ทั้งหมดรายชื่อตอน
ตอนถัดไปDTH ตอนที่ 2 บ่มเพาะ? ช่างน่าเบื่อ

DTH ตอนที่ 1 งั้นข้าขอตัวก่อน


ภายในห้อง มีชายหนุ่มคนหนึ่งที่ดูเงียบสงบกำลังนั่งอยู่ข้างเตียง พร้อมกับทำสีหน้าเคร่งเครียด

อย่างไรก็ตามลึกเข้าไปข้างในแล้วเขากำลังมีความสุข

“นี่มันก็วันที่สามแล้ว ข้าคงไม่สามารถกลับไปได้อีกต่อไป”

ภายในใจของหลิน ฟานตอนนี้กำลังยุ่งเหยิง เพราะเขาจำได้ว่าก่อนหน้านี้เขายังอยู่ที่สถานีรถไฟใต้ดิน

ตอนนั้นภายในสถานีรถไฟใต้ดิน มีสถานการณ์ที่ไม่สบอารมณ์เกิดขึ้น เมื่อเขาต้องสู้กับพวกสารเลวสองคน แต่ตัวเขาค่อนข้างแข็งแกร่งและได้ใช้วิชาหวิงชุนกลับไป อย่างไรก็ตามสองสามวินาทีต่อมา เขาก็ต้องเผชิญหน้ากับหมัดขนาดใหญ่ที่กำลังมุ่งตรงมาทางเขา หลังจากเสียง ‘ปัง’ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรเลยอีกเลย

เมื่อเขารู้สึกตัวอีกทีเขาก็ได้มาอยู่ที่นี่แล้ว

ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นเพียงแค่การแกล้งกัน

อย่างไรก็ตาม เขารู้จักตัวเองดี

เขาเป็นเพียงแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง ซึ่งมันก็เป็นเรื่องปกติหากไม่มีใครสังเกตเห็นเขาเมื่อเดินสวนกัน ดังนั้นมันจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะโดนแกล้ง

เฟอร์นิเจอร์ในบ้านทำมาจากไม้สีแดงเข้ม ในอากาศก็มีกลิ่นหอม

ทุกๆอย่างในนี้ดูเหมือนว่ามันจะแพงไปหมด

วันนี้เป็นวันที่สามแล้ว

ในช่วงเวลาที่เขามาถึงที่นี่ เขาไม่กล้าวิ่งไปรอบๆ เพราะเขาไม่รู้ว่าข้างนอกมันจะมีอะไรรอเขาอยู่บ้าง และเขาก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน

“นี่มันค่อนข้างแปลก เพราะปกติแล้วเวลาตัวเองในนิยายถูกส่งมาต่างโลก มันจะต้องมีความทรงจำของที่นี่ด้วยไม่ใช่รึไง?”

หลิน ฟานเกาหัว ตอนนี้เขาค่อนข้างเป็นกังวล บวกกับรำคาญด้วยนิดหน่อย

เขาเดินมาที่กระจก

เขาดูมันหลายต่อหลายครั้ง มันเหมือนตัวเขาจริงๆต่างกันแค่ผมที่ยาวกว่า

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเขากลับชาติมาเกิด หรือแค่เทเลพอร์ทมากันแน่

โลกที่แตกต่างมันจะต้องมีสองคนที่คล้ายกันแน่นอน แต่ในสถานการณ์ปัจจุบันเขาค่อนข้างอึดอัดใจเล็กน้อย

ทันใดนั้น หลิน ฟานก็ดึงแขนเสื้อด้านซ้ายขึ้น เมื่อเขาเห็นรอยแผลเป็นบนไบเซ็ปส์ของเขา เขาก็รู้สึกตกตะลึงทันที

“นี่มันร่างกายจริงๆของข้า!”

เขาไม่อยากจะเชื่อ

มันเกิดเรื่องแบบนี้ได้ยังไง?

ไบเซ็ปส์ด้านซ้ายของแต่ละคนจะมีรอยที่เกิดขึ้นจากการฉีดวัคซีน ซึ่งมันยากที่จะลบทิ้งตลอดชีวิต

แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็สงบลง

“ลืมมันไปซะ ข้าจะอาศัยอยู่ที่นี่อย่างสงบสุข ใครมันจะมาทำให้ข้ากลัวได้? แล้วข้าก็ไม่ได้เห็นว่ามันจะมีปัญหาตรงไหน เพราะมันเป็นเพียงแค่โลกของเอเลี่ยนเท่านั้น”

หลังจากที่เขาซ่อนตัวอยู่สามวัน เขาก็รู้สึกว่าไม่ต้องการจะซ่อนตัวอีกต่อไป และตัดสินใจเดินออกจากประตูเพื่อดูโลกใบนี้

อย่างไรก็ตาม แล้วสูตรโกงของเขามันอยู่ไหน?

เมื่อไม่มีความสามารถพิเศษ เขาจะสามารถใช้ชีวิตอยู่ในโลกนี้ได้อย่างไร? เขาเคยมีช่วงเวลาที่เลวร้ายเมื่ออยู่บนโลก ดังนั้นมันควรจะดีขึ้นรึเปล่าเมื่อเขาอยู่ที่นี่?

เขาจมลงไปกับความคิดของเขา

เขาไม่เชื่อว่ามันจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“มันควรมีบางอย่างที่เปลี่ยนแปลง”

ที่เขาไม่ได้คิดเรื่องต่างๆอย่างรอบคอบ เพราะยังไงเขาก็เป็นเพียงแค่วัยรุ่นที่มีความทะเยอทะยานคนหนึ่งเท่านั้น และแม้ว่าตอนนี้เขาจะอยู่ต่างโลก แต่เขาก็ยังคงมั่นใจ จากนั้นเขาก็ผลักประตูและเดินออกไป

ข้างหน้าเขามันเป็นลานบ้านขนาดใหญ่ ที่ประกอบไปด้วยภูเขาและดอกไม้ปลอม

มันต้องเป็นบ้านของคนรวยอย่างแน่นอน

“ดูเหมือนว่าข้าค่อนข้างโชคดี ในต่างโลกนี้ ข้าควรที่จะเกิดมาในครอบครัวที่ร่ำรวย” หลิน ฟานค่อนข้างพอใจกับสถานะปัจจุบันของเขา

ในอดีตเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าพวกคนที่ร่ำรวยใช้ชีวิตกันอย่างไร แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นหนึ่งในพวกนั้น

เขาจะสามารถเพลิดเพลินกับความมั่งคั่งพวกนี้ได้หรือไม่?

เขามุ่งหน้าออกจากลานบ้าน

ตอนนี้เขามีปัญหาที่ติดอยู่ในใจ

เขาควรที่จะเป็นนายน้อยของที่นี่ แต่ทำไมเขาถึงไม่เห็นข้ารับใช้แม้แต่คนเดียวในช่วงสามวันที่ผ่านมา

มันไม่มีแม้แต่คนส่งอาหารให้เขา

เขาหิวจริงๆ แต่เนื่องจากเขากลัวสภาพแวดล้อมข้างนอก เขาจึงต้องอดอาหารอยู่สามวัน อย่างไรก็ตามเขาค่อนข้างโชคดีที่เจอของว่างที่ช่วยเติมเต็มท้องของเขา

ในขณะนั้นเองก็มีข้ารับใช้คนหนึ่งกำลังจะเดินผ่านเขาไป แต่เมื่อชายคนนั้นสังเกตเห็นหลิน ฟานการแสดงออกของเขามันก็ดูแปลกๆ จากนั้นเขาก็พูดด้วยความเคารพ “นายน้อย ทำไมท่านถึงออกมาข้างนอกกันละ?”

หลิน ฟานพยักหน้าให้เขา

เดี๋ยว อะไรนะ?

