ตอนที่แล้วDTH ตอนที่ 11 การทดสอบที่เสี่ยงตาย
ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDTH ตอนที่ 13 คลายกระดูก

DTH ตอนที่ 12 ดีจริงๆ


“เจ้าขบถ ข้าจะทำให้เจ้าตายซะ!”

หลิน วานยี่ตะโกนด้วยความโกรธ เขาเหวี่ยงแส้ออกไปทันที เมื่อแส้วาดผ่านอากาศเสียงของมันก็ดังราวกับมังกรคำราม

ถ้าแส้เส้นนี้ฟาดโดนหลิน ฟานเข้าล่ะก็ เขาคงจะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งเดือนบนเตียงแน่

“ลูกพี่ลูกน้อง!” แม้ว่าโจว เชียงเหมาจะรู้สึกหวาดกลัวแต่เขาก็ยังคงพุ่งไปข้างหน้า อย่างไรก็ตามแส้เส้นนี่มันเหมือนมีตาเป็นของตัวเอง พลังของมันทำให้อากาศสั่นสะเทือน และก่อนที่เขาจะสัมผัสมันเขาก็ได้บินออกไปแล้ว

“นั่นมันอะไรกัน?!”

หลิน ฟานตกตะลึงและคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผล ความจริงแล้วพ่อของเขาควรให้โอกาสเขาพูดอีกสองสามคำเพื่อที่เขาจะได้มีเวลาเตรียมตัวก่อนไม่ใช่รึไง

แต่ว่ามันยังมีโอกาสให้เขาแสดงได้อยู่

อย่างไรก็ตามเขาจะสามารถรับการโจมตีพวกนั้นได้ไหม?

“ข้าต้องหลบมัน”

หลิน ฟานกลิ้งออกไปด้านข้าง และรีบลุกขึ้นอย่างรวดเร็ว

“ข้าไม่ผิด ท่านต่างหากที่ผิด เพราะถ้าพ่อแย่ มันก็จะเปลี่ยนลูกชายให้แย่ตามเขาไปด้วย”

“ท่านพ่อ ข้าจะเป็นคนทำให้ท่านรู้ว่าท่านผิดตรงไหนเอง”

เขายื่นมือออกมาแล้วตะโกน

“ดาบ!”

มันก็เป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่ดาบที่วางอยู่ด้านข้างมันจะไม่บินมาหาเขาเอง ดังนั้นเขาจึงต้องวิ่งไปหยิบมันและฟันออกไป

ฟุบ!

มันดูรุนแรงเล็กน้อย

แต่ยังอยู่ในระดับที่ดูดี

ในตอนที่เขาหยิบดาบขึ้นมา เขาก็สามารถสัมผัสความสุขจากร่างกายของเขาได้

ดาบในมือมันเปรียบเสมือนมือขวา มันให้ความรู้สึกคุ้นเคยและผ่อนคลาย

ที่เขาคิดแบบนั้นมันเป็นเพราะมือซ้ายของเขาสามารถหักได้ แต่เขาไม่สามารถสูญเสียมือขวาได้

ความรู้สึกที่เขาได้รับตอนนี้มันมีเพียงแค่คนที่ได้รับประสบการณ์แบบเดียวกันเท่านั้นถึงจะเข้าใจ

“ท่านพ่อ เรียนรู้ความผิดพลาดของท่าน และรับดาบของข้าไปซะ” หลิน ฟานตะโกนและใช้กำลังทั้งหมดของเขา จากนั้นก็กระโดดขึ้นไปในอากาศ ดาบในมือของเขาราวกับเสือดุร้ายที่พึ่งหลุดออกมาจากภูเขา มันดูรุนแรงและให้รู้สึกว่าไม่สามารถป้องกันได้

“หืม?”

