเหลือเกิน
ป๋ายเสี่ยวเฟยเดินอย่างหนักแน่นก้าวผ่านประตูสถาบัน เขารู้สึกโล่งอกอีกครา หลังจากเดินตามถนนหลักอยู่ครู่หนึ่งป๋ายเสี่ยวเฟยเจอทางแยก เขารีบกล่าวกับฉินหลิงหยานผู้ซึ่งเดินนำหน้า
''ศิษย์พี่หลิงหยานท่านไปทำธุระของท่านเถิด ข้ามีศิษย์พี่ป๋ายเย่เป็นผู้นำทางให้แล้ว''
ฉินหลิงหยานหันกลับมามองป๋ายเย่อย่างฉงนสงสัย
''ไม่ต้องกังวล ปล่อยให้เป็นหน้าที่ข้าเอง''
ป๋ายเย่ยืดอดรับปาก เมื่อเห็นฉินหลิงหยานคลี่ปากยิ้ม ใบหน้าเขาแข็งค้างนัยน์ตาทั้งคู่เต็มเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์หาของความรักใคร่
ฉินหลิงหยานก้าวเดินจากไปอย่างสง่างาม เพียงชั่วครู่เงาของนางไม่หลงเหลือให้เห็น
ป๋ายเสี่ยวเฟยยื่นมือไปโบกซ้ายโบกขวาข้างหน้าป๋ายเย่ตักเตือนให้เขาตื่นจากฝันกลางวัน
''ศิษย์พี่ ท่านแอบรักศิษย์พี่หญิงหลิงหยานใช่หรือไม่? ''
ใบหน้าป๋ายเสี่ยวเฟยมีประกายรู้แจ้งฉับพลัน เขามองป๋ายเย่อย่างดูถูก
''เจ้าต่างหากที่แอบรักนาง! ข้าดูเหมือนคนขี้ขลาดหรือไร!? ข้าสารภาพรักนางไปแล้วมากกว่ายี่สิบครั้ง! ''
ป๋ายเย่พยายามโต้เถียงสุดกำลังเสียงของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ
''ศิษย์พี่ ท่านคิดว่านั่นดีกว่าการแอบรักนาง...? ''
ป๋ายเสี่ยวเฟยเหงื่อออกท่วมเขารู้สึกราวกับมุมมองชีวิตของเขาทั้งหมดล้วนผิดพลาดแม้กระทั่งสงสัยว่าสิ่งที่เขาเรียนรู้จากพ่อแม่บุญธรรมล้วนเป็นเรื่องโกหก
ป๋ายเย่ค้างเล็กน้อย จากนั้นจึงตอบกลับ
''ไม่ใช่หรือ? ''
'เจ้าคิดแบบนี้จริงๆ ด้วย...'
ป๋ายเสี่ยวเฟยรู้สึกพูดไม่ออกทันใด เขาคิดว่าเขาจำเป็นต้องทำบางอย่างเพื่อศิษย์พี่ผู้น่าสงสารของเขา
''ศิษย์พี่ รูปลักษณ์ของท่านไม่ใช่ปัญหา ผิวพรรณขาวสะอาด ถึงจะผอมบางไปเล็กน้อยแต่ท่านเหมาะสมกับคำว่า 'หล่อเหลา' แน่นอน แล้วเหตุใดท่านจึงล้มเหลวกว่ายี่สิบครั้ง? ''
ป๋ายเสี่ยวเฟยยื่นมือออกไปหมายจะนวดไหล่ให้ป๋ายเย่
แต่ป๋ายเย่รีบหลบไปด้านข้างทันที
''อย่าลืมว่าข้ายังเป็นศิษย์พี่ของเจ้า มันไม่เหมาะสมหากพวกเราใกล้ชิดกันเกินไป''
เสียงป๋ายเย่กลายเป็นเย็นชาพลางขึงตาจ้องป๋ายเสี่ยวเฟย
''เป็นเช่นนี้หรอกหรือ... ข้าหลงคิดไปเองว่าพวกเราเป็นเพื่อน ข้าตั้งใจจะช่วยท่านคว้าใจศิษย์พี่หญิงหลิงหยานแต่ดูเหมือนว่าข้าคงแส่ไม่เข้าเรื่อง''
ป๋ายเสี่ยวเฟยส่ายหัวไปมาอย่าง'เจ็บปวด' ใบหน้าเผยให้เห็นความเศร้าโศก
''ใครบอกว่าพวกเราไม่ใช่เพื่อน? ข้าเพียงล้อเล่น ไฉนเจ้าจึงต้องเก็บไปคิดมาก!? ''
ป๋ายเย่รีบก้าวขายาวๆ มาจับมือป๋ายเสี่ยวเฟยแล้วจึงไปวางไว้บนไหล่ของเขา
''เอาเลย! จับ...เอ๊ย! นวดข้า! ''
ถึงเขาจะได้ตัดสินใจทำเช่นนี้แต่ป๋ายเย่ก็ยังไม่คุ้นชินกับการถูกคนอื่นสัมผัส สีหน้าเขาไม่สู้ดีราวกับถูกทรมานอยู่ก็มิปาน
ป๋ายเสี่ยวเฟยไม่สนใจสีหน้าป๋ายเย่แม้แต่น้อย มือทั้งสองดึงป๋ายเย่เข้ามากอดแนบกาย
''อย่างที่ข้าพูดไว้ พวกเราเป็นเหมือนกับพี่น้องแถมยังอยู่สถาบันเดียวกัน เหตุใดต้องเย็นชากับข้าด้วย''
ในระหว่างที่เขากล่าว คิ้วทั้งสองค่อยๆ ขมวดมุ่นเข้าหากัน
''พี่ชาย... ทำไมท่านถึงได้นุ่ม...''
