AtW ตอนที่ 24 ดาบเวทย์น้ำแข็ง
AtW ตอนที่ 24 ดาบเวทย์น้ำแข็ง
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย
อาเบลนำของตกแต่งทั้งหมดออกมาจากด้ามของดาบแห่งร้อยทักษะที่เขาสร้าง เหลือเพียงแค่ด้ามจับที่เป็นโลหะเพียงเท่านั้น ดังนั้นแล้วด้ามจับดาบจึงเป็นส่วนเดียวที่สามารถใส่อัญมณีเวทย์มนตร์ได้นั่นเอง อาเบลวางด้ามดาบแห่งร้อยทักษะของเขาลงไปในเตาไฟ
หลังจากนั้นไม่นานอาเบลได้หยิบดาบที่หลอมใหม่ออกมาจากเตาไฟ อาเบลไม่รอช้าเขารีบใช้ค้อนเจาะรูเจาะด้ามดาบและตัดแต่งรูให้เหมาะสมสำหรับใส่อัญมณี เมื่อเบธแฮมได้เห็นอาเบลทำเช่นนั้นเขาก็พอใจกับความสามารถของอาเบลในการทำอาวุธเวทย์มนตร์ครั้งนี้
หนึ่งในเหตุผลที่ทำให้อาเบลต้องมาฝึกตีเหล็กแบบนี้เป็นเพราะว่าเขาอยากที่จะควบคุมพลังของตัวเองให้ได้ แต่ในระหว่างการฝึกตีเหล็กนั้นอาเบลได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ ของการฝึกตีเหล็กทั้งหมดภายในห้องส่วนตัวของเขาแล้ว แต่ละครั้งที่อาเบลได้ฝึกฝนทำให้อาเบลได้ค้นพบพลังพิเศษที่เป็นของตัวเขาเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาอาเบลฝึกฝนตัวเองอย่างหนักจนทำให้ตอนนี้ตัวอาเบลเองใกล้ที่จะสามารถควบคุมพลังของตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว
"อาจารย์ครับ ผมอยากที่จะสร้างดาบเวทย์มนตร์น้ำแข็ง"
เนื่องจากวัสดุที่อาเบลมีอยู่นั้นไม่เพียงพอ ทำให้อาเบลจะต้องเลือกสร้างระหว่างอาวุธเวทย์มนตร์แบบไฟและแบบน้ำแข็ง ในความเข้าใจของตัวอาเบลเอง อาเบลคิดว่าอาวุธธาตุน้ำแข็งนั้นสามารถที่ชะลอความเร็วของศัตรูพร้อมกับทำความเสียหายที่มาจากน้ำแข็งได้อีกด้วย ด้วยเหตุนี้เองอาวุธธาตุน้ำแข็งนี้จะเป็นเหมือนกับฝันร้ายและเป็นเหมือนกับพลังทำลายล้างสำหรับศัตรูของอาเบลที่ได้เจอ
เบธแฮมเองยังคงนิ่งเงียบอยู่ ในขณะที่เขากำลังเงียบอยู่นั่นเองเขาก็ได้เฝ้ามองอาเบลหยิบพู่กันเขียนอักษรรูนออกมา อาเบลไม่รอช้าเขารีบจุ่มพู่กันลงไปในหมึกก่อนที่จะเริ่มเขียนอักษรรูนลงบนดาบ
เนื่องจากอาเบลเคยใช้พู่กันหมึกธรรมดาๆ มานานหลายปีแล้วในอดีต กล้ามเนื้อของอาเบลเองจึงได้รับการพัฒนามาอย่างดีแล้ว ดังนั้นอาเบลจึงไม่ได้ลำบากอะไรที่จะใช้พู่กันเขียนอักษรรูนที่เป็นงานละเอียดอ่อนเลย การที่จะเขียนอักษรรูนลงบนดาบแห่งร้อยทักษนั้นยากเป็นอย่างมาก ทุกช่วงเวลาที่อาเบลเขียนนั้นเขาจะรู้สึกได้ถึงพลังแห่งการต้านทานที่เอ่อล้นออกมาต้านการเขียนรูน ถึงแม้ว่าหัวพู่กันที่อาเบลใช้จะทำมาจากขนของหมาป่าวายุแต่มันก็ช่วยลดแรงต้านทานลึกลับนี้ได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น
