บทที่ 191 - วิญญาณสัมบูรณ์ (3) [22-06-2020]
บทที่ 191 - วิญญาณสัมบูรณ์ (3)
”
"เจ้าชาย"
"พี่ชินอย่าตายนะ"
"ชิ...!"
เนื่องจากว่าฉันได้เสียเลือดมากเกินไปในระยะเวลาสั้นฉัน อาการเวียนหัวจึงเกิดขึ้น ฉันรู้สึกเหมือนว่าฉันจะกรีดร้องออกมาถ้าหากเปิดปากออกไป ดังนั้นฉันจึงกัดฟันแน่นและจับไปที่หนวดที่แทงมาที่หน้าอกของฉัน จากนั้นฉันก็ได้เผาหนวดของมันด้วยพลังสายฟ้าที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ฉันจะรวบรวมมาได้และเปิดใช้งานพลังการฟื้นฟูในแหวนของฉัน ฉันจะต้องสร้างหน้าอกขึ้นมาใหม่
[ทักษะไม่ยอมตายได้ถูกเปิดใช้งาน! พลังชีวิตของคุณได้ฟื้นขึ้นมา 50%]
ดูเหมือนว่าพลังชีวิตของฉันมันจะตกลงไปอยู่ในจุดที่อันตรายทำให้ทักษะไม่ยอมตายทำงานและเติมเต็มพลังชีวิตของฉัน นั่นมันอันตรายมาก ฉันเกือบจะตายไปแล้ว เพียงแค่มองไปที่ท่าทางของฉันฉันก็สามารถจะบอกสถานการณ์ที่อยู่ขอบหลุมของฉันได้อย่างรวดรเว ฉันได้เผผาหนวดทีบินเข้ามาหาฉันด้วยหอกและดื่มโพชั่นพลังชีวิตลงไป
[เจ้า]
เมื่อเห็นว่าฉันฟื้นตัวจากอากาศบาดเจ็บผู้กินมานาก็ได้ส่งเสียงออกมาอย่างตกใจ ฉันได้ยิ้มและชูนิ้วกลางของฉันขึ้น แต่ว่าในความเป็นจริงแล้วฉันยังคงเสียเปรียบอยู่ การสร้างชิ้นส่วนร่างกายใหม่สามารถจะใช้ได้เพียงแค่ 2 สัปดาห์ต่อหนึ่งครั้งเท่านั้นและทักษะตายยากก็สามารถใช้ได้แต่วันละครั้ง ในทางกลับกันถ้าหากมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกฉันก็จะตาย และนั่นคือสิ่งที่กำลังจะเป็นอยู่ในตอนนี้!? มันได้เจาะผ่านเกราะเกรดอีปิคของฉันและแทงเข้ามาทำให้ฉันไปอยู่ในความตาย แม้ว่าผู้กลืนมานาจะได้วางแผนการโจมตีอย่างรอบคอบ แต่มันก็ยังคงเป็นไปได้ว่ามันยังมีไพ่ซ่อนเอาไว้อยู่ ฉันเดาว่าไพ่นั่นน่าจะเป็นการโจมตี
การโจมตีที่เพิ่มพลังขึ้นด้วยการกินมานาของศัตรูและลดพลังป้องกันของศัตรู นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผู้กินมานาน่ากลัวมาก
[จะ เจ้ากล้าทำร้ายฮีโร่ของฉัน...!]
ในขณะที่ฉันกำลังคิดหาวิธีเอาชนะการโจมตีของผู้กินมานาล็อทเต้ก็ได้พูดออกมาอย่างโกรธแค้นและตัวสั่น ฉันสามารถจะรู้สึกได้เลยว่ามานาในร่างกายของเธอกำลังพุ่งพล่าน
[แกจะต้องชดใช้!]
ล็อทเต้ได้ปล่อยเพลิงที่รุนแรงออกมา ต้นไม้รอบๆเราและหนวดที่ห้อยอยู่ได้ถูกเผาลงไปด้วยเพลิงสีดำของโรเล็ตต้า เพลิงของเธอซึ่งได้ปกคลุมไปด้วยพลังคำสาปได้แพร่กระจายและทำให้ต้นไม้ต้นอื่นติดไฟอย่างรวดเร็ว
[นี่มันไม่ใช่ไฟธรรมดา... ข้าจะต้องฆ่าเจ้าก่อน]
"เจ้าชั่ว"
เพลิงโกลาหลได้ก่อตัวขึ้นเป็นวังวนด้วยการใช้ไต้ฝุ่นคลั่ง ด้วยการที่วังวนได้หมุนวนรอบๆตัวฉัน ฉันจึงตัดสินใจได้ ฉันได้เทมานาจำนวนมหาศาลลงไปในหอกและตะโกนออกมา
"ทุกๆคน ขึ้นไปบนล็อทเต้!"
"อะไรนะ!?"
"ลอยอยู่บนท้องฟ้าสักเดี๋ยวนึงนะ! ฉันจะใช้ช่วงเวลานั้นจัดการมัน"
"นายกำลังพูดอะไร!? จะจัดการเจ้านั่นในตอนนี้ได้ยังไง? ทำไมเราไม่...."
ฉันได้กระโดดลงจากหลังของล็อทเต้และตะโกนออกไป
"ป่าแห่งนี้เป็นอันตราย! มากยิ่งไปกว่าการต่อสู้กับไอเจ้าพวกกองทัพอากาศเวรนั่นซะอีก ดังนั้นฟังฉัน"
"แล้วนายล่ะ!?"
ตามตรงแล้ฉันก็มีวิธีการของฉัน ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากพอจะอธิบายทุกๆอย่าง ฉันได้ผลักดันหนวดกลับไปด้วยเพลิงโกลาหลและสั่งล็อทเต้กับริยู
"ป้องกันคนอื่นๆ ฉันจะรีบจัดการมัน"
[ฮีโร่ ฉันต้องการจะจัดการมัน]
[ชินที่นี่มันอันตรายนะ]
"แต่ว่านี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด"
ในความเป็นจริงการใช้การประจักษ์แห่งไดฟิคและให้เพรูต้ามาช่วยเป็นวิธีที่ดีที่สุดจะจัดการในสถานการณ์นี้ ยังไงก็ตามถ้าฉันเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่เป็นไปได้ว่ายังมีทางออกฉันก็จะหลีกเลี่ยงการใช้มัน ตราบเท่าที่มันยังมีวิธีอื่นๆให้ฉันได้ลองก่อน
[ข้าจะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าได้หนีหรอก]
"งั้นหรอ?"
ฉันได้เพิ่มการตรวจจับมานาให้สูงขึ้นและใช้พายุเพลิงโกลาหลโจมตีไปที่หนวดที่กำลังจะโจมตีเพื่อนๆของฉัน ในขณะเดียวกันฉันยังมองไปที่คนอื่นๆที่ยังลังเลที่จะขึ้นไปบนล็อทเต้ ฉันได้ส่งสัญญาณเร่งพวกเขา
"ถ้าอย่างนั้นเจ้าชาย ฉันจะอยู่ด้วย"
"ฉันรู้ว่านายจะพูดแบบนี้ แต่ว่าโชคร้ายที่น้ายนั้นเป็นภาระ ปกป้องเด็กไปซะ ถ้านายมีมานาโพชั่นที่ไม่ได้มาจากชั้นขายของก็ให้เด็กๆดื่มซะ"
ฉันได้มองลงไปที่เร็นตรงๆ เลอบิคเธอตระหนักได้ดีกว่าเร็น เธอได้กำลังพาเด็กขึ้นไปบนหลังของล็อทเต้แล้ว เร็นดูเหมือนจะยังอยากจะพูดอะไรอีก แต่ครู่หนึ่งเขาก็ตามเลอบิคไป
ฉันได้สร้างเพลิงโกลาหลให้มาขึ้นเรื่อยๆในขณะที่รอให้พวกเขาไป ฉันไม่มีมานาเหลือมากแล้ว ฉันได้ใช้มานามาตลอดเวลาเพื่อที่จะคงร่างของภูติธาตุและเพลิงโกลาหล ไม่ใช่เพียงแค่นั้นผู้กินมานาก็ยังดูดมานาไปจากฉันอีก มานาของฉัน... เดี๋ยวนะ
"ถ้าฉันจำไม่ผิดเรื่องผลของแหวนโลหิตต้องสาปล่ะก็....."
เมื่้อโจมตีมีโอกาส 2% ในการดูดมานามาจากศัตรู 10% และมีโอกาส 1% โดยการใช้มานาของคุณไปใส่ศัตรูเพื่อที่ทำให้เลือดศัตรูติดสถานะเลือดติดเชื้อ ในตอนที่ฉันได้เห็นผลกระทบส่วนใหญ่กับมอนสเตอร์กระจอกๆแล้วมามากดังนั้นมันจริงแทบจะไม่มีผลกระทบอะไรเลย แต่ยังไงก็ตามในตอนนี้มันแตกต่างออกไป
"ฟู่.... มาลองดูกัน"
ฉันมั่นใจว่าผู้กินมานาอย่างน้อยก็มีมานาที่มากกว่าฉัน 10 เท่า ในทางกลับกัน 10% ของมานามันก็หมายถึงการฟื้นคืนของมานาทั้งหมดของฉัน ฉันได้ยกหอกขึ้น ฉันไม่จำเป็นจะต้องเล็งไปที่ตรงไหนเลย ป่าทั้งผืนคือผู้กินมานา ฉันได้สูดหายใจเข้าจากนั้นก็ตะโกนชื่อทักษะออกไป
"ความเร็วศักดิ์สิทธิ์!"
[ไม่ว่าเจ้าจะทำอะไรมันก็ไร้ประ----]
"ฮ่าหหหหหห์"
ฉันได้เน้นไปที่การแทงอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าฉันจะใช้มานาที่เหลืออยู่ไป 10% ความเร็วของฉันก็ได้เพิ่มขึ้น 1000% เป็นเวลา 3 วินาที ในระหว่างเวลานี้ถ้าฉันยอมแพ้กับการสร้างความเสียหายที่รุนแรงและเน้นไปที่จำนวนที่แทงออกไป ฉันก็จะโจมตีได้อย่างน้อย 100 ครั้ง
ฉันได้แทงหอกลงไปบนพื้นเหมือนกับคนบ้า เมื่อผู้กินมานาได้สังเกตุเห็นการกระทำแปลกๆของฉัน มันก็เลิกที่จะไล่ตามคนอื่นๆและเล็งหนวดทั้งหมดของมันมาที่ฉัน ฉันไม่สนใจมัน ในตอนนี้มันไม่เหมือนกับในครั้งที่แล้ว ฉันมีผู้คุ้มกัน
[โล่แห่งวายุ! นายทานมันทนได้ไม่นานนัก]
"ฉันขอแค่ 3 วินาที"
เพราะว่าฉันได้พูดเร็วเกินไปทำให้เธออาจจะไม่เข้าใจ ยังไงก็ตามเมื่อไหร่ที่การดูดมานาเกิดขึ้น!? อย่าบอกฉันนะว่าเพราะเกรดของไอเทมมันต่ำเกินไป
[โลหิตต้องสาปชีวิตทำงาน ขโมยมานา 10% จากศัตรู]
[อ๊ากกกกกกก]
มีบางสิ่งที่ไม่เคยคาดคิดเกิดขึ้นมา หนวดได้ลอยออกมาจากตัวมันเหมือนกับลูกโป่งที่อากาศอกมา ไม่เพียงเท่านั้นต้นไม้ในพื้นที่แห่งนี้ก็ยังสูญเสียความมีชีวิตชีวาและดูราวกับว่ามันเหี่ยวเฉามาเป็นเวลา 100 ปีแล้ว แน่นอนว่าผลที่ฉันคิดเอาไว้มันก็ยังคงมีอยู่ มานาของฉันได้กลับมาเต็มเปี่ยม
"อย่าบอกฉันนะว่ามานาของเจ้านั่นเป็นพลังชีวิต"
ใช่แล้ว มอนเตอร์ที่สามารถจะขโมยมานาได้อย่างอิสระ ดังนั้นมันก็ไม่น่าแปลกใจเลย! การขโมยมาจากมันทำให้มันได้รับความเสียหายมากกว่าการโจมตีที่ฉันทำทั้งหมดมารวมกันเสียอีก
เมื่อรู้สึกว่าร่างกายของฉันได้เต็มไปด้วยมานา ฉันได้แสดงรูปธรรมของชาราน่าในทันที ความโกรธแค้นของผู้กินมานาได้เพ่งมาที่ฉัน
[เจ้าาาาา มะ มานาของข้า เจ้ากล้าเอามานาไปจากข้า]
"อย่าตกใจสิไอเวร แกน่ะเพิ่งจะเจาะอกฉันไปนะ"
สิบครั้งเท่านั้น ถ้าหากฉันสามารถขโมยมานาของมันมาได้สิบครั้งมันก็จะตาย ในขณะที่ฉันได้ดึงหอกออกมาพ้นก็ได้ระเบิดขึ้นและมีหนวดจำนวนมากพุ่งเข้าใส่ฉัน ด้วยพลังที่มหาศาลของชาราน่าเธอได้พัดพวกมันออกไปด้วยพลังล้ม แม้อย่างนั้นมันก็คงยากที่จะทำการโจมตีแบบสงบในแบบที่ฉันเคยทำมาก่อนๆ
[เอามานาข้ามา]
"ขอบคุณสำหรับอาหารนะไอเวร! ชาราน่าเป่าป่าทั้งหมดเลย"
เมื่อฉันได้ให้มานาชาราน่าไปเกือบจะครึ่งหนึ่งของฉันที่กินมาจากผู้กินมานา สายลมก็ได้เริ่มพัดรอบๆพวกเราและเริ่มรุนแรงขึ้นไปจนพัดหนวดของผู้กินมานาจนกลายเป็นชิ้นๆ ในขณะเดียวกันทุกคนที่ขี่ริยูอยู่ก็ได้ขึ้นไปบนหลังล็อทเต้เรียบร้อยแล้ว
[ฮีโร่ ถ้าหากฮีโร่ไม่สามารถจะให้รางวัลฉันได้ ปีกทมิฬล็อทเต้คนนี้จะลากฮีโร่ลงหลุมศพเอง รีบๆจบชีวิตเจ้านั่นได้แล้ว]
[ชิน ฉันจะกลับไปก่อนนะ]
หลังจากภารกิจของเธอเสร็จสิ้นแล้ว ริยูก็ได้กลับไปที่สวนแฟรี่ ในเวลาเดียวกันล็อทเต้ก็ส่งเสียงออกมาและบินขึ้นไปบนท้องฟ้า ผู้กินมานาก็ยังไม่ลืมที่จะส่งหนวดของมันออกไปโดยที่ยังสนใจฉันอยู่ แต่เร็นและเลอบิคก็ได้ปัดมันออกไปด้วยออร่าของพวกเขา ต้นไม้ที่ขวางทางก็ยังถูกตัดออกไป
"ถ้าเจ้าชายไม่รีบมาล่ะก็ พวกเราจะกลับมา ดังนั้นรีบหน่อยนะ!"
"เน้นไปที่การหนี!"
"พี่อย่าตายนะ!"
ก่อนที่จะออกไปจากป่าเร็นและคนอื่นๆได้ตะโกนออกมาสุดเสียง แม้อย่างนั้นพวกเขาก็ยังไม่ปลอดภัยเพียงแค่ออกไปจากป่า ด้านนอกป่าก็ยังมีพวกกองทัพทางอากาศของเอล พาทิส แม้ว่าล็อทเต้ เร็นและเลอบิคจะสามารถยึดพื้นที่เอาไว้ได้ แต่ว่าฉันก็ยังคงจะต้องจบการต่อสู้นี้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
หลังจากที่ยืนยันว่าคนอื่นๆได้ออกไปจากป่าแล้ว ฉันก็ได้ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แน่นอนว่าหนวดของผู้กินมานยังคงฟาดมาที่ใบหน้าฉันและสร้างอากาศบาดเจ็บอยู่
[ข้าจะเจาะหน้าอกเจ้าอีกครั้งหนึ่ง! มาดูกันว่าเจ้าจะมาหายดีได้อีกรอบไหม]
"ชาราน่าทำให้เสียงของฉันส่งไปทั่วทั้งป่าที!"
[ไม่มีปัญหา!]
มันจะดูไม่สมเหตุสมผลนักหากภูติธาตุลมไม่สามารถจะขยายเสียงของฉันได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเธอมีรูปธรรมแล้วด้วย ตามมาด้วยคำตอบของเธอเสียงของฉันก็ดังออกไปทั่วจริงๆ ด้วยดวงตามารและทักษะป้องกันวิญญาณมันได้ยกระดับวิญญาณของฉันขึ้นใหม่ แถมฉันยังได้เสริมพลังในด้านอื่นๆอีก ในตอนนี้เพียงแค่เสียงของฉันก็มีระดับที่แน่นอนว่าส่งผลกระทบกับผู้กินมานา แม้ว่ามันจะเพียงแค่เล็กน้อยก็ตาม
[เสียงดังน่ารำคาญ! ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ารอดแน่เจ้าลม]
"ตอนนี้แหละชาราน่า! ยกเลิกรูปธรรมและกลับไปซะ
[ค่ะ]
ชาราน่าได้กลับไปที่โลกจิตวิญญาณในทันทีที่ฉันสั่งเธอ พลังเวทย์ของภูติธาตุนั้นก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิม แต่ว่าฉันก็จะต้องจบมันก่อนที่พลังนี้จะหมดลง
[กลายมาเป็นอาหารข้าซะเจ้ามนุษย์]
"เผาาาาาาาาา!"
[คุณได้ใช้เสียงคำรามสีชาด ทุกๆสิ่งอย่างจะลุกเป็นไฟ]
ทันใดนั้นทุกๆที่ๆฉันมองไปก็เต็มไปด้วยเปลวเพลิง นอกจากนี้มันยังขยายไปตามลมของชาราน่าที่นำเสียงของฉันไปยังทุกๆที่ของป่าทำให้มันกลายเป็นทะเลเพลิงและเผาทุกสิ่งอย่าง นอกจากเสียงกระหึ่มของไฟแล้วเสียงกรีดร้องของผู้กินมานาก็ยังคงดังขึ้น
[ก๊าซซซซซซซ]
หนวดของมันได้พุ่งเข้ามาหาฉันแต่ว่าพวกมันก็ได้ถูกเผาจนไหม้เกรียม ทั่วทั้งที่แห่งนี้ได้ถูกย้อมไปด้วยสีแดง ฉันได้ใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งหนึ่งและกระแทกพื้นอย่างบ้าคลั่ง ก่อนที่ผลของเสียงรำคามสีชาดจะหมดลงฉันมั่นใจว่าฉันสามารถจะขโมยมานาของมันได้อีกครั้ง
