GE422 หนึ่งในโลกหล้า [ฟรี]
แรงกดดันของโม๋หลัวทรงพลัง ไท่ซูทำได้เพียงถอนหายใจเพราะรู้ว่าตนเองไม่ใช่คู่มือ
แต่ถึงอย่างนั้น ไท่ซูก็ต้องช่วยหนิงฝานให้ได้ แม้ว่าตนเองจะต้องตาย ก็ต้องช่วยหนิงฝานให้ได้
ยามนี้โม๋หลัวไม่ได้ใช้ธนูดับดาราเหมือนก่อน มันผสานมือทั้งสองข้าง เนตรปีศาจบนหน้าผากเปล่งแสง เปลี่ยนให้โลกแห่งความฝันทั้งใบกลายเป็นสีดำสนิท
ภายในโลกที่ดำมืด ดวงตาขนาดยักษ์นับ พันล้านดวงปรากฏกลางท้องนภา ดวงตาแต่ละดวงลุกโหมด้วยเพลิงทมิฬที่ทรงพลังมากพอที่จะสังหารขอบเขตตัดวิญญาณได้ในพริบตา
ดวงตา 100 ดวงสามารถสังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงได้!
ดวงตาหมื่นดวงสังหารขอบเขตไร้แบ่งแยกได้!
ดวงตาล้านดวงสังหารเซียนได้
ดวงตา 100 ล้านดวงสังหารเซียนแห่งชีวิตได้!
แต่หากรวมดวงตาทั้งหมดพันล้านดวง แม้เป็นจักรพรรดิเซียนก็ไม่อาจรอด!
“วิชาเนตรปีศาจ!” โม่หลัวกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา ดังสะท้อนไปทั่วทั้งโลก
เจตนาสังหารที่รุนแรงทำให้ท้องนภาสั่นไหว พลัง 5 ใน 10 ส่วนของโม๋หลัวมากพอที่จะสังหารไท่ซู
นี่คือพลังของปีศาจที่ทรงพลังที่สุด
แค่มันคนเดียว ก็อาจสังหารผู้เชี่ยวชาญในแดนสวรรค์ได้ทั้งหมด!
ต่อให้ในแดนสวรรค์จะมีจักรพรรดิเซียน แต่จักรพรรดิเซียนเหล่านั้นไม่สมควรเป็นคู่มือของโม่หลัว
ตราประทับปีศาจที่มันประทับไว้ จะแข็งแกร่งและทรงอานุภาพขึ้นตามความแข็งแกร่งของผู้ที่ถูกประทับตรา เมื่อคนผู้นั้นบรรลุเซียน ตราประทับจะแผลงฤทธิ์ ยึดร่างของคนผู้นั้นและเปลี่ยนให้กลายเป็นทาสของมัน
แต่ใช่ว่าผู้ใดก็จะได้เป็นทาสของมันทั้งหมด ผู้ที่จะได้เป็นทาสนั้น อย่างน้อยต้องบรรลุระดับเซียน ซึ่งตัวหนิงฝานในยามนี้ มีคุณสมบัติพื้นฐานทุกอย่างที่สามารถนำไปสู่เซียนได้
แต่น่าเสียดายที่มันไม่อาจได้หนิงฝานเป็นทาสอย่างที่หวัง
“เด็กน้อย… เจ้าก็เห็นแล้วว่ามหาจักรพรรดิโม๋หลัวแข็งแกร่งขนาดไหน ข้าพ่ายให้กับมัน แม้ข้าพยายามทุกวิถีทางแล้ว… ข้าขอถาม ว่าเจ้าอยากเป็นทาสของโม๋หลัวหรือเปล่า?” ไท่ซูกล่าวถาม
“ข้าไม่อยาก!” หนิงฝานหลับตาพลางกล่าวอย่างเรียบเฉย
แม้ว่าตัวเขาจะไม่ยอม แต่ด้วยที่ตัวเขาอ่อนแอไร้กำลัง จึงไม่อาจดิ้นรนขัดขืน
สิ่งที่หนิงฝานพอจะทำได้คือไม่ยอมให้โม๋หลัวยึดร่าง ต่อให้ตัวเองจะต้องตาย เขาจะไม่ยอมเด็ดขาด
“ข้ามีวิชาลับที่ทรงพลังพอจะสังหารโม๋หลัวได้ วิชานี้ต้องอาศัยตัวเจ้าเป็นหลัก และมันก็ทำให้เจ้ามีโอกาสในการกำจัดมัน...”
