GE419 ข้อตกลง [ฟรี]
หนิงฝานไม่อาจเก็บอาการตกใจไว้ได้ เพราะกระดูกนิ้วชิ้นเล็กๆนั้นล้ำค่าเป็นอย่างมาก
ก้าวแรกของเต๋าอันยิ่งใหญ่นั้นคือ 7 ขอบเขตแรก เริ่มตั้งแต่ขอบเขตเปิดเส้นชีพจรไปจนถึงขอบเขตไร้แบ่งแยก แม้จะบรรลุขอบเขตไร้แบ่งแยกแล้ว คนผู้นั้นก็ยังไม่นับว่าเป็นเซียน
เมื่อบรรลุเซียนแล้วจะถือว่าเป็นก้าวที่ 2 ของเต๋าอันยิ่งใหญ่ ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 3 ขอบเขตใหญ่
เท่าที่หนิงฝานรู้คือ ก้าวที่ 2 ของเต๋าอันยิ่งใหญ่แบ่งออกเป็น 3 ขอบเขตใหญ่ได้แก่ หนึ่ง ‘เซียนแห่งชีวิต’ ซึ่งแบ่งเป็นขอบเขตย่อยคือ ‘เซียนมนุษย์’ และ ‘เซียนภูติ’
ขอบเขตใหญ่ที่ 2 คือ ‘เซียนแห่งความจริง’ ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ขอบเขตย่อย ได้แก่ ‘ขอบเขตก้าวผ่านความจริง’ ‘ขอบเขตหลีกหนีความจริง’ แต่ขอบเขตสุดท้ายหนิงฝานยังไม่ทราบ
เหนือยิ่งไปกว่าขอบเขตใหญ่ที่ 2 และก้าวที่ 3 แห่งเต๋าอันยิ่งใหญ่ หนิงฝานก็ยังไม่รู้
แต่จากความรู้ที่หนิงฝานมี ผู้ที่ได้ชื่อว่า ‘จักรพรรดิเซียน’ ในแดนสวรรค์ คงมีเพียงไม่กี่หยิบมือ
ดั้งนั้นกระดูกเบื้องหน้าของหนิงฝาน ไม่ใช่กระดูกของผู้เชี่ยวชาญไร้ดัดแปลง แต่เป็นถึงกระดูกของผู้ที่ทรงพลังที่สุดในแดนสวรรค์
หากการมีอยู่ของกระดูกชิ้นนี้แพร่ออกไปในโลกพิรุณ เหล่าผู้เชี่ยวชาญไร้แบ่งแยกหรือกระทั่งเหล่าเซียน คงเข่นฆ่าสังหารเพื่อให้ได้มันมา
หนิงฝานคาดไม่ถึงว่าจะได้พบของล้ำค่าขนาดนี้ หากได้ดูดซับมันแล้วหล่ะก็...
หนิงฝานขมวดคิ้วพลางกล่าว “สหายเต๋าจะขายมันเท่าไหร่?” หนิงฝานเชื่อว่าที่เหลยฉียี่นำมันออกมา ก็เพื่อตั้งใจจะขายให้
หากหนิงฝานไม่ได้เป็นคู่ค้าที่ดี ชายชราคงไม่มีทางนำของที่ล้ำค่าที่สุดออกมาขายเช่นนี้
แต่หากชายชราเสนอราคาสูงจนเกินไป หนิงฝานจะช่วงชิง เพราะเขาไม่ใช่ผู้ที่ยึดถือการค้าเหมือนชายชรา
“แววตาสหายน้อยค่อนข้างน่ากลัว จนทำให้ข้าไม่กล้ากล่าวราคาสูงนัก...” ชายชรากล่าวพลางจ้องมองหนิงฝานราวกับมีบางสิ่งแอบแฝง
ชายชราไม่ใช่คนโง่ ถึงแม้ก่อนหน้านี้ชายชราจะไม่มั่นใจว่าหนิงฝานคือมนุษย์ จึงถูกเอาเปรียบไปบ้าง แต่ตอนนี้ชายชรารู้แล้ว
ชายชรารู้ว่าหนิงฝานต้องการกระดูกชิ้นนี้มาก จึงเริ่มขบคิดหาวิธีค้าขายกับเขา
กระดูกชิ้นนี้ไม่เป็นประโยชน์กับชายชรา หยกอัสนีเองก็ไม่เป็นประโยชน์กับหนิงฝานเช่นกัน
ดังนั้น ชายชราจึงรู้ว่าต่อให้เสนอราคาสูงเท่าไหร่ ตราบใดที่ยังซื้อได้ด้วยหยกอัสนี หนิงฝานก็ต้องหาหยกอัสนีมาให้ได้เช่นกัน
“ข้าต้องการหยกสวรรค์ทั้งหมดที่เจ้ามี ก่อนที่เจ้าจะจากหอคอยอัสนีทองคำดำไป... หากเจ้ารับปากข้า ข้าจะมอบกระดูกจักรพรรดิเซียนให้เจ้าตอนนี้!”