ดวงตาของหลิน วานยี่ผู้โกรธเกรี้ยวหดลดเล็กลงทันทีเมื่อเห็นฉากตรงหน้า

ราวกับว่าเขาเห็นบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อ

แม้ว่าแส้ที่เขาเหวี่ยงไปมันจะดูทรงพลัง แต่จริงๆแล้วมันเบามาก หากว่ามีคนถูกตีโดยมัน คนๆนั้นก็จะได้รับบาดเจ็บแค่ภายนอกเท่านั้น มันไม่ได้ส่งผลไปถึงภายใน

ที่หลิน วานยี่ไม่กล้าทำอะไรที่มันรุนแรง

เพราะเขากลัวว่ามันจะทำร้ายลูกของเขา

แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่าสิ่งต่างๆมันไม่เหมือนกับที่เขาคิด

หัวใจที่ผิดหวังของหลิน วานยี่เต้นแรงขึ้น แม้ว่าเขาจะใจเย็นลงแล้ว แต่มือของเขาก็ไม่ได้หยุด

มันเหมือนวิญญาณงูออกมาจากถ้ำ

แส้ที่อ่อนนุ่มมันเด้งขึ้นจากพื้นและพุ่งไปทางหลิน ฟานอย่างรวดเร็ว

เมื่อเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ หลิน ฟานก็ตื่นตระหนก

เขาจะไปคุ้นเคยกับการต่อสู้ได้ยังไง?

อย่างไรก็ตาม ดาบในมือของเขาก็เคลื่อนไหวอย่างว่องไวและยืดหยุ่น เขาตอบสนองกลับไปโดยสัญชาตญาณ เขาฟันดาบกลับไปเพื่อเผชิญหน้ากับแส้

เมื่อมันปะทะกัน แส้ก็กระเด็นกลับไป

หลิน ฟานไม่ได้ขยับ มันดูราวกับว่าเขากำลังเตรียมจะฟันกลับไปอีกครั้ง

“หืม นี่ข้าแข็งแกร่งขนาดนี้เลยงั้นรึ?” หลังจากช่วงเวลาสั้นๆแห่งความตื่นตระหนก หลิน ฟานก็กลับกลายเป็นยินดี เพราะตอนนั้นเขาไม่คิดอะไรมาก และต้องการเพียงแค่จะตอบโต้พ่อของเขากลับไปด้วยดาบเท่านั้น

หลิน วานยี่ยืนอยู่ตรงนั้นด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย

“พื้นฐาน”

“ผ่านเข้า”

“รอบรู้”

ในสายตาของเขาวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตที่ลูกชายของเขาใช้ออกมานั้นไม่ปกติ เพราะมันได้มาถึงระดับรอบรู้แล้ว

การเคลื่อนไหวของเขาดูเป็นธรรมชาติและมีจุดอ่อนเล็กน้อยถึงไม่มีเลย

แม้ว่ามันจะมี แต่เขาก็สามารถปรับปรุงได้

หลิน วานยี่ไม่ได้พูดหรือแสดงใบหน้าที่มีความสุขออกมา เขาระงับการเพาะปลูกและพยายามควบคุมพลังของเขา

“เมื่อมองจากสถานการณ์แล้ว ความสามารถของข้ายังไม่พอ ดูเหมือนว่าข้าต้องเพิ่มบางจุดลงไปอีก”

สิ่งที่หลิน ฟานทำข้างนอกวันนี้มันทำให้เขามีความสุข และเขาก็พึ่งค้นพบว่าการเล่นกับดาบมันทำให้เขาสนุกได้นิดหน่อย

วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (ผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง)

มันใช้คะแนนความโกรธไป 500 ตอนนี้เขาเหลืออยู่อีก 621 คะแนน

ดูเหมือนว่ามันยังสามารถเพิ่มได้อีก

และทำเขาก็จะทำมัน

วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาต (จุดสูงสุด)

มันกินไป600คะแนน ดังนั้นตอนนี้เขาจึงเหลืออยู่แค่ 21คะแนนเท่านั้น

ทันใดนั้นหลิน ฟานก็รู้สึกว่าดาบในมือของเขามันเปลี่ยนไป ความคุ้นเคยมันแตกต่างจากก่อนหน้านี้มาก ตอนนี้เขารู้สึกว่าต่อให้เขาหลับตาและฟังแต่เสียง เขาก็สามารถระบุได้เลยว่ามันเป็นวิชาอะไร

