ตอนที่แล้วบทที่ 52 เป้าหมายใหม่ของดงซูบิน เสี่ยวหยาน!!
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปบทที่ 54 ฉันจะเสี่ยงเอง!!

บทที่ 53  จุดโทษ!!


บทที่ 53  จุดโทษ!!

ผู้แปล loop

วันถัดมาในตอนบ่ายเวลา 13.00 น.

ดงซูบินยังคงคิดว่าเขาจะได้รับความไว้วางใจของเสี่ยวหยานได้อย่างไร

หลี่ชิงได้สวมชุดกีฬาเข้ามาในสำนักงานกิจการทั่วไป “รถบัสกำลังจะมา อย่าลืมล่ะว่าวันนี้มีการแข่งขันฟุตบอลกัน พวกนายทุกคนควรเตรียมพร้อมได้แล้ว ถ้าตอนนี้ยังไม่อยากเปลี่ยนชุดก็เอาชุดไปเปลี่ยนที่สนามก็ได้ ใส่ชุดทีมของวันก่อนนะ ด้านบนต้องเป็นสีขาวและกางเกงขาสั้น” ใบหน้าของหลี่ชิงเริ่มจริงจัง“ทุกคนฟังนะ มีการแข่งขันอีกเพียง 2 รายการรวมถึงเกมในบ่ายนี้ด้วย เล่นให้ดีที่สุด หัวหน้าเสี่ยวคอยดูพวกเราอยู่ พวกเราต้องไม่แพ้ในครั้งนี้ ทำให้เต็มที่เอาชัยชนะมาให้ได้!”

"เอิ่ม? แพ้ไม่ได้เลยหรอครับผู้อำนวยการหลี่?” ทุกคนเริ่มคร่ำครวญ

หลี่ชิงตอบอย่างหนักแน่น “พวกเราทุกคนต้องถือว่าสิ่งนี้เป็นภารกิจสำคัญของเขตเรา! ทุกคนเข้าใจไหม?”

"ครับท่าน!"

"ครับท่าน!"

เกาแพนเหว่ย และจ้วงจื้อ ตอบทันทีทั้งที่พวกเขาก็ไม่มั่นใจสักเท่าไร

ดงซูบินเองก็แอบดีใจที่เขารอดพ้นจากการแข่งขันในครั้งนี้ เขาเคยได้ยินมาจากต้าหลินเหม่ยว่าทีมของพวกเขาไม่เคยชนะเลยหลังจากผ่านมา 6 เกม รวมถึงยังแพ้อย่างหมดรูปในทุกเกมที่พวกเขาเล่น เช่นคะแนน 5: 0, 3: 0 และ 7: 0 ทีมของพวกเขายังไม่ได้ทำประตูสักประตูเดียวเลยด้วยซ้ำ นี่คือสาเหตุที่ผู้บริหารระดับสูงต้องกำชับลงมาว่านี้คือภารกิจสำคัญที่ต้องชนะเท่านั้น

ดงซูบิน, ต้าหลินเหม่ย และ พี่หยาน ยังคงอยู่ในสำนักงานต่อไป ฉางจ้วง, จ้วงจื่อ และคนอื่น ๆ ติดตามหลี่ชิงออกไป

ในช่วงบ่ายนั้นในสำนักงานไม่ค่อยมีงาน ทำให้ดงซูบินดื่มชาและดูหนังออนไลน์ได้อย่างสบายใจเฉิบ

ในช่วงวันหยุดวันชาติ เวลาเลิกงานของพวกเขาจะเปลี่ยนไปเป็นเวลา 15.00 น. ซึ่งตอนนี้เหลืออีก 5 นาทีจะถึง 15.00 น. และ ต้าหลินเหม่ยก็เริ่มเก็บข้าวของของเธอแล้ว เธอตบหลังของดงซูบินอย่างร่าเริง “ซูบิน! ไปที่สนามกีฬาหยัวถังกัน พวกเราจะได้ไปดูการแข่งขันด้วย ตอนนี้ฉันคิดว่าเขตของเราน่าจะกังวลเกี่ยวกับวิธีการทำให้ชนะในการแข่งขันในแมตซ์นี้ หากพวกเขาแพ้การแข่งขันทั้งหมดในทัวร์นาเมนต์นี้พวกเขาจะด่าแบบไม่เหลือชิ้นดีอย่างแน่นอน”

