GE427 ล่าสังหาร (4) [ฟรี]
ณ หอคอยชั้น 11… เมื่อสูฟงตาย หนิงฝานก็กลายเป็นใหญ่ของที่นี่
ในการต่อสู้ที่ผ่านมา ผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงนับ 10 ถูกสังหาร เหลยฉียี่ก็เแทบเอาตัวไม่รอด
ในบรรดาผู้เชี่ยวชาญทั้ง 10 มี 6 คนที่ยังใช้ประโยชน์ได้ เหลยฉียี่จึงเปลี่ยนให้ 6 คนนั้นเป็นทาส
หนิงฝานเก็บปฐมอัสนีทั้งหมดที่ได้เอาไว้พร้อมกับใบไผ่อัสนีทองคำดำ ยามนี้เขาได้ใบไผ่อัสนีทั้งหมด 11 ใบซึ่งมากพอที่จะใช้รักษาหงยี่
ส่วนทาสที่ชายชราสร้างจากขอบเขตไร้ดัดแปลง 6 ตนนั้น ทำให้ชายชราไม่ได้หยกอัสนีจากพวกมัน
แต่ถึงอย่างนั้น การเปลี่ยนให้ผู้เชี่ยวชาญเหล่านั้นกลายเป็นทาสก็ยังนับว่าคุ้มค่า
หนิงฝานยกตำแหน่งผู้ปกครองชั้น 11 ให้สูฟง และประกาศให้ทุกคนในชั้นรับรู้
เหล่าทาสที่ชายชราได้นั้น ไม่ได้ทรงพลังเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลง แต่ทรงพลังยิ่งกว่าขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง นอกจากนี้ พวกมันยังนำออกไปจากหอคอยแห่งนี้ไม่ได้
หนิงฝานดูดซับปฐมอัสนีของขอบเขตตัดวิญญาณรับพัน และขอบเขตไร้ดัดแปลงนับสิบ จนเกาะอัสนีของเขายกระดับไปมาก
การต่อสู้ร่วมรบทำให้เกิดมิตรภาพและสหาย ชายชรารู้สึกขอบคุณหนิงฝานมาก และยามตามไปทำสงครามกับหนิงฝานด้วย ดังนั้นชายชราและคนของวังสมบัติอนันต์จึงตามหนิงฝานไปยังชั้น 12
ในชั้น 12 แห่งนี้คือโลกที่ปกคลุมด้วยหมอกหนา อัสนีแปรบปราบ ภายในนั้นมีดวงจิตอัสนีและอสูรอัสนีจำนวนมากซ่อนตัว ซึ่งหากไม่ระวัง อาจถูกพวกมันเข้าจู่โจม
ต่อให้เป็นเหลยฉียี่ ชายชรายังต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นอย่างมาก
หนิงฝานเป็นผู้นำทัพ ปลดปล่อยแรงกดดันที่ทรงพลัง นำฝ่าม่านหมอกด้วยความเร็วสูง
หากพบศัตรูระหว่างทางหรืออสูรอัสนีเข้าจู่โจม หนิงฝานจะสังหารพวกมันทันที
ภายในวังอัสนีแห่งชั้น 12 ผู้ปกครองชั้นฮวางหยุนสื่อสีหน้าแปรเปลี่ยนมืดมน มันไดเรับรยางานว่าสูฟงถูกขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงสังหาร ซึ่งคนผู้นั้นคือผู้ที่ราชามังกรต้องการตัว ทั้งยังมีข่าวลือว่าผู้เยาว์คนนั้นแข็งแกร่งเทียบเท่าชอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง
“น่าขัน! ขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงจะแข็งแกร่งเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง!” ฮวางหยุนสื่อไม่เคยเชื่อข่าวที่มันได้ยิน และมันเป็นผู้หนึ่งที่ปฏิเสธจะทำตามคสั่งของราชามังกร ไม่ส่งคนออกไปตามล่าหนิงฝาน
มันไม่เคยชื่อว่าหนิงฝานจะสังหารสูฟงได้ และไม่เชื่อว่าหนิงฝานจะทรงพลังเท่าเหลยฉียี่
มันเคยพบเหลยฉียี่ มันรู้ว่าเหลยฉียี่แข็งแกร่ง หากกล่าวว่าเหลยฉียี่เป็นผู้สังหารสูงฟง มันจะไม่คิดว่าเป็นเรื่องแปลก
ฮวางหยุนสื่ออยู่ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง ตัวมันเหมือนกับผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลางคนอื่นๆที่ไม่ยอมก้มหัวให้ราชามังกร
ในระหว่างที่เกิดการต่อสู้ในชั้น 11 มันได้ใช้คนไปแอบสังเกตุการณ์
หากเหลยฉียี่ทรงพลังมากพอที่จะล้มราชามังกร มันจะไม่ขวางและปล่อยให้ชายชราไปสังหารราชามังกรทันที
แต่แล้วฮวางหยุนสื่อก็ได้รู้ว่ากองทัพของเหลยฉียี่ทรงพลัง เพียงแต่ผู้นำทัพไม่ใช่ชายชรา แต่เป็นหนิงฝาน
“เป็นไปได้ยังไง! เหลยฉียี่ทรงพลัง เหตุใดต้องเป็นผู้ติดตามผู้เยาว์ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง?”