ป๋ายเสี่ยวเฟยยังไม่ทันพูดจบ ป๋ายเย่ก็ถีบเขาออกไปห่างๆ เสียแล้ว
''เจ้าตัวบัดซบยังคิดเอาเปรียบข้าอีกหรือ!? ทำไม? ข้าผิดมากหรือไรที่ตัวนุ่มนิดหน่อย!? บ้านข้ารวยและพวกเขาเลี้ยงข้าเป็นอย่างดี! ''
คำพูดของป๋ายเสี่ยวเฟยคงไปแทงใจดำป๋ายเย่ อารมณ์เขากลายเป็นหงุดหงิดทันที
ป๋ายเย่เดินไปข้างหน้าไม่รอป๋ายเสี่ยวเฟย
ป๋ายเย่หันกลับมาเมื่อเห็นว่าป๋ายเสี่ยวเฟยไม่เดินตามมา เขาถมึงตาจ้องป๋ายเสี่ยวเฟยเขม็ง
''เจ้ายังอยากเข้าสถาบันหรือไม่? ''
เป็นแววตาของป๋ายเย่นี้เองที่ตราตรึงใจป๋ายเสี่ยวเฟยเอาไว้
'ผู้หญิง!? '
'ไม่! ไม่! ไม่! เป็นไปไม่ได้! เขาจะเป็นผู้หญิงได้อย่างไรในเมื่อแบนซะขนาดนั้น...'
'สงบไว้ป๋ายเสี่ยวเฟย! อย่าไปสนเรื่องไร้สาระ ก่อนอื่นต้องสอบให้ผ่าน! '
''เข้า! ข้ายังอยากเข้า! ''
'ข้าจะไม่อยากเข้าได้อย่างไร? เงินจะซื้ออาหารข้ายังไม่มี หากข้าไม่เข้าสถาบันข้ามีหวังได้อดตายแน่! '
ป๋ายเสี่ยวเฟยรีบวิ่งตามป๋ายเย่ในระหว่างที่เขาคิด
ป๋ายเย่แนะนำสถานที่รอบๆ พลางนำทางป๋ายเสี่ยวเฟย คำอธิบายของเขากับความสามารถในการสังเกตของป๋ายเสี่ยวเฟยทำให้ไม่นานนักเขาก็รู้โครงสร้างของสถาบันชิงหลัว
ถึงจะเป็นเพียงรอบนอกแต่สถาบันชิงหลัวก็ยังตั้งอยู่ภายในเทือกเขาไร้ขอบเขต เป็นเหตุให้รอบนอกของสถาบันมีบ้างที่เต็มไปด้วยเทือกเขาสูงใหญ่แบ่งแยกสถาบันชิงหลัวจากโลกภายนอกและป้องกันการโจมตีของสัตว์อสูร
เพราะเหตุนี้จึงมีเพียงประตูหลักเดียวเป็นทางออก เมื่อเข้ามาแล้วสิ่งที่รออยู่คือทางเดินอันยาวเหยียด
ทางด้านซ้ายของถนนสามารถเรียกได้ว่าเป็นตลาดค้าขาย มีสิ่งของมากมายให้เลือกซื้อ นอกจากร้านใหญ่โตของสถาบันแล้วที่เหลือล้วนเป็นร้านจากนักเรียน
นอกจากตลาดค้าขายก็ยังมีสิ่งก่อสร้างมากมายรูปร่างคล้ายคลึงกัน มันคือหอพักชายที่ถูกแบ่งออกเป็นห้าส่วนตั้งแต่นักเรียนเตรียมไปถึงศิษย์ปีสี่
ทางด้านขวามีโรงอาหารสองโรงและร้านขายขนมมากมาย ขนมขึ้นชื่อจากทั่วทวีปสามารถหาซื้อได้หมด
อย่างที่ป๋ายเสี่ยวเฟยกล่าว อย่าดูถูกพลังของพวกตะกละ!