ซึ่งประจวบเหมาะกัยที่ดงซูบินก็ไม่มีอะไรทำที่อพาทเม้นท์อยู่แล้ว เขาจึงพยักหน้าตอบรับ “ได้สิ! ป่ะ! ไปดูการแข่งขันกัน” การที่เขาเลือกที่จะไปดูการแข่งขันเพราะเสี่ยวหยานเองเธอก็อยู่ที่นั่นด้วย มันอาจจะเป็นโอกาสที่ดงซูบินจะได้ใกล้ชิดกับเธอมากขึ้น

ณ สนามกีฬา หยัวถัง

ทางสำนักได้จองสนามแห่งนี้ไว้แล้ว ดงซูบิน และ ต้าหลินเหม่นแสดงบัตรประจำตัวของพวกเขาเพื่อใช้ในการขออนุญาตเข้าสู่สนาม พวกเขาเดินผ่านอุโมงค์ทางเข้าและได้ยินเสียงเชียร์ที่ดังสนั่นขึ้นมา ภายใต้ดวงอาทิตย์ที่แผดเผาสมาชิกกว่า 20 คนของสำนักงานแห่งรัฐและมั่นคงที่กำลังวิ่งอยู่บนสนาม จ้วงจื่อเหงื่อนั้นมีเหงื่อท่วมตัวและอยู่ในอาการหอบ เขายืนอยู่ใกล้กับเสาประตู ส่วน เกาแพนเหว่ยเองก็กำลังวิ่งไปรอบๆอย่างไร้จุดหมายและตะโกน“ส่ง,  ส่งมาให้ฉัน!” ฉางจี้เองก็ก็ยังคงถือรองเท้าฟุตบอลของเขาและนั่งข้างๆสนาม ดูเหมือนว่าเขาจะได้เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น

"ป้องกัน! ป้องกัน!“ที่ด้านข้างของสนามนั้นมี เสี่ยวหยานในชุดกีฬาที่กำลังยืนอยู่พร้อมกับกำลังตะโกน แนะนำให้ทีมของเธอ” ทุกคนกลับมาและป้องกัน! หมายเลข 21 อ่ะ! ดูดีๆ!”

“อย่าปล่อยเขาเข้ามาได้! หยุดเขาไว้!” หลี่ชิงกำลังถือกระเป๋าของเสี่ยวหยานสะพายข้างของเธอและเธอก็ยังตะโกนใส่ผู้เล่นไม่ขาดสาย

ต้าหลินเหม่ยเริ่มกระซิบไปที่ดงซูบิน“หัวหน้าเสี่ยวของเรานั้นดูจริงจังมากเลย ดูเหมือนว่าเธอจะคาดหวังกับการแข่งขันในครั้งนี้ไว้มากน่าดู ไปกันเถอะ. พี่จ้วงนั่งอยู่ตรงนั้น”

ดงซูบินหยุดอยู่พักหนึ่ง “พวกเราไม่ควรไปทักทายหัวหน้าก่อนหรือ”

“นายไม่เห็นเหรอว่าตอนนี้หัวหน้ากำลังยุ่งอยู่?”