ยามราตรี ตะวันลอยเด่นบนท้องนภา เสียงกระจ่างใสสายหนึ่งดังขึ้นจากนอกวังอัสนี พร้อมกับปราณปีศาจที่ทรงพลัง
“ผู้เยาว์ซัวหมิงอยากจะขอใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายของท่านเพื่อมุ่งผ่านไปยังชั้นต่อไป ขอท่านอนุญาติด้วย!” หนิงฝานกล่าวอย่างนอบน้อม
แต่เมื่อฮวางหยุนสื่อสัมผัสได้ถึงปราณปีศาจของเขา มันกลับสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายโลหิตที่รุนแรง
“เด็กนั่นสังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงมาแล้วมากมาย! มิน่าทำไมปราณปีศาจถึงได้ทรงพลังขนาดนั้น” มันรู้ทันทีว่าไม่อาจยั่วยุหนิงฝานได้
แม้ฮวางหยุนสื่อจะอยู่ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง แต่มันไม่ได้ทรงพลังเท่าสูฟง ดังนั้นมันจึงรู้ว่าสู้หนิงฝานไม่ได้
“ถ่ายทอดคำสั่ง! อนุญาติให้ผู้ที่มาใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้าย ห้ามผู้ใดขัดขวางหรือจู่โจม หากใครขัดขืน… สังหาร!” ฮวางหยุนสื่อกล่าว
“แต่ว่านายท่าน… ที่ทำเช่นนี้เหมือนเป็นการที่เราให้ความสำคัญกับซัวหมิงมากกว่าราชามังกรนะท่าน” ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นกล่าว
“เจ้าหนู… แต่ไหนแต่ไรมา ข้าไม่เคยยอมก้มให้มันอยู่แล้ว!” มันไม่กล้ายั่วยุหนิงฝาน มันรู้ว่าหากยั่วยุ ชะตากรรมของพวกมันย่อมต้องเป็นการถูกทำลาย
มันเร่งมุ่งหน้าไปยังข่ายอาคมเพื่อเตรียมต้อนรับ แต่เมื่อมันไปถึงข่ายอาคมเคลื่อนย้าย มันพบหนิงฝานที่กำลังถูกคนของมันล้อม
มันมาช้าเกินไป!