ใบหน้าของอาเบลเต็มไปด้วยเหงื่อที่มีมากยิ่งขึ้นในระหว่างการเขียน การที่จะเขียนอักษรรูนได้ไม่เพียงแต่ต้องการความแข็งแกร่งเท่านั้น แต่มันยังต้องการพลังงานที่เอ่อล้นออกมาจากจิตใจอีกด้วย ทั้งหมดนี้เป็นเพราะว่าการเขียนอักษรรูนนั้นจะต้องทำภายในช่วงเวลาเพียงหนึ่งลมหายใจเท่านั้น การที่จะหยุดเขียนอักษรรูนกลางคันนั้นเป็นสิ่งที่ทำไม่ได้นั่นเอง หากมีการหยุดเขียนชั่วคราวความหนาของเส้นหมึกจะแตกต่างกัน และถ้าหากเป็นเช่นนั้นการส่งผ่านพลังเวทย์มนตร์เองก็จะหายไปจากการควบคุมของอาเบลเช่นกัน
อาเบลได้ใช้เวลาเขียนอักษรรูนไปกว่าครึ่งชั่วโมงด้วยกัน การเขียนอักษรรูนลงบนดาบแห่งร้อยทักษะนั้นจะต้องใช้เวลามากกว่าการเขียนพู่กันหมึกแบบปกติถึง 3 เท่าด้วยกัน ในที่สุดอาเบลก็เขียนอักษรรูนสำเร็จจนได้
อาเบลไม่รอช้า เขารีบใส่อัญมณีสีน้ำเงินลงบนด้ามดาบที่ได้รับการตัดแต่งมาเป็นอย่างดีอย่างระมัดระวัง อาเบลได้ปรับแต่งให้รูที่ใส่อัญมณีนั้นแน่นมากกว่าเดิม ด้วยเหตุนี้เองอัญมณีที่ถูกใส่จะไม่สั่นคลอนหรือหลุดออกอย่างแน่นอน
"ให้ฉันดูหน่อยสิ" เบธแฮมได้ขอดูดาบแห่งร้อยทักษะที่อาเบลได้สร้างเป็นดาบน้ำแข็ง เบธแฮมดูอย่างระมัดระวังก่อนที่จะพูดว่า "นายเรียนรู้ที่จะเขียนอักษรรูนพวกนี้ได้เร็วกว่าฉันจริงๆ นี่เป็นอักษรรูนที่ถูกเขียนได้อย่างสมบูรณ์แบบอย่างไม่ต้องสงสัย เช่นเดียวกับรูที่ใส่หินเวทย์มนตร์ มันจะต้องติดตั้งได้อย่างดีไม่มีปัญหาอะไรแน่นอน ฉันคิดว่าเราควรที่จะไปขั้นต่อไปกันได้แล้วนะ"
หลังจากที่เบธแฮมได้ตรวจสอบพร้อมกับพูดยืนยัน อาเบลก็ได้เผยทาทีที่ดีใจออกมาทันที การที่จะวาดอักษรรูนลงบนตัวดาบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย การที่จะวาดอักษรรูนนั้นจะใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นในตัวอาเบลสูงมาก ด้วยเหตุนี้อาเบลจึงนั่งพักอยู่กับพื้นกว่าเกือบชั่วโมงก่อนที่พลังของอาเบลจะฟื้นฟูกลับมาเต็มอีกครั้งหนึ่ง
อาเบลใช้พลังแห่งความตั้งใจของเขาในการตัดแต่งอัญมณีสีน้ำเงินให้ได้รูปทรงที่ต้องการจากนั้นเขาก็ติดอัญมณีใส่รูที่เตรียมเอาไว้ตามคำแนะนำของเบธแฮมนั่นเอง ในตอนที่อาเบลใส่อัญมณีแห่งน้ำแข็งนี้พลังแห่งความหนาวเย็นก็ได้ถาโถมเข้าใส่ตัวของอาเบลเอง อาเบลจะต้องใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นของเขาตลอดเวลาในการสร้างดาบเวทย์มนตร์อันนี้
หลังจากที่อาเบลติดตั้งอัญมณีสีน้ำเงินแล้วเขาจะต้องชักนำพลังแห่งความหนาวเย็นอย่างระมัดระวังเพื่อที่พลังแห่งความหนาวเย็นนี้จะไหลซึมไปสถิตอยู่ที่ดาบตามรูนที่อาเบลได้วาดเอาไว้ การจะทำแบบนี้ได้จะต้องไม่เร็วจนเกินไป ถ้าหากรีบทำจนเกินไปพลังแห่งความหนาวเย็นของอัญมณีบางส่วนจะถูกทิ้งเอาไว้ ส่งผลให้อัญมณีดึงพลังแห่งความหนาวเย็นกลับมานั่นเอง แต่ถ้าหากช้าจนเกินไปพลังแห่งความหนาวเย็นจะค่อยๆ แช่แข็งพลังแห่งความตั้งใจของเบลแทน
ในความพยายามครั้งที่ห้าของอาเบล ในที่สุดอาเบลก็สามารถใช้พลังแห่งความตั้งใจของเขาชักนำพลังแห่งความเย็นมาที่ใจกลางของรูนได้แล้ว ทันใดนั้นเองดาบแห่งร้อยทักษะเล่มนี้ก็ส่องแสงแวววาวออกมา อาเบลได้ยินเสียงอะไรบางอย่างคล้ายกับเสียงของมีคมที่แตกออกเป็นเสี่ยงๆ ในวินาทีนั้นเองอาเบลได้รีบขว้างดาบที่เขาสร้างออกไปให้พ้นตัวโดยที่อาจารย์ของเขาอย่างเบธแฮมนั้นกำลังจดจ่ออยู่กับโต๊ะทำงานของอาเบล
ทันใดนั้นเองมีเสี่ยง "ตู้ม!" อาเบลและทุกคนที่อยู่ใกล้ๆ ต่างก็ได้ยินเสียงเศษชิ้นส่วนของของมีคมอะไรบางอย่างแตกกระจายไปทั่วอากาศ จากนั้นไม่นานก็มีเสียงของแข็งที่ตกกระทบกับพื้นเข้าอย่างจัง หลังผ่านไปครู่หนึ่งเสียงทุกอย่างก็เงียบลงอีกครั้ง
อาเบลค่อยๆ โผล่หัวออกมาจากที่กำบังก่อนที่จะจ้องไปบริเวณที่เกิดการระเบิดขึ้น ห้องทำงานส่วนตัวของอาเบลเต็มไปด้วยรูบนกำแพง โชคดีที่ห้องทำงานของอาเบลห้องนี้ทำมาจากหินซะส่วนใหญ่ เครื่องมือตีดาบของอาเบลเองก็ทำมาจากหินและเหล็กด้วยเช่นกัน ทำให้อุปกรณ์ข้าวของเครื่องใช้ภายในห้องไม่ได้รับความเสียหายอะไรมากนัก มีเพียงแต่กำแพงและพื้นห้องเองที่เต็มไปด้วยรูขนาดใหญ่
เบธแฮมเองที่ได้หลบการระเบิดด้วยสัญชาตญาณก็กลับมามีสติพร้อมกับสีหน้าที่ตกใจในทันที เบธแฮมได้มองตรงไปที่อาเบลด้วยสองตาของเขาคล้ายกับว่ากำลังหาผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติที่เพิ่งจะเกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้
"เกิดอะไรขึ้น!