ดงซูบินมองไปที่ด้านหลังของเสี่ยวหยานอย่างเสียดายและเดินตามต้าหลินเหม่ยไปยังที่ที่ฉางจ้วงนั่งอยู่ ซึ่งฉางจ้วงก็นั่งอยู่กับชายหนุ่มและสาวๆจากแผนกการเมืองและฝ่ายการเงิน พวกเขาเชียร์ทีมของพวกเขาอย่างเต็มแรง “ลุยไปเลย ยิง!” แต่เสียงเชียร์ของพวกเขาดูนิ่มนวลมาก เมื่อเทียบกับทีมอื่น ๆ ซึ่งเสียงของพวกเขาแถบจะไม่ได้ยินเลย

“น้องซูบิน น้องหลินเหม่ย มาแล้วหรอ?” จางจ้วงหันมาหาพวกเขาและถือพัดอยู่ในมือเพื่อเอาไว้บังแสงอาทิตย์

ดงซูบินถามอย่างบังเอิญว่า“พี่สาวจ้วง! ทั้งสองทีมเป็นอย่างไงบ้างแล้ว? คะแนนตอนนี้เท่าไรแล้วครับ?”

ฉางจ้วงตอบกลับไปว่า:“ครั้งนี้ทีมเราเล่นได้ดีกว่านัดก่อนๆ คะแนนตอนนี้ 0: 0 และเหลือเวลาอีก 10 นาที ดูเหมือนว่าการแข่งขันครั้งนี้จะเป็นการจับสลาก อย่างน้อยเราก็ทำตามความต้องการของหัวหน้าเสี่ยวที่ไม่ให้เราแพ้ได้”

ต้าหลินเหม่ยอ้าปากค้าง “เราเล่นได้ดีขนาดนั้นเลยหรอ!”

ตอนนี้มันใกล้ถึงช่วงสุดท้ายของการแข่งขันแล้ว และผู้เล่นทุกคนในสนามดูเหนื่อยล้ามากๆ พวกเขาเริ่มวิ่งช้าๆหลังจากลูกบอลโดยไม่มีแท๊คติกหรือมีแท๊คติกใดๆ ทีมจากสำนักงานสาขาเขตตะวันตกไม่ได้มีมาตรฐานการเล่นเดียวกันกับทีมของสำนักสาขา เฉาหยาง ส่วนใหญ่พวกเขาเน้นเล่นตั้งรับมากกว่าและฝ่ายตรงข้ามพยายามทำคะแนนจากการยิงไกล

เสี่ยวหยานเริ่มตะโกนด้วยเสียงแหบแห้งของเธอ:“ตั้งรับให้ดีที่สุด! เหลือเวลาอีกเพียง 10 นาที!เท่านั้น”

หลี่ชิงยังตะโกนว่า“วิ่งให้เร็วที่สุด! ทุกคนวิ่งให้เร็วที่สุด!”

ผู้เล่นของสำนักงานสาขาเขตเฉาหยางหมายเลข 21 วิ่งไปข้างหน้าและรับบอลจากนอกเขตโทษและเขาหันไปยิงที่ประตู ซูม! มันเป็นมุมที่น่าอึดอัดใจและลูกบอลพลาดโดนเสาประตูเพียงนิดเดียว หมายเลข 21 กุมขมับของเขาด้วยความเจ็บปวดและจากนั้นเขาก็ยกนิ้วให้เพื่อนร่วมทีมของเขาที่ส่งลูกบอลมาให้เขา

ดงซูบินเริ่มกะพริบตา “ผู้ชายคนนั้นคือใคร? ทำไมเขาถึงเล่นได้ดีจัง?” ดงซูบินเองก็เล่นฟุตบอลกับเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยของเขา แม้ว่าเขาจะไม่ได้เล่นเก่งอะไร แต่เขาก็สามารถบอกความแตกต่างระหว่างผู้เล่นที่เป็นมืออาชีพกับมือใหม่ได้ หมายเลข 21 นั้นอยู่ในระดับที่แตกต่างจากผู้เล่นของอื่นๆมาก

ฉางจ้วงตอบกลับไปว่า:“ฉันได้ยินมาว่าผู้ชายคนนี้เคยเป็นทีมเยาวชนของชาติมาก่อน เขาเป็นนักฟุตบอลมืออาชีพถ้าเทียบกับคนอื่นๆ เขาเกือบจะทำลายการตั้งรับของเราได้หลายครั้งแล้ว”

เสี่ยวหยานที่อยู่ไม่ไกลนักก็ตะโกนด้วยความโมโห “ล็อกตัวหมายเลข 21! อย่าให้เขาได้ลูกบอล!”