เมื่อหลิน วานยี่ขยับขอมือของเขา แส้มันก็เด้งขึ้น และพุ่งไปที่ขาของหลิน ฟาน

จุดอ่อนของวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตคือมันไม่สามารถป้องกันส่วนล่างของร่างกายได้

เขาต้องการที่จะเห็นว่าเจ้าเด็กเหลือขอคนนี้ฝึกวิชาดาบไปถึงไหนแล้ว

ในความคิดของเขา

ระดับรอบรู้มันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาตกใจแล้ว

หลิน ฟานต้องการจะฟันต่อ แต่เขาไม่คิดเลยว่าแส้มันจะพุ่งมาที่ขาของเขา

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้ตื่นตระหนก

ดาบในมือของเขาเป็นเหมือนกรงเล็บ ปักแส้ที่เข้ามาลงพื้นได้อย่างแม่นยำ

ดาบฟันต่อเนื่องทำให้แส้มันถูกหั่นครึ่ง

“นี่...” ดวงตาของหลิน วานยี่เบิกกว้าง เขาตกใจยิ่งกว่าเดิม

จุดสูงสุด

การฝึกฝนของเขามันมาถึงดินแดนที่สูงจริงๆ

วิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตมันเป็นเพียงเทคนิคการใช้ดาบพื้นฐาน

ตัวเขาเองก็เคยฝึกฝนมันมาแล้วในอดีต

เขาฝึกมันอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงและหยุดลงหลังจากนั้น

อย่างไรเขายังไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าลูกคนนี้จะฝึกมันจนมาถึงระดับจุดสูงสุดแล้ว

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาตกตะลึง

แม้ว่าหลิน ฟานจะมาถึงตรงหน้าแล้ว เขาก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะหยุดมัน

“ท่านพ่อมีความแข็งแกร่งเพียงเท่านี้งั้นเหรอ?”  หลิน ฟานคิดกับตัวเอง เขาไม่สามารถฆ่าพ่อของเขาได้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะเตะหน้าอกของหลิน วานยี่แทน

ปัง!

หลิน วานยี่ลอยไปข้างหลัง

ใบหน้าของเขาหงายขึ้น

เมื่อเขามองไปที่ท้องฟ้า ความโกรธทั้งหมดก็ได้จางหายไป

มันถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสุข

“ท่านพ่อ การยอมรับความผิดพลาดของตนเองเป็นสิ่งที่ดี”

“ท่านเก็บภาษีฟาร์มมากเกินไป ข้าพูดถูกแล้วใช่ไหม?”

ในใจของเขาตอนนี้กำลังตื่นตระหนก

หัวหน้าตระกูลพ่ายแพ้

ถ้าพ่อของเขาโกรธจนตัดความสัมพันธ์พ่อ-ลูกกับเขา แล้วหลังจากนี้เขาจะเรียกตัวเองว่านายน้อยที่ร่ำรวยได้อย่างไร?

ปัง!

หลิน วานยี่ตกลงบนพื้นและนอนนิ่งอยู่ตรงนั้น

มันเงียบจริงๆ

ผู้จัดการเฉินที่นั่งอยู่บนพื้นแข็งค้าง เมื่อเขามองไปที่หลิน ฟานดวงตาของเขาก็แทบจะถลนออกมา

นี่คือนายน้อยที่เขารู้จักจริงๆใช่หรือไม่?

