บทที่ 213 - มอนสเตอร์ที่ถูกฝึกตัวที่สาม (4) [05-08-2020]
บทที่ 213 - มอนสเตอร์ที่ถูกฝึกตัวที่สาม (4)
”
ในโลกเรามีหลายประเทศถูกทำลายไปโดยมอนสเตอร์และเกาะที่ไร้ผู้คนก็ได้ถูกยึดไปเช่นกัน ฉันจำได้ว่าเห็นข่าวเกียวกับว่ามีเกาะขนาดเล็กกว่า 30% ถูกยึดไปโดยมอนสเตอร์
เหตุผลที่มนุษย์ยังสามารถใช่ชีวิตต่อไปได้นี้ก็คงต้องขอบคุณผู้พิทักษ์และปีกแห่งเสรีที่ทุกกองกำลังอย่างน้อย 50% เสมอไปยับยั้งการรุกรานของมอนสเตอร์ที่จะเข้ามาในดินแดนของมนุษย์ นี่เป็นเหตุผลที่แท้จริงของการมีอยู่ของปีกแห่งเสรีและผู้พิทักษ์แม้ว่าในตอนนี้พวกเขาจะถูกควบคุมโดยผู้มีอำนาจและทำให้เกิดข่าวแย่ๆก็ตาม
ในฐานะของหน่วนงานป้องกันมนุษยชาตนี่คือเป้าหมายที่แท้จริงของทั้งสององค์กรนั้น
ยังไงก็ตามแม้อย่างนั้นพวกเขาก็ไม่สามารถจะแบ่งกองกำลังไปยึดพื้นที่ที่ถูกยึดไปกลับมาได้เพราะไม่มีกำลังคนที่มากพพอ
ในทุกๆวันจะมีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งปรากฏตัวออกมาในที่ๆไม่เคยมีใครคาดคิดซักนิด จากสิ่งที่ฉันรู้มามีเพียงแค่เคียร่าเท่านั้นที่จะทำลายในเรื่องนี้ได้ แต่ยังไงก็ตามแม้แต่เคียร่าก็ยังทำได้เพียงแค่คาดเดาถึงพื้นที่กว้างๆที่มันจะปรากฏออกมา ในท้ายที่สุดจึงยังคงทำให้ผู้พิทักษ์และปีกแห่งเสรีที่ป้องกันมนุษย์ต้องตายอย่างไม่คาดฝัน
และในพื้นที่ๆถูกยึดโดยมอนสเตอร์อัตราการปรากฏตัวของพวกมันก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว มันเหมือนกับมอนสเตอร์ที่เกิดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ดันเจี้ยน ในตอนแรกฉันคิดว่าพวกมันกำลังสืบพันธุ์กัน แต่ดูจะไม่ได้เป็นแบบนั้น
การสืบพันธุ์นั้นจะให้กำเนิดชีวิตใหม่ขึ้น สำหรับมอนสเตอร์ที่บุกรุกมาโดยที่ไม่มีพลังของโลกมันเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้มันก็ไม่มีทางที่มอนสเตอร์จะให้กำเนิดมอนสเตอร์ที่โตแล้วได้ และความจริงที่ว่ายังไม่เคยมีใครค้นพบมอนสเตอร์ในวัยทารกมันยิ่งย้ำความเป็นไปได้นี้ ในกรณีนี้มันจึงมีความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวคือ ทางผ่าน
ฉันได้คาดเดาว่าในตอนที่จำนวนมอนสเตอร์ในที่ๆนั้นเพิ่มขึ้นทางผ่านมันก็จะขยายขึ้นและทำให้พวกมันมาได้หลากหลายชนิดมากขึ้น เรื่องนี้ทำให้ฉันรู้สึกได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ฉันรู้ว่าความเร็วในการบุกโลกได้ถูกเร่งขึ้นจากสองกองกำลัง
ไม่ว่ายังไงก็ตามความจริงคือดินแดนของมนุษย์ได้ถูกยึดไปจำนวนมากจนน่าตกใจ ฟิลิปปิน มาดากัสการ์ สาธารณรัฐแอฟริกาใต้และสาธารณรัฐโดมินิกันได้ถูกทำลายไปแล้ว เยอรมนี อังกฤษ อเมริกา เกาหลีและประเทศอื่นๆที่มากก็ได้สูญเสียดินแดนไปให้กับมอนสเตอร์มากมายเช่นกัน แม้ว่าทุกคนจะต้องการแย่งดินแดนกลับมา แต่ก็ไม่มีใครที่ทำมันได้