[จะ เจ้า... เพลิงนี้มัน]
"เงียบน่า"
[โลหิตต้องสาปได้ถูกใช้งาน ใช้พลังชีวิตของคุณ 5% เพื่อใส่เข้าไปในเลือดของศัตรู! ผู้กินมานาได้ตกอยู่ภายใต้สถานะ 'เลิอดปนเปื้อน' ความเร็วในการโจมตีและการเคลื่อนที่ของผู้ใช้มานาได้ลดลง และจะสูญเสียมานาอย่างต่อเนื่อง ผลนี้จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ยกเว้นแต่เป้าหมายจะตาย]
โอ้ ผลอีกอันหนึ่ง เมื่อฉันได้ลดมานาของผู้กินมานามาอย่างต่อเนื่อง มันก็นอดเยี่ยมที่จะจัดการกับผู้กินมานา ยังไงก็ตามฉันก็ต้องการที่จะเติมมานาที่ฉันได้เสียไปอย่างต่อเนื่อง ทำให้ฉันอดที่จะผิดหวังไม่ได้ เพลิงที่ปกคลุมป่าได้เริ่มหายไป
[ป่าที่ฉันเติบโตเป็นเวลาหลายร้อยปี....มะ มันกำลังถูกเผา...โดยมนุษย์]
สิ่งที่เคยเป็นป่าหนาทึบในตอนเข้ามาตอนนี้เหลือเพียงแค่ขี้เถ้าที่ไหม้เกรียมไปหมดแล้ว รอบๆร่างกายของผู้กินมานาและหนวดหลายๆอันที่ถูกฉันดึงดูดครึ่งหนึ่งของมันยังชอนไชขึ้นมา
"ในที่สุดฉันก็เห็นแกแล้ว"
ฉันได้เงยหน้าขึ้นไปและมองบนท้องฟ้า ในเวลาเดียวกันก่อนหินจำนวนมากก็ตกลงมา มอนสเตอร์ได้บินอยู่เต็มท้องฟ้า แม้ว่าฉันจะจัดการมันไปมากแล้วในก่อนหน้านี้พวกมันก็ยังคงเพิ่มจำนวนขึ้นในขณะที่เราอยู่ในป่าแห่งนี้ ฉันก็ยังสามารถจะเห็นเร็นและเลอบิคกำลังต่อสู้บนหลังล็อทเต้ได้อีกด้วย โชคดีที่ดูเหมือนเด็กๆจะปลอดภัย
"อ๊ากกก! ข้าจะฆ่าเจ้า"
ด้วยผลกระทบจากการปนเปื้อนของเลือด ผู้กินมานาได้ช้าลงมากกว่าเก่า แม้อย่างนั่นหนวดของมันก็ยังคงทรงพลังและรวดเร็ว เมื่อเห็นพวกมันพุ่งเข้ามาหาฉัน ฉันก็ได้เรียกชาราน่าออกมาและให้เธอเข้าไปในร่างกายของฉัน ในตอนนี้ฉันได้รู้แล้วว่าหนวดได้พุ่งออกมาจากพื้นดิน ดังนั้นจึงไม่ควรสู้กันบนพื้น
ยังไงก็ตามราวกับว่ามันกำลังรอให้ฉันบิน หนวดของผู้กินมานาได้เปลื่ยนทิศทางและเล็งไปที่ท้องฟ้าทันที
"เวร"
มันพยายามที่จะโจมตีคนอื่นอีกครั้งงั้นหรอ? ฉันได้ส่งเสียงออกมาเพื่อเตือนพวกเขา แต่ยังไงก็ตามมันไร้ผล เป้าหมายของผู้กินมานาไม่ใช่เปลื่ยนของฉัน
[มานา ส่งมานามาให้ข้า]
[ก๊าซซซซซซ]
[ก๊าาาาาาา]
หนวดแต่ละเส้นได้ขยับไปมาและเจาะผ่านมอนสเตอร์นับไม่ถ้วน น่าแปลกที่ในวินาทีที่หนวดได้ดูดมานาของมอนสเตอร์ พวกมันก็ได้ดูดมานาของหนอนสมองและฆ่ามันไปอย่างง่ายดาย ในที่สุดฉันก็เข้าใจทำไมหนอนสมองถึงปลอดที่นี่เอาไว้
"เดี๋ยวก่อนสิ นี้มันไม่ใช่เวลามามัวตกใจนะ!"