ผู้ที่ล้อมมีขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น 2 ตน หนึ่งคือบุรุษร่างอ้วน อีกหนึ่งทรงพลังไม่ธรรมดา ข้างหลังของพวกมันมีผู้เยาว์ในขอบเขตตัดวิญญาณขั้นสูง
“บังอาจนัก เจ้ากล้าสังหารคนของข้า ข้าคือคนของราชามังกร ไสหัวไปซะ!... พวกเจ้าทั้งสองระวังอย่าให้มันใช้วิชาอำพรางได้อีก”
“คุณชายวางใจได้! พวกข้ารู้ว่าต้องทำยังไง” ขอบเขตไร้ดัดแปลงทั้งสองจ้องมองหนิงฝานด้วยแววตาเย้ยหยัน มันนำบางสิ่งออกมา จุดด้วยเพลิงสีเงินก่อนของสิ่งนั้นจะหายไป
ไม่นาน หนิงฝานสัมผัสได้ถึงกลิ่นบางอย่างมาติดอยู่กับตัวเขา ซึ่งไม่สามารถขับกลิ่นนั้นออกไปได้ ดูเหมือนพวกมันจะใช้กลิ่นติดตามตัวเขา
หนิงฝานไม่อยากก่อเรื่อง เพราะเขาไม่ได้มีเวลามากขนาดที่จะออกล่าสังหารไปจนถึงชั้น 24 เขาอยากสังหารราชามังกรและรีบกลับออกจากที่นี่
เยว่หลิงคงและหงยี่จำเป็นต้องใช้ใบไผ่อัสนีทองคำดำเพื่อรักษาชีวิต หนิงฝานจึงไม่อยากมาเสียเวลาที่นี่
แต่ในเมื่อพวกมันหวังสังหารเขา ก็ไม่จำเป็นต้องเก็บพวกมันไว้
“ไอ้หนู! ตัวเจ้ามีผงถ่านเพลิงติดอยู่ ไม่ว่าเจ้าจะอำพรางตัวยังไง พวกข้าก็ยังตามกลิ่นเจ้าได้… แล้วแบบนี้เจ้ายังมีอะไรมารับมือพวกข้าอีก!” พวกมันกล่าวด้วยสีหน้าเย้ยหยัน ผงถ่านที่มันใช้ ต่อให้ผ่านไปหลายวันกลิ่นก็ยังคงติดตัวอยู่
“สหายเต๋าซัว ข้าจะรับมือกับพวกมันเอง เจ้าไปชั้น 13 ก่อนเถอะ” เหลยฉียี่กล่าวด้วยความขึ่นเคือง
“ไม่จำเป็น ข้าจัดการเอง แค่พวกมันสองคนไม่คู่ควรให้ใส่ใจหรอก!” หนิงฝานกล่าวด้วยสีหน้าเย็นชา แสงดาราส่องไปทั่วทิศ ก่อนปรากฏดาราทมิฬ 99 ดวง
หนิงฝานเอื้อมมือไปเบื้องหน้า ทำท่าคว้าจับ แสงก่อตัวเป็นธนูสีดำประกาย
มือรั้งสายธนู รอบข้างสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ปลายศรชี้เล็งไปยังพวกมันทั้งสอง จนใบหน้าที่ภาคภูมิแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง
“วิชาดารารักษา! และนั่น วิชาดาราทมิฬในตำนาน! และดาราแก่นชีวิตอีก 99 ดวง! แบบนี้ นอกจากขอบเขตไร้แบ่งแยก ก็ไม่มีใครทำอันตรายมันได้!”