"ท่านอาจารย์ ท่านเป็นอะไรไหม?""
ทันใดนั้นเองที่หน้าประตูห้องทำงานก็มีเสียงรบกวานมากมายดังขึ้น ผู้คนทั้งหมดที่ทำงานอยู่ที่โรงตีเหล็กนี้ต่างก็แห่กันเข้ามาที่ห้องของอาเบลเพื่อที่จะดูว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เสียง "ตู้ม!" ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ทำให้ผู้คนตกใจและหวาดกลัวนั่นเอง
ในไม่ช้าห้องทำงานของอาเบลก็เต็มไปด้วยผู้คนที่กำลังอ้าปากค้าง ตอนนี้ฝูงชนกำลังจ้องมองไปที่ห้องทำงานของอาเบลที่พังเสียหายอย่างไม่น่าเชื่อ หลังจากที่ฝูงชนเห็นสภาพห้องทั้งหมดพวกเขาก็คิดในแบบเดียวกันว่า "สิ่งที่อาจารย์เเบธแฮมและอาเบลกำลังสร้างนั้นมีพลังการทำลายล้างขนาดนี้เชียวหรอ"
"เอาล่ะ พวกนายทุกคนฉันคิดว่าควรจะปิดปากให้สนิทกันจะดีกว่านะ ไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้งนั้นเข้าใจไหม? เอาล่ะตอนนี้จะออกไปกันเองหรือจะต้องทำให้ฉันคนนี้ไล่พวกนายออกไปด้วยตัวเองกัน!"
เสียงที่เบธแฮมใช้พูดเมื่อครู่นั้นคล้ายกับเสียงคำรามอันดุร้ายของหมียังไงยังงั้น เขาเตะทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องออกจากห้องไป ฝูงชนที่เข้ามาในห้องเพราะความอยากรู้อยากเห็นจึงต้องออกจากห้องทำงานของอาเบลไปอย่างไม่มีทางเลือก เบธแฮมได้ไล่ทุกคนออกไม่เว้นแต่ลูกศิษย์และผู้ฝึกงาน
"ทำไมถึงล้มเหลวได้?" อาเบลรู้สึกตกใจและผิดหวังนิดหน่อยในความผิดพลาดครั้งนี้ ตลอดเวลาที่อาเบลได้สร้างดาบเวทย์มนตร์อาเบลคิดว่าตัวเขาเองนั้นทำได้ดีมาโดยตลอด วิธีการต่างๆ ที่อาเบลทำเองก็ราบรื่นมาโดยตลอด แล้วเพราะอะไรกันทำไมช่วงเวลาสุดท้ายดาบที่อาเบลสร้างถึงระเบิดกันได้
เบธแฮมได้หยิบขวดหมึกของเขาขึ้นมาตรวจสอบอย่างระมัดระวัง เบธแฮมได้ใช้จมูกของตัวเขาเองดมขวดหมึกขวดนี้ก่อนที่จะพูดยืนยันกับอาเบลว่า "ไม่มีอะไรผิดปกติกับหมึกที่ฉันทำนะ ฉันทำหมึกอันนี้มานานหลายปีแล้ว ในตอนที่ฉันทำหมึกเองฉันก็มั่นใจในสูตรการทำมากแล้วนะ ไม่มีทางเลยที่ผลจะออกมาแบบนี้ได้น่ะ"
"หรือว่าจะเกิดความผิดพลาดขึ้นในระหว่างขั้นตอนการทำดาบเวทย์มนตร์กัน" อาเบลกำลังคิดถึงสิ่งต่างๆ ที่อาเบลได้ทำมา ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรขาดหายหรือผิดพลาดไปนอกซะจากการใช้เวลาที่มากเกินไปของอาเบลในการเขียนอักษรรูนขึ้นมา
อาเบลคิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่จะพูดออกมาเพื่อยืนยันว่า "บางทีผมอาจจะใช้เวลาในการเขียนอักษรรูนนานจนเกินไป"
"อาจจะใช่ก็ได้นะ บางทีนายอาจจะใช้เวลาในการเขียนมากจนเกินไป เส้นแรกที่นายวาดใช้เวลานานจนเกินไปกว่าที่จะสัมผัสกับเส้นสุดท้ายได้ เพราะเหตุนี้เองทำให้หมึกนั้นสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่ไม่จำเป็นมากจนเกินจนไปส่งผลให้คุณสมบัติของหมึกนั้นถูกเปลี่ยนแปลงไป และเมื่อคุณสมบัติของหมึกที่เปลี่ยนแปลงไปมาเจอกับคุณสมบัติหมึกดั้งเดิมโดยมีพลังเวทย์มนตร์ของอัญมณีมาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา คงเพราะแบบนี้จึงเกิดการระเบิดขึ้นนั่นเอง" เบธแฮมกำลังวิเคราะห์เหตุการณ์ทุกอย่างอย่างรอบคอบ เบธแฮมได้ศึกษาสิ่งที่อาเบลทำมาตลอดทั้งชีวิตของเขา ดังนั้นเมื่ออาเบลทำอะไรผิดพลาดเบธแฮมจึงมีประสบการณ์และความรู้ที่มากพอที่จะวิเคราะห์สาเหตุของความล้มเหลวครั้งนี้ได้
"นายใช้พลังแห่งความตั้งใจวาดรูนได้ไหมล่ะ? ถ้าหากใช้พลังแห่งความตั้งใจแล้วบางทีนายอาจจะวาดรูนได้เร็วกว่านี้ก็ได้" เบธแฮมได้ถามพร้อมกับให้คำแนะนำอาเบลไปด้วยในตัว เบธแฮมเองไม่มีพลังแบบอาเบลเขาจึงทำอะไรไม่ได้นอกจากวิเคราะห์และให้คำแนะนำผู้เป็นลูกศิษย์คนนี้นั่นเอง
อาเบลคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะตอบกลับไปว่า "ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ เพียงแต่ว่าการที่ผมใช้พลังแห่งความตั้งใจนั้นตัวผมเองก็จะเหนื่อยตามไปด้วย ในตอนที่พักเองผมอาจจะต้องใช้เวลามากขึ้นด้วยเช่นกัน"
หลังจากที่วิเคราะห์สาเหตุของความล้มเหลวเสร็จสิ้นแล้วอาเบลก็ไม่รอช้าหยิบดาบแห่งร้อยทักษะที่เขาสร้างเอาไว้ที่พื้นขึ้นมาเจาะรูอีกครั้ง ครั้งนี้รวดเร็วกว่าครั้งที่แล้วมาก อาเบลได้รับประสบการณ์จากการทำดาบเวทย์มนตร์ในครั้งแรกมาแล้วนั่นเอง
เมื่อเสร็จสิ้นการเจาะรูก็ถึงเวลาแล้วที่อาเบลจะวาดอักษรรูนลงไปที่ดาบอีกครั้ง ก่อนที่จะวาดอักษรรูนอาเบลได้ปิดตาของเขาเพื่อจะทำจิตใจให้สงบ อาเบลค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ในเวลานี้อาเบลได้ใช้สมาธิทั้งหมดที่มีของเขาจดจ่ออยู่ที่ดาบเพียงสิ่งเดียวเท่านั้น การที่อาเบลเพ่งสมาธิที่มีจดจ่อไปที่ดาบทำให้ดาบในสายตาของอาเบลนั้นขยายใหญ่มากยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ด้วยขนาดที่ใหญ่ขึ้นในสายตาของอาเบลจำทำให้เขาสามารถวาดอักษรรูนได้ง่ายขึ้นนั่นเอง อาเบลไม่รอช้าก่อนจะรีบวาดอักษรรูนลงไปในดาบอีกครั้งหนึ่ง