ฉันได้พุ่งผ่านอากาศออกไปอย่างรวดเร็ว ยังไงก็ตามมานาของผู้กินมานาได้ฟื้นคืนมาอย่างต่อเนื่องและเพิ่มพลังชีวิตของมัน เมื่อการโจมตีจากหนวดได้เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น มันได้เจาะผ่านท้องฟ้าและสร้างหนวดขึ้นมาเพิ่มอีก ดวงตามารของฉันมันใช้ได้ดีกับการต่อสู้กับกองทัพขนาดใหญ่ แต่ว่าผู้กินมานานั้นอยู่ห่างจากฉันไปหลายไมล์! ตราบเท่าที่มันมีมอนสเตอร์ให้กิน พลังมันก็ไม่มีทางหมดลง
ในเวลาเดียวกันจำนวนของหนวดที่โจมตีฉันก็เพิ่มขึ้นทำให้มันยากที่จะป้องกันทั้งหมด ระยะห่างระหว่างฉันกับมันไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถแก้ได้ด้วยการใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ ในตอนท้ายฉันได้กัดฟันและใช้ทักษะอื่น
"เวลาแห่งยักษ์! เตรียมตัวตายได้เลย"
[ไม่มีใครที่จะสามารถมาคุกคามชีวิ---- อึก]
มันไม่ใช่หอกของฉันที่ตัดหนวดหลายสิบเส้นของมันในตอนนี้ ถ้างั้นใครกันล่ะ? ฉันได้เผาหนวดที่ขวางทางฉันทิ้งและมองไปข้างหน้า ร่างทรงกลมของผู้กินมานาซึ่งยื่นออกมาเหมือนกับดอกไม้ได้มีเขาสองอันปักอยู่
สองเขา นั่นคือ...?
"เยี่ยมยังไม่ช้าไป ฉันมาช่วย"
บนท้องฟ้าเดรกขาด 7 เมตรกำลังประพือปีกของมัน เดรกที่มีขนาดเล็กลงนี้ได้เต็มไปด้วยพลังที่มหาศาล อีกสิ่งที่ฉันบอกได้คือมันเป็นอันเดท ราวกับจะแก้ไขความสงสัยของฉันผู้หญิงสาวสายคนหนึ่งได้ยืนถือแส้บนหลังเดรกและกระพริบตาสีแดงของเธอ ผมสีเทาขี้เถ้าและหมวกเบเร่ต์ที่ส่องแสงเหมือนกับอัญมณี นี้มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นใคร
[ก๊าซซซซซซซซ]
เขาของด้วงกว่างอันเดตได้แทงลึกเข้าไปในตัวของผู้กินมานาและคำรามออกมา ผู้กินมานาได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดและและโจมตีกลับไปที่ด้วงกว่างด้วยหนวด ยังไงก็ตามมันดูเหมือนมันจะมีบัพที่พิเศษอยู่ กระดองของดวงกว่างไม่ได้ถูกเจาะไปแม้แต่น้อย
"โรโร่เยี่ยม เท่มาก"
"เอาจริงดิ! เธอคิดว่าชื่อที่เธอให้มันเท่หรอเดซี่?"
ใช่แล้วนี่คือสมาชิกคนใหม่ล่าสุดของรีไวเวิร์ล เดซี่ เธอได้มาในฐานะกองกำลังเสริมแล้ว