ตอนที่ 101 วิชาเตาหลอมแปรธาตุ
ความทรงจำจางหายและภาพลวงตาก็ค่อยๆหายไป
เฟิงหลืนยืนอยู่ตำแหน่งเดิม อึ้งจนพูดไม่ออก ความทรงจำใหม่ล่าสุดปรากฏในหัวเขา วิชาเตาหลอมแปรธาตุ
แต่ทว่า เขาไม่สนใจเรื่องนี้ เขายังสามารถเห็นรอยยิ้มลี้ลับของชายชราคนนั้นและคำพูดซึ่งทำให้หัวใจของเฟิงหลินสั่นคลอน
มันบังเอิญ?
เฟิงหลินส่ายหัว
แม้สายตาเขาจะสบกันแค่ชั่วขณะ เขาก็มั่นใจว่าเขาเห็นไม่ผิด
ชายชราปล่อยกลิ่นอายของผู้เป็นอมตะมา ไม่สนใจสายตาสับสนของเขาและอธิบายความรู้ทั่วไปของนิกายให้เขาฟัง
หลังพูด ชายชราอาจบรรลุเป้าหมายเขาแล้ว เขาเปลี่ยนเรื่องและเริ่มพูดถึงเทคนิคการปรุงยาที่เลืองชื่อสุดในนิกายเตาหลอมอมตะ วิชาเตาหลอมแปรธาตุ
นี่คือเคล็ดปรุงเม็ดยาที่สามารถควบคุมพลังของฟ้าดิน ใช้หยินและหยางเป็นไฟ กลั่นสิ่งมีชีวิตในโลก มันมีผลกระทบที่เหลือเชื่อและเป็นรากฐานของเคล็ดหลอมยาของนิกายเตาหลอมอมตะ
ไม่ว่าเคล็ดหลอมยาของนิกายจะเป็นยังไง ไม่ว่าจะมีระดับไหน พวกมันก็ล้วนวิวัฒนาการมาจากวิชารากฐานนี้ นี่คือวิธีที่เต๋ามากมายวิวัฒนาการจากจารึกศักดิ์สิทธิ์ของลัทธิเต๋า
เฟิงหลินรำลึก ถอนหายใจด้วยความชื่นชม เมื่อเขาสามารถสลักเทคนิคนี้ลงในใจ ภาพทั้งหมดดจากความทรงจำก็หายไปจนหมด
เขานึกถึงการกระทำแปลกๆและสายตาของชายชราก่อนหน้า ความสับสนพลันปรากฏบนหน้าเขา
ก่อนหน้านี้ในความทรงจำนั้น ทุกคำพูดและการกระทำของชายชราและคำพูดก็เพื่อผลประโยชน์ของคนๆเดียว...
และบุคคลนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฟิงหลิน!
ความคิดนี้บ้าและกล้าหาญมาก แม้เฟิงหลินจะสรุปได้ว่ามันคือเรื่องจริง เขาก็ยังกลัวเล็กน้อย แต่ก็เชื่อในบทสรุป
นี่โดยเฉพาะกับตอนท้ายก่อนฉากลวงตาจะหายไปจนหมด ชายชราคนนี้ยังกระซิบกับเขา“พ่อหนุ่มจากอนาคต หายนะครั้งใหญ่ที่จะทำลายกฏกำลังคืบคลาน ข้าจะส่งมอบมรดกของนิกายเตาหลอมอมตะข้าให้กับเจ้า และเจ้าจะเป็นผู้รับผิดชอบในการเผยแพร่มัน”
ในตำนานของจีนโบราณ ผู้บ่มเพาะที่ทรงพลังเหล่านี้สามารถบ่มเพาะจนถึงขั้นกลายเป็นตัวตนที่ทัดเทียมกับเทพและปีศาจ ตอนนั้น พวกเขาสามารถมองผ่านช่องเวลาและได้รับการมองเห็นอนาคต ช่วยให้เห็นผ่านชะตากรรมของสวรรค์ ชายชราคนนั้นคือตัวตนแบบนั้น?
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการทำนายหายนะที่เกิดขึ้นหลายล้านปีต่อมา นั่นไม่ฟังดูเกินจริงไปหน่อยหรือ?!หากนั่นเป็นจริง มันก็หมายความว่าพลังของชายชรานั่นจะไม่ถือว่าอ่อนแอแม้แต่ในหมู่เทพและปีศาจ!
แต่คำว่า’หายนะครั้งใหญ่ที่จะทำลายล้างกฏ’คืออะไร?
..
เฟิงหลินรู้สึกคันยุบในใจ เขารู้สึกว่าเขาได้สัมผัสกับตัวตนระดับตำนานจริงๆ แต่หลายสิ่งก็ยังคลุมเครือ เขาไม่แน่ใจอะไรเลย
การคาดเดามากมายเกิดขึ้น แต่เขาไม่มีทางอนุมานอะไรได้
ทันใดนั้น เขาก็ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงบางสิ่ง สีหน้าเขาตึงขึ้น ส่งพลังงานจิตออกไป สร้างเป็นเข็มที่เจาะใส่คริสตัล
สิ่งมีชีวิตคริสตัลเหล่านั้นส่งเสียงร้องแต่ในไม่ช้า กลิ่นอายชีวิตพวกมันก็จางหายไป
เหงื่อเย็นหยดจากหน้าผากของเฟิงหลิน เขาบังคับใช้พลังจิตเขาเพื่อทำลายจิตสำนึกของสิ่งมีชีวิตเหล่านั้น ฆ่าพวกมันจนหมด
ก่อนหน้านี้ เพราะความประมาท เฟิงหลินจึงเผยท่าทางตกใจออกไปมาก
สำหรับผู้ที่เพิ่มพลังให้ยีนจิตจนถึงระดับหนึ่ง พวกเขาจะสามารถใช้การรับรู้โลหะเพื่อสำรวจความลับของยาโบราณนี้ได้ เขาไม่มีทางซ่อนมันได้ แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่เฟิงหลินจะยอมให้คนอย่างแฟรงค์และไอค์ที่เป็นพวกชาวผิวขาวได้รับมรดกนี้
เนื่องจากพวกเขาไม่ได้มาจากชนชาติเดียวกัน เจตนาพวกเขาย่อมต่าง
สำหรับมรดกที่ตกทอดโดยบรรพบุรุษ ในฐานะรุ่นเยาว์ เขาต้องปกป้องมันไว้ เขาไม่คิดยอมให้คนที่มีเจตนาร้ายได้รับมัน
สำหรับสิ่งที่เขาจะใช้อธิบาย เฟิงหลินมีความคิดแล้ว
หลังได้รับมรดดกของวิชาเตาหลอมแปรธาตุ เฟิงหลินก็ไม่รีบออกไป เขาเริ่มทำการวิจัยทันที
เขาสงบสติลงและทำเหมือนก่อนหน้า จดบันทึกเป็นระยะ แต่ทว่า เขากำลังคร่ำครวญในใจอย่างเงียบๆกับสิ่งที่เขาได้รับผ่านการเผชิญหน้าโดยบังเอิญ
ดังนั้นมันกลับกลายเป็นว่าสารนั่นไม่ใช่ยาศักดิ์สิทธิ์โบราณ มันแค่เม็ดยาวิเศษจากนิกายเตาหลอมอมตะ ที่รู้จักกันในชื่อเม็ดยาหมอกลิขิต
ตามทฤษฏีการบ่มเพาะของนิกายเตาหลอมอมตะ ร่างมนุษย์จะประกอบไปด้วยหนอนหมอก60ล้านๆตัว
เม็ดยาหมอกลิขิตนี้จะช่วยให้ฤทธิ์ยาซึมเข้าไปในหนอนทุกตัว ช่วยให้มนุษย์เอาชนะตัวเองได้ ศักยภาพในตัวพวกเขาจะถูกกระตุ้นให้สูงขึ้น
หนอนหมอก60ล้านลานตัว?