เนื่องจากเขายอมรับว่าข้าเป็นนายน้อย ถ้าอย่างนั้นเขาจะสนใจไปทำไมถ้าข้าออกมาข้างนอก?

เพื่อไม่ให้มีใครรู้สึกอึดอัด เขารู้ว่าเขาต้องพูดให้น้อยลง

ข้ารับใช้ก้มหน้าลง และรู้สึกว่ามันแปลก

นายน้อยในตอนนี้ดูต่างจากปกติ

แต่เขาก็ไม่กล้าถามออกมา

หลิน ฟานไอเบาๆและล้างคอของเขา จากนั้นก็ทำตัวเหมือนนายน้อย “เดินไปรอบๆกับข้า”

ดูเหมือนว่าข้ารับใช้ต้องการจะเตือนเขาถึงบางสิ่ง แต่เขาก็รู้นิสัยของนายน้อยดี และมันก็คงจะไร้ประโยชน์แม้ว่าเขาจะพูดอะไรออกไป และที่สำคัญสิ่งที่เขาพูดอาจจะไปทำให้นายน้อยของเขาอารมณ์เสีย ดังนั้นเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามเท่านั้น

สถานที่ที่เขาอยู่ตอนนี้มันต่างจากโลกที่เขาเคยอยู่มากเกินไป

ดังนั้นเขาต้องพาใครสักคนมาด้วย

เมื่อเขากำลังเดินผ่านหัวมุม เขาก็ต้องตกใจเพราะว่าเขาเกือบที่จะชนเข้ากับใครบางคน

เขาต้องการที่จะใช้สถานะของเขา และตะโกนออกไปว่า เจ้าตาบอดรึไงที่ไม่รู้ว่าข้าเป็นใคร?

การตะโกนออกไปแบบนั้นมันเป็นสิ่งที่ตัวเขาในอดีตไม่สามารถทำได้

แต่ก็ช่างมันเถอะ

ต้องวางตัวต่ำไว้

หลิน ฟานเงยหน้าขึ้น และเห็นว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาเป็นชายที่ดูแข็งแกร่งคนหนึ่ง ตัวของเขาค่อนข้างใหญ่และยังดูเด็ก

มีหลายคนมองมาที่หลิน ฟาน

บนทางแคบๆนี้ เขาเลือกที่จะเผชิญหน้าอย่างกล้าหาญ

หลิน ฟานสังเกตเห็นว่าสายตาที่ชายคนนั้นมองมาที่เขามันค่อนข้างแปลก และดูเหมือนว่าชายคนนี้จะไม่ได้เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเขา แต่มีสถานะที่ค่อนข้างสูง

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าเขาจะมีสถานะสูง แต่มันจะมาเทียบกับข้าได้ยังไง?

คนที่ติดตามชายคนนั้นส่ายหัวและหัวเราะอย่างขมขื่น

แต่การกระทำต่อไปของหลินฟานทำให้ทุกคนอ้าปากค้างด้วยความตกใจ

หลิน ฟานยกมือขึ้นและไปตบไหล่ของชายคนนั้น “พี่ชาย ท่านช่วยหลีกทางให้ข้าหน่อยได้รึไม่?”

เขาถามอย่างสุภาพ

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าชายคนนี้คือใคร แต่เขาดูเด็กมาก ดังนั้นเขาอาจจะเป็นพี่น้องร่วมสายเลือด หรือญาติของเขาก็ได้

ดังนั้นเขาจึงคิดว่ามันไม่ผิดถ้าเรียกคนตรงหน้าว่าพี่ชาย

“นายท่าน” ข้ารับใช้ที่ติดตามหลิน ฟานกำลังถือเงินอยู่ในมือของเขา เขาเห็นว่านายน้อยของเขาอยากออกไปเล่น แต่ไม่มีเงิน ดังนั้นเขาจึงออกไปหามาให้ อย่างไรก็ตามเมื่อเขาเห็นว่านายน้อยกับนายท่านกำลังเผชิญหน้ากัน วิญญาณของเขาก็เกือบจะออกจากร่างทันที

เมื่อเสียงนั้นเรียกชายที่อยู่ตรงหน้าเขาว่า ‘นายท่าน’ มันก็ทำให้หลิน ฟานรู้สึกกลัวขึ้นทันที

อะไรนะ?

พูดให้ชัดอีกครั้งซิ

นี่มันเป็นแค่เรื่องตลกใช่ไหม? ชายที่ดูน่าจะอายุใกล้เคียงกับเขาแต่จริงๆแล้ว กลับเป็นพ่อของเขา

งั้นมันก็หมายความว่าข้าเป็นลูกชายของเขานะสิ?

“เฮอะ!”

ชายคนนั้นเย้ยหยันเขาด้วยความโกรธ “ข้ารับใช้ เจ้ากล้ามากนะที่จะพาบุตรชายของข้าออกไปเล่น กล้ามากจริงๆ”

เสียงของเขามันดังเหมือนฟ้าร้องและสัตว์ร้ายที่กำลังคำราม

มันดังมากจริงๆ

ตุบ!

ข้ารับใช้รีบคุกเขาลงกับพื้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวเพราะความกลัว

“เจ้า ลากมันออกมาและตีมันจนกว่าจะตาย” ชายคนนั้นสั่งอย่างเคร่งขรึม

“นายท่าน ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว” ข้ารับใช้คนนั้นกลัวมากจนเกือบทำให้กางเกงของตัวเองเปียก ตอนนี้เขาหมอบอยู่กับพื้น ผิวหนังของเขาแตก เลือดของเขาไหลไปย้อมสีของอิฐบนพิ้น

หลิน ฟานตกตะลึง

ทำไมหัวหน้าตระกูลถึงเป็นคนที่หยิ่งเช่นนี้ เขาดูแลข้ารับใช้ของเขาแบบนี้ได้ยังไง?

เมื่อมองไปที่การแสดงออกของผู้คนที่อยู่รอบๆ มันดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดว่าการตีข้ารับใช้ให้ถึงแก่ความตายเช่นนี้มันเป็นเรื่องปกติ

หลังจากนั้น ยามสองคนที่มีรูปร่างกำยำก็เดินออกมา เมื่อเขาเห็นว่าข้ารับใช้ที่น่าสงสารคนนี้กำลังจะถูกดึงออกไป หลิน ฟานก็ต้องการที่จะแทรกแซงทันที

“หยุด”

เขาก้าวออกมาและปิดกั้นชายทั้งสองคนนั้น

ด้วยขนาดตัวของเขา ถ้าเขาไม่ใช่นายน้อย ยามทั้งสองคนจะต้องทุบเขาจนกว่าเขาจะตายด้วยหมัดของทั้งสองแน่ๆ

“ข้าเป็นคนทำมันเอง ดังนั้นมันจึงเป็นความผิดของข้า ข้าออกมาด้วยตัวเองดังนั้นมันจึงไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับเขา ถ้าท่านต้องการที่จะลงโทษให้มาลงที่ข้า”

หลิน ฟานเป็นคนที่มีความชอบธรรมมากคนหนึ่ง หากเขาไม่ได้เป็นคนแบบนั้น เขาก็คงไม่โดนต่อยที่สถานีรถไฟใต้ดินและมาโผล่อยู่ที่นี่หรอก

แน่นอนไม่ว่าอะไรมันจะเกิดขึ้น เขาก็ไม่สามารถทำร้ายข้าได้ เพราะว่าข้าเป็นนายน้อยใช่ไหมล่ะ?

ข้ารับใช้ที่กำลังคุกเข่าอยู่บนพื้นเงยหน้าขึ้นมา ใบหน้าของเขาตอนนี้มันเต็มไปด้วยน้ำตา

เขามองไปที่นายน้อยด้วยความไม่เชื่อ

เขาไม่ได้คาดหวังว่านายน้อยจะพูดเพื่อเขาในเวลาแบบนี้

ความกตัญญู

ในฐานะข้ารับใช้ชีวิตของเขามันเบาเหมือนกระดาษ และมันก็ไม่ได้คุ้มค่าสำหรับการปกป้องเลยสักนิด

ผู้คนมักใช้ชีวิตของข้ารับใช้เพื่อสร้างบารมีของตนเอง และเจ้านายสามารถเปลี่ยนชีวิตของข้ารับใช้ให้กลับไปสู่ความว่างเปล่าได้อย่างง่ายดาย

สำหรับพวกเขาในฐานะที่เป็นเพียงแค่คนรับใช้ พวกเขาสามารถถูกลืมได้อย่างง่ายดาย อย่างดีที่สุดร่างกายของพวกเขาจะถูกพันด้วยฟาง ส่วนสถานการณ์ที่แย่กว่านั้นคือศพของพวกเขาจะถูกโยนเข้าไปในถิ่นทุรกันดารโดยที่ไม่มีใครถามอะไรเลยสักคำ

“ขอแสดงความยินดีกับการเปิดใช้งานระบบการสนับสนุนขนาดเล็ก”

มีเสียงดังขึ้นในใจของเขา

นี่คือสูตรโกงของข้าใช่ไหม?

หลิน ฟานเป็นหนึ่งในคนที่ติดนิยาย เพียงแค่เขาหลับตา เขาก็สามารถนึกถึงเรื่องที่แตกต่างกันได้หลายร้อยหลายพันเรื่อง

ถ้าเขาเข้ามาคุยกับคุณเรื่องนิยายละก็ เพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เขาจะทำให้คุณเกลียดนิยายตลอดไป

เนื่องจากสถานการณ์ และโครงเรื่องของมันถูกเปิดเผยไปแล้ว คุณจะอ่านมันไปเพื่ออะไรอีก?

หลิน ฟานรู้สึกได้อย่างรวดเร็ว และเขาก็เห็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อน

ข้อมูลหลายบรรทัดกำลังดึงดูดความสนใจของเขา

หลิน ฟาน

ร่างกาย : 9

กำลังภายใน : 0

เทคนิคการบ่มเพาะจิตใจ : ไม่มี

เทคนิคการเพาะปลูก : ไม่มี

คะแนนความโกรธ : 10

ตอนนี้เขาค่อนข้างสับสน

มีเรื่องหนึ่งที่หลิน ฟานไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ เพราะดูเหมือนสูตรโกงจะถูกเปิดใช้งานแล้ว และไอค่าความโกรธนี่มันคืออะไรกัน?

เขาเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้

“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า! พี่หลิน บุตรชายของท่านช่างพิเศษจริงๆ” ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านข้างหัวเราะขึ้นมา

เสื่อผ้าของเขาค่อนข้างหรูหราและสวยงาม ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนสำคัญ

เพื่อพิสูจน์ความจริง เขาเลือกที่จะพูดออกมาตรงๆ “ข้ามั่นใจว่าเรื่องที่ท่านพูดมันไม่ได้ไร้สาระ ซะทีเดียว เพราะว่าข้ารู้อยู่แล้วว่าตัวข้านั้นพิเศษ”

คะแนนความโกรธมันเพิ่มขึ้น

จาก10 เป็น 30คะแนน

หลิน ฟานเข้าใจและรู้ได้ทันทีเลยว่านี่เป็นจุดสำคัญ

อย่างไรก็ตาม ทำไมพ่อของเขาที่กำลังโกรธจัดถึงให้คะแนนเขาแค่10 ในขณะที่คนที่เขาไม่แม้แต่จะรู้จักกลับให้ถึง20คะแนน

หรือว่าเขาไร้ประโยชน์เกินไปจนพ่อของเขายอมแพ้ไปแล้ว?

อาจจะเป็นอย่างนั้นก็ได้

“เจ้าเด็กสารเลว เจ้ากล้าพูดแบบนั้นกับอาจารย์หยวนได้อย่างไร แล้วอีกอย่างเจ้าได้ฝึกวิชาดาบพยัคฆ์อาฆาตที่ข้าสั่งเอาไว้แล้วใช่รึไม่?” หลิน วานยี่ตำหนิเขา

ใบหน้าของอาจารย์หยวนเปลี่ยนไปเล็กน้อยราวกับว่าเขากำลังโกรธอยู่

อย่างไรก็ตามเขายังคงปั้นหน้ายิ้ม

“ไม่เป็นไร ไม่เป็นไร ข้าเข้าใจว่าลูกของท่านเป็นคนตรงๆ ข้าไม่โทษเขา ไม่อย่างแน่นอน”

ตอนนี้หลิน ฟานรู้สถานะและตำแหน่งของตัวเองแล้ว

แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น

แต่ที่รู้แน่ๆเลยคือ เพียงเพราะว่าเขาเป็นนายน้อยของตระกูลนี้ เขาก็ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว ตอนนี้เขากลับสงสัยขึ้นมาว่า เขาจะสามารถทำให้ชายตรงหน้าเขาตายจากความโกรธได้รึไม่?

เดี๋ยวนะเพาะปลูกงั้นเหรอ?

นี่มันเป็นโลกแบบไหนกัน?

หรือว่ามันจะเป็นโลกที่มีกำลังภายใน?

ใจเย็น ข้าต้องใจเย็นเข้าไว้ และทำตัวเหมือนปกติ

“ไม่” หลิน ฟานตอบ

“ความโกรธ +5”

ได้มาน้อยแบบนี้ เขาสิ้นหวังในตัวข้าแล้วจริงๆงั้นเหรอ?

ดูเหมือนว่าใจของเขามันจะยอมแพ้ไปนานแล้ว

มันไม่เหลือความหวังสำหรับเขาเลยงั้นเหรอ?

หลิน วานยี่พยายามสงบสติอารมณ์ “ทำไมเจ้าถึงไม่ฝึก?”

สำหรับคำถามนี้หลิน ฟานไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี ฝึกอะไร? อย่างน้อยท่านก็น่าจะให้เทคนิคการฝึกฝนกับข้าก่อน

แล้วใครมันจะไปรู้ว่าลูกชายของท่านโยนมันไปไว้ที่ไหน

“ข้าไม่รู้ว่ามันไปอยู่ที่ไหนแล้ว” หลิน ฟานเลือกที่จะตอบตามความจริง

หน้าอกของหลิน วานยี่เริ่มขยับเร็วขึ้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สามารถทนได้อีกแล้ว ‘หนี’

“งั้นข้าขอตัวก่อน”

ก่อนที่หลิน วานยี่จะทันได้พูด เขาก็รีบดึงคนรับใช้ที่อยู่บนพื้นแล้วเริ่มวิ่งออกไปทันที

“ความโกรธ +100”

หลิน ฟานที่ตอนนี้หนีไปไกลแล้วคิดว่ามันแปลก

ข้าพึ่งได้รับ100คะแนนงั้นเหรอ?

ใบหน้าของหลิน วานยี่เปลี่ยนเป็นสีเขียว ลูกคนนี้มันเป็นแค่เด็กเหลือขอจริงๆ

เขาส่ายหัวและถอนหายใจ ในใจของเขาตอนนี้มันเต็มไปด้วยความเศร้า

จะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต?

อาจารย์หยวนปลอบเขา แต่ภายในใจเขากำลังยินดี เพราะดูเหมือนว่าข่าวลือมันจะเป็นความจริง

4 1 โหวต
Article Rating
0 Comments
Inline Feedbacks
ดูความคิดเห็นทั้งหมด