ในตอนนั้นเองฉันก็ได้คิดถึงความพยายามของบริทแมนที่สร้างองค์กรอิสระขึ้นมาเพื่อต่อต้านฉันโดยเฉพาะ ซึ่งมันไร้สาระมากๆ เขาควรจะทำอะไรให้มันถูกต้องนะ แต่แน่นอนว่าในตอนนี้ก็คงไม่ได้แล้ว เขาคงทำได้เพียงใช้ชีวิตที่เหลือกินแต่โจ๊กและยาโดยที่ไม่สามารถจะพูดอะไรได้อีกแล้ว
ไม่ว่ายังไงก็ตามในตอนนี้เรามีกองทัพซัคคิวบิแล้ว แม้ว่าพวกเธอจะเข้าไปฝึกในดันเจี้ยนไม่ได้ แม้ว่าพวกเธอเกือบจะแก่ตายโดยที่ยังบริสุทธิ แจ่ง่สพงกเธอยังคงรักษาระดับความแข็งแกร่งดั้งเดิมและแม้แต่แชร์ประสบการณ์การต่อสู้และทักษะความชำนาญกันเองได้ด้วย
ซิคคิวบิทั้ง 212 ตนมีพลังเวทย์ที่เทียบเท่าได้กับผู้ใช้พลังระดับ SS ในขณะที่มิไรมีความแข็งแกร่งอยู่ระหว่างระดับ SS+ และ SSS ส่วนลิโคไรท์มีความแข็งแกร่งอยู่ที่ระดับ SSS+ มันจะไม่ดูเกินจริงเลยหากจะพูดว่าพวกเธอสามารถทำลายองค์กรต่างๆบนโลกได้อย่างง่ายดาย
พูดตามตรงถ้าหากสมาชิกรีไวเวิร์ลได้ต่อสู้กับพวกเธอโดยไม่มีฉัย ผลลัพธ์ก็จะออกมาอย่างชัดเจนมากว่าพวกเราจะแพ้ ยกเว้นแต่ว่าสมาชิกของรีไวเวิร์ลจะมีคนที่ได้รับชื่อที่แท้จริงของเทพเจ้าอย่างน้อยห้าคน
แม้ว่าซัคคิวบิจะไม่สามารถปีนดันเจี้ยนแบบเราได้ แต่เราก็ไม่จำเป็นจะต้องปล่อยให้พวกเธอนั่งเล่นเฉยๆโดยไม่ทำอะไร นอกจากนี้ลิโคไรท์ยังได้บอกว่ามานาและพลังชีวิตของซัคคิวบิจำเป็นจะต้องขโมยมาจากสิ่งมีชีวิตอื่นเท่านั้น ดังนี้คือสิ่งที่ลงตัวมาในสถานการณ์นี้
"โอ้ คุณไม่ต้องห่วงนะ พวกเราจะไม่ไปยุ่งกับคุณอื่นนอกจากสามีที่...กรี๊ด"
ฉันได้ตีหัวของเธอทันที
"ฉันรู้ เธอบอกแล้วว่ามันมีเวทย์พิเศษอยู่"
"สามีที่รักวิธีที่คุณแสดงออกมามันรุนแรงเกินไป....ฮิค"
ฉันได้มองไปที่ซัคคิวบิที่อยู่ในคฤหาสน์และพูดออกมา
"พวกเราได้เตรียมเสื้อคลุมให้พวกเธอแล้ว พูดตามตรงนะชุดที่พวกเธอใส่อยู่ในตอนนี้มันโป้เกินไป"
"สามีที่รักเตรียมชุดไว้ให้เรา"
"ว๊าว"
ซัคคิวบิทั้ง 182 ตัวได้ส่งเสียงออกมา เสียงของพวกเธอนั้นดังมากๆจนฉันต้องตกใจ ในทางกลับกันลิโคไรท์และซัคคิวบิตนอื่นๆที่ไม่ได้รับเลือกให้อยู่ในกลุ่มต่อสู้ก็เศร้าลงไป เธอหลอกเรื่องที่เธอบอกว่าเธอแชร์ความรู้สึกกันใช่ไหมนะ"
"ลิโคไรท์ไม่ต้องเศร้าไปหลอก พวกเราก็มีให้เธอเหมือนกัน มันเป็นชุดคลุมของกิลด์"
"ชุดคลุมกิลด์หรอ"
ใช่แล้ว นี้เป็นชุดที่ฉันเตรียมไว้สำหรับคนที่้เป็นสมาชิกหลักของกิลด์เรา เป็นสัญลักษณ์ของกิลด์ซึ่งได้ถูกรองหัวหน้ากิลด์ฮวาหยาแนะนำมาและได้รับการยอมรับจากทุกๆคนทำให้สร้างมันขึ้นมา ส่วนประกอบของมันเกือบทั้งหมดเป็นของมอนสเตอร์และนำไปให้ช่างตีเหล็กที่ดีที่สุดที่ฉันรู้จักถึง 300 กว่าคนในการทำมันขึ้นมา