พวกมันตกตะลึง พวกมันเพิ่งเคยเห็นวิชาดารารักษาด้วยตาของตนเป็นครั้งแรก พวกมันเคยอ่านพบวิชานี้ในตำราโบราณ ซึ่งวิชานี้คือวิชาที่ทรงอานุภาพจะหาใดเปรียบ
“ยิ่งวิชาธนูนั่น… อานุภาพของมันทำให้ผืนดินและผืนฟ้าสั่นสะเทือน อานุภาพขนาดนี้ ข้ารับมือไม่ได้แน่!” พวกมันจ้องมองหนิงฝานด้วยความหวาดกลัว มันรู้ว่าสู้หนิงฝานได้ไม่แน่
ฮวางหยุนสื่อถอนหายใจ มันรู้ดีว่าหากได้ธนูลูกศรนั่นเข้า ต่อให้ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น 2 คนนั้นไม่ตาย พวกมันก็ต้องบาดเจ็บสาหัส ทั้งยังส่งผลกระทบกับระดับพลังอย่างใหญ่หลวง
มันอยากช่วยคนของมัน แต่ไม่สามารถทำอะไรได้
เหลยฉียี่หันมองฮวางหยุนสื่อ หากฮวางหยุนสื่อลงมือ ชายชราจะเข้าขวาง
ชายชราจะไม่ปล่อยให้ใครมาขวางหนิงฝานจัดการกับสองดวงจิตอัสนีตรงหน้า หากฮวางหยุนสื่อยังคิดสอดมือ สถานะการณ์จะบานปลายจนไม่อาจแก้ไข
“เมื่อยามที่อยู่ในชั้น 11 เขายังไม่ได้เอาจริงๆ” ชายชรารู้ว่าหนิงฝานทรงพลังยิ่งกว่านี้
ในขณะที่หนิงฝานรั้งธนู แววตาของเขากลับเผยความผิดหวัง
“ยังไม่ใช่… ธนูดับดาราของข้ากับโม๋หลัวยังต่างกันเกินไป หนึ่งในเหตุผลคือธนูของข้าไม่ได้สลักอักษรปีศาจ” หนิงฝานหลับตาพลางหวนนึกถึงอักษรปีศาจที่สลักอยู่บนธนูดับดาราของโม๋หลัว
ไม่นานเขาก็ขยับขยับปลายนิ้วที่เปล่งแสงดารา สลักอักษรปีศาจตามความทรงจำลงบนธนู
ไม่นาน ปราณปีศาจที่ทรงพลังก่อตัวบนท้องนภา อักษรปีศาจเริ่มผสานตัวเป็นข่ายอาคม
สีหน้าสองไร้ดัดแปลงขั้นกลางแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง เมื่อครู่แค่หนิงฝานรั้งธนู พวกมันก็หวาดกลัวจนฉี่แทบราด เพราะต่อให้พวกมันต้านรับเต็มกำลัง อย่างมากก็ทำได้แค่รักษาชีวิตแบบเฉียดตายมาได้เท่านั้น
แต่ในขณะที่พวกมันเตรียมตัวอยู่นั้น พวกมันกลับเห็นอักษรประหลาดบางอย่างปรากฏบนธนู พวกมันคิดว่าอักษรเหล่านั้นเกิดขึ้นเพราะหนิงฝานยังไม่บรรลุวิชาดีนัก
“เป็นวิชาที่ไม่สมบูรณ์ แต่กลับเอามาแสดงต่อหน้าพวกข้า! รนหาที่ตาย!” พวกมันขับความกลัวออกจากใจ ชักอาวุธคู่กายระดมเข้าจู่โจมหนิงฝาน
“วิชาอัสนีสวรรค์สูงสุด!”
“วิชาอัสนีบาต!”
พวกมันประสานการจู่โจม เมฆหนาก่อตัวบนท้องนภา ให้กำเนิดอัสนีจำนวนมากมายมหาศาลฟาดผ่าเข้าใส่หนิงฝาน
การประสานการจู่โจมเต็มกำลังและหนุนเสริมของพวกมัน สามารถสังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ในพริบตา พวกมันเชื่อว่าหนิงฝานไม่มีทางรอดแน่
“ระวังด้วย!” เหลยฉียี่ตกตะลึงและเตรียมจะเข้าช่วย
“ไม่ต้องกังวล!” หนิงฝานหยุดมือจากการสลักอักษรปีศาจ ยามนี้เขาสลักอักษรปีศาจได้ทั้งหมด 99 ตัว ซึ่งยังไม่มากพอให้ธนูดับดาราเปล่งอานุภาพได้มากขนาดนั้น แต่นั่นก็ทำให้เขารู้ว่า การใช้ธนูดับดารา จำเป็นต้องมีพลังดาราช่วย ซึ่งหนึ่งในแหล่งพลังดารา คือดาราแก่นชีวิตที่เขายังมีไม่มากพอ
หนิงฝานในยามนี้สลักอักษรปีศาจได้มากสุดเพียง 99 ตัว ซึ่งต่างจากโม๋หลัวที่สลักได้นับล้าน
แต่ถึงมันจะทรงพลัง หนิงฝานจะก้าวข้ามมันให้ได้
เมื่อตระเตรียมอักษรปีศาจพร้อมสรรพ หนิงฝานปล่อยสายรั้งธนู
ลูกศรพุ่งทะยานออกจากคันศรอย่างรวดเร็ว ทิ้งแสงอัสนีสีดำแปรบปราบไว้ระหว่างทาง ซึ่งแสงเหล่านั้นเกิดจากการเสียดสีอย่างรุนแรงของปราณและอากาศ
หนิงฝานยืนตระหง่าน ผมดำยาวพริ้วสไว แววตาเรียบเฉยและลึกล้ำราวกับท้องนภาในยามราตรี
เมื่อลูกศรพุ่งออกไปได้ระยะหนึ่ง ท้องนภาไม่อาจทนอานุภาพที่ทรงพลัง รอยแยกขนาดใหญ่ปรากฏ บางสิ่งที่มีสีดำคล้ายของเหลวไหลรินออกมา ราวกับท้องนภาหลั่งโลหิต
ลูกศรที่ทรงพลัง เข้าปะทะกับอัสนีจำนวนมหาศาลของสองขอบเขตไร้ดัดแปลง แต่อัสนีเหล่านั้นกลับไม่อาจต้านทานอานุภาพ ถูกทะลวงและกลืนกินโดยอัสนีสีดำ!
