DTH ตอนที่ 7 มันคือเขา มันคือเขา
โจว เชียงเหมานั้นรวดเร็วมาก
ตั้งแต่ที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาบอกให้เตะหน้าเธอ เขาก็จะไม่เตะจุดอื่นเด็ดขาด
ในขณะนั้นซู หลานรู้สึกโกรธมาก
เธอเพียงแค่ต้องการเตะเด็กเหลือขอนั่นให้ตายเพียงเท่านั้น
และด้วยสถานะของเธอ แม้ว่าเธอจะฆ่าผู้ลี้ภัยที่นี่ทั้งหมด มันก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
ในตอนนั้นเองที่ซู หลานผู้มีการเพาะปลูกอยู่เล็กน้อย รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เธอรู้สึกได้เลยว่ามีพลังที่แข็งแกร่งกระแทกเข้าที่ด้านข้างของเธอ
และเมื่อเธอหันไปรอบๆ รูม่านตาของเธอก็หดเล็กลง เพราะเธอเห็นเท้าที่กำลังตรงมาที่ใบหน้าของเธอ
ปัง!
เท้าเข้าประทับบนใบหน้าที่สวยงามของซู หลาน มันทำให้คุณสมบัติห้าประการของเธอเปลี่ยนรูป ความเจ็บปวดที่รุนแรงพุ่งตรงเข้ามาในร่างกายของเธอ เธอเจ็บจนถึงขั้นร้องไห้ออกมา
การเตะของโจว เชียงเหมานั้นทรงพลังจริงๆ
ใบหน้าของเธอตอนนี้ดูไม่ได้แล้ว
“อย่าหยุด เตะเข้าไปอีก” หลิน ฟานพูด
โจว เชียงเหมาคิดว่าทุกอย่างจะจบลงหลังจากที่เขาเตะ เท้าของเขาหยุดอยู่กลางอากาศเมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกพี่ลูกน้องของเขาพูด เขาจัดร่างกายของเธอและเตะลงไปอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง
“สุดยอด นี่คือการเตะแบบไร้เงาใช่ไหม หรือควรจะเรียกมันว่าเตะต่อเนื่องดี?”
หลิน ฟานตกตะลึง
เพื่อให้ลูกพี่ลูกน้องของเขาสามารถใช้ท่าแบบนั้นได้ เขาจะต้องฝึกมาแล้วอย่างน้อยหลายทศวรรษ
ปัง!
ปัง!
ชุดการเตะของโจว เชียงเหมาทำให้เธอลอยขึ้นไปในอากาศ และตกลงบนพื้น
ในตอนนั้นเอง มันราวกับว่าอยู่ๆพลังของเขาก็ระเบิดออกมา
มันส่งซู หลานบินไปข้างหลัง เธอวาดสะพานเลือดขณะที่กำลังลอยอยู่ในอากาศ และเมื่อตกลงสู่พื้นดิน ฝุ่นที่อยู่รอบตัวเธอก็ฟุ้งกระจาย
เธอนอนอยู่ตรงนั้น และไม่ขยับอีกเลย
เมื่อมองจากตรงนี้ เขาไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือว่าตายไปแล้ว
“ลูกพี่ลูกน้อง นี่มันดีแล้วจริงๆใช่ไหม?” โจว เชียงเหมาถาม
สำหรับเขามันเป็นเพียงแค่การเคลื่อนไหวง่ายๆ
แต่อย่างไรก็ตาม เขานั้นไม่ได้โง่
จากการแต่งตัวและรัศมีของเธอ มันเห็นได้ชัดว่าเธอไม่ใช่แค่คนธรรมดา ถ้าเขาเตะเธอจนตาย มันจะเป็นปัญหาสำหรับลูกพี่ลูกน้องของเขา
นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้เขาออมมือเอาไว้
ถ้าหากเขาต้องการฆ่าเธอจริงๆ แม้ว่ามันจะมีเธอเป็นร้อยคนมันก็ไม่พอที่จะหยุดเขา
“ลูกพี่ลูกน้อง ข้าไม่เคยคิดเลยว่าเจ้าจะมีฝีมือขนาดนี้” หลิน ฟานคิดว่าเขาทำถูกแล้วที่พาลูกพี่ลูกน้องของเขามาด้วย
“ก็ไม่ขนาดนั้นหรอก” โจว เชียงเหมาเกาที่คอของเขาอย่างเชื่องช้า ตอนนี้เขารู้สึกอายเล็กน้อย
เขาแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับตัวตนที่ดุร้ายเมื่อสักครู่
“อา!”
ในตอนนั้นเองที่ซู หลานก็ร้องครวญครางออกมา จากนั้นเธอก็พยายามลุกขึ้นอย่างช้าๆ
เธอสับสนจริงๆ
ตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่ามีนกกำลังบินอยู่บนหัว
และเธอก็มีเลือดไหลออกมาจากจมูกอีกด้วย
“คนที่รังแกคนอื่น คนๆนั้นก็จะต้องเตรียมตัวที่จะถูกรังแกกลับเอาไว้ด้วย เพราะนี่คือความประสงค์ของสวรรค์ นี่คือโชคชะตา เจ้าไม่สามารถหนีจากมันได้”
หลินฟานไม่ได้สงสารเธอเลยแม้แต่นิดเดียว
“ใคร....เจ้าเป็นใครกัน?”
ซู หลานสับสน ตอนนี้เธอไม่แม้แต่จะสามารถพูดออกมาอย่างชัดๆได้
ใครกันที่กล้าทำแบบนี้?
“ข้าไม่เคยเจอคนแบบเจ้ามาก่อน” หลิน ฟานขมวดคิ้ว “และก็ข้าไม่สามารถยืนดูอยู่เฉยๆได้อีกต่อไปแล้ว”
เมื่อคิดได้แบบนั้น
เขาก็ก้าวออกไปข้างหน้า
และปลดปล่อยชุดการเคลื่อนไหวของเขา
เขายกมือขึ้นและตบหน้าเธอ
นิ้วทั้งห้าของเขากลายเป็นหมัดจากนั้นก็ชกเข้าที่ใบหน้า
เขาแทงข้อศอกเข้าไปที่ท้อง
และเขาสุดท้ายเขาก็เตะเข้าที่เป้าของเธอ
หลังจากนั้นเขาก็กระโดดถอยหลัง และทิ้งระยะห่างจากเธอ
ชุดการเคลื่อนไหวของเขามันสามารถทำได้ทันที และมันก็เป็นไปอย่างราบลื่นโดยไม่มีการเคลื่อนไหวที่ไม่จำเป็นเลย
ปัง!
ก่อนที่เธอจะหมดสติลง เธอพยายามที่จะมองชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าเพื่อดูว่าเขาเป็นใคร
แต่อย่างไรก็ตาม...
เธอนอนราบไปกับพื้น และไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อีก
“โล่งขึ้นเยอะ”
หลิน ฟานยิ้ม ในฐานะที่เขาเป็นสุภาพบุรุษ เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิงมาก่อน
ชายที่แท้จริงจะไม่ลดระดับของตัวเองไปทำร้ายผู้หญิง
อย่างไรก็ตาม ถ้ามันเป็นเรื่องสำคัญ เขาก็จะไม่สนใจเรื่องเพศ
ผู้จัดการเฉินตกตะลึง
เกิดอะไรขึ้น?
นายน้อย และอาจารย์โจวกำลังทำอะไร?
“ลูกพี่ลูกน้อง ท่านสุดยอดมาก” โจว เชียงเหมายกย่อง
การเคลื่อนไหวของลูกพี่ลูกน้องของเขาแม้ว่ามันจะดูธรรมดา แต่มันก็ทรงพลังมาก มันราวกับเขามีพื้นฐานศิลปะการต่อสู้เบื้องต้น
หลิน ฟานค่อนข้างสงบ “มันไม่ได้มากมายเลย”
ตอนนี้เขาคิดว่าการมีพลังมันให้ทำให้รู้สึกดีจริงๆ
ไม่ ข้าห้ามมีความรู้สึกแบบนั้น
ตอนนี้เขาเป็นถึงลูกชายของตระกูลที่ร่ำรวย เขาจะต้องใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน เขาไม่สามารถถูกล่อลวงด้วยสิ่งที่ต่ำต้อยเช่นพลังได้
“ทำไมพวกเจ้าถึงยังอยู่ที่นี่กัน? ฮึ่ม ถ้าเธอตื่นขึ้นมาพวกเจ้าจะตาย” หลิน ฟานพูด
ผู้ลี้ภัยที่ถูกซู หลานเตะ รู้สึกซาบซึ้งจริงๆและคุกเข่าเพื่อขอบคุณ
“นายน้อย เรารีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ” ผู้จัดการเฉินกล่าว
เขารู้สึกว่าถ้าพวกเขาอยู่ที่นี่ต่อไปสิ่งต่างๆมันจะเลวร้ายมากขึ้น
หลิน ฟานและคนอื่นๆไม่สนใจผู้หญิงที่กำลังนอนอยู่บนพื้น และรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากเดินมาได้ระยะหนึ่ง ก็มีกลุ่มคนรีบวิ่งเข้ามา
คนที่นำพวกเขาสวมชุดเกราะสีดำ และมีตราอยู่ด้านหน้าของชุดเกราะ
ตรามันประกอบไปด้วยใบไม้สามชิ้น
มันดูเหมือนใบโคลเวอร์ แต่มันก็ดูเหมือนกังหันลมด้วยในเวลาเดียวกัน
พวกเขาวิ่งผ่านหลิน ฟานอย่างรวดเร็วราวกับว่ากำลังรีบ
“นั่นดูเหมือนว่าจะเป็นตราของตระกูลซู” ผู้จัดการเฉินพึมพำ
เขาเคยเห็นมันมาก่อน แต่เขาก็ไม่แน่ใจ
ทันใดนั้นเขาก็คิดอะไรบางอย่างได้
ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ เสื้อผ้า หรือบรรยากาศ มันไม่ได้มีส่วนไหนเลยที่บ่งบอกว่าเธอมาจากครอบครัวธรรมดา
และก็ไม่มีผู้หญิงแบบนี้ในเมืองหยูฉางด้วย
ถ้าให้เขาเดา....
บางที บางที่เธออาจจะมาจากตระกูลซู
เมื่อคิดได้แบบนั้น เขาจึงก็รีบเดินไปข้างๆหลิน ฟาน “นายน้อย พวกเรากำลังมีปัญหาแล้ว”
“ปัญหาอะไร?” หลิน ฟานถาม
ในฐานะนายน้อยของตระกูลที่ร่ำรวย
มันจะไปมีปัญหาอะไรได้อีก?
แน่นอนว่าคำตอบก็คือไม่มีอยู่แล้ว
“ผู้หญิงคนนั้นอาจจะมาจากตระกูลซู” ผู้จัดการเฉินกล่าว
“ตระกูลซู?” หลิน ฟานอยากรู้อยากเห็น
เขากำลังพูดอะไรอยู่?
เขายังไม่เข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ที่ชัดเจนของตระกูลในเมืองหยูฉาง แต่ตอนนี้มันดันมีตระกูลซูเพิ่มขึ้นมาอีกงั้นเหรอ?
“ใครมันจะไปสนว่าเธอคือใคร ข้าทำร้ายเธอไปแล้ว และเวลาก็ไม่สามารถย่อนกลับได้” หลิน ฟานไม่สนใจ
ทำไมเขาต้องไปสนใจเธอด้วย?
เขาไม่เคยกลัวอยู่แล้ว
นายน้อยที่แท้จริงจะไม่สนใจว่าเขาไปทำให้ใครรำคาญ
เมื่อมองออกไป ซู หลายยังคงนอนอยู่ตรงนั้น ผู้ลี้ภัยทั้งหมดได้จากไปแล้ว และเขาก็ไม่เห็นใครอยู่แถวนั้นเลย
เมื่อกลุ่มคนมาถึง พวกเขาทุกคนต่างก็ตกใจเมื่อเห็นเธอนอนอยู่บนพื้น
“คุณหนูซู” พ่อบ้านชราที่ตกตะลึงรีบวิ่งเข้าไปหาเธอ
เมื่อเขาสังเกตเห็นว่าใบหน้าของเธอเป็นแบบนั้น เขาก็ตกตะลึงอีกครั้ง
“มันเป็นใคร? มันเป็นใครกัน? ที่กล้าโจมตีคุณหนูของตระกูลซูด้วยวิธีที่โหดร้ายแบบนี้”
มีการแสดงออกที่ชั่วร้ายในสายตาของเขา
เขามองไปรอบๆ แต่ไม่พบอะไรเลย
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถปล่อยเรื่องแบบนี้ไปได้
ตอนนี้เขาต้องการคำอธิบายของคุณหนู
เขาหยิบขวดหยกออกมา และป้อนยาให้กับเธอ
จากนั้นเขาก็ตบหลังของเธอเพื่อช่วยกระจายพลังของเม็ดยา
ไม่นานนักอาการบาดเจ็บบนใบหน้าของเธอก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
แต่อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าอาการบวมมันจะไม่หายไปไหน
ซู หลานเปิดตาของเธออย่างช้าๆ และกรีดร้อง
“คุณหนูซู นี่ข้าเอง มันเกิดอะไรขึ้น?” ชายชราถาม
“มีใครบางคนทำร้ายข้า มีคนทำร้ายข้า!” อารมณ์ของซู หลานค่อนข้างแปรปรวน
“มันคือเขา”
“ข้าจำได้ว่ามันคือใคร”
ซู หลานแตะที่ใบหน้าของเธอ ความเจ็บปวดที่เกินทนได้แพร่กระจายไปทั่วบริเวณที่นิ้วของเธอสัมผัส
“ความโกรธ +50”
“ความโกรธ +100”
“ความโกรธ +200”
“ความโกรธ +300”
หลิน ฟานซ็อก
เธอตื่นแล้วงั้นเหรอ?
ความโกรธมันกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ไม่เลว