GE424 ล่าสังหาร (1) [ฟรี]
หอคอยอัสนีทองคำชั้น 11 บริเวณตีนเขาแห่งหนึ่ง... สายลมพัดพา พิรุณพรั่งพรม อัสนีแปรบปราบบนท้องนภา
ดวงจิตอัสนี 200 ตนเร่งมุ่งหน้าไปยังเขาระฆัง ซึ่งเป็นที่ตั้งวังอัสนีของผู้ปกครองชั้น 11 สูฟง
ดวงจิตอัสนีทั้ง 200 ตนนี้คือดวงจิตขอบเขตตัดวิญญาณ นอกจากพวกมันยังมีอีก 6 ตนที่อยู่ขอบเขตไร้ดัดแปลง แต่ผู้นำกลุ่มทั้งหมด คือผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาวขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง
“ใกล้จะถึงแล้ว...” หนิงฝานกล่าว อีกไม่นานการต่อสู้ที่รุนแรงที่สุดในชั้น 11 จะเปิดฉาก
หนิงฝานในยามนี้ทรงพลังมาก แค่ร่างกายที่บรรลุขอบเขตกระดูกหยกขั้นสูงสุด ผสานกับการยกระดับด้วยวิชากายปีศาจ ทำให้เขาทรงพลังมากพอที่จะต่อสู้กับขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางได้
อีกอย่าง เขายังมีวิชาดรรชนีกระบี่ที่ยกระดับอย่างสิ้นเชิงจากการต่อสู้กับโม๋หลัว ซ้ำยังมีโลหิตของโม๋หลัวที่แม้จะเพียงหยดเดียวและยังดูดซับไม่หมด ก็ช่วยให้เขาแปลงร่างเป็นเผ่าปีศาจผู้เป็นทาสของโม๋หลัวได้ ซึ่งมันช่วยให้เขาต่อสู้กับขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางได้ในเวลาสั้นๆ
แต่ด้วยที่เป็นโลหิตของโม๋หลัว ทุกครั้งที่หนิงฝานแปลงร่าง มันจะสร้างรอยดำขึ้นบนดวงจิต หากปล่อยให้เกิดรอยดำนานไปจนมันทรงพลังขึ้น หนิงฝานจะสูญเสียจิตใจ
แม้การสูญเสียจิตใจจะไม่ทำให้เขากลายเป็นปีศาจเลือดเย็น แต่เขายังคงไม่ชอบอยู่ดี ดังนั้นหากไม่จำเป็นจริงๆ เขาจะไม่แปลงร่างเด็ดขาด
หากจะใช้มัน เขาจะรอจนกว่าจะดูดซับโลหิตของโม๋หลัวได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อถึงอย่างนั้น เขาก็สามารรถใช้มันได้อย่างผ่อนคลาย
“ฆ่ามัน!”
แสงจากข่ายอาคมฉายออกมาจากภูเขาระฆัง ดวงจิตอัสนีหลายหมื่นตนที่ซ่อนตัวอยู่ปรากฏ ในมือพวกมันถือหน้าไม้ ระดมยิงลูกดอกเข้าใส่หนิงฝานเพื่อหมายสังหาร
อัสนีและลมพายุหนุนเสริมลูกดอกเหล่านั้น ทำให้ความเร็วของพวกมันเพิ่มขึ้นจนน่ากลัว
ลูกศรแต่ละลูกทรงพลังพอที่จะปลิดชีพขอบเขตดวงจิตแรกเริ่ม แต่เมื่อหลายหมื่นดอกรวมกัน ต่อให้เป็นขอบเขตตัดวิญญาณก็ไม่อาจรับมือ
แม้ลูกดอกจะตรงเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ได้โดนกลุ่มของหนิงฝานช้าลงแม้แต่น้อย
หนิงฝานสบัดมือ ส่งพลังที่รุนแรงเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นที่จู่โจมเต็มกำลัง เข้าทำลายลูกดอกทั้งหมดที่พุ่งตรงมา รวมถึงสังหารดวงจิตอัสนีของอีกฝ่ายไปแทบทั้งหมด
ดวงจิตอัสนีฝั่งนั้นตกตะลึง พวกมันคาดไม่ถึงว่าผู้เยาว์ในขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงจะทรงพลังขนาดนี้
“หนีเร็ว แจ้งท่านสูฟงว่ามีผู้บุกรุก!”
“ไม่มีทาง...” หนิงฝานกล่าวอย่างเรียบเฉย เขาชูมือขึ้น กระบี่เล่มหนึ่งปรากฏขึ้นในมือ แต่เมื่อตวัดกระบี่ กระบี่กลับหายไปจากมือของหนิงฝาน
ชั่วพริบตาถัดมา เหล่าดวงจิตอัสนี 7 ตนที่เหลือรอดและกำลังหลบหนี ถูกกระบี่ทะลวงบริเวณตันเถียน
กระบี่เมื่อครู่รวดเร็วยิ่งขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น ทั้งยังทรงพลังจนแทบจะทำลายการป้องกันของพวกมันได้ทั้งหมด
ชั่วพริบตาที่พวกมันถูกกระบี่ทะลวงร่าง ปราณกระบี่ขนาดเล็กจำนวนมาก กระจายไปตามส่วนต่างๆของร่างกาย ฉีกร่างของพวกมันจนกลายเป็นชิ้นๆ
แม้จะสังหารศัตรูเป็นจำนวนมาก แต่แววตาหนิงฝานไม่หวั่นไหว และมุ่งหน้าเข้าไปยังวังของสูฟงอย่างต่อเนื่อง
เมื่อครู่หนิงฝานสังหารขอบเขตตัดวิญญาณไปทั้งหมด 400 ตน และไร้ดัดแปลงอีก 3 ตน
เขาดึงดูดเอาปฐมอัสนีและหยกอัสนีทั้งหมด แล้วโยนให้เหลยฉียี่
หนิงฝานสังหารและเก็บสมบัติราวกับเป็นเครื่องจักร เหล่าผู้ติดตามเหลยฉียี่ทั้ง 5 ล้วนจ้องมองหนิงฝานด้วยความตกตะลึง
“เด็กนั่นโหดเหี้ยมมาก เรื่องที่ฆ่าล้างชั้น 10 ก่อนหน้านี้ไม่ใช่เรื่องโกหก ต่อให้ข้าเองก็ไม่กล้าทำเช่นนั้น… ดูจากท่าทาง เด็กนี่คงไม่จบแค่ชั้น 11… อาจจะฆ่าล้างไปจนถึงชั้น 24 ของราชามังกรเลยก็ได้!”
โม่เฟยหยุนตกตะลึง ในชีวิตของมันผู้ที่มันนับถือมากที่สุดคือเหลยฉียี่ แต่ผู้ที่มันหวาดกลัวมากที่สุดคือหนิงฝาน
“ช่างน่าอายยิ่งนัก… ก่อนหน้านี้ข้าดูแคลนเขา แต่ดูตอนนี้สิ เขาทรงพลังพอที่จะปลิดชีพข้าได้ง่ายๆ จะบอกว่าเขาแข็งแกร่งเทียบเท่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นสูงก็ไม่ผิด… ที่สำคัญ เต๋าแห่งกระบี่ของเขาเองก็ไม่ธรรมดา” ฉู่หนานเฟิงกล่าว
เหลยฉียี่เองก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน หนิงฝานทรงพลังขึ้นมาก เมื่อ 3 วันที่แล้วเขายังไม่ทรงพลังขนาดนี้ ก่อนหน้านี้ชายชราสัมผัสได้ถึงบางสิ่งในตัวหนิงฝานที่เป็นภัยร้ายแรงกับตน นั่นคือดาราอัสนีไท่ซู
แต่ยามนี้ชายชราสัมผัสได้ถึงแรงกดดันอีกสายจากร่างหนิงฝาน ที่ทำให้ชายชราหวาดกลัวยิ่งกว่า
“แรงกดดันนั่นทำให้ข้าแแทบหายใจไม่ออก… ขอบเขตไร้ดัดแปลงไม่มีแรงกดดันขนาดนี้… เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา”
ระหว่างทางที่หนิงฝานนำทัพ เขาสังหารดวงจิตอสูรระหว่าง รวมไปถึงเหล่าขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น และไม่มีใครรู้ว่าที่หนิงฝานบุกมาก็เพื่อสังหารสูฟง ก่อนนำไปสู่การสังหารราชามังกร
อีกล้านลี้ข้างหน้าหนิงฝานจะไปถึงวังของสูฟง ตัวมันในยามนี้กำลังฟังรายงายด้วยสีหน้ามืดมน
ข่ายอาคมป้องกัน 17 ชั้นที่อยู่รอบนอกถูกทำลายลงทั้งหมด กองทหารนับแสนถูกสังหารตายภายในครึ่งวัน
แต่ที่ทำให้มันคาดไม่ถึง คือผู้ที่บุกมานอกจากหนิงฝานแล้วยังมีวังสมบัติอนันต์ตามมาด้วย!
“ฮึ่ม! คาดไม่ถึงว่าซัวหมิงที่นายท่านตามล่า จะกล้าบุกมาที่นี่ด้วยตัวเอง คิดว่าขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงจะสู้กับข้าได้หรือไง? น่าขำ”
“ถึงเหลยฉียี่และวังสมบัติอนันต์ของมันจะร่วมมือ แต่เหลยฉียี่ที่แพ้ข้ามาแล้ว 11 ครั้ง ไม่สมควรเป็นคู่มือข้า… คาดไม่ถึงว่ามันจะยังกล้ามายั่วยุข้าอีก ในเมื่อมันกล้ามาถึงวังของข้า ข้าจะสั่งสอนมันให้หลาบจำ!”
เสียงคำรามของสูฟงดังสะท้อนไปทั่วทั้งวังเป็นเวลานาน แรงกดดันในขอบเขตไร้ดัดแปลงปกคลุมจนทำให้บรรยากาศภายในวังหนักอึ้ง วังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง
มีเพียงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น 9 ตนที่เป็นผู้ติดตามของสูฟงที่ทนกับแรงกดดันของมันได้
“ท่านสูฟงโปรดวางใจ มีพวกข้าคอยป้องกันอยู่ ซัวหมิงและวังสมบัติอนันต์ไม่มีทางเข้าถึงตัวท่านได้ พวกมันทั้งหมดต้องตาย” ชายชราคนหนึ่งกล่าว
มันไม่เห็นหนิงฝานและวังสมบัติอนันต์อยู่ในสายตา ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นคนอื่นๆก็ไม่เคยเห็นหนิงฝานมาก่อน พวกมันจึงเห็นด้วยกับคำกล่าวของชายชราเมื่อครู่
“อืม! เจ้ากล่าวถูกแล้ว ถ้าซัวหมิงกล้ามาเหยียบที่นี่ มันต้องตาย! หากไม่มีคนของ
วังสมบัติอนันต์และ 3 ทาสไร้ดัดแปลงช่วย ตัวมันที่อยู่แค่กึ่งไร้ดัดแปลงก็ไม่มีทางรอด! ไม่มีขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลงคนไหนที่ต่อกรกับขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้… ถ้ามันไม่เข้ามาที่นี่ก็รอดไป แต่ถ้ามันเข้ามา ข้าจะเป็นคนสังหารมันเอง!”
ขณะที่ผู้ติดตามของสูฟงกำลังพูดคุยกันอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงหัวเราะของหนิงฝานดังขึ้น
เสียงหัวเราะของเขาฟังดูเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งหมื่นปี แรงกดดันราวกับภูเขายักษ์นับหมื่นกดทับ เสียงที่แสบแก้วหูราวกับอัสนีนับหมื่นฟาดผ่า จนทำให้แก้วหูจของพวกมันฉีกขาด ทะเลสติเสียหายและเจ็บปวดอย่างรุนแรง
แม้เป็นสูฟงที่อยู่ขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง ยังอึดอัดที่ได้ยินเสียงของหนิงฝาน
“ใครบอกว่าข้าซัวหมิงไม่กล้ามาที่นี่!” น้ำเสียงที่ทรงพลังดังขึ้น แม้ระดับพลังจะอยู่เพียงขอบเขตตัดวิญญาณ แต่ก็ทรงพลังมากพอที่จะสยบขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น
วังอัสนีของสูฟงสั่นสะเทือนและเริ่มถล่มเพราะไม่อาจทนแรงกดดัน แม้เป็นเขาระฆังขนาดยักษ์ก็แทบไม่อาจต้านทานไหว
ดวงจิตอัสนีจำนวนมากเริ่มทะยานออกจากวัง จ้องมองเหล่าคนที่มาด้วยแววตาตื่นตระหนก
เบื้องหน้าดวงจิตตัดวิญญาณ 200 ตนของวังสมบัติอนันต์ยืนไว้ด้วยขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้น 5 ตน ทาสไร้ดัดแปลงขั้นต้น 3 ตน และเหลยฉียี่
แต่ผู้ที่ทำให้ดวงจิตอัสนีเหล่านั้นหวาดกลัวคือผู้เยาว์ในอาภรณ์ขาว ที่กำลังยืนมือไพล่หลัง ร่างกายทรงพลังเทียบเท่าขอบเขตกายทองคำ สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ทั้งหมดเกิดจากฝีมือของผู้เยาว์คนนี้
คนผู้นั้นคือซัวหมิงที่พวกมันกล่าวถึง
“ฆ่ามัน!”