การผสานการจู่โจมของสองขอบเขตไร้ดัดแปลง ไม่อาจต้านทานอานุภาพของธนูดับดาราได้ พวกมันตระหนักดีว่าลูกศรนี้ทรงพลังถึงขนาดที่ปลิดชีพของมันได้
พวกมันหวาดกลัวอย่างที่สุด เร่งหันหลังแล้วทะยานหนีสุดชีวิต แต่ช่างน่าเสียดายที่พวกมันไม่อาจหนีพ้น เพราะลูกศรได้แบ่งตัวออกเป็น 2 ลูกไล่ตามพวกมันทั้งคู่ไป
“ช่วยข้าด้วย!”
แม้พวกมันจะแผดเสียง แม้ลูกศรแบ่งตัวออกเป็น 2 ดอก ก็ยังมากพอที่จะปลิดชีพพวกมันลงในพริบตา
แต่ก่อนที่ ลูกศรจะทะลวงร่างพวกมัน พวกมันขบปลายลิ้น กระตุ้นปราณเร่งความเร็วขึ้นไม่น้อย ข้ามผ่านเส้นทางไปเบื้องหน้า 150,000 ลี้ในพริบตา
แต่ถึงอย่างนั้น ลูกศรกลับติดตามพวกมันไปอย่างเร็ว ราวกับข้ามผ่านมิติ ทะลวงเข้าสู่ตันเถียนของพวกมัน!
*เปรี้ยง!*
ทันทีที่ลูกศรทะลวงร่างของพวกมัน ลูกศรสำแดงเดชทันทีโดยไม่ปล่อยให้พวกมันได้เปล่งร้อง แผดเผาพวกมันจนกลายเป็นเถ้าถ่าน
เมื่อสังหารพวกมันเสร็จ หนิงฝานสลายลูกศร ก้าวเท้าไปเบื้องหน้าตรงเข้าหาผู้เยาว์คนนั้น
แต่ละก้าวที่เยื้องย่างทรงพลัง เมื่อก้าวไปถึง 9 ก้าว ปราณกระบี่ที่ทรงพลังปรากฏ
เพียงแต่ปราณกระบี่นั้นก่อตัวขึ้นจากปราณกษัตริย์
“คิดว่าพวกเจ้าจะรั้งข้าได้ใช้มั้ย?”