นั่นเท่ากับเซลล์ในตัวมนุษย์เลยนี่?
เป็นไปได้ไหมว่าหนอนหมอกอ้างถึงเซลล์ในตัวมนุษย์?
…
เฟิงหลินคาดเดาเงียบๆ รู้สึกว่านี่เป็นไปได้สูง
อารยธรรมขอตำนานไม่ได้มีระบบเหมือนกับอารยธรรมวิทยาศาสตร์ แม้การวิจัยเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์จะมาถึงระดับสูงมาก วัตถุประสงค์เดียวกันก็ไม่อาจนำมาใช้เรียกได้เหมือนกัน ตัวอย่างเช่น เซลล์หรือ’หนอนหมอก’ในอารยธรรมตำนาน แล่ะกอนหน้านั้น ชายชราในความทรงจำยังเรียก’สนามแม่เหล็กชีวภาพ’เป็น’โชคชะตา’…
เฟิงหลินไม่ทำเรื่องให้ใหญ่และกังวลกับรายละเอียดเล็กน้อย ความปีติยินดีฉาบหน้าเขาแทน จากเทคนิคปรุงเม็ดยา เขาได้ค้นพบว่าเม็ดยาวิเศษอาจมีสรรพคุณสูง แต่ก็มีทางที่คนธรรมดาจะกินมันได้
มีเหตุผลทั้งหมดสองข้อ
อย่างแรก รูปร่างของเม็ดยาเป็นทรงกลมสมบูรณ์ นี่เป็นโครงสร้างที่มีเหตุผลยิ่ง มันสามารถบรรจุประสิทธิภาพยาไว้ภายในได้และวินาทีที่เม็ดยาเข้ากระเพาะมันจะไม่ไหลออกมาท่วมท้น เม็ดยาจะค่อยๆปล่อยสรรพคุณออกมาทีละนิด ช่วยให้ซึมผ่านเข้าร่างกายช้าๆ ร่างมนุษย์จะไม่ต้องแบกรับภาระมากเกินไป
สอง การเล่นแร่แปรธาตุถือเป็นวิธีหนึ่งในการคว้าโชคชะตา เม็ดยาวิเศษทุกชนิดจะปรุงขึ้นทีละเล็กและสามารถปล่อยสนามแม่เหล็กชีวิตภาพได้ สามารถปรับเข้ากับร่างกายมนุษย์ นี่คล้ายกับการสะกดจิต
ผ่านการค้นพบเหล่านี้ เฟิงหลินตระหนักว่าบริษัทยากำลังเดินบนเส้นทางผิดๆ
เพราะทฤษฏียาพันธุกรรมของยุคปัจจุบันเป็นของระบบที่แตกต่างกับทฤษฏีเล่นแร่แปรธาตุ มันจึงมีจุดร่วมกันค่อนข้างน้อย
สำหรับทฤษฏีน้ำยาพันธุกรรม ต้นกำเนิดมันมาจากตำนานตะวันตกของยุคโลกโบราณ ทฤษฏีเกิดขึ้นจากการพัฒนาของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้ความสนใจกับการวิเคราะห์ผลกระทบของยา และปรับประสิทธิภาพทีละขั้น
สำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ(ผสมเม็ดยา) ทฤษฏีหลักมันคือการสร้างชีวิต มันถูกมองเป็นการจำลองการสร้างจักรวาลที่สิ่งมีชีวิตขนาดเล็กสามารถสร้างขึ้นได้ สามารถกลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ
การเล่นแร่แปรธาตุและน้ำยายีนแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง แค่การเลียนแบบผลของยาโบราณ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะได้รับผลของการเล่นแร่แปรธาตุ
เมื่อเห็นบันทึกวิจัยที่บริษัทยามี เฟิงหลินก็อดรู้สึกสบายใจไม่ได้
สำหรับการกระทำต่อไปนั้น เขารู้ว่าเขาต้องทำอะไร เขารู้ว่าเขาควรแสดงสิ่งที่เขาค้นพบยังไงขณะยังไม่เผยความลับของยาโบราณ
จากต้นจนถึงตอนนี้ มีจุดน่าสงสัยมากมายเกี่ยวกับบริษัทยา เฟิงหลินจึงระวังตัว
หลังจากนั้น เขาก็เริ่มทำการทดลองอีกครั้ง แสร้งทำเป็นเตรียมยา อยากเข้าใจกระบวนการของการปรุงเม็ดยา
“ดูสิ!เขากำลังเตรียมยา มันเป็นไปได้ไหมว่าเขาค้นพบบางสิ่ง?”
“ผมไม่แน่ใจ แต่เราจะรู้หากเราดูต่อไป”
…
แฟรงค์และไอค์มองหน้ากัน พวกเขาเริ่มให้ความสนใจกับทุกการกระทำของเฟิงหลิน
เฟิงหลินเริ่มเตรียมยา แต่วิธีที่เขาทำนั้นแตกต่างจากอดีต เขาไม่ได้ปรับส่วนประกอบอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าอีก แต่ใช้ไฟตรงๆเพื่อกลั่นพวกมันแทน
ด้วยการใช้ทฤษฏีน้ำยายีนและวิทยาศาสตร์ เฟิงหลินสามารถควบคุมองค์ประกอบได้อย่างแม่นยำและปรับเปลี่ยนผลของยา เพื่อบ่มเพาะการเล่นแร่แปรธาตุ เขาต้องฝึกการรับรู้ทางจิตก่อน ย้อนกลับไปในยุคโบราณ การรับรู้ทางจิตนั้นเรียกว่าสัมผัสเทพ
มีเพียงสัมผัสเทพไร้รูปร่างถึงสามารถรับรู้การเปลี่ยนแปลงในระหว่างการเล่นแร่แปรธาตุได้ และดำเนินการวบคุมระดับอนุภาคเพื่อกำหนดเส้นทางให้ถูกต้อง เปลี่ยนของเน่าให้เป็นของดี
เฟิงหลินไม่มีเตาหลอม นอกจากนี้ พื้นบานการบ่มเพาะเขายังต่ำไป ดังนั้น มันจึงเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะสร้างเม็ดยาวิเศษที่มีชีวิตขึ้น
แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเขาไม่อาจใช้เทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุเล็กๆได้!
เม็ดยาวิเศษมีโครงสร้างภายในเฉพาะที่สามารถกักเก็บสรรพคุณยา นี่คือเหตุผลหลักว่าทำไมเม็ดยาถึงสามารถกินได้โดยมนุษย์ธรรมดา หากเขาประยุกต์ความรู้นี้กับน้ำยายีน เขาจะบรรลุผลเดียวกันได้ไหม?
เฟิงหลินลอบคาดเดา แต่ก็ไม่มั่นใจ ถึงกระนั้น มันก็ยังคุ้มค่ากับการลอง
เฟิงหลินขยายพลังจิต ตรวจสอบปฏิกิริยาของส่วนประกอบยา จากนั้นก็กดเจตจำนงค์เขาลงไป กระตุ้นให้พวกมันเปลี่ยนเป็นโครงสร้างภายในผลึกของเม็ดยาวิเศษ ทำให้สารส่วนใหญ่เหล่านี้เชื่อมโยงกัน ก่อตัวเป็นทรงกลมที่สามารถเก็บฤทธิ์ยาไว้ภายในได้
หลังจากนั้น เขาก็ใช้เทคนิคการเล่นแร่แปรธาตุ แต่แน่นอน สิ่งที่เขาใช้ก็แค่ปลายยอดภูเขา ถึงกระนั้น มันก็พอแล้ว เฟิงหลินพบว่าน้ำยายีนนี้กำลังตกผลึกเพราะการควบคุมจิตเขา และโครงสร้างภายในมันก็งดงาม
ด้วยวิธีนี้ เขาสามารถแสดงการค้นพบใหม่เขาได้และได้รับการยอมรับจากบริษัทยา ซึ่งสามารถเข้าถึงความลับเพิ่มเติมได้ และเขาก็จะไม่เผยความลับเขาไปมากเช่นกัน
เฟิงหลินใช้วิธีใหม่ และฉากแปลกๆนี้ก็ทำให้แฟรงค์สนใจ
“แปลก คุณเห็นไหม?เฟิงหลินเอาแต่ใช้ไฟเพื่อต้มยา เขากำลังทำอะไร?”แฟรงค์ถาม
“ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน โดยปกติแล้วเราจะใช้ไฟเพื่อเพิ่มอุณหภูมิ สร้างฤทธิ์ยาให้แรง หากเขายังคงต้มต่อไป น้ำยาจะไม่ระเหยจนหมดงั้นหรอ?”ไอค์พูดอย่างงุนงง
“ระเหย?”แฟรงค์เริ่มถามต่อ“คุณรู้สึกไหมว่านี่คือวิธีการสร้างยาโบราณ?”
“เป็นไปไม่ได้!”ไอค์ส่ายหัว แต่หลังไตร่ตรอง เขาก็ไม่มั่นใจ“อาจเชื่อมโยงกัน แต่ไม่ควรง่ายขนาดนั้น สรรพคุณยาของน้ำยายีนรุนแรงมาก และนี่ก็ทำให้เราสร้างมันเป็นของเหลว เพื่อเจือจาง ช่วยให้มนุษย์รับได้ หากไม่แม้กระทั่งผู้บ่มเพาะดวงดาวก็จะไม่สามารถทนฤทธิ์ยาได้ หากน้ำยายีนเป็นของแข็ง สรรพคุณยาในนั้นจะรุนแรงมาก เมื่อถูกกลืน มันจะไหลทะลักและทำให้คนกินระเบิด”
แต่แฟรงค์ยังไม่เห็นด้วย”หากเป็นแบบนั้น ทำไมยาโบราณนี่จึงเป็นของแข็ง?’
ไอค์พูดไม่ออก แต่ก็ยืนยันในมุมมองเขา“แม้ยาโบราณจะเป็นของแข็ง มันก็ต้องมีความลับภายใน มันไม่ง่ายเหมือนการระเหยน้ำยายีนด้วยไฟ!”
แฟรงค์พยักหน้า ไม่โต้แย้งอะไร“มันไร้ประโยชน์ที่จะพูดถึง แค่ดูต่อไปก็พอ”
หลังพูด เขาก็เดินไปห้องทดลองปิดผนึก
ไอค์กัดฟันและตามไป
ทันทีที่พวกเขาเข้าห้อง เฟิงหลินก็รู้สึกทันที แต่ก็แสร้งทำเป็นไม่เห็นและปรุงยาต่อไป
ในที่สุด ผงผลึกก็ปรากฏในมือเขา พวกมันโปร่งแสงและเปล่งประกายแพรวพราว
“เฟิงหลิน สิ่งเหล่านี้คืออะไร?”แฟรงค์ถาม
เฟิงหลินเผยสีหน้าประหลาดใจ มันเหมือนเขาเพิ่งค้นพบการมาของพวกเขา “นี่คือสารยาพันธุกรรม ผมสร้างขึ้นมาโดยการคัดลอกยาศักดิ์สิทธิ์โบราณ”
“โอ้?”สีหน้าแฟรงค์เปลี่ยนไป“คุณพบอะไรเข้าแล้วจริงๆ?”
เขาจ้องเฟิงหลินราวกับอยากรู้ความลับ
เฟิงหลินไม่ลังเล เขาพยักหน้าเหมือนไม่มีอะไรปกปิด“ผมพบว่าความเข้มข้นของอนุภาควิญญาณในยาโบราณสูงมากและมันจะแทรกแซงการสแกนจากเครื่องจักร ดังนั้น ผมจึงลองวิธีอื่น ผมใช้พลังจิตเพื่อตรวจสอบมันและค้นพบครั้งใหญ่ ภายในนั้น โครงสร้างโมเลกุลมันเกิดจากวัตถุคล้ายคริสตัสกำลังเชื่อมโยงกัน ดังนั้น ผมจึงอยากดูว่าจะทำมันขึ้นมาได้ไหม”
“ตรวจสอบด้วยพลังจิต โครงสร้างผลึก!”แฟรงค์ตกใจ“เฟิงหลิน คุณปลุกยีนจิตขึ้นมางั้นหรือ?”
“ครับ!”เนื่องจากเขาดันเผยออกไป เขาจึงยอมรับมันตรงๆ“ผมมีพรสวรรค์ในด้านพลังจิตและสามารถปลุกยีนจิตได้!”
แฟรงค์และไอค์สบตากัน
พวกเขารู้ว่ายีนจิตเป็นยีนพื้นฐานเกรดสูงที่หาได้ยากยิ่ง มันไม่ใช่สิ่งที่สามารถปลุกได้เพราะอยากปลุก
แม้เฟิงหลินจะพูดสบายๆ มันก็ต้องมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่านั้น
นอกจากนี้ สำหรับการใช้พลังจิตเพื่อตรวจสอบยาโบราณ คนในบริษัทก็เคยลองมาก่อน แต่ทำไมพวกเขาไม่พบอะไรเลย?
ไม่ว่ายังไง เฟิงหลินก็ดูเหมือนไม่ได้โกหก งั้นก็มีเพียงข้อสรุปเดียว!
ยีนจิตของเฟิงหลินต้องแข็งแกร่งพอจนถึงจุดที่มนุษย์ธรรมดายากจะเสริมความแข็งแกร่งให้มันได้ นี่ทำให้พลังจิตเขาแข็งแกร่งมาก
“คุณรู้สึกเหมือนโครงสร้างผลึกนั่นคือกุญแจว่าทำไมมนุษย์ธรรมดาถึงสามารถใช้ยาโบราณนี้ได้สินะ?”แฟรงค์ถาม
“ครับ!”เฟิงหลินพยักหน้า“ยาโบราณเกิดขึ้นจากผลึกจำนวนมากเชื่อมต่อกัน บางที มันอาจเพราะโครงสร้างแปลกๆนี้ที่ทำให้สรรพคุณยาถูกขังไว้ข้างใน หลังมนุษย์ธรรมดาใช้ เมมเบรนของผลึกจะทำหน้าที่เป็นตัวกรอง ช่วยให้ฤทธิ์ยาค่อยๆซึม..”
เขาผสมความจริงกับคำโกหกเข้าด้วยกัน ใช้ทฤษฏีแปรธาตุง่ายๆเพื่อสร้างสิ่งนี้ แต่มันกลับทำให้แฟรงค์และไอค์ตกตะลึง
เฟิงหลินไม่กลัวว่าบริษัทยาจะค้นพบความจริง เพราะก่อนหน้านี้ เขาได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตในนั้นไปหมดแล้ว ต่อให้คนในบริษัทยาที่ปลุกยีนจิตได้มาตรวจสอบ มันก็ไม่มีทางค้นพบความลับของการเล่นแร่แปรธาตุได้
เฟิงหลินไม่หยุด เขายังใส่ไฟเข้าไปอีก
“เพราะการค้นพบใหมนี้ ผมรู้สึวก่าหากเราสามารถทำการจำลองโครงสร้างผลึกภายในยาโบราณขึ้นมาได้ มันก็เป็นไปได้ที่เราจะสร้างมันขึ้นมา ดังนั้น ผมจึงตั้งชื่อเทคนิคใหม่นี้ว่า..”เมื่อเขาพูด เขาก็หยุดเพื่อปลุกอารมณ์ก่อนกล่าวต่อ
“เทคนิคสร้างผลึกเม็ดยา!”