ดวงจิตอัสนีดวงจิตแรกเริ่มหลายหมื่นตน ทะยานเข้าหาหนิงฝานจากด้านหลังโดยไร้ซึ่งความหวาดกลัว
แต่เมื่อหนิงฝานหะนกลับไปมอง พวกมันกลับรู้สึกราวกับจมลงสู่หุบเหวอันลึกจนไม่อาจประมาณด้วยสายตาคู่นั้น และสั่นสะท้านไปถึงดวงจิต
แววตาเช่นนั้นคือแววตาของผู้ที่ผ่านการเข่นฆ่ามามากมายนับไม่ถ้วน
“ไสหัวไปซะ!”
เสียงที่ทรงพลังในระดับขอบเขตกายทองคำแผ่ออกจากปากหนิงฝาน สั่นสะเทือนเข้าสู่ร่างของดวงจิตอัสนีเหล่านั้น จนร่างของพวกมันระเบิดเละ!
หนิงฝานไม่อาจต้านทานสายตาของโม๋หลัวได้ ดวงจิตอัสนีดวงจิตแรกเริ่มเหล่านั้นก็ต้านทานเสียงหนิงฝานไม่ได้เช่นกัน
“ใครบอกว่าจะสังหารข้าเป็นคนแรกถ้าข้าเข้ามาที่นี่!”
หนิงฝานจ้องมองไปยังวังอัสนี พร้อมกับก้าวเท้าไปเบื้องหน้าหนึ่งก้าว!
แรงสั่นสะเทือนที่ทรงพลังราวกับจะทำให้ท้องนภาถล่มแผ่ไปทั่ววังอัสนี
ในหมู่ดวงจิตอัสนีของสูฟง มีเพียงชายชราสองคนที่ขมวดคิ้วแน่น!
แม้หนิงฝานจะอยู่เพียงขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง แต่พลังเมื่อครู่ก็มากพอที่จะทำให้พวกมันหวาดกลัว
ในชั่วพริบตานั้น หนิงฝานสวมผ้าคลุมลวงสวรรค์ เงาร่างและกลิ่นอายหายไปอย่างไร้รองรอย
ชั่วพริบตาต่อมา เงาร่างของหนิงฝานปรากฏตรงหน้าสองชายชรา กระบี่ที่แหลมคมทะลวงเข้าตันถียนของหนึ่งในชายชรา แล้วชกหมัดเข้าใส่แผ่นอกของชายชราอีกคนอย่างรุนแรงจนกลายเป็นรู ทำให้พวกมันทั้งสองบาดเจ็บสาหัส
หมัดที่หนิงฝานชกทะลวงเกราะของชายชราผู้หนึ่ง ทำให้มันบาดเจ็บสาหัสในพริบตา… มันไม่รู้ว่าหนิงฝานปรากฏตัวขึ้นมาได้อย่างไร และคาดไม่ถึงว่าหมัดของหนิงฝานจะทรงพลังขนาดนั้น
แต่ชายชราอีกคนที่ถูกกระบี่ของหนิงฝาน ทันทีกระบี่ทะลวงร่าง ปราณกระบี่ขนาดเล็กนับล้านเข้าทะลวงร่างและดับชีวิตของมันลง
“สูฟง… ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้!”
หนิงก้าวไปข้างหน้าอีกก้าว แรงกดดันที่รุนแรงปะทุจนไม่มีผู้ใดกล้าเข้าใกล้
แม้เป็นสูฟงก็ยังหวาดกลัวหนิงฝานและถอยไปครึ่งก้าว สีหน้าแปรเปลี่ยนใหญ่หลวง ตามข่าวที่ทราบมา ซัวหมิงไม่ได้แข็งแกร่งขนาดที่สังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงได้ในพริบตา
“เด็กนี่แตกต่างจากที่ได้ยินมาอย่างสิ้นเชิง ทำไมมันถึงแข็งแกร่งขนาดนี้! เป็นไปไม่ได้!” สูฟงตกตะลึง เป็นครั้งแรกที่มันหวาดกลัวขอบเขตกึ่งไร้ดัดแปลง