โกวชิลูบตาของเขา ราวกับว่ากลัวจะมองผิดคน

“ลูก....ลูกพี่ลูกน้อง...” โจว เชียงเหมาพูดตะกุกตะกัก เขาเอาแต่พูดคำว่าลูกพี่ลูกน้องเพราะเขาลืมไปหมดแล้วว่าเขาจะพูดอะไรต่อ

ที่ทางเข้า เมื่ออาวุโสวูรู้ว่าหัวหน้าตระกูลกำลังจะไปสั่งสอนนายน้อยเขาจึงรับมาที่นี่เพื่อหยุดมัน อย่างไรก็ตามเมื่อเขามาถึงทั้งสองก็ได้ต่อสู้กันไปแล้ว

เขาต้องการจะที่หยุดการต่อสู้นี้

เพราะเขาไม่ต้องการให้หัวหน้าตระกูลทำร้ายนายน้อย

แต่ทันใดนั้นเองเขาก็สังเกตเห็นว่าสิ่งต่างๆมันไม่ถูกต้อง

นายน้อยได้ฝึกวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตมาจนถึงจุดสูงสุด

สวรรค์มีตาจริงๆ

ในที่สุดความกังวลสุดท้ายของหัวหน้าตระกูลก็ได้ถูกวางลง

ตอนนั้นเองหลิน วานยี่ก็ได้ยืนขึ้นอย่างช้าๆพร้อมกับใบหน้าที่ไร้อารมณ์ จากนั้นเขาก็ยกมือขึ้นและชี้ไปที่หลิน ฟาน “เจ้าเด็กไม่เอาไหน เจ้าทำได้ดีมาก ดีมากจริงๆ!”

เสียงของเขาค่อนข้างสงบ แต่มันก็ค่อยๆดังขึ้นในตอนท้าย

หลิน วานยี่กล่าวก่อนที่จะหันหลังกลับ เขาไม่พูดอะไรอีกและเดินออกจากลานไป

ผู้จัดการเฉินและอาวุโสวูเดินตามเขาออกไป

ดังนั้นที่นี่จึงเหลือเพียงหลิน ฟาน โกวชิและโจว เชียงเหมาเท่านั้น

หลิน ฟานยืนอยู่ตรงนั้นด้วยความสับสนและโบกมืออย่างรวดเร็ว “โกวชิ มานี่”

“ขอรับ นายน้อย” ใบหน้าของโกวชิแดงเพราะความตื่นเต้น

“โกวชิที่พ่อข้าพูดมันหมายความว่ายังไง? ทำได้ดีหรือว่าไม่ดีกันแน่? ถ้ามันเป็นสิ่งที่ดีทำไมเขาถึงต้องพูดว่าเจ้าเด็กไม่เอาไหนด้วยละ?” หลิน ฟานสบสนเล็กน้อย

ใครมันจะไปสามารถเข้าใจเขาได้?

แล้วสถานการณ์ตอนนี้มันเป็นยังไงกันแน่?

แต่ที่รู้ๆเลยก็คือตอนนี้เขาเหนื่อยมาก เพราะวิชาดาบมันใช้พลังงานค่อนข้างเยอะ

การเพาะปลูกมันไม่น่าไว้ใจจริงๆด้วย

มันคงจะดีกว่าถ้าข้าจะสนุกไปกับชีวิตจากนั้นก็รอความตาย

ไกลออกไป

หลิน วานยี่กำลังเอามือไพล่หลังและเดินอย่างมั่นใจ เมื่อเขาคิดว่ามาไกลพอแล้วเขาก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “ฮาฮาฮา....ดี ดีมาก”

“น้องวู เราไปดื่มกันเถอะ”

ร่างกายของอาวุโสวูสั่น ดวงตาของเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง “นายท่าน....”

“นายท่านอะไรกัน? ทำไมเจ้าไม่เรียกข้าเหมือนที่เคยเรียกในครั้งอดีต” หลิน วานยี่ยิ้ม

“พี่ชาย” อาวุโสวูหัวเราะ ตั่งแต่ภรรยาของหัวหน้าตระกูลเสียชีวิต เขาก็ไม่เคยเห็นท่านมีความสุขขนาดนี้

“เอาล่ะ ไปกันเถอะ! เราจะไม่กลับจนกว่าเราจะเมา! ลูกชายของข้ามันจะกลายเป็นขยะไปได้อย่างไร? แล้วใครมันจะไปสนใจตระกูลเหลียงและหยวนกัน?” หลิน วานยี่หัวเราะ มีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของเขา จากนั้นเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

0 0 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด