บทที่ 16 ลางบอกเหตุ

ห่างออกไปไม่ถึงหนึ่งร้อยเมตรจากที่พวกเขาถูกโจมตี กาเว่นพบกระท่อมที่กลายเป็นซากอยู่

มันพังลงท่ามกลางต้นไม้สูง จากรอยไหม้สามารถบอกได้ว่ามันไหม้จากด้านในออกมาด้านนอก แต่ไฟไม่ได้กระจายออกไปไกลกว่านั้น บางทีอาจจะเป็นเพราะฝน ไบรอนตรวจสอบสิ่งที่ยังหลงเหลืออยู่รอบๆกระท่อม พิจรณาได้ว่าไฟไหม้น่าจะผ่านมานานมากกว่าครึ่งเดือนแล้ว

เฮอร์ตี้ตรวจพบพลังเวทมนตร์จางๆหลงเหลืออยู่

"สิ่งที่พวกเราเห็นในดินแดนเงาคงเป็นภาพสะท้อน" กาเว่นมองไปยังเศษซากกระท่อมกลางป่า "นักเวทย์คนนี้คงอยู่ที่นี่อย่างเงียบสงบมานานหลายปี ที่นี่อยู่นอกอาณาเขตดินแดนตระกูลเซซิล แม้แต่พวกนักล่าก็ไม่คิดจะมาที่นี่จึงไม่มีใครรู้ว่าเขาอาศัยอยู่ที่นี่"

"ปัญหาคือ...อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ยังไง?" เฮอร์ตี้ขมวดคิ้ว "มีเพียงแหล่งพลังงานอ่อนๆเท่านั้น รวมถึงนักเวทย์คนนั้นก็อ่อนแอมาก แม้เขาจะไม่สามารถควบคุมการทดลองเวทมนตร์จนกระท่อมโดนเผาไปทั้งหลังมันก็ไม่น่าจะสร้างภาพสะท้อนเข้าไปในดินแดนเงาได้ มันคงอยู่นานจนกระทั่งสร้างภูตหมอกที่ทรงพลังได้...แหล่งพลังงานของมันไม่ใช่สิ่งที่นักเวทย์เช่นเขาจะทำได้"

"บางทีสมุดบันทึกเล่มนี้อาจจะมีคำตอบ" กาเว่นพูดพร้อมวางสมุดบันทึกลงในมือเฮอร์ตี้

ตามที่กาเว่นบอก เฮอร์ตี้พลิกหน้ากระดาษไปเรื่อยๆ

"...ปีอันซุที่ 729 วันที่XXของเดือนแห่งไฟ เป็นเวลาหกเดือนแล้วที่ข้ามาอยู่ที่นี่ ข้าพบจุดรวมเวทมนตร์ที่ชายขอบดินแดนตระกูลเซซิล แม้พลังของมันจะเทียบไม่ได้กับแหล่งพลังงานสาธารณะที่เมืองพันหอคอย แต่มันก็เพียงพอที่จะใช้กับห้องทดลองของข้า มีเพียงพลังธาตุเดียวเท่านั้นและมีความเสถียร แอนนี่น่าจะดีขึ้นถ้าอยู่ที่นี่"

"ปีอันซุที่ 729 วันที่XXของเดือนแห่งการเก็บเกี่ยว ดูเหมือนว่าแอนนี่จะอาการดีขึ้น แต่อาการของนางก็ไม่ได้กำเริบมานานแล้ว ข้าไม่รู้ว่ามันเกิดจากสภาพแวดล้อมหรือเพราะยาและพิธีกรรมที่ข้าใช้ แหล่งพลังงานเวทมนตร์ที่นี่อ่อนแอเกินไป แม้จะใช้วงจรเวทมนตร์ช่วย ผลลัพธ์ของพิธีกรรมข้าก็ลดลงอย่างมาก บางทีข้าควรประเมิณสูตรที่ได้รับมาก่อนหน้าอีกครั้ง...แม้พวกที่สมาคมจะหัวเราะข้าอยู่ตลอดเวลา แต่ข้าไม่สนใจพวกเขาไม่สามารถรบกวนข้าที่นี่ได้อีก..."

"ปีอันซุที่ 730 วันที่XX เดือนแห่งหมอก สูตรและวงจรเวทย์เป็นไปตามที่ข้าคาดหวัง! ด้วยสูตรแหล่งพลังงานขยายตัวขึ้นอย่างมาก! ในที่สุดข้าก็สามารถเริ่มรักษาแอนนี่ขั้นต่อไปได้ แม้ช่วงสองสามเดือนมานี้อาการของแอนนี่จะไม่ได้กำเริบบ่อยนัก แต่การรักษายังต้องดำเนินต่อไป เพราะนางไม่สามารถทนทรมารได้อีกแล้ว..."

"ปีอันซุที่ 731 วันที่XX เดือนแห่งความเย็น หลังจากรักษา แอนนี่สามารถลุกขึ้นจากเตียงและเดินไปมาได้ นางทำอาหารได้ด้วย! นางทอดไส้กรอกและทำซุปผัก มันราวกับเป็นเวลานับร้อยปีที่ข้าได้กินอะไรดีๆเช่นนี้ แม้ไส้กรอกจะไหม้และนางลืมใส่เกลือลงในซุปผักก็ตาม...นี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าแผนการรักษาของข้าได้ผล ตราบใดที่แหล่งพลังงานคอยปล่อยพลังออกมาอย่างต่อเนื่อง การที่แอนนี่จะหายดีได้ก็ขึ้นอยู่กับเพียงเวลาเท่านั้น"

จากนั้นเนื้อหาส่วนใหญ่ในบันทึกจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับชีวิตประจำวันของเขาและลูกสาว เฮอร์ตี้ข้ามมันไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งนางเห็นส่วนที่บันทึกอย่างไม่เป็นระเบียบในหน้าท้ายๆของสมุด

"ปีอันซุที่ 734 วันที่XX เดือนแห่งการเยือกแข็ง อาการของแอนนี่แย่มาก!!"

"ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น การรักษาทั้งหมดเป็นไปตามแผน ไม่มีข้อผิดพลาดใดๆทั้งสิ้น เราใช้ยามาหลายปีซึ่งมันไม่มีปัญหา! แต่แอนนี่ยังคงป่วย ป่วยหนักมาก...มันแย่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ข้าต้องหาสาเหตุให้เร็วที่สุด ข้าต้องบันทึกทุกอย่างให้ละเอียดที่สุด....ถ้าข้าเจอต้นตอของปัญหา แอนนี่จะต้องไม่เป็นไรแน่นอน..."

"ปีอันซุที่ 734 วันที่XX เดือนแห่งการเยือกแข็ง แอนนี่ไม่ดีไปกว่านี้แล้ว ปริมาณยาที่ให้ไปไม่ได้ผล นางยังอ่อนแอกว่าเดิม...นางกำลังจะจากโลกนี้ไปแล้ว เช้านี้ข้าเห็นว่ามือของนางเริ่มโปร่งแสงราวกับหมอก มีแผลมากมายบนใบหน้าของนาง โลกกำลังปฎิเสธนางเข้าสู้ดินแดนเงา ข้าควรทำยังไงดี..."

"ปีอันซุที่ 734 วันที่XX เดือนแห่งหมอก ดวงอาทิตย์ถูกสาป มันเต็มไปด้วยลวดลายสีแดงเข้มราวกับพวกมันกำลังหัวเราะเยาะในความไร้พลังของข้า! ในที่สุดข้าก็พบสาเหตุ...แต่ข้าไม่สามารถแก้ไข้มันได้...พลังงานธาตุนั้นเต็มไปด้วยสิ่งผิดปกติ มีการไหลทะลักของพลังงานเวทมนตร์ แหล่งพลังงานอันอ่อนแอนี้ไม่สามารถทนรับได้ แม้ข้าจะเอาวงจรเพิ่มพลังเวทย์ออกก็ไม่มีประโยชน์ ทางที่ดีที่สุดคือให้แอนนี่ออกห่างจากที่นี่ แต่นางอยู่ที่นี่นานเกินไปแล้ว ร่างกายของนางกำลังสะท้อนกับสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยธาตุเช่นนี้ ซึ่งมันจะช่วยยืดชีวิตของนาง...แต่มันก็จะฆ่านางด้วยเช่นกัน!"

"ปีอันซุที่ 734 วันที่XX เดือนแห่งหมอก มีบางอย่างผิดปกติกับพลังงานเวทมนตร์ทั่วดินแดน การไหลทะลักของเวทมนตร์ ดูเหมือนว่าชายแดนพื้นที่ตระกูลเซซิลจะตกลงสู่ทะเลแห่งเวทมนตร์ ข้าไม่สามารถชะลอการเปลี่ยนแปลงในร่างกายแอนนี่ได้อีกต่อไป ร่างกายของนางครึ่งหนึ่งได้หายไปจากโลกกายภาพแล้ว ตอนเช้านางยังบอกข้าว่านางเห็นบ้านทั้งหลังกลายเป็นสีขาวดำ บางที...ข้าคงจะต้องหาวิธีอื่นเท่านั้น..."

"ปีอันซุที่ 735 เดือนแห่งไฟ หลังจากนั้นไม่นานการเตรียมการทั้งหมดได้เสร็จสิ้น แอนนี่ใกล้ถึงขีดจำกัดแล้ว"

"นี่เป็นโอกาสเดียวของข้า ไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว"

"ข้าไม่สามารถทำให้แอนนี่มีชีวิตอยู่บนโลกกายภาพได้ ข้าเลยต้องใช้วิธีอื่น"

"พิธีกรรมเปลี่ยนเงามีบันทึกไว้อยู่ แต่พลังงานเวทมนตร์ที่ต้องใช้นั้นเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ แต่ตอนนี้มันอาจจะไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป ข้าใช้สูตรขยายพลังเวทมนตร์ การวาดวงจรแบบใหม่ และเพราะการไหลทะลักของเวทมนตร์ทำให้เวทมนตร์ในพื้นที่นี้อยู่ในสภาพที่ผิดปกติ ข้าพยายามระงับพลังเวทมนตร์ที่จุดศูนย์กลางมาเป็นเวลาหลายเดือน และวันนี้ข้าเพียงต้องรอให้ดวงอาทิตย์ขึ้นถึงจุดสูงสุดของท้องฟ้า พลังเวทมนตร์จะแข็งแกร่งที่สุดและข้าจะสามารถเริ่มการเปลี่ยนแปลงได้"

"แอนนี่เข้าไปในนั้นสิ พ่อจะช่วยเจ้าเอง พ่อจะไปดินแดนเงากับเจ้า พวกเราจะอยู่ด้วยกัน เจ้าจะไม่ต้องทนทรมารอีกต่อไป"

บันทึกจบลงตรงนี้

เฮอร์ตี้กำลังจะปิดสมุดบันทึก แต่กาเว่นกลับชี้ไปที่มุมหนึ่งของหน้าสุดท้าย "จริงๆแล้วมีบางอย่างอยู่ตรงนี้"

เฮอร์ตี้มองดูใกล้ๆ มันเป็นรอยเปื้อนหมึกสีดำ แต่เมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดนางพบว่ามันเป็นชุดคำที่ไม่เป็นระเบียบถูกเขียนการใช้นิ้วจุ่มหมึก

"พลังเวทมนตร์อยู่เหนือการควบคุม...ดวงอาทิตย์เป็นสีแดง..."

เฮอร์ตี้พูดคำเหล่านี้ซ้ำด้วยความมึนงง "ดวงอาทิตย์สีแดง...มันจะเป็นสีแดงได้ยังไง?"

"อาจจะเป็นเวลาที่จุดแดงระเบิด?" รีเบคก้านึกบางอย่างออก "ช่วงก่อนครึ่งเดือนที่แล้ว จุดแดงมากมายปรากฎขึ้นบนดวงอาทิตย์อย่างผิดปกติ บางทีนักเวทย์นั่นอาจจะไม่ค่อยมีสติเลยเห็นเป็นสีแดง?"

เฮอร์ตี้พยักหน้าราวกับเห็นด้วยกับคำอธิบายของรีเบคก้า จากนั้นนางก็สะบัดสมุดบันทึกในมือของนาง "ด้วยสมุดบันทึกนี่เราสามารถหาคำตอบได้หลายอย่าง ดูเหมือนนักเวทย์คนนั้นพยายามรักษาอาการลูกสาวตัวเอง ดังนั้นเขาจึงสร้างวงเวทย์ขึ้น จากนั้นเขาก็เกิดความคิดบ้าๆในการเปลี่ยนตัวเองและลูกสาวให้อยู่ในรูปแบบของเงา แต่พิธีกรรมของเขาถูกขัดเพราะการไหลทะลักของพลังงานเวทมนตร์ส่งผลให้เกิดไฟไหม้ รวมถึงก่อให้เกิดภูตหมอกและสิ่งที่ท่านบรรพบุรุษเห็นในอาณาจักรเงา..."

"เรื่องนั้นไม่ใช่ประเด็น" กาเว่นขัดจังหวะ "สิ่งที่ข้าจะบอกคือให้เจ้าดูรายละเอียดสองอย่างในบันทึก อย่างแรกคือลวดลายสีแดงแข้มและการระเบิดครั้งใหญ่ของจุดแดงบนดวงอาทิตย์"

เฮอร์ตี้สังเกตุเห็นความจริงจังของกาเว่น

กาเว่นมองมาที่พวกนางทั้งคู่พร้อมพูดช้าๆ "กอนดอร์ปีที่ 1736 ลวดลายสีแดงเข้มจำนานมากปรากฎขึ้นบนพื้นผิวดวงอาทิตย์ ปี 1738 มีการระเบิดของจุดสีแดงครั้งใหญ่ กว่าครึ่งของดวงอาทิตย์ถูกปกคลุมไปด้วยจุดแดง ในปีเดียวกัน 26 รัฐของกอนดอร์รายงานเรื่องการไหลทะลักของพลังงานเวทมนตร์ มันไม่ได้รุนแรงมาก แต่เกิดขึ้นทั่วอาณาจักร ในปี 1739 ดวงอาทิตย์กลายเป็นสีแดงเลือด ตอนนั้นไม่ได้มีภัยพิบัติเกิดขึ้น แต่เด็กทารกผู้มีพรสวรรค์จำนวนมากได้เกิดขึ้นถึงหนึ่งในสามของทารกที่เกิดจนหินที่ใช้ในการทดสอบเด็กแรกเกิดทั่วแผ่นดินขาดแคลน นักปราชญ์จึงได้ประกาศว่าวันนั้นเป็นวัน 'รุ่งอรุณแห่งเวทมนตร์' แต่ในปีเดียวกันการระเบิดครั้งใหญ่ได้เกิดขึ้นที่ 'บ่อน้ำห้วงลึกธารา' ซึ่งเป็นโรงงานพลังงานเวทมนตร์ขนาดใหญ่ที่อยู่ใกล้กอนดอร์มากที่สุด สาเหตุของการระเบิดเกิดขึ้นจากการไหลทะลักของพลังงานเวทมนตร์ย่างกระทันหัน วงจรเวทมนตร์ไม่สามารถรองรับพลังงานอันวุ่นวายได้ สุดท้ายมันก็นำไปสู่การหลอมละลายของเครื่องปฏิกรณ์...."

กาเว่นหยุดพูด แต่เฮอร์ตี้ที่กำลังหน้าซีดพูดขึ้นมาแทน "กอนดอร์ปี 1740 ได้เกิดปรากฎการณ์คลื่นความมืดขึ้น และจักรวรรดิของมนุษย์ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศาสตร์ก็ถูกทำลายลงภายในเวลาไม่กี่เดือน..."