37 ลูกเตะไทเกอร์สไตร์เข้า 7 จุดตายแบบต่อเนื่อง!
37 ลูกเตะไทเกอร์สไตร์เข้า 7 จุดตายแบบต่อเนื่อง!
ภายในเวลา 5 นาที หลี่เย้าได้พบกับผู้ที่ถือบัตรเชิญเอาไว้ถึง 4 คน
แต่ถึงอย่างไร โชคในวันนี้ของเขาไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพราะเฮ่อเหลียนเลี่ยไม่ใช่หนึ่งในสี่คนนี้ ดังนั้น เขาจึงยังไม่ได้ลงมือแม้แต่น้อย หลังจากที่ได้แสดงพลังที่น่าหวาดกลัวต่อคนทั้งสี่แล้ว เขาก็ได้เดินหน้าต่อไปยังสนามกีฬา
“หลี่เย้า อย่าได้คิดหนีไปจากฉัน!”
14.44 น. เสียงตะโกนแหลมสูงได้แทงเข้าไปในหูของหลี่เย้า ร่างๆหนึ่งที่เต็มไปด้วยบรรยากาศของความกระหายเลือด ได้ปิดกั้นทางเดินของหลี่เย้าเอาไว้
เขาก็คือ จ้าวเหลียง คนที่ถูกหลี่เย้าทำลายเข่าทั้งสองข้างไปเมื่อเดือนก่อน!
ขาทั้งสองข้างของจ้าวเหลียงได้หายกลับมาเป็นปกตินานแล้ว และในช่วงหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เขาก็ได้ผ่านการฝึกฝนที่ทรมาน อารมณ์ของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ความชั่วร้ายและร้ายกาจของเขาได้เพิ่มขึ้นมา เขาเป็นราวกับดาบสีดำเล่มหนึ่ง ที่กำลังดูดกลืนแสงสว่าง
ใบหน้าของจ้าวเหลียงบิดเบี้ยวราวกับม้า เขาพูดออกมา พร้อมกับหัวเราะอย่างน่ารังเกียจ “ฉันต้องการขอบคุณแกเป็นพิเศษ เพื่อนนักเรียนหลี่เย้า! ฉันยังจดจำได้อย่างชัดเจนว่า เมื่อเดือนก่อนแกทำอะไรกับฉันเอาไว้ มันยังเป็นความทรงจำที่สดใหม่ และอยู่ในความฝันของฉันทุกค่ำคืน! และฉันต้องการที่จะแสดงนับถือต่อแก ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ฉันได้ผ่านการฝึกฝนที่บ้าคลั่ง ความเจ็บปวดที่ฉันได้รับ แกคงไม่สามารถจินตนาการได้! ฮี่ๆๆๆ ในที่สุด เมื่อเวลาผ่านไป จากระดับที่ 41 ของห้อง ฉันก็สามารถขึ้นไปสู่ระดับที่ 33! ฉันไม่ใช่ลำดับสุดท้ายของห้องอีกต่อไปแล้ว! แล้ววันนี้ ฉันจะบอกลาแกด้วย ‘ท่าเตะไทเกอร์สไตร์เข้า 3 จุดตายแบบต่อเนื่อง’ ที่ฉันได้ฝึกมา ฉันไม่รู้ว่า คราวนี้แกจะยังมีแผ่นเหล็กใส่เอาไว้ในหน้าอกของแกอีกรึเปล่า!”
หลี่เย้ายกข้อมือของเขาขึ้นมาดูหน้าจอเครื่องไมโครคริสตัลโพรเซสเซอร์ โดยที่เขาแทบไม่ได้แสดงปฏิกิริยาอะไรออกไปแม้แต่น้อย จ้าวเหลียงไม่มีบัตรเชิญ
“แกไม่มีแม้กระทั่งบัตรเชิญ แล้วแกยังจะมาทำอวดดีอีก! แกคิดว่าเรากำลังแข่งโต้วาทีกันอยู่เหรอไง!?”
หลี่เย้าเหลือบตามอง แล้วตะคอกออกไป เขาได้ย่อเข่าลง และขาทั้งสองข้างของเขาก็ดูคล้ายกับว่าจะใหญ่ขึ้นมาสองเท่า พวกมันเต็มไปด้วยพลังราวกับสปริงที่ขดตัวแน่น!
“วูซซซซซ!”