ปราณกระบี่สีทองอร่ามพุ่งทะยานขึ้นสู่ท้องนภา เจตนาสังหารที่รุนแรงปรากฏ ก่อนที่ปราณกระบี่จะดิ่งเข้าหาผู้เยาว์คนนั้น และปลิดชีพของมันโดยไม่เปิดโอกาสให้มันร้องของความเมตตา
ฮวางหยุนสื่อตกตะลึงจนแทบหยุดหายใจ อานุภาพของธนูดับดาราทรงพลังขนาดที่ปลิดชีพขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น 2 คนได้ในพริบตา ซ้ำยังมีปราณกระบี่ที่ทรงพลัง ซึ่งไม่มีผู้ใดต้านรับได้
“ปราณกระบี่แห่งปราณกษัตริย์!” ฮวางหยุนสื่ออยากจะช่วยเหลือบุตรชายของมัน แต่สิ่งที่แลกมานั้นไม่คุ้มค่า ดังนั้นมันจึงทำได้เพียงหลับตา
“มันนำพาหายนะมาสู่ตัวมันเอง แต่คาดไม่ถึงว่าซัวหมิงจะทรงพลังขนาดนั้น ต่อให้เป็นข้าต้านรับ ก็มีโอกาสสำเร็จเพียง 7 ใน 10 ส่วน… ข้าไม่สมควรยั่วยุเด็กคนนั้น”
เมื่อหนิงฝานสังหารดวงจิตอัสนีไป 3 คนอื่นๆก็ไม่กล้าหยุดเขาอีก
คนจากวังสมบัติอนันต์เองก็ตกตะลึง แม้พวกมันจะรู้ว่าหนิงฝานทรงพลัง แต่ก็คาดไม่ถึงว่าจะมีวิชาที่สังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้ในพริบตา
“ฮวางหยุนสื่อ อธิบายเหตุผลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมา!” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย เดิมทีเขาไม่อยากมีเรื่อง แต่พวกมันเป็นผู้ลงมือกับเขาก่อน
หากวันนี้เขาไม่ได้คำตอบที่พอใจ เขาจะทำลายวังอัสนีของมันให้ราบคาบ
“ข้าไม่ได้ตั้งใจให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น… แต่ข้าได้ยินว่าสหายเต๋ารวบรวมปฐมอัสนี ข้าเองก็มีปฐมอัสนีขอบเขตตัดวิญญาณอยู่หมื่นดวง จึงจะ...”
“แค่นั้นยังไม่พอ! ข้าต้องการใบไผ่อัสนีทองคำดำ และหยกอัสนีอีก 1000 ชิ้น ไม่อย่างนั้น… ข้าจะทำลายที่นี่ซะ!”
“บังอาจ!” ทันที่หนิงฝานกล่าวจบ ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นหลายคนของวังอัสนีดังขึ้น ดวงตาจ้องมองหนิงฝานด้วยความโกรธ
“ข้าจะไม่พูดซ้ำ” หนิงฝานแผ่สัมผัสกระบี่ที่ทรงพลังเสียดแทงเข้าไปในทะเลสติของพวกมันจนต้องเร่งถอยด้วยความหวาดกลัว
พวกมันตกตะลึง แค่แรงกดดันและสัมผัสกระบี่ หนิงฝานกฌสยบพวกมันได้
“พวกเจ้าหุบปาก! คำขอของสหายเต๋าซัวมีเหตุผล! ท่านลุงฮวางไปนำใบไผ่อัสนีทองคำดำ และหยกอัสนีเงิน 1000 ชิ้นมาให้สหายเต๋าซัว!”
ผู้ที่ถูกเรียกขานว่าลุงฮวางตกตะลึง ท่าทีราวกับขัดขืนไม่อยากทำตามคำสั่ง
“รีบไป! หรือท่านอยากจะให้วังอัสนีของข้าถูกทำลาย!” ฮวางหยุนสื่อตวาดลั่น
ลุงฮวางตกตะลึง มันคาดไม่ถึงว่าผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลงขั้นกลางอย่างฮวางหยุนสื่อจะหวาดกลัวหนิงฝาน
ไม่มีผุ้ใดรู้ดีเท่าฮวางหยุนสื่อ ว่าธนูดับดาราและปราณกระบี่ของหนิงฝานทรงพลังขนาดไหน
ลุงฮวางถอนหายใจและเร่งนำสิ่งที่หนิงฝานต้องการมาให้
หนิงฝานรับเอาใบไผ่อัสนีทองคำเอาไว้ แล้วโยนหยกอัสนีให้เหลยฉียี่ ก่อนที่จะมุ่งผ่านข่ายอาคมเคลื่อนย้ายไป
เมื่อหนิงฝานและคนของวังสมบัติอนันต์จากไป ฮวางหยุนสื่อถอนหายใจพลางจ้องมองผู้ที่ถูกหนิงฝานสังหารด้วยแววตาที่เปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัว
“ลุงฮวาง ท่านจงจำเอาไว้ ซัวหมิงผู้นั้นไม่ใช่ผู้ที่จะยั่วยุได้… เทียบกับราชามังกรแล้ว เขาอันตรายมากกว่า 100 เท่า!”