ข้างหลังโรงอาหารเป็นหอพักหญิงหน้าตาไม่ต่างกันมาก มันคือสถานที่ที่ดึงดูดความสนใจของชายหนุ่มทุกคน...
หลังจากทั้งสองเดินไปจนสุดทาง ข้างหน้ามีพื้นที่สี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ยักษ์ รอบๆ เป็นทางแยกมากกว่าสิบสาย ทางเดินพวกนี้นำทางไปยังสถานที่ต่างๆ เช่นห้องเรียนของพวกเขา...
ด้านตรงข้ามถนน ทิศของทะเลมรณะ เป็นสถานที่สำหรับเหล่าผู้นำของสถาบัน ทิศเหนือเป็นพื้นที่จัดการงานต่างๆ ในขณะที่ทิศใต้มีไว้พักผ่อน
หากมองจากด้านบนจะเห็นได้ว่าทั้งสถาบันชิงหลัวคล้ายคลึงกับหนึ่งส่วนสี่ของรูปวงกลม ทั้งสองด้านชี้ไปยังเทือกเขาไร้ขอบเขตและทะเลมรณะ
ป๋ายเสี่ยวเฟยและป๋ายเย่พูดคุยไปพลางเดินไปพลาง ท้ายที่สุดพวกเขาก็มาถึงสถานที่จัดการงานของผู้นำสถาบัน
ป๋ายเย่แนะนำอย่างใจดี
''ในหมู่เจ้าสถาบันและรองเจ้าสถาบันทั้งสามมีเพียงรองเจ้าสถาบันลั่วซีเท่านั้นที่เป็นผู้หญิง เจ้าเลือกไปหาใครก็ได้ที่ไม่ใช่นาง''
''ทำไมยกเว้นแค่นาง? เพราะนางเป็นผู้หญิงหรือ? ''
ป๋ายเสี่ยวเฟยชอบทำในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ นี่เป็นนิสัยของเขา
''ไม่ใช่ แต่เพราะนางเกลียดผู้ชายทุกคนที่แซ่ป๋ายต่างหาก โดยเฉพาะนักเรียน''
ป๋ายเย่กล่าวสีหน้าเต็มไปด้วยอารมณ์ เขาต้องเคยได้ลิ้มรสความ'เกลียด'ของนางมาบ้างเป็นแน่แท้
''เพราะเหตุใด? ''
ป๋ายเสี่ยวเฟยตาเป็นประกายราวกับอยากลองของ
''ไม่มีใครรู้ แต่จากข่าวลือเหมือนว่าจะเกี่ยวกับการที่นางถูกทิ้ง''
ป๋ายเย่กล่าวทันใดนั้นสีหน้าเขาก็เปลี่ยนทันที
''เจ้าอยากรู้ไปทำไม? อย่าบอกนะว่าเจ้าต้องการท้าทาย!? เจ้าควรรู้ไว้ว่าคนแซ่ป๋ายทั้งหมดที่ยั่วยุนางล้วนจบไม่สวยทั้งนั้น! ''
สำหรับป๋ายเสี่ยวเฟย คำเตือนของป๋ายเย่ไม่ต่างอะไรกับการให้กำลังใจเขา...
''น่าสนุกดีท่านว่าไหม!? ''
ป๋ายเสี่ยวเฟยจ้องป๋ายเย่ใบหน้าบ่งบอกว่าเขาได้ตัดสินใจแล้ว
''เดินตรงไปและเลี้ยวขวา น้องชาย ข้านับถือเจ้าแต่ข้าจะไม่ไปกับเจ้า ข้าไม่ถูกชะตากับที่นั่น! ''
''ขอบคุณศิษย์พี่ ข้าจะไม่ลืมชวนท่านไปทานอาหารกับศิษย์พี่หญิงหลิงหยาน! ''
ป๋ายเสี่ยวเฟยยิ้มในขณะที่ก้าวเข้าสู่บททดสอบสุดท้ายของสถาบันชิงหลัว