ครั้งนี้อาเบลรู้สึกได้ถึงแรงต้านเหมือนกับครั้งแรกแต่ตอนนี้อาเบลสามารถรักษาทั้งพลังและความเร็วในการวาดได้แล้ว ความแตกต่างที่อาเบลได้วาดอักษรรูนในครั้งนี้นั้นแตกต่างจากครั้งแรกราวกับว่าเป็นความแตกต่างระหว่างกลางวันและกลางคืนอย่างไงอย่างงั้น อาเบลได้ใช้เวลาในการเขียนอักษรรูนในครั้งที่สองนี้เพียง 10 นาทีเท่านั้น หลังจากที่อาเบลได้เขียนเสร็จเขาก็หลุดออกจากสถานะในตอนที่ใช้พลังแห่งความมุ่งมั่นทันที ในตอนนี้อาเบลได้รู้สึกหมดแรงแล้ว
หลังจากที่อาเบลได้หมดพลังเขาใช้เวลากว่าสองชั่วโมงก่อนที่จะฟื้นตัวจากความเหนื่อยล้าครั้งนี้มาได้ ตอนนี้อาเบลมีประสบการณ์ในการชักนำพลังแห่งความหนาวเย็นด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นของเขาแล้ว เขาจะไม่หยุดชะงักกลางคันอีกต่อไป อาเบลสามารถชักนำพลังแห่งความหนาวเย็นจากอัญมณีสีน้ำเงินมาที่รูนที่อาเบลได้วาดเอาไว้อย่างรวดเร็วและสม่ำเสมอ
หลังเสร็จสิ้นการชักนำพลังดาบแห่งร้อยทักษะเล่มนี้ก็ส่องแสงขึ้นอีกครั้ง แต่ครั้งนี้แสงจากดาบนั้นไม่ได้ส่องแวววาวเหมือนกับครั้งแรก แสงทั้งหมดที่อาเบลเห็นนั้นออกมาจากรูนที่อาเบลได้วาดนั่นเอง แสงที่เห็นจากรูนนั้นค่อยๆ ไหลผ่านไปสู่ใบดาบทั้งหมดก่อนที่จะหายไปอย่างช้าๆ สุดท้ายแล้วดาบแห่งร้อยทักษะเล่มนี้ก็กลับมามีสภาพดังเดิมในที่สุด นอกเหนือจากที่จับดาบที่มีอัญมณีแล้วไม่มีความแตกต่างอะไรเลยระหว่างดาบเล่มนี้กับดาบแห่งร้อยทักษะเล่มอื่นๆ ที่อาเบลได้สร้างเอาไว้
เบธแฮมได้จับดาบแห่งร้อยทักษะเล่มนี้ขึ้นก่อนที่จะใช้นิ้วของเขาแตะไปที่ดาบด้วยมือที่กำลังสั่นเทา ทันทีที่เบธแฮมสัมผัสไปที่ดาบ ดาบที่เบธแฮมสัมผัสก็เต็มไปด้วยแสงและความหนาวเย็น ความหนาวเย็นนี้เองเกือบที่จะแช่แข็งนิ้วของตัวเขาเองซะแล้ว
อาเบลเห็นน้ำค้างแข็งตัวบนนิ้วมือของอาจารย์เบธแฮมเลยถามไปในทันทีว่า "ท่านอาจารย์ สำเร็จแล้วใช่ไหม?"
"ฮาฮ่า!" เบธแฮมได้หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่งก่อนที่จะมีน้ำตาไหลออกมาจากดวงตาของเขา
เบธแฮฺมได้เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะเริ่มพูดออกมาด้วยความตื้นตันว่า "ฉะ..ฉัน เอ๊ะ! ฉันไม่เคยนึกมาก่อนเลยว่าฉันจะมีชีวิตอยู่ในวันที่ลูกศิษย์ของฉัน...ทำดาบเวทย์มนตร์แบบนี้ได้ ถึง...ฉะ...ฉันจะตายก็ไม่เสียใจอีกต่อไปแล้ว!"
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารก่อนใคร ND Translate นิยายแปลไทย