“ตกลง!” หนิงฝานรับปากทันที เขารู้ว่าหยกอัสนีเป็นประโยชน์กับดวงจิตอัสนี หากเขาเก็บไว้มันก็เป็นเพียงแค่ขยะเท่านั้น อีกอย่างราคาที่ชายชราร้องขอก็ไม่ได้เกินเลย… นับว่าชายชราเป็นพ่อค้าที่ชาญฉลาด
ชายชรารู้ว่าหนิงฝานกำลังจะทำสงครามกับราชามังกร และในสงครามครั้งนี้ ดวงจิตอัสนีจำนวนมหาศาลจะต้องสังเวยชีวิต ซึ่งหมายหยกอัสนีจำนวนมหาศาลที่หนิงฝานจะได้ ทั้งหมดนั้นจะกลายเป็นของชายชราเพียงผู้เดียว
แม้ว่ากระดูกจักรพรรดิเซียนจะล้ำค่า แต่หากขายให้ดวงจิตอัสนีดวงอื่น ก็ไม่มีทางที่จะได้ราคาสูงเหมือนหนิงฝาน
ดวงจิตอัสนีไร้ดัดแปลงขั้นกลางไม่ได้มีหยกอัสนีมากขนาดนั้น หากพวกมันรู้ว่าชายชรามีกระดูกจักรพรรดิเซียน เหตุใดพวกมันต้องซื้อ? แค่สังหารและช่วงชิงมาก็พอ
“เช่นนั้นสมบัติชิ้นนี้ก็เป็นของเจ้า!”
ชายชราหัวเราะพลางยื่นกล่องกระดูกจักรพรรดิเซียนให้หนิงฝาน แววตาเป็นประกายและเปี่ยมไปด้วยความคาดหวัง
หนิงฝานเองก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาคาดไม่ถึงว่าชายชราจะเชื่อใจขนาดที่ยอมมอบสมบัติให้ก่อนเช่นนี้
หนิงฝานรู้ว่าชายชรามีความสุขมาก เพราะดูเหมือนกระดูกจักรพรรดิชิ้นนี้ ขายกับตัวเขาแล้วจะได้ราคาที่สูงที่สุด
หากขบคิดอีกนิด ดูราวกับว่าชายชราแทบจะเฝ้ารอขายกระดูกชิ้นนี้ให้เขาใจจะขาด
แต่แล้วหนิงฝานก็กล่าวในสิ่งที่ทำให้ชายชราตกตะลึง ราวกับชายชรายังดูแคลนในความฉลาดของหนิงฝาน
“ข้ารู้ว่าท่านไม่ได้อยากเก็บมันไว้กับตัว เพราะราชามังกรต้องการมันมาก มันคงส่งคนมาขู่ให้ท่านมอบให้โดยไม่จ่ายสักหยกอัสนี”
“เจ้าคาดไม่ผิด...”
“อีกอย่าง ข้าก็คิดจะช่วยวังสมบัติอนันต์ของท่านจัดการกับราชามังกร… แต่ในเมื่อข้าช่วยเหลือท่าน ท่านก็สมควรตอบแทนข้าบ้าง...” หนิงฝานยิ้มพลางกล่าว
“ฮ่าฮ่า… เช่นนั้นข้าจะยกผลึกน้ำแข็งสืบทอดทั้ง 14 ก้อนนั้นให้ สหายน้อยคิดว่ายังไง?”
“ผลึกน้ำแข็งพวกนี้มีราคาแค่ 700 หยกอัสนีเงินเท่านั้น หยกอัสนีจำนวนแค่นี้ข้าย่อมหามาให้ท่านได้” หนิงฝานกล่าว
“เช่นนั้นหากเจ้าต้องการอะไรก็กล่าวออกมาเถอะ ตราบใดที่ไม่ทำให้วังสมบัติอนันต์ของข้าเสียหาย ข้าย่อมเต็มใจมอบให้… ยังไงซะข้าก็ไม่อยากเอาชีวิตคนของข้าไปเสี่ยง” ชายชราขมวดคิ้วและอยากรู้ว่าหนิงฝานต้องการสิ่งใด
ให้ตนเองเป็นผู้รับใช้… ให้วังอนันต์เป็นอยู่ในปกครอง...
ยามนี้ผู้เป็นภัยของชายชราคือราชามังกร ใน 24 ชั้นแรกนี้ คงมีขอบเขตได้ดัดแปลงขั้นกลางเพียงไม่กี่คนที่ยอมอยู่ใต้อาณัติของราชามังกร
แต่อย่างน้อยๆสูฟง ผู้ปกครองชั้น 11 นี้ก็เป็นคนของราชามังกร
ดังนั้นหากหนิงฝานสังหารราชามังกรและสูฟงได้ ชายชราก็พอใจแล้ว
ชายชราไม่คิดที่จะเป็นกำลังให้หนิงฝานในการรบกับราชามังกร เพราะนั่นจะทำให้วังสมบัติอนันต์เข้ามาพัวพัน
หนิงฝานรู้ว่าชายชราไม่กล้าต่อกรกับราชามังกร เขาจึงใช้หมอกเมฆาม่วง ทำลายข่ายอาคมในส่วนที่ 4 ของคลังเพื่อแสดงพลังของตน เก็บผลึกน้ำแข็งสืบทอด แล้วยื่นหยกอัสนีทั้งหมดที่มีให้ชายชรา
หมอกสีม่วงที่ปรากฏทำให้ชายชราตกตะลึง อานุภาพของมันน่าสะพรึงกลัวมากจนชายชราเองก็ไม่อาจหยั่งคาดได้
ชายชรารับกระเป๋าหยกอัสนีมาด้วยแววตาซับซ้อน… บางทีหนิงฝานอาจสังหารราชามังกรได้ และวันหนึ่งการให้ความช่วยเหลือหนิงฝานอาจเป็นคุณอนันต์ให้กับตน
“ข้าจะช่วยเจ้าสังหารสูฟงและจัดการกับชั้น 11 นี้ แต่กับราชามังกร...ข้าไม่อาจช่วยเจ้าได้”
“อืม...ได้แค่นั้นก็ดีแล้ว อีก 3 วันข้าจะกลับมาที่นี่ เมื่อถึงยามนั้น ข้าจะเปิดฉากสังหารชั้น 11 และหยกอัสนีทั้งหมดที่ข้าได้ ข้าจะยกให้ท่าน”
เมื่อหนิงฝานกล่าวจบ เงาร่างของเขาก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ชายชราขมวดคิ้ว แม้จะเคยได้ยินข่าวมาว่าหนิงฝานสามารถหลบหนีจากการไล่ล่าของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นนับ 10 ได้ ชายชรายังไม่เชื่อ แต่เมื่อได้เห็นกับตา ชายชราจึงเชื่ออย่างสนิทใจ
หากมีวิชาอำพรางที่ทรงพลังขนาดนี้ ราชามังกรไม่อาจสังหารหนิงฝานได้แน่
บางทีขอบเขตไร้แบ่งแยกก็ไม่อาจจับสัมผัสหนิงฝานได้เช่นกัน!
“ราชามังกรไม่อาจยั่วยุ… แต่เด็กผู้นี้ไม่อาจแตะต้อง!”
“ถ้าข้าไม่เร่งยกระดับพลัง เด็กนั่นคงแซงหน้าไปไกล อีกอย่างรอยยิ้มของเขาก็น่ากลัวยังไงบอกไม่ถูก”
ความรู้สึกซับซ้อนหลากหลายปรากฏขึ้นในใจชายชรา แต่สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหยกอัสนีที่ชายชราจะได้
เมื่อกลับออกมาจากส่วนที่ 4 ผู้ติดตามทั้ง 5 ก็จ้องมองชายชราด้วยสายตาแปลกๆ
พวกมันยืนอยู่ห่างจากส่วนที่ 4 จึงไม่รู้ว่าหนิงฝานและชายชราคุยอะไรกัน พวกมันเห็นแค่เพียงชายชรายื่นกล่องกระดูกจักรพรรดิเซียนให้หนิงฝาน จากนั้นหนิงฝานก็สวมบางสิ่งแล้วหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
เมื่อชายชราเดินออกมา ชายชราเร่งสั่งการโดยไม่รอให้ทั้ง 5 กล่าวถาม
“รีบไปเตรียมตัวให้เร็วที่สุด… อีก 3 วันข้างหน้า วังสมบัติอนันต์ของเราจะทำสงคราม!”
“สงคราม? สงครามอะไร?” ฉู่หนานเฟิงกล่าวถามด้วยความสงสัย
“สงครามตัดสินกับสูฟง!”
“อะไรนะ! ท่านไม่ได้ล้อเล่นใช่มั้ย… สูฟงแข็งแกร่ง ท่านเคยสู้กับมันมา 11 ครั้งและแพ้มันทุกครั้ง”
“แต่ครั้งนี้ข้าไม่แพ้แน่… เจ้าคิดว่าข้าหาหยกอัสนีได้มากมายขนาดไหน?” ชายชรากล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง
“รีบไปได้แล้ว ถ้ายังสงสัยอยู่อีก ข้าจะอัดพวกเจ้าให้เละ!”
เมื่อเห็นว่าชายเริ่มโกรธ คนอื่นๆก็ไม่กล้าถามอะไรอีก ชายชราช่วยเหลือพวกมันมามาก หากไม่ได้ชายชรา พวกมันคงไม่มีทางรอดมาจนถึงทุกวันนี้
แม้ชายชราอยากให้พวกมันไปตาย พวกมันก็ไม่มีข้อโต้แย้ง อีกอย่าง ชายชรายังกล่าวอย่างหนักแน่นว่าไม่แพ้สูฟงแน่นอน
ในช่วง 100 ปีมานี้ ชายชราหาหยกอัสนีมาด้วยความยากลำบาก ดังนั้นปราณของชายชราในยามนี้จึงมีมากกว่าในอดีตมาก
“ในเมื่อท่านต้องการทำสงคราม ข้าก็จะทำด้วย!” ทั้ง 5 ป้องมือกล่าวอย่างหนักแน่น
สูฟงมาเหยียบวังสมบัติอนันต์ ข่มขู่ให้ส่งกระดูกจักรพรรดิสวรรค์ให้ ทำให้พวกมันไม่พอใจเป็นอย่างมาก
หนิงฝานยังคงไม่ไปจากวังสมบัติอนันต์ เขากำลังฟังคำสั่งที่ชายชราบอกกล่าวต่อคนของตน และรู้ว่าชายชรากำลังเตรียมการตามที่ได้ตกลงจริง
แม้ต่อหน้าชายชราจะดูให้ความน่าเชื่อถือและไว้วางใจ แต่หนิงฝานก็ไม่อาจเชื่อใจชายชราได้ทั้งหมด แต่เมื่อเห็นและได้ฟังในสิ่งที่ชายชรากล่าว หนิงฝานจึงเริ่มเชื่อใจชายชรามากขึ้น
การที่ทำให้ผู้ติดตามทั้ง 5 ยอมเสี่ยงชีวิตได้นั้น ย่อมแสดงให้เห็นถึงความดีของชายชรา
ในเมื่อวางใจเรื่องวังสมบัติอนันต์ได้แล้ว ก็ถึงคราวที่หนิงฝานจะต้องเริ่มยกระดับพลัง
เขากลับออกไปจากวังสมบัติอนันต์นับล้านลี้ ถอดผ้าคลุมสวรรค์และเข้าสู่โลกหยิน
เมื่อเข้าไปภายใน เขาแผ่สัมผัสเทพไปยังบ้านของหลั่วโยว่ และพบว่านางยังคงหลับอยู่เหมือนเดิม เขาจึงทำได้เพียงส่ายหน้า
หนิงฝานนั่งขัดสมาธิ นำกล่องหยกหลายร้อยใบออกมา ใช้ปราณควบคุมสิ่งที่อยู่ภายในให้ลอยรอบกาย
กล่องเหล่านี้คือปฐมอัสนีนับหมื่นดวงที่เขาได้มาก หากดูดซับพวกมันทั้งหมด จะทำให้เกราะอัสนีของเขายกระดับไปมาก
หนิงฝานอ้าปากและเริ่มดูดกลืนปฐมอัสนีเข้าไป ภายในตันเถียนของเขามีดวงจิตที่รูปร่างหน้าตาเหมือนตัวเขา แต่สวมเกราะทองคำ ขนาดเท่าฝ่ามือ นั่งขัดสมาธิดูดซับพลังจากปฐมอัสนี เข้าเสริมพลังให้กับเกราะ
ด้วยที่โลกหยินมีเวลาเร็วกว่าโลกภายนอก 100 เท่า หนิงฝานจึงใช้เวลาดูดซับปฐมอัสนีไม่นานนัก
ยิ่งเกราะอัสนีมีระดับสูงขึ้น การยกระดับก็ยิ่งเป็นไปด้วยความยากลำบาก ดังนั้นเมื่อหนิงฝานดูดกลืนปฐมอัสนีเข้าไป 3000 ดวง เกราะอัสนีของเขาก็ยกระดับไปอีกครั้ง ซึ่งยามนี้เพียงพอให้ต้านทานการจู่โจมของขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นกลางได้ แต่นั่นก็น่าจะยังไม่เพียงพอที่จะรับมือกับราชามังกร
เมื่อดูดซับปฐมอัสนีอีก 7000 ดวงที่เหลือจนหมด เกราะอัสนีของหนิงฝานยังคงไม่ยกระดับไปขั้นต่อไป
แต่นี่นับว่าหนิงฝานยกระดับเกราะอัสนีได้ง่ายมากแล้ว เพราะถึงเกราะจะยังไม่ทะลวงขั้นต่อไป แต่ก็เพียงพอให้เหลยฉียี่ไม่อาจทะลวงการป้องกันของเขาได้
“ถ้าเกิดสังหารสูฟงและดวงจิตอัสนีในชั้น 11 จนหมด เกราะของข้าก็น่าจะยกระดับมากพอให้รับมือกับราชามังกรได้… แต่ยามนี้สมควรยกระดับกระบี่แยกสวรรค์!”
หนิงฝานนำกระบี่แยกสวรรค์และโลหะเทพดารา 2 ออกมา โลหะชนิดนี้อัดแน่นด้วยพลังดาราจำนวนมหาศาล หากผสานมันเข้ากับกระบี่แยกสวรรค์ของเขาได้ กระบี่จะทรงพลังขึ้นมาก
สิ่งที่หนิงฝานต้องทำคือกำจัดสิ่งปนเปื้อนออกจากโลหาเทพดารา 2 ซึ่งต้องใช้เวลาระยะหนึ่ง
หนิงฝานเริ่มจุดเพลิงหลอมกระบี่แยกสวรรค์ กระบี่ค่อยๆเปลี่ยนรูปทรง กลายเป็นก้อนแสงดารากระจ่างใส
หากยกระดับให้มันสำเร็จ ระดับของมันสมควรบรรลุอาวุธไร้ดัดแปลงขั้นกลาง
แสงดาราที่ก่อตัวเป็นก้อนให้ความรู้สึกที่อันตรายร้ายแรงกับหนิงฝาน ราวกับแสงนั้นก่อตัวขึ้นมาจากคมกระบี่มากมายนับไม่ถ้วน ต่อให้เป็นขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นก็ไม่อาจรอดจากคมกระบี่ได้
หากใช้มันผสานกับผ้าคลุมลวงสวรรค์ หนิงฝานมั่นใจว่าจะลอบสังหารขอบเขตไร้ดัดแปลงขั้นต้นได้!
หนิงฝานใช้เวลาวันครึ่งของโลกภายนอกในการดูดซับปฐมอัสนีและเสริมพลังให้กับกระบี่แยกสวรรค์ ยามนี้เป็นเวลาที่เขาจะต้องสำรวจผลึกน้ำแข็งสืบทอดแล้ว...