บทที่ 201 - ฤดูกาลที่สอง (4) [12-07-2020]
บทที่ 201 - ฤดูกาลที่สอง (4)
”
โกเลมบ้านไหนกันที่มีกระดูก!? ถ้าหากว่ามันจะมีกระดูกก็คงจะเป็นโกเลมที่สร้างขึ้นมาจากกระดูกเท่านั้น หรืออีกอย่างหนึ่งก็เป็นโกเลมที่สร้างขึ้นมานาจากเนื้อที่ผสมกับกระดูก แต่ไอเจ้านี่มันไม่ได้เป็นหนึ่งในสองตัวนั้น ฉันได้คิดอย่างละเอียดและได้รู้ว่ามันไม่ใช่โกเลม
"แกคือ..."
[ก๊าาาา]
แขนเหล็กของมันได้ยืดออกมาเหมือนกับตะขอโจรสลัดมาทางฉัน นี่ยิ่งย้ำหนักให้กับฉันที่ว่ามันไม่ใช่โกเลมแต่เป็นสิ่งมีชีวิตอื่น โกเลมมันไม่มีทางที่จะเปลื่ยนแปลงร่างกายของมันแบบนี้ได้ ยังไงก็ตามมันสามารถจะคงตัวตนของเหล็กและยืดแขนออกมา ตัวตนของมันคืออะไรกันแน่? จริงๆแล้วภายใต้เหล็กมันมีกะรดูกอยู่ข้างในงั้นหรอ...? ไม่สิ ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่ฉันจะมาคิดถึงเรื่องนี้
"ล็อทเต้หลบ"
[ไว้ใจได้เลย]
ล็อทเต้ได้หลบแขนเหล็กในทันที ในเวลาเดียวกันปีกของเธอก็สร้างวังวนเพลิงสีดำ ดูเหมือนว่าเธอจะแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นจากการไปที่ทวีปพาแนนมา มันเป็นเพราะเธอได้ใช้เวลาอยู่กับฉันมากงั้นหรอ? หรือว่ามันเป็นเพราะเธอมีส่วนร่วมในการต่อสู้? ไม่ว่ายังไงก็ตามฉันก็จะต้องคิดถึงการพัฒนาของพลีนด้วยอีกคน
[ฮีโร่มันจะทำอะไรบางอย่าง]
"ไม่มีปัญหา ฉันรู้แล้วว่ามันคืออะไร ดังนั้นฉันจะจบมันเดี๋ยวนี้แหละ"
บอสชั้นที่ 60 ไม่น่าจะมีพลังพอที่จะขวางทางฉันได้นานเกินกว่า 9 วินาที มันดูเหมือนว่าพลังของมันคือการควบคุมจัดการร่างกายขนาดยักษ์ที่เหมือนกับเหล็กนั้นได้อย่างอิสระ ถึงแม้ว่ามันจะมีทักษะลับอีกหนึ่งหรือสองอย่าง แต่ฉันก็ไม่ได้สนใจ กลับกันแทนที่จะรอให้มันได้ใช้ออกมา ฉันได้ตัดสินใจที่จะฆ่ามัน
ยังไงก็ตามเพียงแค่ในตอนที่ฉันคิดแบบนั้น ร่างกายเหล็กของมันก็เริ่มเดือดขึ้น ตามที่ล็อทเต้พูดออกมา มันกำลังเตรียมจะทำอะไรบางอย่าง
"นั่นคืออะไร"
[มันกำลังเปิดฮีโร่]
ใช่แล้ว! ล็อทเต้ได้เพิ่มความเร็วขึ้น ในขณะเดียวกันฉันก็ได้ปกคลุมมใบมีดที่ขยายออกไปด้วยออร่าสีขาวและเพลิงโกลาหล ทักษะที่ฉันเลือกคือฮีโรอิคสไตรค์
ดูเหมือนว่ามันกำลังพยายามจะเปลื่ยนร่างไปเป็นบางอย่าง ยังไงก็ตามก่อนที่มันจะได้เปลื่ยนร่างสมบูรณ์ ฉันก็ได้ไปถึงตัวมัน การขัดขวางการกลายร่างของมันคือหนึ่งในความรู้สึกที่ดีที่สุด
"สังเวย"
ออร่าสีดำได้ห่อคมหอกของฉันเอาไว้ เมื่อรู้ว่าคมหอกในตอนนี้ได้เต็มไปด้วยพลังฉันรู้สึกลังเลเล็กน้อยที่จะแทงไปข้างหน้า ยังไงก็ตามฉันก็คิดว่าการทำร้ายตัวเองมันก็ยังดีกว่าให้มันทำให้สิ่งที่น่าสงสัยนั่น ฉันได้แทงออกไปข้างหน้าทันที
[ติดคริติคอล]
หอกของฉันได้แทงทะลุร่างของมันก่อนที่การเปลื่ยนแปลงจะสมบูรณ์ ในเวลาเดียวกันฉันก็รู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่เสียดแทงเข้ามาจำนวนมาก มันราวกับว่ามีใครบางคนมาบีบหัวใจของฉันและเผามัน จากนั้นความเจ็บปวดได้กระจายออกไปทั่วร่างของฉัน บางทีมันอาจจะเหมือนกับถูกลาวาเผา หรือไม่ก็อาจจะเป็นการถูกแทงด้วยเข็มนับพัน