เมื่อไปถึงชั้น 13 เหลยฉียี่จ้องมองหนิงฝานด้วยความนับถือ
“สหายเต๋าซัวเก่งกาจมาก ขนาดเผชิญหน้ากับตาเฒ่าฮวางหยุนสื่อยังกล้าลงมือสังหารบุตรชายของมัน กระทั่งยังทำให้มันจำยอมต้องมอบสิ่งล้ำค่าให้… ใบไผ่อัสนีทองคำดำเป็นของเจ้า ส่วนหยกอัสนีเป็นของข้า ฮ่าฮ่า กว่าจะไปถึงชั้น 24 พวกเรารวยแน่!”
“อืม!” หนิงฝานพยักหน้าพลางมุ่งหน้าไปยังข่ายอาคมเคลื่อนย้าย ในโลกใบนี้ผู้แข็งแกร่งกว่าย่อมเป็นผู้ถูกเสมอ หากพวกมันไม่เห็นเขาอยู่ในสายตา จุดจบของพวกมันคือความตาย เหมือนกับสูงฟงและคนอื่นๆ
หลังจากได้ดูดซับปฐมอัสนีจำนวนมหาศาล เกราะอัสนีของหนิงฝานก็ยกระดับขึ้น จนยามนี้ มันสามารถป้องกันการจู่โจมของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงได้ นั่นหมายความว่า ใน 24 ชั้นแรกนี้ ไม่มีผู้ใดทำอันตรายหนิงฝานได้
เมื่อเกราะอัสนีทองคำของเขาบรรลุขั้นที่ 3 เขาได้พบความจริงที่น่าตกใจบางอย่าง
ในการยกระดับจากขั้นที่ 2 ไป 3 นั้น เขาต้องใช้ปฐมอัสนีเพียง 10,000 ดวง แต่การจพยกระดับจาก 3 ไป 4 นั้น ต้องใช้ปฐมอัสนีมากถึง 200,000 ดวง
ยิ่งระดับของมันสูงขึ้น ก็ต้องใช้ปฐมอัสนีมากขึ้น แต่การป้องกันของมันเองก็ทรงพลังมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
ผ่านไปครึ่งชั่วยาม หนิงฝานและกลุ่มก็มุ่งหน้าไปถึงข่ายอาคมเคลื่อนย้ายของวังอัสนีประจำชั้น 13 แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือพวกมันรับรู้ถึงการมาของหนิงฝาน จึงได้เตรียมใบไผ่อัสนีทองคำดำ ปฐมอัสนี 10,000 ดวง และหยกอัสนีเงินอีก 1,000 ชิ้นไว้ให้
ผู้ปกครองชั้น 13 นี้เป็นชายชราร่างเล็ก ลักษณะนิสัยดูเย่อหยิ่งจองหอง แต่มันกลับไม่กล้ายั่วยุหนิงฝาน
“ฮ่าฮ่า สหายเต๋าซัวเชิญใช้ข่ายอาคมเคลื่อนย้ายได้ตามใจ หากมีสิ่งใดขาดเหลือก็ขอให้บอก หากข้าทำได้ข้าจะทำ!”
“แล้วถ้าข้าขอให้ท่านไปสังหารราชามังกรหล่ะ?” หนิงฝานกล่าวพลางจ้องทองผู้ปกครองชั้น
“ฮ่าฮ่า สหายเต๋าล้อข้าเล่นแล้ว… ตัวข้าไหนเลยจะสู้ราชามังกรได้ แต่ว่าข้าสามารถหยิบยื่นทาสไร้ดัดแปลงขั้นต้น 10 ให้กับท่านได้ แบบนี้แล้วน่าจะเป็นกำลังให้ท่านได้”
“โอ้! เช่นนั้นข้าต้องขอบคุณท่าน!” หนิงฝานไม่ได้รับทาสเอาไว้ แต่เขาส่งต่อให้เหลยฉียี่
แล้วการเดินทางของหนิงฝานก็เป็นไปอย่างราบรื่นจนถึงชั้น 22 ระหว่างทางไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกินเขาแม้แต่น้อย
“สหายเต๋าซัวน่าเกรงขาม เจ้านำทัพเยื้องย่างไปที่ใด ไม่มีผู้ใดกล้าล่วงเกินแม้แต่น้อย ซ้ำยังมอบของขวัญล้ำค่าใหเ!” เหลยฉียี่ถอนหายใจ ชายชราได้ทาสไร้ดัดแปลงขั้นต้นมา 200 ตน แม้ว่าพวกมันจะอ่อนด้อยกว่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นทั่วไป แต่พวกมันก็ทรงพลังกว่าขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง หากรวมกันทั้งหมดแล้ว พวกมันก็แข็งแกร่งเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น 20 ตน
“ความน่าเกรงขามพวกนั้นไม่นับว่าสำคัญสำหรับข้า… สิ่งที่สำคัญสำหรับข้ายามนี้ คือสังหารราชามังกร! และดูเหมือนจะมีคนไม่ค่อยพอใจมันมากเช่นกัน”
“เป็นอย่างที่เจ้าว่า พวกมันคงคิดดีแล้วถึงได้ไม่ขัดขวางเจ้า และสุดท้าย เจ้าก็คงกลายนั่งบัลลังค์แทนราชามังกร” ชายชรากล่าว
“นั่งบัลลังค์ จะเป็นแบบนั้นได้ยังไง? ที่พวกมันรู้ว่าข้าต้องการปฐมอัสนี พวกมันย่อมเดาได้ว่าข้าเป็นมนุษย์ ข้าย่อมอยู่ที่นี่ไม่ได้… แต่ตัวท่านที่มีทาสมากมาย ท่านอาจเป็นคนที่ขึ้นมาแทนที่ราชรามังกรเสียมากกว่า”
ในชั้น 22 นี้ ผู้ปกครองก็ได้เตรียมสิ่งที่หนิงฝานต้องการเอาไว้ และต้อนรับเขาเป็นอย่างดี
ผู้ปกครองชั้นนี้ทรงพลัง มีร่างกายอยู่ในขอบเขตกายทองคำที่ 2 จัดว่าทรงพลังเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังไม่เทียบเท่าราชามังกร
เหตุที่ผู้ปกครองชั้นแห่งนี้มอบสิ่งต่างๆให้ ก็เพื่อหวังให้หนิงฝานจัดการราชามังกรให้ แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ยังทำใจเชื่อไม่ได้ว่าหนิงฝานจะแข็งแกร่งจนทำให้ขอบเขตไร้ดัดแปลงตนอื่นๆหวาดกลัว
“ข้ารอเจ้าอยู่นานแล้ว ทั้งหมดคือสิ่งที่ข้าเตรียมไว้ให้เจ้าพร้อมกับข่ายอาคมเคลื่อนย้าย แต่ก่อนที่เจ้าจะไป… ข้าต้องการหลักฐานบางอย่าง!”
“หลักฐานอะไร?” แววตาหนิงฝานแปรเปลี่ยนเย็นชา เขารู้ว่าอีกฝ่ายอยากทดสอบความแข็งแกร่งของเขา
“รับหมัดข้าให้ได้ 1 หมัด หากเจ้าไม่ตาย ข้าจะยอมให้เจ้าผ่านไปยังชั้น 23! แต่หากรับไม่ได้ เจ้าก็ไม่คู่ควรเป็นศัตรูกับราชามังกร!”
ชายชราก้าวเท้าไปเบื้องหน้า แรงกดดันที่ทรงพลังปรากฏ
ชายชราผู้นี้มีระดับร่างกายที่ทรงพลังมาก!