เพียงพริบตาเดียว หลี่เย้าก็ได้หายไปจากจุดนั้น แล้วไปโผล่ตรงหน้าจ้าวเหลียนภายในเวลาครึ่งวินาที กลิ่นอายที่น่าหวาดกลัวพุ่งเข้าสู่ทุกรูขุมขนของจ้าวเหลียง ด้วยความเร็วสูงสุดของหลี่เย้า ทำให้จ้าวเหลียงไม่ทันได้ตั้งตัว!
ในตอนที่จ้าวเหลียงยังคงแสดงสีหน้าตกตะลึงออกมา หลี่เย้าก็ได้บีบกะโหลกศีรษะของจ้าวเหลียงด้วยมือทั้งสองข้าง ราวกับบีบลูกวอลนัทด้วยคีมเหล็ก จ้าวเหลียงไม่สามารถสลัดตัวเองหลุดออกมาได้เลย!
เข่าข้างขวาของหลี่เย้ากระแทกเข้าใส่ร่างกายของจ้าวเหลียง ราวกับกระสุนปืนใหญ่!
เทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุดของ 13 เทคนิคสัตว์อสูรสงคราม...ลูกเตะไทเกอร์สไตร์!
“บูม!”
ร่างกายครึ่งล่างของจ้าวเหลียงถูกกระแทกจนลอยขึ้นไป ร่างกายของเขาม้วนจนเป็นลูกบอล ดูราวกับกุ้งตัวเล็กๆตัวหนึ่ง เขากระอักเลือดออกมาอย่างรุนแรง ด้านหลังของเสื้อยูนิฟอร์มของเขาฉีกขาด!
หลี่เย้ายังไม่คิดที่จะหยุดแค่เท่านี้ เพียงแค่เท้าขวาของเขาเตะพื้น เขาก็ได้ระเบิดพลังจากเข่าขวาออกไป เข่าทั้งสองข้างของเขาถูกสลับส่งออกไปต่อๆกัน บูม!บูม!บูม!บูม!บูม!บูม!บูม! เข่าทั้งสองข้างพุ่งออกไปถึงเจ็ดครั้งติดต่อกัน ในทุกครั้งที่ส่งเข่าออกไป พลังจะรุนแรงกว่าครั้งก่อนหน้า ลูกเตอะสุดท้าย เข่าที่แข็งแกร่งราวกับแท่งเหล็ก ได้กระแทกเข้าใส่ใบหน้าของจ้าวเหลียง!
ใบหน้าของจ้าวเหลียงยุบลงไป มันดูคล้ายกับว่า เขาได้ถูกค้อนยักษ์ทุบเข้าตรงกลางใบหน้า เขาปลิวออกไปไกลหลายสิบเมตร แล้วตกกระแทกลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง ก่อนที่เขาจะหมดสติไป เขาแทบไม่มีโอกาสได้กรีดร้องออกมาแม้แต่น้อย!
เทคนิคการฆ่าที่ถูกใช้ในกองทัพ—13 เทคนิคสัตว์อสูรสงคราม ลูกเตะไทเกอร์สไตร์เข้า 7 จุดตายแบบต่อเนื่อง!
“อ้า!” ภายในห้องรับรองแขกวีไอพี ห้องที่สาม ที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์ ดังอื้ออึงอยู่ทั่วทั่งห้องเมื่อไม่กี่วินาทีก่อน อีกวินาทีต่อมา ทั้งห้องกลับเงียบกริบ เป็นความเงียบที่ราวกับป่าช้า...ไม่มีใครเคยคาดคิดเลยว่า เด็กนักเรียนชั้นยอดจากคลาสพิเศษ จะพ่ายแพ้ให้กับเด็กนักเรียนปลายแถวคลาสสามัญในชั่วพริบตาเดียวแบบนี้!
“โอ้!” ภายในห้องรับแขกวีไอพี ห้องที่สอง ครูสาวแห่งโรงเรียนเฟิ่งชานเหมินที่สองได้อุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ เธอหันไปมองดูเจิ้งตงหมิงที่อยู่ข้างๆ เจิ้งตงหมิงยกยิ้มขึ้น สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงความประหลาดใจออกมาเลยแม้แต่น้อย
“หืมมม?” ภายในห้องรับแขกวีไอพี ห้องที่หนึ่ง ดวงตาของโจวหยินเป็นประกายขึ้นมา แล้วกลับมาเป็นปกติเหมือนเช่นเคย เขาโบกมือเพียงเล็กน้อย เป็นการเรียกเลขาของเขา หลังจากที่พูดคุยสองสามคำ เลขาของเขาก็ออกไปอย่างเร่งรีบ
เวลาในปัจจุบันคือ 14.53 น.
หลี่เย้าไม่ชายตาแลจ้าวเหลียงอีกต่อไป หลี่เย้าก้าวข้ามร่างของจ้าวเหลียง ราวกับเขาเป็นเพียงแค่ขยะชิ้นหนึ่ง
เสียงการต่อสู้ของคนทั้งสอง ได้สร้างความสนใจให้กับนักเรียนหลายคนที่อยู่บริเวณรอบๆ หลี่เย้ายังไม่ทันจะเดินออกไปได้ไกล ก็มีนักเรียนสามคนจากคลาสพิเศษอันเย่อหยิ่งโผล่มาตรงหน้าเขา พวกเขาจ้องมองหลี่เย้าด้วยสายตาระแวดระวัง
นักเรียนทั้งสามคนนี้ ได้เป็นพยานเห็นเหตุการณ์ ที่หลี่เย้าได้จัดการล้มจ้าวเหลียงด้วยการออกท่าเพียงครั้งเดียว ดังนั้น พวกเขาจึงไม่ลดการระวังตัวลง และนับเขาเป็นตัวอันตรายคนหนึ่ง
“แกคือหลี่เย้าใช่ไหม? ฉันไม่เคยคิดเลยว่า ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมานี้ แกไม่ได้ถูกเฮ่อเหลียนเลี่ยทรมาน แต่กลับแอบซุ่มฝึกฝนตัวเองแทน แล้วแกยังแข็งแกร่งได้ถึงขนาดนี้ด้วย! แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เพราะพวกเราคือ นักเรียนท็อป 20 ของคลาสพิเศษ ระดับของพวกเขามันต่างจากไอ้โล่จ้าวเหลียงมาก!” นักเรียนคนหนึ่งจากคลาสพิเศษส่งเสียงหึออกมาอย่างดูถูก
“นอกจากนี้ พวกเราทั้งสามคนก็ยังได้ฝึกฝนเทคนิคการโจมตีร่วมกัน มาตั้งแต่ที่พวกเราเริ่มเรียนชั้นปีสาม แกไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกเราหรอก!” นักเรียนจากคลาสพิเศษอีกคนพูดขึ้นมา
“ดังนั้น ถ้าแกเป็นคนฉลาด แกก็ควรจะทำตัวดีดี แล้วไปซะ! ไปต่อสู้แย่งบัตรเชิญกับคนอื่นซะ อย่าให้เราต้องเจ็บตัวกันทั้งสองฝ่ายเลย” นักเรียนคนที่สามของคลาสพิเศษสรุปบทสนทนาของพวกเขา
หลี่เย้ามองดูหน้าจอเครื่องไมโครคริสตัล และพบว่า คนทั้งสามต่างก็มีบัตรเชิญอยู่กับตัว
ความแข็งแกร่งของคนทั้งสามอยู่ในช่วงราวๆระดับ 20ของคลาสพิเศษ พวกเขารู้ดีว่าการแย่งชิงบัตรเชิญด้วยตัวคนเดียวเป็นเรื่องที่ยากมาก ดังนั้น พวกเขาจึงได้วางแผนที่จะต่อสู้ร่วมกันเอาไว้ตั้งแต่ต้น พวกเขาได้ใช้เวลาตลอดเกือบทั้งปี ไปกับการฝึกฝนเทคนิคการต่อสู้แบบกลุ่ม จนสมบูรณ์และยอดเยี่ยมด้วยความยากลำบาก และในครั้งนี้ นักเรียนหลายคนที่อยู่ในท็อป 15 ของคลาสพิเศษ ก็ได้พ่ายแพ้ให้กับพวกเขา และพวกเขาก็สามารถแย่งชิงบัตรเชิญมาได้สามใบ!
หลี่เย้าไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรู้เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ และในเวลานี้ก็เหลือเวลาแค่เพียงเจ็ดนาทีเท่านั้น เขากลัวว่า ตัวเขาเองจะไม่มีเวลามากพอที่จะออกไปค้นหาเฮ่อเหลียนเลี่ย
เขาสำรวจดูนักเรียนทั้งสามจากคลาสพิเศษ แล้วทำการวิเคราะห์และคำนวณด้วยความเร็วสูงสุด เขาต้องยอมรับว่า คู่ต่อสู้ทั้งสามคนนั้นอยู่ในระดับสูงกว่าจ้าวเหลียงมาก
เขาตรวจดูหน้าจอเครื่องไมโครคริสตัลอีกครั้ง แล้วเขาต้องท้อใจที่พบว่า นอกจากคนทั้งสามนี้แล้ว นักเรียนอีกเจ็ดคนที่ถือบัตรเชิญเอาไว้นั้น อยู่ไกลจากเขามาก คล้ายกับว่า บางคนได้ซ่อนตัวอยู่ภายในอาคารที่มีความซับซ้อน และพวกเขาส่วนใหญ่ก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว มันคงเป็นเรื่องยากที่จะไปจับพวกเขาได้
“เฮ่อเหลียนเลี่ย ระหว่างพวกเรามีบางอย่างปิดกั้นเอาไว้ ฉันจะรอไปจนถึงตอนแข่งขันท้าทายขีดจำกัดรุ่นเยาว์ เพื่อตัดสินการต่อสู้ระหว่างเราก็แล้วกัน!” หลี่เย้าหรี่ตา แล้วเก็บสายตากลับคืนมาจากนักเรียนทั้งสามคน จากนั้น เขาก็ค่อยๆถอด “กิฟอัพ” ที่ดูล่าสมัยออกอย่างไม่เร่งรีบ
“เขากำลังคิดจะทำบ้าอะไรน่ะ? คงไม่ใช่ว่าเขาคิดจะสู้กับทั้งสามคนนั่นหรอกนะ?” ทุกคนที่อยู่ภายในห้องรับรองแขกวีไอพีต่างงุนงง
“นักเรียนหลี่เย้าสามารถจัดการจ้าวเหลียงได้ในท่าเดียว ถึงแม้ว่าความแข็งแกร่งของเขาจะสูงมาก แต่เขากลับคิดที่จะต่อสู้กับนักเรียนทั้งสามคน ที่มีความสามารถสูงกว่าจ้าวเหลียงอย่างเห็นได้ชัด มันคงจะเกินกำลังของเขาไปหน่อยนะ ว่าไหม?” ครูหลายคนต่างพากันวิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้
และภายในห้องรับรองแขกวีไอพี ห้องที่หนึ่ง ลึกเข้าไปในแววตาของโจวหยิน ผู้อาวุโสแห่งนิกายซื่อเซียวก็ได้เปล่งประกายมากขึ้นเรื่อยๆ
หลี่เย้าย่อตัวลง แล้วพับ “กิฟอัพ” เอาไว้อย่างเรียบร้อย จากนั้น เขาก็วางมันเอาไว้ด้านข้างด้วยความระมัดระวัง
ในเวลานี้ เขาสวมเพียงเสื้อออกกำลังกายและกางเกงขาสั้น เขาได้สวมใส่ “กิฟอัพ” มาเป็นเวลานาน และผ่านความทรมานในการฝึกฝนมาโดยตลอด พวกมันทั้งบางราวกับปีกจักจั่น และสามารถมองเห็นกล้ามเนื้อได้อย่างชัดเจน
รูปร่างของเขาถือได้ว่าธรรมดามาก และแต่ละมัดกล้ามของเขาก็ไม่นับว่ามากมายอะไร
แต่นักเรียนทั้งสามจากคลาสพิเศษต่างก็ไม่เข้าใจว่าทำไม พวกเขาถึงได้รู้สึกเย็นเยียบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว เมื่อหลี่เย้าถอดชุดชั้นนอกออก ก็ดูคล้ายกับว่าได้เกิดบรรยากาศที่เย็นเยียบกระจายออกมา เขาราวกับ...
แรปเตอร์ที่อยู่ๆก็กลายร่างเป็นทีเร็กซ์!
“ปัง!”
หลี่เย้าย้ำเท้าข้างหนึ่งลงไปบนพื้น จนทำให้รองเท้าของเขาฉีกออกเป็นชิ้นๆ! เมื่อเทียบความเร็วกับตอนที่เขาใช้จัดการจ้าวเหลียงแล้ว ในครั้งนี้มันได้เพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า เพียงพริบตาเดียว เขาก็ไปโผล่อยู่ตรงหน้าของนักเรียนคลาสพิเศษทั้งสามคนอย่างรวดเร็ว ลูกเตะไทเกอร์สไตร์แบบต่อเนื่องได้ถูกนำออกมาใช้อีกครั้ง ราวกับมีดร้อนๆที่ผ่าลงไปบนเนย!