“เชิญผู้อาวุโสกล่าวมาเถอะ!”
“แผนของข้าคือ ข้าจะขออาศัยร่างกายเจ้าเพื่อใช้วิชาลับ!”
ไท่ซูบอกกล่าวแผนการ เพราะหนิงฝานคือตัวแปรสำคัญในการรับมือโม๋หลัว
โม๋หลัวพุ่งเป้าการสังหารมาที่ไท่ซู แม้มันจะได้ยินว่าไท่ซูมีวิธีจะสังหารมัน แต่มันกลับไม่ใส่ใจและยิ้มอย่างภาคภูมิ
เพราะยังไงซะ ไท่ซูก็ไม่มีทางสู้มันได้ มันไม่มีทางพ่ายแพ้
“ข้าจะให้โอกาสเจ้าหนึ่ง ให้เจ้าได้ใช้ร่างกายของเด็กนั่นอย่างเต็มที่” โม๋หลัวเย้ยหยัน
ทั้งตัวมันและไท่ซูต่างเสียชีวิตไปแล้ว ดังนั้นยามนี้ ทั้งสองจึงไม่สามารถแสดงพลังที่แท้จริงเหมือนในยามที่ยังมีชีวิตได้
แต่โม๋หลัวยามนี้สามารถเปล่งพลังได้มากกว่าไท่ซู ยิ่งผสานกับวิขาดึงวิญญาณ มันยิ่งใช้พลังได้ถึง 5 ใน 10 ส่วนของในอดีต
ผิดกับไท่ซูที่ปรากฏตัวออกมาจากชิ้นกระดูก จึงถูกจำกัดพลังไปมาก เนื่องจากไม่มีโลหิตและร่างกายเป็นแหล่งพลัง
แม้จะต้องประสบกับข้อจำกัดมากมาย แต่ไท่ซูก็ยังไม่ยอมแพ้
หากหนิงฝานให้จักรพรรดิอัสนีไท่ซูได้ใช้ร่าง น่าจะทำให้ไท่ซูทรงพลังมากพอที่จะต่อกรกับโฒ๋หลัวได้
นั่นคือแผนการของไท่ซู...
โม๋หลัวและไท่ซูต่างเป็นจักรพรรดิเซียน มีจิตใจที่จัดอยู่ในระดับสูง การที่โม๋หลัวจะล่วงรู้แผนการของไท่ซูจึงไม่ใช่เรื่องแปลก
เหตุที่ต้องทำเช่นนี้เพราะไท่ซูไม่มีทางเลือก เดิมทีแล้วชายชราไม่ใช่ผู้ที่จะหยิบยืมพลังใคร
แต่วันนี้ หากไม่ได้หนิงฝานช่วย ชายชราก็ไม่อาจรับมือโม๋หลัวได้
ชายชราจะปล่อยให้หนิงฝานถูกยึดครองร่างไม่ได้
“ผู้อาวุโสจะผสานดวงจิตของท่านเข้ามาในร่างข้างเหรอ?” หนิงฝานลืมตา
“ถูกต้อง! ตัวข้าตายแล้วไม่อาจฟื้นคืนได้ด้วยตนเอง จะมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ช่วยข้าได้… หากเจ้าสัญญาว่าจะช่วยข้าข้าหนึ่ง ข้าจะทำทุกสิ่งเพื่อช่วยชีวิตเจ้า!” ไท่ซูกล่าวราวกับทุ่มความหวังไว้ที่หนิงฝาน โดยไม่ปล่อยให้เขาปฏิเสธ
“ข้าสัญญา!” หนิงฝานพยักหน้า
ตัวเขาอ่อนแอ ไม่สิทธิ์เลือก
หากเขาเป็นจักรพรรดิเซียน เขาอาจสังหารโม๋หลัวได้ ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือไท่ซู
แต่ยามนี้ตัวเขายังอ่อนแอ ไท่ซูเป็นเพียงที่พึ่งเดียวที่จะทำให้เขารอด
“ดี! เรื่องวิชาลับ หากสำเร็จพวกเรารอด หากล้มเหลว ข้าและเจ้าก็ไม่รอด! วิชาอัสนี...ดวงจิตจักรพรรดิอัสนี!”
ไท่ซูผสานมือเป็นท่าทาง ทั่วร่างแปรเปลี่ยนเป็นลำแสงผสานเข้าไปยังร่างหนิงฝาน
หนิงฝานหลับตา ปล่อยร่างกายและดวงจิตให้ไท่ซูเป็นผู้ควบคุม!
เพียงแต่ไท่ซูไม่ได้ควบคุม!
ดวงจิตอัสนีก่อตัวข้างๆดวงจิตหนิงฝาน มันทรงพลังจนแม้แต่นำปราณของผู้เชี่ยวชาญทั้งโลกพิรุณมารวมกันยังไม่ทัดเทียม
ส่งผลให้แรงกดดันของหนิงฝานเพิ่มพูนมหาศาลในชั่วพริบตา
ไร้ดัดแปลง… ไร้แบ่งแยก… เซียนแห่งชีวิต… เซียนแห่งความจริง… และจักรพรรดิเซียน!
โม๋หลัวตกตะลึง วิธีของไท่ซูเหนือความคาดหมายของมันไปมาก
เดิมทีโม๋หลัวคิดว่าไท่ซูจะหยิบยืมร่างของหนิงฝานเพื่อสู้ แต่กลายเป็นว่ากลับมอบพลังให้หนิงฝาน ให้เขาได้มีพลังเทียบเท่าขอบเขตจักรพรรดิเซียน!
สิ่งที่ไท่ซูใช้คือวิชาที่ดึงวิญญาณที่แตกต่างจากดึงวิญญาณทั่วไป เป็นการดึงเอาพลังแห่งความจริงและสิ่งลวง
ถ่ายสิ่งลวงเข้าไปในร่างอีกฝ่าย แลกกับความจริงที่ออกจากร่างของตน ทำให้อีกฝ่ายมีพลังในระดับเดียวกับตนในช่วงเวลาสั้นๆ!
จักรพรรดิอัสนีไท่ซูช่วยเหลือหนิงฝานโดยแลกกับชีวิตตน ราคาที่จ่ายไป ไม่รู้อีกเนิ่นนานเท่าใดหนิงฝานถึงจะเข้าใจ
หนิงฝานในยามนี้รู้สึกราวกับได้ก้าวล่วงเข้าไปในพื้นอันไร้ประมาณ รู้สึกราวกับตนเองที่เด็ก จู่ๆก็ก้าวขึ้นไปเป็นผู้ใหญ่ในฉับพลัน
ปราณของหนิงฝานบรรลุขอบเขตจักรพรรดิเซียน แม้ต้องแลกกับชีวิตไท่ซู แต่นั่นก็ทำให้หนิงฝานได้พลังในระดับที่ทรงพลังกว่าไท่ซู แม้จะด้อยกว่าโม๋หลัวแต่ก็ไม่มากนัก
ถึงระดับพลังจะห่างกันเพียงเล็กน้อย แต่ในตัวตนระดับจักรพรรดิเซียน ไม่ได้ถือเป็นตัวตัดสินแพ้ชนะ เพราะแพ้ชนะนั้นจะวัดกันที่เต๋า!
ยิ่งมีความเข้าใจในเต๋าสูงมากเท่าไหร่ อานุภาพของวิชาที่ใช้ออกไปก็ยิ่งทรงพลัง เพียงแต่เต๋าของหนิงฝานยังอยู่เพียงขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลาง ยังมีอีกหลายสิ่งที่เขาไม่ทราบ
ดังนั้นแม้หนิงฝานจะมีพลังระดับเดียวกับจักรพรรดิเซียน แต่บางทีเขาอาจสู้จักรพรรดิเซียนทั่วไปไม่ได้
นั่นคือความคิดของโม๋หลัว มันเย้ยหยันในความเขลาของไท่ซู...
หนิงฝานหลับตา ขบกัดปลายลิ้นเพื่อกระตุ้นให้ตนเองคืนสติ
แม้ว่าเต๋าของเขาจะยังไม่บรรลุขอบเขตจักรพรรดิเซียน แต่เขาไม่ได้โง่
แม้หนิงฝานจะครอบครองปราณในระดับจักรพรรดิเซียน แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของเขาไม่ต่างจากเซียนทั่วไป หากปะทะกับจักรพรรดิเซียน เขาจะถูกสังหารตายในพริบตา
ดังนั้นจึงเป็นไม่ได้ที่เขาจะเอาชนะโม๋หลัวได้
เว้นแต่หนิงฝานจะก้าวไปยังจักรพรรดิเซียนด้วยตัวเอง ยามนั้นเขาถึงจะแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะโม๋หลัวได้
“ข้าขอถามผู้อาวุโส… เหตุใดท่านถึงยกปราณให้ข้า ข้าไม่มั่นใจแม้แต้น้อยว่าจะเอาชนะมันได้”
“ไม่หรอก… ถึงเจ้าจะไม่มั่นใจ แต่อย่างน้อย 4 ใน 10 ส่วนคือโอกาสที่เจ้าจะทำสำเร็จ!” ไท่ซูมั่นใจในตัวหนิงฝาน
“เจ้าผ่านบททดสอบทั้ง 3 ของข้า ดวงจิตที่เหลือของข้าได้ฟังคำตอบของเจ้า ข้าพึงพอใจในคำตอบของเจ้ามาก”
“ที่ข้ามอบพลังให้ ไม่ใช่เพราะเรื่องพวกนั้น.... แต่ความจริงคือ ในอดีตมีคนเคยบอกข้าว่าคนถัดไปที่สร้างดาราอัสนีไท่ซูได้ คือจักรพรรดิอัสนีที่แท้จริง เมื่อยามนั้นข้าไม่เชื่อ แต่เมื่อได้เห็นด้วยตาของตน ข้าจึงเชื่อ”
“คนผู้นั้นได้มอบแผ่นหยกไว้ให้ข้า ซึ่งภายในนั้นคือวิชาอัสนี บางที...อาจมีเพียงเจ้าเท่านั้นที่ใช้มันได้ แม้เจ้าจะเข้าใจวิชาที่ไม่ถ่องแท้ แต่ตรายใดที่เจ้าใช้มันออกมาได้ ก็มากพอที่จะสังหารโม๋หลัวแล้ว แต่หากเจ้าใช้มันออกมาไม่ได้ พวกเราก็คงต้องจบชีวิตลงที่นี่”
“คำตอบที่เจ้าใช้เพื่อผ่านบททดสอบของข้าในวันนั้น คือกุญแจสำหรับวิชานี้ และกุญแจที่ว่าสมควรเป็นหมอกเมฆาม่วงของเจ้า!”
เมื่อกล่าวจบ ไท่ซูโคจรปราณ อัสนี 7 สีก่อตัวเป็นหยกแผ่นหนึ่งลอยมายังเบื้องหน้าหนิงฝาน
หนิงฝานแผ่สัมผัสเทพเข้าไปภายใน เขาเห็นชายชราคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนยอดเขา มือเอื้อมคว้าไปเบื้องหน้า สร้างหมอกเมฆาม่วง
หนิงฝานไม่อาจมองเห็นใบหน้าของชายชราได้ชัดนัก เพราะพลังแห่งชีวิตบดบัง
แต่ถึงอย่างนั้น กลิ่นอายพลังของชายชรากลับทำให้หนิงฝานคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก ราวกับชายชราผู้นั้นคือจักรพรรดิเซียนสื่อเซ่า
หนิงฝานจ้องมองหมอกเมฆาม่วงของชายชราอย่างละเอียด
ก่อนที่ชายชราจะสร้างหมอกเมฆาม่วง แต่ละนิ้วของชายชราใช้ดรรชนีกระบี่ เมื่อเอาดรรชีกระบี่ทั้ง 5 มารวมกัน จึงให้กำเนิดหมอกเมฆาม่วง และอาศัยหมอกเมฆาม่วงจากพลังแห่งชีวิต สร้างเป็นวิชาฝ่ามือขึ้นมา
ฝ่ามือของชายชรานั้นลึกล้ำมาก แฝงไปด้วยความจริงและคำลวง แต่หนิงฝานกลับรู้สึกราวกับตนเองเข้าใจเป็นอย่างดี
“ฝ่ามือนี้ทรงพลังมาก มีโอกาสที่จะเกิดภาพติดตา เทียบกับดวงตาปีศาจของโม๋หลัว มันทรงพลังยิ่งกว่า! เพราะเมื่อยู่ต่อหน้าพลังแห่งชีวิตแล้ว ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า”
“ผู้ที่ใช้วิชาฝ่ามือนี้คือสื่อเซ่า… แต่เหตุใดข้าถึงรู้สึกอยู่เสมอว่าคนผู้นี้ไม่ใช่สื่อเซ่า!”
แม้จะอยากรู้ความจริง แต่สิ่งที่หนิงฝานต้องทำตอนนี้คือ ทำควมเข้าใจกับวิชา และต้องใช้มันให้ได้
สิ่งที่หนิงฝานต้องทำความเข้าใจนั้นมีมากมาย ทั้งวิชาดรรชชนีกระบี่ และความเข้าใจในระดับพลัง
ไท่ซูยิ้มกับคำที่หนิงฝานกล่าว เพราะนั่นหมายความว่าหนิงฝานเข้าใจในวิชาระดับหนึ่ง ซึ่งการมองเห็นโอกาสในสร้างภาพติตตานั้น เป็นสิ่งที่ไท่ซูเองก็ไม่อาจมองออกได้ด้วยตนเอง
ไท่ซูยอมรับว่าหนิงฝานเหนือล้ำยิ่งกว่าตน ตั้งแต่ที่หนิงฝานได้ก้าวเข้ามายังโลกแห่งผู้ฝึกตนพร้อมกับความทรงจำของจักรพรรดิสวรรค์ ทั้งยังมีโอกาสได้พบสื่อเซ่าในโลกแห่งความฝัน แสดงว่าเต๋าของเขาเหนือล้ำยิ่งกว่าคนทั่วไปมาก
แต่เมื่อได้ยินคำที่หนิงฝานกล่าว โม๋หลัวสีหน้าแปรเปลี่ยน
มันไม่ชอบให้ผู้ใดมาพูดจาอวดดีต่อหน้ามัน หนิงฝานแค่ได้ปราณในระดับจักรพรรดิเซียน แต่เต๋ายังไม่สูงส่งขนาดพอจะเป็คู่มือให้มันได้ ดังนั้นมันจึงไม่สนใจหนิงฝานได้
“ข้าให้เวลาเจ้าทำความเข้าใจ ข้าก็อยากเห็นเหมือนกัน วิชาที่เจ้ามั่นใจว่าจะเอาชนะข้าได้จะทรงพลังขนาดไหน”
“ข้าเดิมพันว่าวิชาของเจ้าไม่อาจต้านรับวิชาของข้าได้...”
โม่หลัวเชื่อว่าหนิงฝานไม่อาจรับมือกับวิชาของมันได้ แต่ถึงอย่างนั้นในสายตาของมัน การที่บังคับให้มันใช้วิชาเนตรปีศาจได้นั้น นับเป็นจักรพรรดิเซียนชั้นแนวหน้าของแดนสวรรค์
แต่ทันทีที่มันกล่าวจบ หนิงฝานกลับชูมือซ้ายขึ้น กำมือเข้าหากัน แสงเจิดจ้าราวกับดวงตะวันปรากฏ
แสงดวงนั้นก่อตัวและเปลี่ยนรูปร่างเป็นหอกสีทองที่ลุกโหมด้วยเพลิงสีทอง
หอกสีทองผสานเข้ากับดาราเทพ ดาราปีศาจ และและดาราอสูรของหนิงฝาน ทำให้แสงที่มันเปล่งออกมายิ่งเข้มข้นจนยากจะมองเห็น
วิชาหอกตะวัน!
หอกตะวันที่หนิงฝานใช้นั้น ไม่ใช่วิชาระดับสูงแต่อย่างใด ทั้งยังใช้ปราณเพียงน้อยนิด แต่ถึงอย่างนั้น มันกลับทรงพลังมากพอที่จะสังหารขอบเขตไร้แบ่งแยก
แต่การที่หนิงฝานใช้วิชาจู่โจมเพียงเพื่อสังหารขอบเขตไร้แบ่งแยกต่อหน้าโม๋หลัว นับเป็นเรื่องที่น่าอับอาย
นี่หรือวิชาที่ไท่ซูกล่าวว่าจะเอาชนะโม๋หลัวได้?
“น่าขัน… วิชาขยะแบบนั้นไม่มีทางทำอันตรายข้าได้แม้แต่น้อย ที่บอกว่ามีโอกาส 4 ใน 10 ที่จะสังหารข้า คงเป็นเพียงการโอ้อวดเท่านั้น”
โม๋หลัวหัวเราะลั่น มือไพล่หลังยืนนิ่ง บังคับควบคุมดวงตาปีศาจที่ลุกโหมด้วยเพลิงนับหมื่น ตรงเข้าหาหอกตะวันของหนิงฝาน
การจู่โจมที่สังหารขอบเขตไร้แบ่งแยกได้นั้น เทียบเท่าดวงตาปีศาจหมื่นดวง หากใช้ดวงตาปีศาจมากกว่านี้ ก็ดูไม่คู่ควรกับหนิงฝาน
“ข้อจำกัดของวิชานี้อยู่เพียงระดับไร้แบ่งแยก…. เดิมทีข้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ แต่ในเมื่อข้ามีปราณของจักรพรรดิเซียน ข้าย่อมเปลี่ยนมันได้!”
หนิงฝานหลับตา สัมผัสถึงปราณจักรพรรดิเซียนที่กำลังไหลเวียนอยู่ภายในร่าง จากนั้นถ่ายปราณจำนวนมหาศาลเข้าสู่หอกตะวัน ทำให้เริ่มเกิดการเปลี่ยนแปลง
หอกตะวันที่แฝงด้วยอัสนีของไท่ซู แฝงด้วยความเข้าใจในเต๋าแห่งอัสนีของไท่ซู ทำให้ความเข้าใจในเต๋าของหนิงฝานเพิ่มพูนมากขึ้น
ความรู้สึกยามนี้เหมือนกับครั้งที่หนิงฝานได้กินหญ้ากลั่นวิญญาณเข้าไปเป็นครั้งแรก และสัมผัสเทพของเขาถูกดึงไปไกลจนไม่อาจหวนคืนได้ด้วยตนเอง
“หนึ่งในโลกหล้า!” สีหน้าโม๋หลัวแปรเปลี่ยน
ผู้ที่จะบรรลุจุดที่เรียกว่าหนึ่งในโลกหล้านั้น ในบรรดาผู้เชี่ยชาญหมื่นล้านคน จะมีปรากฏตัวอยู่ 1 คน และคนผู้นั้นจะเป็นผู้ที่มีความเข้าใจในเต๋าอันยิ่งใหญ่เพิ่มมากขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
อย่างน้อยๆ โม๋หลัวและไท่ซูก็ไม่ใช่คนผู้นั้น
“คนผู้นี้บรรลุจุดที่เรียกว่าหนึ่งในโลกหล้าได้ แม้ว่าปราณที่ได้จะไม่ใช่ของตน แต่นับว่าน่าภาคภูมิใจมาก ข้าดูคนไม่ผิดจริงๆ… บางทีเขาอาจช่วยให้โลกอัสนีให้พ้นภัยพิบัติได้...”
ผลพวงของทั้งหมดอาจมาจากเส้นลมปราณหยินหยาง ที่สามารถรองรับและผสานหลายๆสิ่งเข้าด้วยกันได้ จนทำให้หนิงฝานกลายเป็นหนึ่งในโลกหล้า
ไท่ซูฝึกฝนอัสนี โม๋หลัวฝึกฝนปราณปีศาจ ทั้งสองสิ่งไม่อาจผสานเป็นหนึ่งตามความเข้าใจ
แต่หนิงฝานที่สามารถผสานรวมสิ่งที่แตกต่างได้ ย่อมได้เปรียบกว่าคนทั้งสอง
หนิงฝานในยามนี้ราวกับสามารถสร้างวิชาหอกตะวันใหม่ตามความเข้าใจในเต๋าที่เพิ่มพูนได้
“หยินและหยางคือสองขั้วที่แตกต่าง… หอกตะวันเองก็แฝงด้วยความจริงและสิ่งลวง...” หนิงฝานพึมพัม เขามองเห็นจุดด้อยของวิชาหอกตะวัน และกำลังทำให้มันทรงพลัง ทำให้มันกลายเป็นหอกตะวันที่ทรงพลังที่สุด
หนิงฝานยื่นมือไปเบื้องหน้าและคว้าจับอากาศอีกครั้ง หอกตะวันอีกด้ามก่อตัว แต่ในยามนี้ หอกที่ปรากฏออกมาใหม่นั้น เข้าขั้นที่เรียกว่าสมบูรณ์แบบ
หากขอบเขตไร้แบ่งแยกได้สัมผัสหอกตะวันด้ามนี้แม้เพียงนิด ร่างกายของพวกมันจะสูญสลาย กลับคืนสู่ความว่างเปล่า
อานุภาพของหอกตะวันเริ่มเพิ่มพูนขึ้นอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ หากจ้องมองมันจะให้ความรู้สึกราวกับเห็นหอกตะวัน 2 ด้าม แต่ไม่อาจจำแนกได้ว่าด้ามใดจริง
“นี่คือหอกตะวันที่ยกระดับจนกลายเป็นวิชาเซียน ข้าจะตั้งชื่อของมันว่า ‘หอกแยกตะวัน’”
“วิชาเซียน หอกแยกตะวัน!”
หนิงฝานชี้นิ้วไปเบื้องหน้า หอกตะวันนับล้านปรากฏ ระดมเข้าใส่โม๋หลัว!
โม๋หลัวขมวดคิ้ว หนิงฝานเป็นคนแรกที่สร้างวิชาเซียนต่อหน้ามันได้
*ตูม!*
หอกแยกตะวันนับล้านเข้าทำลายดวงตาปีศาจไป 130 ล้านดวง
“แค่ดวงตาปีศาจ 130 ล้านดวง… ยังไม่พอ!” หนิงฝานขมวดคิ้ว
“มีอะไรใช้ออกมาให้หมด! ในระหว่างที่สภาวะหนึ่งในโลกหล้ายังอยู่ จงคิดค้นวิชาออกมา! หากเจ้าทำลายดวงตาปีศาจได้ทั้งหมด เจ้าก็ควรค่าให้เป็นจักรพรรดิเซียนผู้หนึ่ง”
โม๋หลัวสร้างดวงตาปีศาจขึ้นมาใหม่ และรอให้ที่จะได้เห็นการจู่โจมที่ทรงพลังที่สุดของหนิงฝาน
แม้ว่ามันจะต้องตาย สูญเสียที่จะได้หนิงฝานเป็นทาส แต่มันก็แค่กลับสู่สภาวะหลับไหล อีกล้านปีข้าวหน้ามันก็จะคืนชีพกลับมาอีกครั้ง
แต่ที่มันให้โอกาสหนิงฝาน เพราะมันอยากจะยืนยันความคิดของตน ว่าหนิงฝานไม่มีทางเอาชนะมันได้
เมื่อหอกแยกตะวันไม่เป็นผล หนิงฝานจึงเค้นพลังและความเข้าใจในเต๋าทั้งหมด ใช้วิชาตามแผ่นหยกที่ได้จากไท่ซู
เขาต้องทุ่มสุดตัวเพราะโอกาสเช่นนี้คงไม่ได้พบอีกง่ายๆ และที่สำคัญ วันนี้เขาต้องสังหารโม๋หลัวให้ได้
เขาต้องมันได้ชดใช้อย่างสาสม โทษฐานที่ดูแคลนเขา...