ตอนที่ 22 : ปาฏิหาริย์
ที่ทางเข้าสู่บริเวณวิลล่า มีกลุ่มผู้รอดชีวิตกำลังกระซิบกันอยู่
การประกาศเกิดขึ้นทันทีทันใด โดยไม่มีการเตือนและคำอธิบายเพื่อให้ทราบ มันขึ้นอยู่กับพวกเขาแล้วที่จะคาดเดาต่างๆนาๆ
หลูเสี่ยวเพิงยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดอะไรขึ้นเช่นกัน ใจของเขามีการเคาอย่างดุเดือด แต่เขาก็ถอนหายใจหลังจากนั้นไม่นาน
เฉินไฮปิงยังยืนอยู่นอกเส้นสีเหลือง เขาคิดย้อนกลับไปถึงสิ่งที่ถังหยูได้บอกเขา...
มันเหลือเชื่อมากจนเขาไม่เชื่อมัน
ทันใดนั้นพื้นดินก็สั่น
เนินเขาที่มีหินกองรวมกันอยู่ได้กลิ้งลงมาทีละก้อนขณะที่พวกมันตกลงมาเรียงกันอย่างสม่ำเสมอรอบๆเส้นสีเหลืองราวกับว่ามันถูกดึงโดยพลังงานแปลกประหลาด
ในไม่ช้าก้อนหินเหล่านี้ก็ละลายลงสู่พื้นดินราวกับหินจมลงสู่พื้นผิวโลก
ในเวลาต่อมาเกิดเสียงดังบูม
แรงสั่นสะเทือนเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ กำแพงหินสีดำค่อยๆปรากฏขึ้นและสูงขึ้นอย่างช้าๆ
หนึ่งเมตร
สองเมตร
ห้าเมตร
สิบเมตร!
หลังจากผ่านไปไม่กี่ลมหายใจ กำแพงเมืองที่สวยงามก็ตั้งตระหง่านต่อหน้าฝูงชน!
กำแพงเมืองสีดำดูเหมือนจะเชื่อมต่อกันทั้งหมดโดยไม่มีร่องรอยอิฐและหินใดๆ กำแพงเมืองมีความสูงสิบเมตรและหนาสี่เมตร ทำให้มันดูเหมือนสัตว์ร้ายสีดำตัวใหญ่กำลังนั่งอยู่
หลายคนยืนอยู่หน้ากำแพงเมืองมีความรู้สึกตัวเองเล็กเหมือนมด
เป็นเวลานานที่เฉินไฮปิงไม่ได้พูดอะไรออกมาขณะที่เขายืนเงียบๆที่ประตู
เขารู้ว่าถังหยูกำลังวางแผนจะทำอะไร หลังจากได้เห็นประสาทแล้วเฉินไฮปิงก็คิดว่าหัวหน้ามีความสามารถพิเศษบางอย่างที่สามารถสร้างอาคารได้อย่างรวดเร็ว บางทีเป็นความสามารถในการจัดการกับดินหรือความสามารถในการก่อสร้างที่แปลกประหลาดมากยิ่งขึ้น
เขาแปลกใจเมื่อหัวหน้าถังบอกเขาว่าจะสร้างกำแพงเมือง อย่างไรก็ตามแม้จะมีๆกองเนินหิน เขายังรู้สึกว่ามันคงไม่ง่ายนักที่จะสร้างกำแพงดินขนาดเล็กรอบๆพื้นที่ขนาดใหญ่ที่ทอดยาวไปถึงบริเวณวิลล่าตะวันออกไปถึงตะวันตก
แต่ดูสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น!
กำแพงสูงสง่าดำหนานี้อยู่ไกลเกินกว่าคำอธิบายของกำแพงดิน นี่คือกำแพงเมืองที่แท้จริงซึ่งเพียงพอที่จะต้านทานการโจมตีจากปีศาจจำนวนมาก
แม้แต่ฐานที่มั่นในอดีตก็มีเพียงรั้วที่เชื่อมต่อกันเป็นกำแพง ซึ่งมีประสิทธิภาพมากขึ้นในฐานะระบบเตือนภัยล่วงหน้าดีกว่าแนวป้องกัน
แม้ว่าเฉินไฮปิงจะยืนอยู่เช่นนี้แต่ผู้รอดชีวิตคนอื่นๆก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาขณะที่พวกเขายืนดูกำแพงเมืองที่สูงตระหง่านด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ การแสดงออกของพวกเขานั้นหลากหลายและน่าสนใจโดยที่สามารถรวมเข้าเป็นกลุ่มอิโมจิได้เลย
พวกเขาไม่รู้จะใช้คำใดเพื่ออธิบายอารมณ์ของพวกในตอนนี้
นี้คือบุคคลในตำนานที่มีความสามารถพิเศษใช่มั้ย?
อย่างไรก็ตามคนที่มีความสามารถพิเศษที่พวกเขาเคยได้ยินมีพลังน้อยกว่ามาก เมื่อเทียบกับที่พวกเขาได้เห็นการสร้างกำแพงเมืองโดยล้อมรอบพื้นที่วิลล่าทั้งหมด ผู้คนเหล่านั้นไม่ควรค่าแก่การกล่าวถึง
การกระทำนี้ไม่ต่างไปจากปาฏิหาริย์
ไม่ มันคือปาปาฏิหาริย์!
ผู้รอดชีวิตเหล่านี้ตื่นเต้นมากที่ได้เป็นพยานต่อปาฏิหาริย์!
สิ่งที่ทำให้ผู้รอดชีวิตมีความสุขมากยิ่งขึ้นคือกำแพงเมือง พวกเขาไม่ต้องกังวลอีกต่อไปว่าฐานที่มั่นนั้นปลอดภัยเพียงพอหรือไม่!
ปีศาจที่อยู่ในระยะไกลถูกดึงดูดโดยเสียงและการสั่นสะเทือนเมื่อกำแพงเมืองถูกยกขึ้น ปีศาจเหล่านี้เริ่มวิ่งไปทิศทางนั้นทีละตัวอย่างต่อเนื่อง
ในบรรดาสัตว์เหล่านี้มีตัวสีฟ้าและสีแดงที่เร็วที่สุดเป็นผู้นำ
มันวิ่งขึ้นไปตามแนวภูเขาและเข้าสู่บริเวณทางเข้าวิลล่าในพริบตา
ใบหน้าของผู้รอดชีวิตเปลี่ยนไป
ปีศาจน่าสะพรึงกลัวนั้นเป็นฝันร้ายสำหรับคนธรรมดาเหล่านี้ซึ่งทำให้ใบหน้าหลายคนเปลี่ยนเป็นสีซีดอย่างมาก
หลูเสี่ยวเพิงมองไปรอบๆและพบผู้คนทั้งหมด โดยที่เขาเป็นผู้ปลุกพลังเพียงคนเดียวในระยะใกล้นี้
หากเขาไม่ยืนขึ้นในเวลานี้ แล้วใครจะทำมัน?
มันไม่ใช่แค่หมาป่าปีศาจหรอกเหรอ?
ครั้งที่แล้วเขาได้เผชิญหน้ากับปีศาจ ถึงแม้ว่าในเวลานั้นมันจะไม่คุ้มค่าที่จะกล่าวถึง ตอนนี้...เขาต้องเตือนหมาป่าปีศาจตัวนี้ให้เห็นว่าผู้ปลุกพลังโดยธรรมชาติสามารถทำอะไรได้บ้าง!
หลูเสี่ยวเพิงยกขาของเขาและก้าวออกไปช่วงใหญ่
หมาป่าปีศาจตัวนั้นกำลังเข้ามาใกล้!
ตอนนี้เขาสามารถมองเห็นขนสีน้ำเงินอย่างชัดเจนพร้อมกับเปลวไฟสีแดงที่ลุกไหม้บนตัวมัน
ปีศาจนี้ขนาดใหญ่กว่าหมาป่าปีศาจธรรมดาและดูเหมือนรถบรรทุกคอนเทนเนอร์ขนาดเล็ก
หลูเสี่ยวเพิงรู้สึกตกใจ ปีศาจตัวนี้ให้ความรู้สึก....แตกต่างจากกลิ่นตัวที่เขาเจอครั้งล่าสุดใช่มั้ย?
เขามองตัวเองอีกครั้งและคิด
แขนและขาสั้นๆ โดยไม่มีแม้แต่อาวุธที่แท้จริงและไม่ต้องพูดถึงว่าหมัดของเขาจะแข็งแค่ไหน?