'ขอบคุณนะหลิน เดี๋ยวฉันจะซื้อของไปฝากนายทีหลังนะ'
ฉันได้มอบเสื้อคลุมนี้ให้กับทุกคนในขณะที่ปล่อยเรื่องของหลินเอาไว้ก่อน ซัคคิวบิทั้งหมดได้ตรวจสอบในเสื้อคลุมและส่งเสียงออกมา
"เสื้อคลุมพวกนี้ทั้งหมดบรรจุเวทย์ไว้"
"ว้าว ผิวมันหนามาก แถมมันยังเป็นแบบที่เราชอบ"
"รอยเย็บสีดำตัดทองนี่มันงดงามมาก"
"แล้วที่อยู่บนหลังนี่อะไรอะ สายฟ้าประกายที่ห่อหุ้มหอก
"นั่นคือ....สัญลักษณ์กิลด์"
เนื่องจากฉันรู้สึกว่าสัญลักษณ์กิลด์มันเหมือนกับเป็นตัวแทนของฉันเดียว ฉันจึงโหวตไม่เลือกมัน แต่ว่าฮวาหยาก็ได้ผลักดันเรื่องนี้อย่างจริงจัง ตามที่เธอได้บอกมาคือฉันเป็นตัวแทนเพียงหนึ่งเดียวของรีไวเวิร์ล หลังจากที่ได้รับการยืนยันว่าสัญลักษณ์กิลด์จะเปลื่ยนอีกครั้งในภายหลัง ฉันเลยได้ยอมรับมัน ความจริงแล้วถึงแม้ว่าฉันจะไม่เห็นด้วย แต่ว่าสมาชิกส่วนใหญ่ในกิลด์ได้เห็นด้วยทำให้ฉันทำอะไรไม่ได้มากนัก
"อืมม ฉันไม่ชอบมันเลยที่มันไม่เปิดเผยเลยซักนิด"
"เธออายุเท่าไหร่นะ ในทุกวันนี้แทนที่จะโชว์ผิวหนัง เสื้อผ้าที่เน้นส่วนโค้งเว้าของร่างกายคือสิ่งที่เยี่ยมที่สุด"
ซัคคิวบัสได้คุยกันอย่างสนุกสนานและใส่เสื้อคลุมลงไปในทันที เนื่องจากว่าพวกเธอสามารถจะใส่มันทับลงไปบนเสื้อหนังของพวกเธอได้เลยการเปลื่ยนเสื้อนี้จึงค่อนข้างจะง่าย ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาคือผู้หญิงทั้ง 182 คนกำลังใส่ชุดคลุมสีดำที่ดูหรูหรา
นอกไปจากนี้สัญลักษณ์หอกสายฟ้าที่น่าอายบนหลังของชุดคลุมก็ได้แสดงออกมาอย่างเด่นชัด มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะไม่มีใครเห็นมัน
"มาแบ่งกองกำลังกันเถอะ แบ่งออกเป็นกลุ่มละ 30 คน "
หน่วยที่หนึ่งและหน่วยที่สองมีซัคคิวบัส 31 ตนในขณะที่หน่วยที่สามจนถึงหน่วยที่หกมีซัคคิวบิ 30 ตน ในตอนที่หน่วยได้ถูกสร้างแล้วสิ่งต่อไปก็ง่ายมาก เลือกที่ๆพวกเธอจะไป ในสถานที่ๆมีมอนสเตอร์ยึดครองนั้นมีที่ๆแม้แต่ผู้ใช้พลังระดับ SS 30 คนยังไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยได้เลย ดังนั้นฉันจึงจำกัดภารกิจแรกของพวกเธอไว้ในที่ๆไม่อันตรายจนเกินไป
"พวกเราจะไปโ๗มตีเกราะ ชายฝั่งทะเล และเกาะที่ไม่มีใครอาศัย สถานที่เหล่านี้เป็นที่ๆอยู่ของมอนสเตอร์ดังนั้นต้องระวังตัวเอาไว้นะตอนที่เข้าในที่นั่น"
""ค่ะสามีที่รัก""
ซัคคิวบิเกือบสองร้อยตนได้ตะโกนคำว่า 'สามีที่รัก' ออกมาพร้อมกัน แม้แต่ฉันยังอดที่จะสั่นออกมาไม่ได้
"ไม่ต้องรีบมากนะ ความปลอดภัยต้องมาก่อนโอเคนะ"
""ค่ะสามีที่รัก""
ขอร้องล่ะหยุดมันเถอะ.....
ซัคคิวิทั้งหมดสามารถจะใช้เวทย์ได้ แน่นอนว่าพวกเธอเชี่ยวชาญในเวทย์เสน่ห์และเวทย์แปลงการมากที่สุด ในตอนที่ใช้มันร่วมกันแม้แต่อุปกรณ์ที่ทันสมัยก็ยังไม่สามารถจะตามรอยพวกเธอได้ เพราะแบบนี้พวกเขาไม่มีทางจับเธอได้
พวกเธอได้รีบออกไปล่ามอนสเตอร์ในทันทีที่ได้รับพื้นที่ดูแล เมื่อพวกเธอออกไปแล้ว คฤหาสน์ก็ได้เงียบลงไปและสมาชิกกิลด์ก็ได้กลับมาทำงานตามปกติ
ด้วยซัคคิวบิที่เหลืออยู่กว่า 30 ตนในคฤหาสน์ทำให้อิเลด้าและสุมิเระไม่จำเป็นจะต้องรั้งอยู่ที่คฤหาสน์อีกต่อไป ในตอนแรกทีฉันมาพร้อมกับซัคคิวบิ อิเลด้าได้เฝ้ามองฉันเงียบๆด้วยท่าทางที่ตกตะทึง แต่แล้วในทุกสุดเธอก็พูดออกมา
"หัวหน้ากิลด์คุณนี่น่าทึ่งจริงๆ พวกเธอมีเยอะมาก คุณ...."
มันดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจอะไรบางอย่างผิด แต่ว่าไม่ว่าฉันจะอธิบายไปยังไงเธอก็ยิ่งสับสนมากยิ่งขึ้น ดังนั้นฉันจึงยอมแพ้ไปกลางทาง
ด้วยซัคคิวบิทั้งหมดที่ได้รับมอบหมายหน้าที่แล้วมันก็ไม่มีอะไรที่ฉันต้องทำอีกนอกจากรอรับรายงานจากพวกเธอเป็นระยะ
การที่รีไวเวิร์ลได้รับตระกูลซัคคิวบิมานี้ทำให้มนุษย์ได้มีโอกาสที่จะไล่มอนสเตอร์ออกไป แม้ว่าฉันจะทำมันโดยไม่คิดอะไร แต่ฉันก็ยังคิดได้ถึงความเป็นไปได้ว่ามันจะส่งผลกลับมาที่ยิ่งใหญ่
แน่นอนว่าฉันจะรู้มันได้แค่ในภายหลังเท่านั้น ตอนนี้ฉันได้ทำสิ่งที่ฉันควรทำไปแล้ว ฉันจึงกลับไปที่ดันเจี้ยนโดยไม่เสียใจ
"อืมม ฉันรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยนะกับการล่าซัคคิวบิ คุณคิดว่าฉันควรออกไปไหมสามีที่รัก"
"แน่นอน นั่นน่าจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด ตราบใดที่พวกเธอไม่ได้แข็งแกร่งกว่าเธอ ฉันก็ไม่มีทางจจะเจอกับปัญหาหรอก"
ในตอนที่ลิโคไรท์ได้รู้ว่าฉันกำลังจะไปล่าราชินีซัคคิวบัส เธอก็ได้ถอยกลับไปด้วยรอยยิ้มที่ดูอึดอัด ฉันได้พาเธอกลับไปที่บ้านกิลด์ในพื้นที่พักอาศัยและไปสู่กับราชินีซัคคิวบัสเพียงลำพัง
"เป็นมนุษย์ที่มีเสน่ห์อะไรแบบนี้ อีกไม่นานฉันก็จะได้เพลิดเพลินแล้วสินะ"
แม้ว่าเธอจะเป็นบอสประจำชั้นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ราชินีซัคคิวบัสตนนี้อ่อนแอกว่าลิโคไรท์อย่างเห็นได้ชัด ซัคคิวบัสในดันเจี้ยนนี้แตกต่างจากตระกูลของลิโคไรท์มากทั้งพลังเสน่ห์ พลัง และพลังชีวิต
"เข้ามาสิ มาเล่นกับฉัน"
"ใช่ มาเล่นกันเถอะ"
ฉันได้แกล้งทำเป็นตกหลุมเสน่ห์ของเธอด้วยการวิ่งเข้าไปหาเธอ ในตอนที่เธอได้กางแขนออกและดูเหมือนจะใช้ทักษะบางอย่าง ฉันได้ใช้ฮีโรอิค สไตรค์ออกไป บรรยากาศและพลังของเธอแตกต่างไปจากลิโคไรท์โดยสมบูณร์ ฉันไม่ต้องลังเลใจใดๆที่จะทำแบบนี้
[ติดคริติคอล]
"อึก อัก....."
"พายุหอกสายฟ้า"
"กรี๊ดดดดดดดด"
"อันนี้แถมให้ ราชันวายุพิโรธ"
"จะ เจ้าไม่ใช่มนุษย์ กรี๊ดดดดดดด"
เมื่่อฉันได้โจมตีเธอด้วยราชันวายุพิโรธเป็นครั้งที่สี่เธอก็ได้แตกกระจายเป็นแสงไป การต่อสู้กับบอสประจำชั้นได้จบลงในเวลาเพียง 2 นาที
"ฟู่ สู้ได้ดี"
ฉันได้เช็ดเหงื่อที่ไม่มีอยู่เลยและพึมพัมออกมาในขณะที่คิดว่าทำไมราชินีซัคคิวบัสถึงจงใจเผยช่องโหว่ให้ฉันได้เห็น ในตอนนั้นเองเสียงข้อความก็ได้ดังขึ้นมา
[น่าทึ่ง คุณได้เป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ดันเจี้ยนที่ประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับราชินีซัคคิวบัสเพียงลำพังและเอาชนะมาได้ในครั้งแรก ดันเจี้ยนจะจดจำคุณในฐานะนักสำรวจที่ยิ่งใหญ่ คุณได้รับแต้มทักษะ 2 แต้มเป็นรางวัล แต้มทักษะในปัจจุบัน: 7]
[คุณได้รับฉายา 'ผู้พิชิตราชินีซัคคิวบัส' แต้มสเตตัสทั้งหมดเพิ่มขึ้น 2 เป็นการถาวร]
[คุณได้เอาชนะราชินีซัคคิวบัสเพียงลำพัง คุณได้รับรางวัลพิเศษ 'แจ๊คเก็ตหนังราชินีซัคคิวบัส']
[คุณได้รับ 450,000 ทอง]
[คุณได้รับรางวัลที่ซ่อนเอาไว้สำหรับนักสำรวจคนแรก ยินดีด้วยโชคของคุณเพิ่มขึ้น 1]
ถ้างั้นฉันก็เป็นคนแรกของชั้นที่ 65 สินะ หลังจากมีความสุขที่ได้อ่านข้อความอีกครั้ง ฉันก็ตัวแข็งทื่อไปเมื่อได้เห็นรางวัล หมาป่ายักษ์ ด้วงทองคำ โอเกอร์สองหัว และตอนนี้รอยสักที่สี่ แต่... แต่นี่มัน...
[ลับ รอยสักราชินีซัคคิวบัส]
รอยสักราชินีซัคคิวบัสหรอ...? นี้มันเป็นปัญหาแล้ว