ทันใดนั้นทุกๆอย่างในสายตาของฉันก็เปลื่ยนเป็นสีขาว ทักษะนี้...ฉันไม่สามารถจะควบคุมมันได้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นก็เรื่องหนึ่งแล้ว แต่ที่ยิ่งไปกล่านั้นฉันไม่สามารถจะขยับตตัวได้เลยแม้แต่นิด ถ้าฉันจัดการศัตรูไม่ได้ก็จะเป็นฉันเองที่จะถูกจัดการ
อย่างที่ฉันพูดไปนั้นมันก็เป็นเพียงความเสียหายเพียง 50% ในขณะศัตรูได้รับความเสียหาย 200% แถมด้วยศัตรูในตอนนี้ที่มีกระดูกและได้รับความเสียหายแบบคริติคอลมันรวมได้ถึง 600% ไม่ว่ามันจะเป็นอะไรก็ตามร่างกายของมันได้ระเบิดกระจายในทันที การระเบิดบอดประจำชั้น.... สังเวย ฉันชอบมัน
[ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่! คุรได้เอาชนะบอสประจำชั้น 'ด็อพเพิลเก็งเกอร์ระดับสูง' เพียงลำพัง]
[คุณเลเวล 61 คุณได้รับคุณสมบัติที่จะท้าทายบียอนชั้นที่ 10]
[คุณได้รับโบนัสสเตตัส 5 แต้ม]
[คุณได้รับฉายา 'นักล่าด็อพเพิลเก็งเกอร์ระดับสูง' สเตตัสทั้งหมดเพิ่ม 1 อย่างถาวร]
[คุณได้เอาชนะด็อพเพิลเก็งเกอร์ระดับสูงเพียงลำพัง คุณได้รับรางวัลพิเศษ 'หมวกด็อพเพิลเก็งเกอร์ระดับสูง']
[คุณได้รับเงิน 400,000 เหรียญทอง]
[เลือกรางวัลของคุณ
1.หนังสือเวทย์สับเปลื่ยนอาวุธ]
หลังจากยืนยันว่ามันตายลงไปแล้วฉันก็ล้มตัวลงไปบนหลังล็อทเต้ ใช่แล้วถ้าหากมันไม่ตายฉันก็จะตกอยู่ในความลำบากแน่ๆ แต่เดี๋ยวนะมันคือดอพเพิลเก็งเกอร์? ฉันเดาถูก
[นายโอเคนะฮีโร่? นายดูเหมือนจะได้รับการโจมตีอย่างหนักมา]
"ฉันไม่เป็นไร จริงๆแล้วความเจ็บปวดนี้มันทำให้ฉันดีใจนิดหน่อยนะ มันเป็นสิ่งย้ำเตือนไม่ให้ฉันหยิ่งผยองจนเกินไป
[เป็นคำพูดที่ฉลาดสมกับเป็นนักรบ]
ฉันได้ยิ้มกับคำชมของล็อทเต้ในขณะที่โคจรวงจรเพรูต้าไปด้วย มันดูเหมือนว่าพลังชีวิตของฉันจะลดลงต่ำกว่า 10% แล้ว หลังจากที่จัดการชั้นนี้แล้วฉันก็มั่นใจ
ทักษะสังเวยมันมีข้อบกพร่องที่ชัดเจน แต่ว่าหากใช้มันถูกเวลามันจะเป็นตัวช่วยที่มหาศาล บางทีมันอาจจะดีที่สุดที่จะใช้มันกับทักษะที่อ่อนแอเพื่อลดความเสียหายที่ฉันได้รับหรือไม่ก็ใช้ทักษะที่ทรงพลังในทีเดียวเพื่อปิดฉากศัตรู หรือไม่บางการใช้กลืนกินก็อาจจะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องของทักษะสังเวยได้
"ยังไงก็ตามันดูเหมือนว่าฉันจะไม่ใช่คนแรกที่เคลียร์ดันเจี้ยนนี้เพียงลำพังสินะ...เอาเถอะฉันคิดเอาไว้แล้วล่ะ ฉันจะไม่ตกใจเลยถ้าหากมันจะเป็นแบบเดียวกันในชั้นต่อๆไป"
โลกนี้มันกว้างใหญ่และมีนักสำรวจที่โดดเด่นมากมาย มีนักสำรวจมากมายที่มีพรสวรรค์มากพอที่จะทำแบบนี้ ในความจริงแล้วเดซี่ก็สามารถจะทำมันได้โดยไม่ยากเลย
สำหรับในตอนนี้ฉันได้ตัดสินใจมองไปที่รางวัล แม้ว่าฉันจะไม่ได้คาดหวังอะไรมากนะ ฉันก็ได้หยุดความคิดเอาไว้และเลือกรางวัล ข้อความได้ดังขึ้นมาในทันที
[คุณได้เรียนรู้ทักษะ 'สับเปลื่ยนอาวุธ' ด้วยการใช้มานา 1000 ของคุณจะทำให้คุณสามารถเปลื่ยนไอเทมในมือของคุณได้ในทันที 15 วินาทีหลังจากที่ใช้สับเปลื่ยนอาวุธ อาวุธของคุรจะเพิ่มประสิทธิภาพขึ้น 10% ระยะเวลาของบัพและการเพิ่มประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้นตามเลเวลของทักษะ]
"หือ?"
ไม่ได้แย่เลยนี่ ในตอนแรกฉันสงสัยว่าทำไมเทคนิคทางกายภาพถึงกลายมาเป็นเวทย์ได้ แต่ว่าด้วยผลของมันนี้ก็เหมือนกับเวทย์จริงๆ
อย่างเช่นถ้าหากศัตรูซุ่มโจมตีฉันในตอนที่ฉันมือเปล่า ฉันสามารถใช้ทักษะสับเปลื่ยนอาวุธเพื่อเรียกมันออกมาโดยไม่สายเกินไป แม้ว่าฉันจะต้องใช้มานา 1000 หน่อย ซึ่งสิ่งที่ต้องใช้นี่ฉันก็สามารถจะรับมือกับมันได้สบายๆ นอกจากนี้ทักษะนี้ยังสามารถสับเปลื่ยนเป็นอาวุธในรูปแบบต่างๆได้ตามสถานการณ์อีกด้วย
ทักษะหน้าไม้ของฉันนั้นมาถึงระดับสูงแล้วมันจึงทำให้โจมตีในระยะไกลได้เป็นอย่างดี ถ้าหากว่าฉันเจอศัตรูในระยะใกล้ฉันก็สามารถจะใช้ทักษะนั้นเปลื่ยนมาใช้หอกจัดการได้ในทันที
ไม่ต้องพูดถึงของใหม่ๆที่อาจจะมาอีกด้วย...หุหุ
"เอาล่ะ มาเริ่มบดขยี้ไอเทมจากบอสตัวนี้กัน"
เมื่อได้รับกำลังใจจากทักษะใหม่ที่ดีกว่าที่ฉันคิดฉันได้กระโดดบนลงจากหลังของล็อทเต้ที่กลายมาเป็นร่างมนุษย์
[ฮีโร่ ตัวของฮีโร่กำลังสั่น]
"ฉันอาจจะขาดเลือดนะ... ไปพักกันสักนิดเถอะ..."
ฉันแทบจะลืมไปเลยว่าพลังชีวิตฉันลดไปจากทักษะสังเวย ในตอนที่ฉันออกจากห้องบอสฉันก็ได้ซื้อน้ำผลไม้เพิ่มพลังและเนื้อย่างฟื้นฟูพะลังชีวิตจากโรเล็ตต้า จากนั้นก็ไปสู้กับดอพเพิลเก็งเกอร์ต่อ
[ก๊าซซซซซซซ มนุษย์ ฉันจะ....]
"ตาย"
ในตอนที่ดอลเพิลเก็งเกอร์กำลังจะเปลื่ยนร่างของมันเหมือนพวกวายร้ายฉันได้ฆ่ามันด้วยหอกของฉัน ในวันนี้ฉันจะต้องฆ่ามัน 10 ครั้งและในตอนท้ายมันได้จบลงด้วยการที่ฉันใช้ทักษะสังเวยกับฮีโรอิค สไตรค์ ในตอนนี้ฉันรู้สึกความเจ็บปวดจากทักษะสังเวยได้ลดลงไปแล้วเหมือนกับว่าฉันได้เคยชินกับมัน สิ่งนี้ทำให้ฉันตัวสั่นกับศักยภาพของทักษะสังเวย
"หรือไม่บางทีฉันอาจจะเป็นแค่พวกโรคจิตนะ...."
ให้ตายสิ ฉันไม่ควรจะพูดแบบนั้น
ฉันได้ตอบสนองไปโดยสัญชาตญาณและเลือกไอเทมจากลิสรางวัล ชั้นที่ 60 นี้ก็ยังคงมีอิลิกเซอร์เสริมแกร่ง มันไม่อะไรอื่นนอกจาก 'อิลิเซอร์วงจรมานา'
อิลิกเซอร์นี้ได้เพิ่มพลังเวทย์และเสน่ห์ของฉันขึ้น 1 นอกจากนี้มันยังทำความสะอาดวงจรมานาของฉันและเพิ่มคุณภาพของมานา เพราะบบนี้ฉันจึงรู้สึกเหมือนกับกำลังอาบน้ำในทุกๆครั้งที่กินมัน
มันใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงในการฆ่าบอสตัวนี้ มันค่อนข้างที่จะง่ายที่จะล่าเพราะว่าฉันเพียงแค่จะต้องล่ามันก่อนที่จะเปลื่ยนร่าง
แม้ว่ามันจะอยู่ในร่างของโกเลมยักษ์แต่ในตอนที่มันได้รับความเสียหายมันก็จะเริ่มเปลื่ยนร่าง แต่ไม่ว่ายังไงฉันก็ไม่เคยได้เห็นการเปลื่ยนร่างของมันจนรสมบูรณ์เลยสัแครั้ง ฉันเดาว่ามันน่าจะเอารูปร่างของนักสำรวจที่โจมตีมัน
เนื่องจากว่ามันจะแปลงร่างหลังจากได้รับความเสียหาย ฉันจึงฆ่ามันได้อย่างง่ายดายด้วยการดัดหัวของพกวกมันในการโจมตีครั้งแรกหรือไม่ก็จบชีวิตมันในการโจมตีที่สองก่อนมันจะแปลงร่าง มันเห็นได้ชัดเลยว่าการต่อสู้จริงๆจะเริ่มหลังจากมันแปลงร่าง
แม้ว่าการฆ่ามันในการโจมตีครั้งแรกจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด แต่ว่าสำหรับนักสำรวจที่ไม่ได้มั่นใจในพลังโจมตีของตัวเองมันก็อาจจะดีกว่าที่จะฆ่ามันในการโจมตีที่สอง ยังไงก็ตามในตอนที่มันแปลงร่างจะเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่ามันช้าลง แน่นอนว่าถ้าพวกเขาไม่สามารถฆ่ามันได้ในครั้งที่สอง พวกเขาก็ทำเพียงแค่ยอมแพ้
....ทำไมฉันถึงพูดเรื่องนี้กันนะ?
ในตอนที่ฉันออกมาจากห้องบอสด้วยท่าทางเหนื่อยๆ โรเล็ตต้าที่ยิ้มอย่างสดใสก็ได้กระโดดเข้ามาหาฉัน
"ชินนี้คือรอบที่สิบแล้วใช่ไหม? ถ้างั้นมาเล่นกับฉันสิ ชินสามารถจะไอเทมอะไรได้ในขณะที่นายอยู่ที่นั่น"
"ฉันคิดว่า 'ฉันอยู่ที่นั่น' คือส่วนที่เธอต้องการจริงๆสินะ"
"หยาบคายมาก ก็แค่ครึ่งๆเอง"
ฉันได้เมินคำแก้ตัวของเธอและซื้อที่ฟื้นฟูความเหนื่อยล่าที่มีราคาค่อนข้างจะแพงและเนื้อเพิ่มพลังขีวิต แม้ว่าในขณะที่เธอขายมัน โรเล็ตต้าก็เอียงหัวงง
"ชินจะเอาพวกนี้ไปทำไมหรอ? ไม่ใช่ว่าวันนี้ชินล่าบอสเสร็จแล้วหรอ?"
"อ่า เธอก็รู้โรเล็ตต้า.... นี้มันก็เพราะว่าช่วยที่สองของการทุบตีกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว"
"ช่วงการทุบตี....?"
โรเล็ตต้าดูเหมือนจะเคยได้ยินช่วนี้มาก่อน ในขณะเดียวกันฉันก็ได้แสยะยิ้มออกมา นั่นคือขั้นตอนการทุบตีไงล่ะ
นับตั้งแต่ที่ฉันได้ผ่านช่วงการทุบตีจากพ่อ ฉันก็คิดเสมอว่ามันคืออะไรที่มากกว่าการบรรเทาความเครียดของครูแทนที่จะเป็นการช่วยนักเรียน ในตอนนี้ฉันได้รู้คำตอบแล้ว การแก้นิสัยของนักเรียนและคลายความเครียดของครูมันครึ่งๆ
[เจ้าชาย ฉันมาที่ห้องฝึกซ้อมแล้ว...มันจะเกิดขึ้นจริงหรอ?]
[ฉันกำลังจะไปแล้วเร็น]
[พักก่อนก็ได้ เถอะนะ]
ช่วงการทุบตีที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดของเร็นและความสุขของฉันกำลังรอคอยฉันอยู่