ในอีกด้านหนึ่ง หมาป่าสีน้ำเงินสีแดงยักษ์กำลังค่อยๆเข้าใกล้ด้วยคลื่นแรงผลักดันที่พุ่งไปข้างหน้าเหมือนคลื่นยักษ์
ในขณะนี้เขารู้สึกอยากจะร้องไห้และคิดในใจ : พี่หมาป่าอย่ารีบร้อนนัก เรามาคุยกันก่อนไหม?
หลูเสี่ยวเพิงต้องการหลบหนี แต่เหลียวมองไปดูผู้รอดชีวิตข้างหลังเขาซึ่งในหมู่พวกเขาคือเพื่อนร่วมชั้นที่คุ้นเคยของเขา...
เขากัดฟันและทรงตัวให้มั่นคง แต่เขาจะสามารถจัดการกับหมาป่าสีน้ำเงินสีแดงยักษ์นี้โดยวิ่งไปรอบๆได้หรือไม่?
ตราบใดที่เขาสามารถช่วยถ่วงเวลาหมาป่าสีน้ำเงินแดงยักษ์นี้ได้ในช่วงเวลาหนึ่งเพื่อรอคอยการสนับสนุนจากผู้เชี่ยวชาญของฐานที่มั่นมาถึง ในเวลานั้นเขาจะเป็นที่รู้จักในฐานะคนที่ช่วยจัดการกับปีศาจที่น่ากลัวนี้ ทำให้เขาคู่ควรกับตัวตนในฐานะผู้ปลุกพลังโดยธรรมชาติ
ด้วยความคิดในใจนี้ หลูเสี่ยวเพิงจึวก้าวไปอีกก้าว
เขาคิดกับตัวเอง: มันขึ้นอยู่กับฉันแล้วที่จะเปลี่ยนสถานการณ์นี้...
“นั่นคือกัปตันโรเจอร์”
ทันใดนั้นข้างหลังเขาก็มีเสียงกรีดร้องอย่างประหลาดใจจากผู้รอดชีวิตคนอื่น
เมื่อมองไปในทิศทางของเสียง หลูเสี่ยวเพิงเห็นผู้ชายที่แข็งแกร่งในชุดเกราะพร้อมกับดาบในมือกำลังวิ่งมาจากระยะไกล
ชายที่แข็งแกร่งคนนี้คือคนที่หลูเสี่ยวเพิงได้ประทับใจครั้งแรกเมื่อเขามาถึงฐานที่มั่น เขาเคยได้ยินว่านี่คือกัปตันของทีมลาดตระเวนฐานที่มั่นและเป็นชายที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก
ในจุดนี้หลูเสี่ยวเพิงสามารถรู้สึกถึงแรงกดดันอันยิ่งใหญ่ของโรเจอร์ เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ไร้ที่เปรียบอย่างแน่นอน แต่...ขณะที่เขามองดูหมาป่าสีน้ำเงินแดงยักษ์มีขนาดใหญ่อย่างกับรถบรรทุกขนาดเล็ก เขามักจะรู้สึกว่าแม้กระทั่งชายที่แข็งแกร่งอย่างกัปตันโรเจอร์ก็ปรากฏตัวเหมือนคนแคระต่อหน้ามัน
เขาสามารถจัดการกับมันได้...ใช่มั้ย?
โรเจอร์ก้าวไปข้างหน้าและมองดูปีศาจที่กำลังเข้ามาใกล้ๆแต่ใบหน้าของเขาก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง
ทันใดนั้นเขาก็ก้าวออกไปและแผ่นกระเบื้องเล็กๆบนจัตุรัสก็ถูกกระทืบในทันทีโดยทิ้งรอยแตกไว้เบื้องหลัง
ในเวลาต่อมา โรเจอร์ก็บินออกไปเหมือนกระสุนปืนใหญ่ และชุดเกราะที่เขาสวมใส่อยู่ดูเหมือนจะไร้น้ำหนักขณะที่เขากำลังบิน
ห้าสิบเมตร...
ยี่สิบเมตร...
สิบเมตร...
ผู้รอดชีวิตกลั้นหายใจและจ้องไปที่สนามรบด้วยการไม่ละสายตา ผู้ขี้ขลาดก็จะปิดตาของพวกเขา
หมาป่ายักษ์เข้ามาใกล้ด้วยอุ้งมือทั้งสองที่ยาวกว่าทั้งร่างกายมนุษย์ เปลวไฟกำลังลุกไหม้เหนืออุ้งเท้าขณะที่มันพัดผ่านเนินเขาโดยทิ้งรอยดำไหม้เกรียมไว้บนพื้นดิน
โรเจอร์จ้องมองไปที่จุดเดียวบนมันขณะที่เขาถือดาบยาวด้วยสองมือของเขา
“ตาย---”
บนดาบขนาดใหญ่ ชั้นแสงสีแดงกระจายราวกับว่ามีชี่ที่น่ากลัวอยู่บนใบมีด
ทักษะการต่อสู้ • Bloody Beheading!
การเหวี่ยงฟันพร้อมแสงสีแดงผ่านอุ้งเท้าของหมาป่าสีน้ำเงินแดงขณะที่มันต่อไปผ่านเอวและหน้าทอง ร่างของโรเจอร์ปรากฏขึ้นอีกครั้งที่อีกด้านหนึ่งของหมาป่าสีน้ำเงินแดงยักษ์
ด้วยเสียงครวญคราง หมาป่ายักษ์ล้มลงอย่างแรงและค่อยๆพยายามตะเกียกตะกายสองครั้งก่อนในที่สุดจะเสียชีวิต
หลังจากจัดการกับหมาป่าสีน้ำเงินแดงยักษ์ โรเจอร์ยังคงนิ่งเฉยอยู่ในขณะที่เขาค่อยๆก้าวไปข้างหน้าเพื่อจัดการกับปีศาจที่เหลือ
ปีศาจที่เหลือซึ่งได้ถูกดึงดูดโดยแรงสั่นสะเทือนครั้งใหญ่ ไม่ได้แข็งแกร่งเท่ากับหมาป่าสีน้ำเงินแดงยักษ์ ปีศาจเหล่านี้แต่ละตัวถูกฆ่าตายในการโจมตีครั้งเดียว แม้ว่าจะมีหลายตัวรวมกลุ่มกันแต่พวกมันก็ไม่ได้คุกคามโรเจอร์เลย ในไม่ช้าพวกมันก็ตายอย่างต่อเนื่องโดยทิ้งไว้แต่ซากศพที่ทำให้พื้นดินยุบ นี่คือบทพิสูจน์ที่ทิ้งไว้ข้างหลังเพื่อแสดงสิ่งที่พวกเขาเพิ่งพบเจอ...แสดงให้ทุกคนเห็นว่าครั้งหนึ่งมีการต่อสู้ที่ดุเดือดที่นี่
หลูเสี่ยวเพิง “…”
มันจบอย่างงี้งั้นเหรอ?
ปีศาจที่ดูมีอำนาจซึ่งสามารถเป็นสิ่งที่มีอำนาจมากที่สุดที่เขาเคยพบได้ถูกฆ่าตายในการโจมตีแค่ครั้งเดียวงั้นเหรอ?
ช่องว่างระหว่างผู้ปลุกพลังของเขากับกัปตันโรเจอร์ไม่ควรกว้างขนาดนี้ เขาไม่ต้องพูดถึงว่าเขาเป็นผู้ปลุกพลังโดยธรรมชาติด้วย อ้าา!?
เมื่อมองดูร่างด้านหลังที่ไม่แยแสของโรเจอร์จากไป หัวใจของหลูเสี่ยวเพิงกำลังลุกไหม้
จากนั้นเขาก็นึกถึงหัวถังผู้ลึกลับของฐานที่มั่น
ในขั้นต้นเมื่อครั้งแรกที่เขาได้ยินผู้รอดชีวิตคนอื่นพูดถึงหัวหน้าถังที่ต้องการสร้างฐานที่มั่นบนซากปรักหักพังเหล่านี้ เขาคิดเพียงว่ามันเป็นไปไม่ได้
แต่ตอนนี้ด้วยกำแพงเมืองและผู้เชี่ยวชาญที่ดุร้ายเช่นกัปตันโรเจอร์...เขาไม่รู้สึกว่ามันเป็นไปไม่ได้อีกแล้ว..
ฐานที่มั่นทรีเชดนั้นแข็งแกร่งกว่าที่เขาจิตนาการเอาไว้