ตอนที่ 100 ฟ้าดินเป็นเตาหลอม
ไฟ ไฟ ไฟ...
เสียงเก่าแก่นี้ดูเหมือนจะมาจากแม่น้ำแห่งกาลเวลาที่ทอดยาวหลายล้านปี ก้องกังวาลในหูเขา
เฟิงหลินมองเห็นภาพที่ไม่น่าเชื่อราวกับว่าร่างกายของเขาถูกพาเข้าไปในทะเลเพลิงลุกโชน
อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้สึกถึงความร้อน ชัดเจนว่านี่เป็นเพียงภาพลวงตา
ดูเหมือนว่ามุมมองของเฟิงหลินจะอยู่ในสภาพคงที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตามฉากตรงหน้าเขาดูเหมือนภาพสามมิติ มีภาพไหลเวียนในวิสัยทัศน์ของเขา
เขาอยู่ในเปลวไฟที่มีผนังเหล็กอยู่รอบตัวเป็นรูปทรงกลม
ดูเหมือนว่าจะเป็น ...
เตา?!
หัวใจของเฟิงหลินลุกโชน หรือนี่คือความทรงจำของคริสตัล?
มันแปลกมากมีทรงกลมแปดรูอยู่ด้านในเตาเผา นอกจากนี้ยังมีพัดลมใบปาล์มที่ส่งกระแสลมแรงเข้ามาในเตา ทำให้เกิดพลังงานลมเติมพลังงานไฟ
เฟิงหลินรู้สึกเพียงว่าวิสัยทัศน์ของเขากำลังลอยอยู่ เหมือนร่างของเขากำลังลอยและตกลงไปในเตา อย่างไรก็ตามนี่เป็นเพียงภาพลวงตาที่สร้างขึ้นจากความทรงจำ มันไม่ใช่ความจริง เขาไม่รู้สึกถึงอุณหภูมิ
"ฟ้าดินเป็นเตาหลอม สิ่งมีชีวิตมากมายเป็นส่วนผสม!"
เสียงนักวิชาการล่องลอยมา
เฟิงหลินหันจ้องมองทิศทางของความว่างเปล่า ผ่านรูทั้งแปดที่มีลมไหลเข้ามา
เมฆสีขาวหลายชั้นทำให้มุมมองของเขาถูกปกคลุมไปด้วยหมอกรอบด้าน
ชายชราที่มีหนวดเคราสีขาวสวมชุดคลุมจีนโบราณนั่งอยู่บนเสื่อสีม่วง มีกลิ่นอายแห่งเซียนลอยรอบตัวเขา มันดูใกล้แต่จริงๆแล้วไกลมาก ในวิสัยทัศน์ของเฟิงหลินสิ่งต่างๆชัดเจน แต่ดูเหมือนจะถูกบดบังโดยบางอย่าง ดูเหมือนไม่มีใครสามารถเห็นชายชราผู้นี้ได้อย่างชัดเจน ไม่มีทางที่จะค้นหาเขา
ชายหลายคนในเสื้อคลุมยาวและมัดผมนั่งอยู่ด้านล่างเขา สีหน้าพวกเขาเต็มไปด้วยความเคารพ
"สิ่งมีชีวิตจำนวนมากเข้ามาในเตาหลอมของข้า เทคนิคการกลั่นยาคือการปรับแต่งสิ่งต่างๆในโลกเปลี่ยนให้เป็นยา แต่ก็ไม่สามารถถือได้ว่าเป็นวิชาระดับสูงอย่างแท้จริง เหนือกว่าการกลั่นยา การปรุงยาเม็ดหรือที่รู้จักกันว่าการเล่นแร่แปรธาตุ นักเล่นแร่แปรธาตุจะสามารถใช้การปรุงเม็ดยาเพื่อคว้าเอาชะตากรรมของโลก เปลี่ยนสิ่งเน่าเปื่อยให้กลายเป็นของวิเศษ..”
เสียงของชายชราดังและชัดเจน สายลมอ่อนโยนของภูเขาพัดในอากาศขณะที่เขาพูดเกี่ยวกับเทคนิคที่ยอดเยี่ยมและมหัศจรรย์ ซึ่งเป็นเทคนิคที่เต็มไปด้วยเต๋า
เฟิงหลินฟังอย่างตั้งใจ
"การกลั่นยาเป็นเพียงศิลปะของมนุษย์ และเคล็ดปรุงเม็ดยาถึงถือเป็นวิชาของเหล่าเซียนอย่างแท้จริง ยาเม็ดคืออะไร?ยาคืออะไร?ยาเม็ดคือยาที่มีชีวิตอยู่ในนั้น ทุกๆยาเม็ดเป็นชีวิตใหม่ที่มีสติปัญญาของตัวเอง กินยาเพียงหนึ่งเม็ดก็จะสามารถควบคุมชะตากรรมของตัวเองได้ ทำให้ร่างกายปรับเข้ากับผลของยา ไม่ทำให้ความแรงของยากระทบกับข้อจำกัดของร่างกาย ยาเม็ดวิเศษบางชนิดสามารถทำให้คนแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม ... "
ชายชราบรรยายอย่างช้าๆ บอกคำสอนที่ลึกซึ้ง ขณะที่ทุกคนฟังอย่างตั้งใจ
หัวใจเฟิงหลินพลันเต็นกระหน่ำ การเล่นแร่แปรธาตุ!
เขามาจากศตวรรษที่21 ในยุคก่อนตำนานจะหายไปจากโลก เขาเคยได้ยินเรื่องการปรุงยาและการเล่นแร่แปรธาตุมาก่อน
แม้ว่านักเขียนนิยายนับไม่ถ้วนจะใช้จินตนาการเพื่อสร้างเรื่องราวที่น่าสนใจอย่างไร้ขอบเขต แต่ทุกคนก็รู้ว่าการเล่นแร่แปรธาตุเป็นเพียงเรื่องในตำนาน มันไม่มีอยู่จริงในโลกนี้
ใครจะคิดบ้างว่าทั้งหมดนี้เป็นเรื่องจริง
จริงๆแล้วเขาสามารถเห็นความลับของการเล่นแร่แปรธาตุผ่านความทรงจำของสิ่งมีชีวิตคริสตัลได้
ยาที่มีลักษณะเหมือนแป้งไม่ใช่ยาศักดิ์สิทธิ์โบราณอะไร แต่มันเป็นยาวิเศษ! เพียงแต่ผ่านช่วงเวลามามันจึงสูญเสียรูปแบบดั้งเดิมกลายมาเป็นรูปทรงปัจจุบันนี้
ความแรงของยานี้ลดลงกว่าครึ่งแล้ว แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้มนุษย์เกิดใหม่กลายเป็นผู้บ่มเพาะดวงดาวได้ในขั้นตอนเดียว
เฟิงหลินไม่สงสัยในประเด็นนี้
อย่างแรกต้องรู้ว่าในตำนานของจีนโบราณ มีเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับชีวิตนิรันดร์เมื่อกินยาวิเศษ แมลงวันก็สามารถบินขึ้นท้องฟ้าได้
มีเพียงการเล่นแร่แปรธาตุในตำนานเท่านั้นที่จะทำให้คนเราสามารถมีผลกระทบเหนือกว่าการตายและเกิดใหม่ได้
เฟิงหลินรู้สึกตื่นเต้น ถ้าเขาสามารถเรียนรู้การเล่นแร่แปรธาตุและได้รับมรดกในตำนานจากชายชราคนนี้ เขาอาจจะสามารถก้าวไปบนเส้นทางที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถ้าเขาผสมผสานการเล่นแร่แปรธาตุกับความรู้ของเขาในการปรุงยาพันธุกรรม อนาคตของเขาจะสดใสไร้ขอบเขต
เขายังคงมองดูผ่านความทรงจำ
เช่นเดียวกับสิ่งที่ชายชราคนนี้พูด การเล่นแร่แปรธาตุเป็นเทคนิคมหัศจรรย์แห่งโชคชะตา ทุกเม็ดยาล้วนถูกปรุงแต่งขึ้นมาเพื่อชีวิต
และฉากแรกที่ชีวิตเล็กๆเหล่านี้เกิดก็จะฟังลึกในความทรงจำ
ทันทีที่เม็ดยาวิเศษถูกกลั่นขึ้น มันจะได้รับลักษณะของชีวิต และบันทึกภาพโดยสัญชาตญาณและกลายเป็นความทรงจำ
การที่เฟิงหลินสามารถเรียนรู้การเล่นแร่แปรธาตุถือเป็นโชคดี
เฟิงหลินจริงจังมาก เขาฟังการบรรยายอย่างตั้งใจยิ่งกว่าสาวกพวกนี้
ท้ายที่สุดแล้วคนโบราณเหล่านี้มีโอกาสมากมายที่จะเรียนรู้การเล่นแร่แปรธาตุ แต่เฟิงหลินซึ่งเป็นคนจากอนาคตมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ยีนจิตนั้นเสริมความสามารถทางจิตของเขา ทำให้เขามีความทรงจำที่ไม่ธรรมดา เขาสามารถจดจำทุกอย่างที่เขาเห็นได้ด้วยการมองเพียงครั้งเดียว
เฟิงหลินค่อยๆเข้าใจชัดเจนเกี่ยวกับต้นกำเนิดของการเล่นแร่แปรธาตุ
ดังนั้น ปรากฏว่าในยุคโบราณมีสถาบันหลายแห่งสำหรับการเล่นแร่แปรธาตุ กลุ่มคนเหล่านี้มาจากนิกายเดียวกัน ถูกเรียกว่านิกายเตาหลอมอมตะ สรุปการเล่นแร่แปรธาตุเป็นสี่วลี
ฟ้าดินเป็นเตาหลอม ชะตากรรมคือคนงาน หยินและหยางคือไฟถ่าน สิ่งต่างๆในโลกคือส่วนประกอบ!
ไม่ควรมองข้ามคำง่ายๆสี่คำนี้!มันล้วนมีความจริงที่ลึกซึ้งที่สุด วิญญาณที่กล้าหาญสามารถครอบคลุมทุกสิ่งมีชีวิตในโลก
จากคำพูดเหล่านี้ มันบอกได้เลยว่าจิตวิญญาณของนิกายนี้สง่างามขนาดไหน
และในเวลานั้นนิกายเตาหลอมอมตะก็ถือเป็นหนึ่งในนิกายที่ชื่อดังสุด เพราะมันตั้งอยู่บนดาวหยิงฮวา ชื่อเสียงมันจึงกระจายไปทั่วโลกบ่มเพาะ
หัวใจของเฟิงหลินเต้นกระหน่ำ ไม่ใช่ว่าดาวหยิงฮวาอ้างถึงดาวอังคารในตำนานโบราณ?
ในท้องฟ้าเต็มไปด้วยดวงดาวโบราณ ดาวอังคารเป็นดาวสีแดงสุกใสที่ดึงดูดความสนใจของทุกคน เพราะความสว่างของมันยามค่ำคืน และด้วยตำแหน่งมันที่สับเปลี่ยนตลอดซึ่งทำให้ผู้คนสับสน มันจึงถูกตั้งชื่อว่าดาวหยิงฮวา
ในโหราศาสตร์จีนโบราณ ช่วงเวลาที่ดาวหยิงฮวาปรากฏในท้องฟ้ายามค่ำคืน มันเป็นสัญลักษณ์ว่าความโกลาหลครั้งใหญ่จะเกิดขึ้นในโลก ไม่ช้ามันก็กลายเป็นดาวอัปโชค
เฟิงหลินไม่คาดคิดว่าในยุคโบราณจะมีนิกายที่ตั้งรกรากอยู่บนดาวอังคาร
นี่ไม่ได้หมายความว่าในโลกการบ่มเพาะโบราณ มนุษย์สามารถทำลายข้อจำกัดของโลกและเดินทางในจักรวาลได้แล้ว??
เฟิงหลินรู้สึกว่าเขากำลังมองหาความจริงโบราณ แต่ความจริงนี้ยังคงปกคลุมไปด้วยหมอก เขาไม่สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนหรือคาดเดาอะไรได้
มีตำนานกล่าวไว้ว่า ในสมัยโบราณ มนุษย์สามารถหินและบินไปยังโลกอื่นได้ เรื่องราวกำลังพยายามบอกว่ามนุษย์สามารถท่องไปในจักรวาลได้แล้วงั้นหรอ?
มนุษยชาติมีอารยธรรมที่แตกต่างกันในอดีตใช่ไหม? มันยอดเยี่ยมและล้ำสมัยมากจนพวกเขาสามารถออกจากระบบสุริยะได้!
แต่ทำไมมันถึงถูกปฏิเสธในที่สุด?
...
จินตนาการของเฟิงหลินพุ่งสูงทะยาน เขากำลังคิดว่าทุกสิ่งในยุคตำนานลึกลับนั้นเกินความเข้าใจในปัจจุบันของเขา เขารู้สึกว่าทุกอย่างเป็นไปได้
แต่มันก็ไม่มีประโยชน์ที่จะคิดถึงสิ่งต่างๆในตอนนี้ เขาปล่อยวางชั่วคราว และให้ความสนใจกับการบรรยายต่อ
ชายชรายังคงอธิบายต่อไปว่า“นิกายเตาหลอมอมตะของเรามีเคล็ดปรุงยาเม็ดทั้งหมด483เคล็ด โดยที่ 365เคล็ดเป็นวิชาขั้นต่ำอ้างถึงจำนวนวันในหนึ่งปี นอกจากนี้ยังมี 72 วิชาระดับกลางที่สอดคล้องกับอสูรทางโลก 72 ตน มีวิชาระดับสูง36วิชาที่สอดคล้องกับดาวสวรรค์36ดวง เหนือกว่าวิชาระดับสูงนั้นคือระดับนักบุญมีทั้งหมด 9 วิชาซึ่งสอดคล้องกับวังทั้ง9 และเหนือกว่านั้นก็คือระดับอมตะ นิกายของเรามีเพียงเคล็ดการปรุงยาเม็ดระดับอมตะเพียงเคล็ดเดียว และชื่อของมันก็คือ ... วิชาเตาหลอมแปรธาตุ! วิชานี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้ฟ้าดินเป็นเตาหลอม ความสามารถในการกลั่นทุกอย่างในโลกเพื่อแยกแก่นแท้ ปรมาจารย์ของวิชานี้สามารถกลั่นเม็ดยาอมตะที่ช่วยให้คนกลายเป็นเซียนได้!”
ชายชราอธิบายสิ่งต่างๆอย่างชัดเจนบอกต้นกำเนิดของนิกายเตาหลอมอมตะและทฤษฎีของเทคนิคการทำเม็ดยาขั้นพื้นฐาน บอกการวิเคราะห์อย่างละเอียดจนเฟิงหลินดำดิ่ง
อย่างไรก็ตาม สาวกเหล่านั้นที่นั่งด้านล่างชายชรากลับมองด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงงขณะที่พึมพำพูดคุยกัน
"แปลกจัง! ทำไมท่านอาจารย์ถึงอธิบายความรู้พื้นฐานของนิกายในวันนี้? เราทุกคนรู้เรื่องนี้ก่อนที่เราจะเข้านิกายแล้ว"
“ใช่แล้ว การบ่มเพาะของท่านอาจารย์ช่วยให้ท่านสามารถมองอนาคตได้ เป็นไปไม่ได้ที่ท่านจะลืมว่าเรารู้เรื่องนี้แล้ว”
...
เมื่อเห็นว่าชายชรายังคงอธิบายแบบนั้นอยู่ครึ่งวัน ในที่สุดเหล่าสาวกก็ไม่อาจทนไหว
ศิษย์ชายที่หล่อเหลายืนขึ้น ใบหน้าของเขาดูงุนงง เขาถามด้วยความเคารพว่า "ท่านอาจารย์ ท่านได้บอกเราแล้วถึงต้นกำเนิดของนิกายและอธิบายเคล็ดกลั่นเม็ดยาพื้นฐานแล้วนี้กับเราไปนานแล้ว ทำไมวันนี้ท่านถึงสอนเราอีก?”
ชายชรายิ้มอย่างลึกลับ "วันนี้แตกต่างจากวันอื่นๆ วันนี้จำนวนผู้เข้าร่วมการบรรยายมีทั้งหมด81คน แม้ว่าเจ้าทุกคนจะเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อนว่า แต่มีคน 'หนึ่ง' ยังไม่ทราบ นี่คือเหตุผลที่ข้าพูดเรื่องนี้อีกครั้งในวันนี้ "
เมื่อคำพูดของเขาดังขึ้นสาวกบางคนเริ่มพูดคุยกัน โดยมองไปทางซ้ายและขวา
ความงุนงงบนใบหน้าของนักเรียนชายยังไม่หายไปและความสับสนของเขาก็เพิ่มขึ้น "ท่านอาจารย์ ที่สนามนี้มีเพียงแปดสิบคนเท่านั้น อีก’หนึ่ง’คนเพิ่มมาจากไหนกันขอรับ?”
เขาเน้นคำว่า 'หนึ่ง'
ชายชรายิ้มขณะทำท่าราวกับเขามองเห็นทุกสิ่งอย่าง“คนๆนั้นไม่อยู่ท่ามกลางพวกเจ้า เขามาจากสถานที่ที่คลุมเครือ ข้าไม่รู้ต้นกำเนิดดเขาหรือรู้ว่าเขาจะเลือกเดินไปทางไหน!”
การคาดเดาของเหล่าสาวกเพิ่มขึ้น
มีเพียงศิษย์ชายคนนั้นที่เริ่มเข้าใจบ้างแล้ว
หัวของเฟิงหลินถึงกับขาวโพลน
ชายชราคนนั้นแค่ยิ้มและไม่พูดอะไร ดวงตาเขาดูเหมือนจะสามารถมองผ่านแม่น้พที่กว้างใหญ่ของกาลเวลาได้ ข้ามผ่านเวลานับล้านปี ค่อยๆจ้องมองเฟิงหลิน
ปล.โอ้ว พลังอะไรกัน มองข้ามเวลาได้เป็นล้านปี ฮ่าๆ