ไม่กี่วันมานี้เสี่ยวหยานเธออารมณ์ไม่ค่อยดี เพราะเธอคิดว่าสิ่งเหล่านี้เป็นการแข่งขันที่กระชับมิตรเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของเขาเกิดความสามัคคีผ่านกิจกรรมกีฬา นั่นเป็นเหตุผลที่เธอมาทำหน้าที่ผู้จัดการทีมและโค้ช แต่สำนักงานสาขาที่เหลือนั้นพยายามอย่างเต็มที่โดยไม่คิดว่านี้เป็นการแข่งขันกระชับมิตรธรรมดาและมันทำให้ทีมของเธอก็พ่ายแพ้ตั้งแต่เริ่มการแข่งขันและแพ้มาตลอด มันทำให้เสี่ยวหยานยอมไม่ได้และออกคำสั่งในการแข่งขั้นในครั้งนี้ ทีมของเธอต้องได้รับชัยชนะและจะแพ้อีกต่อไปไม่ได้แล้ว

เหลืออีก 8 นาที……

เหลืออีก 5 นาที……

คะแนนยังคงเป็น 0: 0

เสี่ยวหยานรู้สึกโล่งอก เธอมองหญิงวัยกลางคนที่กำลังดูการแข่งขันออกไปไม่ไกลและขมวดคิ้ว

หญิงสาวคนหนึ่งถือป้ายเชียร์และเมื่อเธอเห็นเสี่ยวหยานจึงหันมาเยาะเย้ย

ดงซูบินกำลังเฝ้าดูเสี่ยวหยานพร้อมกับดูเกมการแข่งขั้นไปด้วย เมื่อเขาสังเกตเห็นรายละเอียดการแข่งทุกอย่าง เขาถามต้าหลินเหม่ย ว่า “เธอรู้ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร? ดูเหมือนหัวหน้าเสี่ยวจะไม่ชอบเธอมากๆเลยนะ เธอเป็นผู้จัดการทีมของทีมเฉาหยางหรือป่าว?”

ต้าหลินเหม่ยมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ “ฉันไม่เคยเห็นเธอมาก่อน พี่จ้วงพี่รู้จักเธอคนนั้นไหม”

“ใคร?” ฉางจ้วงมองไปยังทิศทางที่ดงซูบินกำลังชี้ “ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?”

ดงซูบินถามว่า:“เธอคือใคร”

ฉางจ้วงมองไปรอบ ๆ เธอแล้วลากต้าหลินเหม่ย และดงซูบินไปด้านข้าง “ชื่อของบุคคลนั้นคล้ายกับหัวหน้าเสี่ยว เธอชื่อเสี่ยวหยานด้วยเช่นกัน เธอเป็นรองผู้อำนวยการกองการเมืองของสำนักงานเขตสาขาตะวันออก โอ้! ฉันรู้แล้วว่าทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่ พรุ่งนี้เป็นการแข่งขันนัดสุดท้ายของเรากับสำนักสาขาภาคตะวันออก เธอควรจะอยู่ที่นี่เพื่อจะมาดูทีมของเรา”

ดงซูบินเริ่มงงงวยแล้ว “นี่ไม่ใช่การแข่งขันเพื่อกระชับมิตรหรือยังไง? จำเป็นต้องจริงจังขนาดนี้ไหม?”

ฉางจ้วงหัวเราะ “มีหลายสิ่งที่พวกเธอยังไม่รู้ หัวหน้าเสี่ยวและผู้ตัดสินทางการเมืองเสี่ยว ไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไร สำหรับคนอื่น ๆ นี่อาจเป็นการแข่งขันกระชับมิตรก็ได้นะ แต่สำหรับคู่นี้ไม่ใช่ ฉันได้ยินมาว่าพวกเขาทั้งคู่โต้เถียงกันบ่อยครั้งระหว่างการประชุมที่สำนักงานใหญ่ของเมือง อืม ...... ฉันจะบอกความลับอื่นกับพวกเธอ แต่พวกเธอต้องเงียบเอาไว้เลยนะ” ฉางจ้วง ลดเสียงของเธอลง “พวกเธอรู้หรือไม่ว่าหัวหน้าเสี่ยวพึงหย่าร้างกับสามีเก่าของเธอ และสามีเก่าของเธอก็ไปแต่งงานใหม่และเจ้าสาวคนใหม่ของเขาคือเสี่ยวหยานคู่ปรับของเธอนั้นเอง เพราะเหตุผลนี้……ฮิฮิ… .. พวกเธอเข้าใจสถานการณ์ตอนนี้ใช่ไหม”

ต้าหลินเหม่ย พูดว่า:“โอ้……ฉันเองก็ยังคงสงสัยว่าทำไมหัวหน้าเสี่ยวจึงออกคำสั่งเช่นนั้น เธอไม่ต้องการถูกคู่แข่งของเธอมองว่าต่ำต้อยสินะ!”

ดงซูบินก็เข้าใจสถาณการณ์นี้เช่นกัน

ฉางจ้วงตอบว่า:“อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย มันไม่ดีเลยถ้าข่าวกระจายไปทั่ว และก็การแข่งขันใกล้จะจบแล้ว มาเถอะ! มาเชียร์ทีมของเรากัน!”

เหลือเวลาอีกเพียง 3 นาทีเท่านั้น

ต้าหลินเหม่ยโบกมืออย่างตื่นเต้น:“ทีม!สู้ๆสู้ๆ ไปไปไป!”

ดงซูบินยังได้รับอิทธิพลจากบรรยากาศและเริ่มส่งเสียงเชียร์ให้กับทีมของพวกเขา:“ตั้งรับ! ป้องกัน!”

ดงซูบินและคนที่เหลือหวังเพียงแค่ขอให้เสมอเพียงเท่านั้น

แต่สิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่พวกเขาต้องการ เกาแพนแหว่ยซึ่งเล่นอยู่กองหลังได้วิ่งเข้าไปชนหนึ่งในเพื่อนร่วมทีมของเขานอกเขตโทษทำให้ทั้งคู่วิ่งชะลอตัวลง นี่เป็นโอกาสอีกครั้งของหมายเลข 21 ที่จะฝ่าด่านตั้งรับนี้เข้าไป เขาวิ่งเข้าไปในเขตโทษพร้อมกับลูกบอลและสับขาหลอกให้กองหลังรู้สึกสับสนก่อนที่เขาจะเดินหน้าต่อไปและเหลือเพียงผู้รักษาประตูเท่านั้นที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขา!

ผู้รักษาประตูคนนั้นคือเสี่ยวเกาจากส่วนการเมือง เขาไม่รู้วิธีเล่นฟุตบอลด้วยซ้ำ เขาได้รับเลือกให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมเพราะเขาตัวสูง อีกทั้งในตอนนั้นเสี่ยวเการีบวิ่งไปข้างหน้าเพื่อพยายามบังหมายเลข 21 แต่เขาก็บังเอิญสะดุดล้มลงที่พื้นและขาของเขาก็เข้าไปเกี่ยวกับขาของหมายเลข 21  จนหมายเลข21ล้มลงกับพื้น!

ทั้งเสี่ยวเกา และหมายเลข21 กลิ้งลงบนสนามด้วยความเจ็บปวด

“ปี๊บ! ปี๊บ!”

กรรมการแข่งขันจากสำนักเมืองเป่านกหวีดและชี้ไปที่จุดที่ทั้งคู่ล้มลง! “จุดโทษ!”

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด